เสียงร้องเพลงชาติไทยดังขึ้นตามโทรโข่งภายในโรงเรียน บ่งบอกว่าได้เวลาเข้าแถวเตรียมตัวเคารพธงชาติ นักเรียนทุกชั้นรวมคณะครูอาจารย์ ต่างเริ่มเดินทยอยกันไปที่ลานโดมขนาดใหญ่บริเวณหน้าเสาธง
ตรีรัตนาเดินฉายเดี่ยวสง่างามเฉกเช่นทุกวันไปที่แถวห้องตัวเอง ช่วงขณะยืนรอเวลาขาสั้นกระโปรงบานหลายคน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดอันร้อนแรง ซุบซิบนินทากันอื้ออึง หลากสายตานั้นก็แอบชำเลืองมองมาที่นางฟ้าประจำโรงเรียน
เรื่องที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และกำลังเป็นที่โจษจันกันอย่างสนุกปากคงหนีไม่พ้น
...ตรียื่นหน้าไปใกล้กับหน้าของปลาย...
กลุ่มเพื่อนของสาวงามห้อง 5/4 สะกิดเข้าไหล่บอบบางจากด้านหลัง
"ตรี...เธอชอบปลายเหรอ?"
‘น้อย’ ที่ตัวไม่น้อยเหมือนชื่อ กล้าถามขึ้นเพราะเธอสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้อย่างที่สุด พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่แชร์รูปกันว่อนในสื่อโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คให้เธอดู ทำให้คนรอบข้างกายหล่อนต่างลุ้นหูผึ่งรอฟัง
"ก็ชอบนะปลายดูใกล้ ๆ หน้าสวยดี ใครไม่ชอบสิแปลก"
หล่อนตอบออกมาอย่างหน้าตาเฉยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เป็นประโยคที่มักพบเห็นในหมู่ดาราคนดัง ที่ฟังแล้วกลาง ๆ กว้าง ๆ แล้วแต่ผู้ฟังจะคิดต่อยอดกันเอาเอง
ดวงตาคู่สวยหันไปมองหน้าปลายนภา ที่ยืนอยู่ในแถวถัดไปอีก สามห้อง แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มปากยิ้มให้นักเรียนหญิงคู่กรณี
หัวหน้าปอมปอมเชียร์เดิมที ยืนมองสาวร่างบางอยู่แล้ว เหมือนกำลังค้นหาคำตอบในอากัปกิริยาของอีกฝ่าย และมีคำถามมากมายในหัวอยากคุยด้วย แต่เมื่อได้รับรอยยิ้มที่ตรีรัตนาส่งมาให้ ทำให้เธอกลับนึกขึ้นเอาเองว่า
...ตรีตอบตกลงแล้ว...
ปลายนภาดีใจเป็นอย่างมาก ฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีดูสดใส คนรอบข้างได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มมีความสุข มันทำให้โลกรอบข้างเธอพลันเบิกบานขึ้นตาม
..นายคุยกับตรีแล้วนะ คำตอบว่ายังไง..
ข้อความแสดงขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตามอง ตรีรัตนากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียนกับกลุ่มเพื่อนสาว
บรรยากาศภายในเจี๊ยวจ๊าวครื้นเครงกันใหญ่ตามประสาคนวัยเรียนในยามพักเที่ยง
"ใครส่งมาอะ อ่านแล้วก็ยิ้ม ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉย ๆ"
พฤติกรรมเธอแปลกไปผิดวิสัย มันทำให้คนในโต๊ะสงสัย แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี เรื่องที่พูดคุยกันส่วนมากก็จะเป็นเรื่องของสวย ๆงาม ๆ
ทว่า...มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้จูนกันได้ ก็คือ เกม ‘ROV’ ที่ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างกันไม่ได้เป็นต้องไล่ฆ่า (หมายถึงในเกมนะ)
"อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ เขาทวงมา ตรีอดขำไม่ได้ คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ได้ขนาดนั้น"
"เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าตรีจะไปช่วยสีฟ้า ทั้งที่พี่ประธานสีของเราก็จีบตรีตามตื้อมาตั้งแต่ม.4 ให้ช่วยไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์"
นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูกพร้อมกับชักสีหน้า
"ก็รัตน์ขอมา ตรีก็แค่ช่วยเห็นว่าจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็แค่นั้น"
"เธอไปสนิทกับรัตน์ตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นขอให้ช่วยได้ด้วยเหรอ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า?"
"อันนี้ขอไม่เล่า เดี๋ยวไม่สนุก"
ใบหน้างดงามหวานเยิ้มยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอยังคงตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม
หากแต่...เพื่อนในกลุ่มเกมเมอร์ ‘ROV’ ของเธอนี่สิ มีน้อย อั้ม กวางและดาว ...ครบห้าคนตั้งทีมเล่นเกมได้... ไม่รู้ว่าเทพธิดาคนสวยของพวกหล่อนจะเดินหน้าไปทางไหน ช่วยรัตนะหรือช่วยปลายนภา จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจช่วยใครกันแน่
พยาบาลสาวหวานน่ารักมีนิสัยขี้เล่นซุกซน ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลากำลังง่วนกับงานที่เธอรัก ร่างเล็กบางกำลังก้มหน้าเขียนบันทึกการเบิกจ่ายยาประจำวัน ที่โต๊ะทำงานหลังหน้าต่างบานเลื่อนตำแหน่งด้านหน้าของอาคาร
เสียงเคาะบานกระจกให้สัญญาณสามที เป็นการทักตามมารยาททั่วไป คนได้ยินยังคงก้มหน้าตามเดิมไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าคนอื่น เขียนเสร็จจบบรรทัดจึงแหงนหน้าขึ้นมอง
ปรากฏหน้าหล่อคมสันที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เขายืนเต็มตัวหุ่นสูงใหญ่ดูสมาร์ทแมน เธอตะลึงกับความงามตรงหน้าอยู่สักพัก พออยู่ใกล้กันมากมักไม่เห็น แต่พอลองถอยห่างกลับมองเห็นความสง่างามน่ามองอีกด้าน
หนึ่งธิดาสั่นศรีษะเรียกสติ ตั้งตัวได้จึงเลื่อนกระจกออก
"ว่าไงอะเธอ จะมานอนเล่นเหรอ? เตียงยังพอว่างอยู่นะ"
"คือ...ก่อนอื่นขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมพี่? มีเรื่องอยากคุยด้วย"
รัตนะยังเขินอายกลัวคนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา และอาจมีใครที่ไม่พึ่งปรารถนาเห็นถึงการมาในครั้งนี้
"ได้สิ"
มือเล็กบางเลื่อนบานหน้าต่างปิดคืน แล้วหมุนเก้าอี้ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออกให้หนุ่มร่างสูงเข้ามา
รัตนะด้วยความใสซื่อ ลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้หนึ่งธิดา อยากคุยกันเบา ๆ กลัวคนอื่นได้ยิน เมื่อร่างใหญ่นั่งลงหน้าหล่อเหลาหันขวับมาจมูกแทบแตะกัน ลมหายใจอุ่น ๆ ต่างรดผ่าวริมฝีปากของอีกฝ่าย สองหน้านิ่งงันมองตาซึ่งกันเห็นเงาตัวเองสะท้อนในกระจกตาของกันและกัน
รอบข้างสงบนิ่งพลัน
สักครู่เหมือนมีสัญญาณคล้ายเป็นการบอกหมดเวลา กิ่งไม้ต้นจามจุรีหน้าอาคารหลังเล็กเปราะบางหักลงมากระทบหลังคาดังปัง ทั้งคู่สะดุ้งจนตัวกระตุก แล้วผละออกจากกันด้วยความเขินอาย
"เอ่อ...รัตน์เธอขยับออกไปนิดหนึ่งนะ เข้ามาสะใกล้ขนาดนี้พี่ก็เขินแย่"
หน้าเริ่มแดงระเรื่อเหมือนอากาศร้อน พี่แจ๊สพูดออกไปพร้อมมือไม้ยกขึ้นบังปิดป้องตัวเองเอียงอาย มือข้างหนึ่งดันหน้าอกใหญ่ของรัตน์ผลักออกไปอยากให้ถอย
พ่อเทพบุตรก็เขินขึ้นเช่นกัน ใจเต้นรั่วไม่เป็นจังหวะ ปลิวตามแรงมือนุ่มของพี่พยาบาลบวกกับแรงถีบรูดเก้าอี้ดึงร่างตัวเองถอยออกไปพร้อม ๆ กัน
สาวผมม้าหน้าหวานตีหน้าประหลาดใจ
"ไกลไปนะ จะให้ตะโกนรึไง หนึ่งเมตรเอาที่หนึ่งเมตร"
เรียวนิ้วเล็ก ๆ จึงชี้ตำแหน่งให้เลื่อนเก้าอี้มาตรงนี้
เมื่อทั้งคู่พร้อมตั้งสติกันได้
หนึ่งธิดาจึงเริ่มถามก่อนด้วยเสียงหวานปกติ
"มีเรื่องอะไร ทีว่าอยากคุยด้วย?"
กัปตันทีมบอลอาการตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น ภายในมันออกร้อน ๆ ทีลงสนามหญ้าเขียวเตะฟุตบอลแข่งขันกับทีมโรงเรียนอื่นที่เก่ง ๆ มีแมทช์สำคัญ ๆ ก็ยังรู้สึกไม่เท่ากับครั้งนี้ ต้องได้สูดเอาลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ รวบรวมความกล้าก่อนที่จะพูดออกไป
"เมื่อวานกอล์ฟมันบอกหมดแล้วละ ทั้งผมและพี่...”
เขามองตากลมคู่หวาน
“เอ่อ...มันบอกว่ากำลังชอบกันอยู่"
...สตันท์สิ...อึ้งเลยนิ...
สาวรุ่นพี่หน้านิ่งคล้ายรูปปั้นไม่ไหวติง ทีตอนมีนักเรียนป่วยเห็นหัวแตกเลือดออกกระดูกหักเธอยังไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้าน เหตุไฉนคำพูดที่ออกจากปากชายคนนี้จึงมีผลกับเธอได้ขนาดนี้
หนุ่มน้อยวัยเลือดลมแตกผ่านเห็นสาวเจ้านั่งเงียบ ยื่นหน้าเข้าไปมองดูนัยน์ตาว่ายังกระพริบอยู่ไหม มือใหญ่ขึ้นโบกผ่านหน้าไปมาดูปฏิกิริยา
สมองโล่งอยู่ครู่จึงได้สติคืน ความเขินล้นวิ่งพุ่งจับทั่วทั้งร่างบางจนสั่นสะท้าน เธออยากจะเบือนหน้าหนีไปที่อื่นหรือแม้กระทั่งวิ่งออกไปกรี๊ดลั่นให้โรงเรียนแตกเลยก็ทำได้
แต่ร่างใหญ่ในชุดวอร์มกีฬาคลุมทั้งตัวดันนั่งอยู่ตรงหน้าปิดทางออกสะมิด จึงต้องพูดอะไรบางอย่างออกไปแก้เขินด้วยเสียงอันสั่นประหม่าเล็กน้อย
"ถ้าใช่...แล้วจะทำไม นายจะถอยห่างจากพี่เหรอ?"
พูดเสร็จด้วยความคิดที่ว่า ...คิดเองเออเอง... ร่างเล็กพลันลุกขึ้นจะเดินหนีพรวดออกไป
รัตนะต้องใช้มือหนาจับคว้าข้อมือเล็กรั้งไว้ แล้วดึงร่างเล็ก ๆ ให้กลับมานั่งที่เดิม ประกายตาคู่สวยหลุบมองมือที่เขาจับ รัตนะรู้ตัวคลายมือออกทันที
"อย่าพึ่งคิดยังงั้นสิ เมื่อวานเชื่อมั้ย...รัตน์คุยกับแม่เรื่องพี่ด้วยนะ แม่แนะนำว่า ให้ผมลองขอคบกับพี่แจ๊ส"
จะดีใจก็ไม่ อารมณ์ตอนนี้มันน่าหงุดหงิดขึ้นมาหน่อย
"นี่เธอ...ทำตามคำสั่งคนอื่นตลอดเลยเหรอ ไม่ว่าจะเป็นโค๊ช พี่ พ่อหรือแม่ ถามจริงเถอะ...มันใช่ออกมาจากความรู้สึกเธอจริง ๆ มั้ย?"
เสียงเธอมีรอยเอ็ดชักยั้วขึ้น
สาวเอวน้อยจะลุกหนีขึ้นอีกรอบ รัตนะต้องได้ใช้มือทั้งสองจับเข้าที่ไหล่บางกดเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน ประกายตาคมคู่เหยี่ยวของเขามองเข้มประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาคมคายตีสีหน้าจริงจังเป็นทางการ เพื่อบ่งบอกความในใจว่าเขาจริงใจแค่ไหน
"ผมตัดสินใจแล้ว พี่แจ๊สคบกับผมนะ อันนี้ขอเองจากใจ จะคบไม่คบ!"
หนุ่มวัยรุ่นเลือดเสียงดังจริงจัง
"คบจ้าคบ!"
เธอสะดุ้งเผลอไผลปากตอบรับออกไปในทันที คล้ายมันหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึก ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มแก้มเริ่มแดงออก
แต่ทว่า...มีบุคคลที่ 3 พึ่งเปิดประตูหวืดเข้ามาทันได้ยินประโยคเด็ดพอดี
"ปลาย!"
ทั้งคู่ตกใจอุทานขึ้นพร้อมกัน
"ใช่...ปลายเอง ยินดีด้วยนะคะ พอดีมาตามหารัตน์ สวีทกันเสร็จรึยัง นายรัตน์...ขอคุยด้วยหน่อยสิ?"
ปลายนภาหน้าตากรุ่มกริ่มกระหยิ่มยิ้มย่อง รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนพึ่งจั่วได้ไพ่เอสโพธิ์ดำ
เดือนอันดับหนึ่งขบฟันเซ็ง มองหน้าแรง แต่เธอกลับทำหน้าทะเล้นล้อเลียนใส่คืนกลัวสะทีไหน
...ยัยปลาย เธอนี่มัน...ดวงขัดลาภความสุขของฉันตลอด...
ส่วนพี่แจ๊สอ่าปากค้างเติ่ง อายเลยละสิไม่นึกว่าจะมีใครคนอื่นเข้ามาได้ยิน
นิยายเบาสมอง : Mikaza ไอ้บ้าเอ๊ย! ( 7 : ขัดลาภสะจริง )
ตรีรัตนาเดินฉายเดี่ยวสง่างามเฉกเช่นทุกวันไปที่แถวห้องตัวเอง ช่วงขณะยืนรอเวลาขาสั้นกระโปรงบานหลายคน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดอันร้อนแรง ซุบซิบนินทากันอื้ออึง หลากสายตานั้นก็แอบชำเลืองมองมาที่นางฟ้าประจำโรงเรียน
เรื่องที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และกำลังเป็นที่โจษจันกันอย่างสนุกปากคงหนีไม่พ้น
...ตรียื่นหน้าไปใกล้กับหน้าของปลาย...
กลุ่มเพื่อนของสาวงามห้อง 5/4 สะกิดเข้าไหล่บอบบางจากด้านหลัง
"ตรี...เธอชอบปลายเหรอ?"
‘น้อย’ ที่ตัวไม่น้อยเหมือนชื่อ กล้าถามขึ้นเพราะเธอสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้อย่างที่สุด พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่แชร์รูปกันว่อนในสื่อโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คให้เธอดู ทำให้คนรอบข้างกายหล่อนต่างลุ้นหูผึ่งรอฟัง
"ก็ชอบนะปลายดูใกล้ ๆ หน้าสวยดี ใครไม่ชอบสิแปลก"
หล่อนตอบออกมาอย่างหน้าตาเฉยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เป็นประโยคที่มักพบเห็นในหมู่ดาราคนดัง ที่ฟังแล้วกลาง ๆ กว้าง ๆ แล้วแต่ผู้ฟังจะคิดต่อยอดกันเอาเอง
ดวงตาคู่สวยหันไปมองหน้าปลายนภา ที่ยืนอยู่ในแถวถัดไปอีก สามห้อง แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มปากยิ้มให้นักเรียนหญิงคู่กรณี
หัวหน้าปอมปอมเชียร์เดิมที ยืนมองสาวร่างบางอยู่แล้ว เหมือนกำลังค้นหาคำตอบในอากัปกิริยาของอีกฝ่าย และมีคำถามมากมายในหัวอยากคุยด้วย แต่เมื่อได้รับรอยยิ้มที่ตรีรัตนาส่งมาให้ ทำให้เธอกลับนึกขึ้นเอาเองว่า
...ตรีตอบตกลงแล้ว...
ปลายนภาดีใจเป็นอย่างมาก ฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีดูสดใส คนรอบข้างได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มมีความสุข มันทำให้โลกรอบข้างเธอพลันเบิกบานขึ้นตาม
..นายคุยกับตรีแล้วนะ คำตอบว่ายังไง..
ข้อความแสดงขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์ เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตามอง ตรีรัตนากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียนกับกลุ่มเพื่อนสาว
บรรยากาศภายในเจี๊ยวจ๊าวครื้นเครงกันใหญ่ตามประสาคนวัยเรียนในยามพักเที่ยง
"ใครส่งมาอะ อ่านแล้วก็ยิ้ม ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉย ๆ"
พฤติกรรมเธอแปลกไปผิดวิสัย มันทำให้คนในโต๊ะสงสัย แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี เรื่องที่พูดคุยกันส่วนมากก็จะเป็นเรื่องของสวย ๆงาม ๆ
ทว่า...มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้จูนกันได้ ก็คือ เกม ‘ROV’ ที่ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างกันไม่ได้เป็นต้องไล่ฆ่า (หมายถึงในเกมนะ)
"อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ เขาทวงมา ตรีอดขำไม่ได้ คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ได้ขนาดนั้น"
"เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าตรีจะไปช่วยสีฟ้า ทั้งที่พี่ประธานสีของเราก็จีบตรีตามตื้อมาตั้งแต่ม.4 ให้ช่วยไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์"
นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูกพร้อมกับชักสีหน้า
"ก็รัตน์ขอมา ตรีก็แค่ช่วยเห็นว่าจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็แค่นั้น"
"เธอไปสนิทกับรัตน์ตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นขอให้ช่วยได้ด้วยเหรอ มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า?"
"อันนี้ขอไม่เล่า เดี๋ยวไม่สนุก"
ใบหน้างดงามหวานเยิ้มยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอยังคงตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม
หากแต่...เพื่อนในกลุ่มเกมเมอร์ ‘ROV’ ของเธอนี่สิ มีน้อย อั้ม กวางและดาว ...ครบห้าคนตั้งทีมเล่นเกมได้... ไม่รู้ว่าเทพธิดาคนสวยของพวกหล่อนจะเดินหน้าไปทางไหน ช่วยรัตนะหรือช่วยปลายนภา จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจช่วยใครกันแน่
พยาบาลสาวหวานน่ารักมีนิสัยขี้เล่นซุกซน ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลากำลังง่วนกับงานที่เธอรัก ร่างเล็กบางกำลังก้มหน้าเขียนบันทึกการเบิกจ่ายยาประจำวัน ที่โต๊ะทำงานหลังหน้าต่างบานเลื่อนตำแหน่งด้านหน้าของอาคาร
เสียงเคาะบานกระจกให้สัญญาณสามที เป็นการทักตามมารยาททั่วไป คนได้ยินยังคงก้มหน้าตามเดิมไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าคนอื่น เขียนเสร็จจบบรรทัดจึงแหงนหน้าขึ้นมอง
ปรากฏหน้าหล่อคมสันที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เขายืนเต็มตัวหุ่นสูงใหญ่ดูสมาร์ทแมน เธอตะลึงกับความงามตรงหน้าอยู่สักพัก พออยู่ใกล้กันมากมักไม่เห็น แต่พอลองถอยห่างกลับมองเห็นความสง่างามน่ามองอีกด้าน
หนึ่งธิดาสั่นศรีษะเรียกสติ ตั้งตัวได้จึงเลื่อนกระจกออก
"ว่าไงอะเธอ จะมานอนเล่นเหรอ? เตียงยังพอว่างอยู่นะ"
"คือ...ก่อนอื่นขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมพี่? มีเรื่องอยากคุยด้วย"
รัตนะยังเขินอายกลัวคนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา และอาจมีใครที่ไม่พึ่งปรารถนาเห็นถึงการมาในครั้งนี้
"ได้สิ"
มือเล็กบางเลื่อนบานหน้าต่างปิดคืน แล้วหมุนเก้าอี้ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออกให้หนุ่มร่างสูงเข้ามา
รัตนะด้วยความใสซื่อ ลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้หนึ่งธิดา อยากคุยกันเบา ๆ กลัวคนอื่นได้ยิน เมื่อร่างใหญ่นั่งลงหน้าหล่อเหลาหันขวับมาจมูกแทบแตะกัน ลมหายใจอุ่น ๆ ต่างรดผ่าวริมฝีปากของอีกฝ่าย สองหน้านิ่งงันมองตาซึ่งกันเห็นเงาตัวเองสะท้อนในกระจกตาของกันและกัน
รอบข้างสงบนิ่งพลัน
สักครู่เหมือนมีสัญญาณคล้ายเป็นการบอกหมดเวลา กิ่งไม้ต้นจามจุรีหน้าอาคารหลังเล็กเปราะบางหักลงมากระทบหลังคาดังปัง ทั้งคู่สะดุ้งจนตัวกระตุก แล้วผละออกจากกันด้วยความเขินอาย
"เอ่อ...รัตน์เธอขยับออกไปนิดหนึ่งนะ เข้ามาสะใกล้ขนาดนี้พี่ก็เขินแย่"
หน้าเริ่มแดงระเรื่อเหมือนอากาศร้อน พี่แจ๊สพูดออกไปพร้อมมือไม้ยกขึ้นบังปิดป้องตัวเองเอียงอาย มือข้างหนึ่งดันหน้าอกใหญ่ของรัตน์ผลักออกไปอยากให้ถอย
พ่อเทพบุตรก็เขินขึ้นเช่นกัน ใจเต้นรั่วไม่เป็นจังหวะ ปลิวตามแรงมือนุ่มของพี่พยาบาลบวกกับแรงถีบรูดเก้าอี้ดึงร่างตัวเองถอยออกไปพร้อม ๆ กัน
สาวผมม้าหน้าหวานตีหน้าประหลาดใจ
"ไกลไปนะ จะให้ตะโกนรึไง หนึ่งเมตรเอาที่หนึ่งเมตร"
เรียวนิ้วเล็ก ๆ จึงชี้ตำแหน่งให้เลื่อนเก้าอี้มาตรงนี้
เมื่อทั้งคู่พร้อมตั้งสติกันได้
หนึ่งธิดาจึงเริ่มถามก่อนด้วยเสียงหวานปกติ
"มีเรื่องอะไร ทีว่าอยากคุยด้วย?"
กัปตันทีมบอลอาการตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น ภายในมันออกร้อน ๆ ทีลงสนามหญ้าเขียวเตะฟุตบอลแข่งขันกับทีมโรงเรียนอื่นที่เก่ง ๆ มีแมทช์สำคัญ ๆ ก็ยังรู้สึกไม่เท่ากับครั้งนี้ ต้องได้สูดเอาลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ รวบรวมความกล้าก่อนที่จะพูดออกไป
"เมื่อวานกอล์ฟมันบอกหมดแล้วละ ทั้งผมและพี่...”
เขามองตากลมคู่หวาน
“เอ่อ...มันบอกว่ากำลังชอบกันอยู่"
...สตันท์สิ...อึ้งเลยนิ...
สาวรุ่นพี่หน้านิ่งคล้ายรูปปั้นไม่ไหวติง ทีตอนมีนักเรียนป่วยเห็นหัวแตกเลือดออกกระดูกหักเธอยังไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้าน เหตุไฉนคำพูดที่ออกจากปากชายคนนี้จึงมีผลกับเธอได้ขนาดนี้
หนุ่มน้อยวัยเลือดลมแตกผ่านเห็นสาวเจ้านั่งเงียบ ยื่นหน้าเข้าไปมองดูนัยน์ตาว่ายังกระพริบอยู่ไหม มือใหญ่ขึ้นโบกผ่านหน้าไปมาดูปฏิกิริยา
สมองโล่งอยู่ครู่จึงได้สติคืน ความเขินล้นวิ่งพุ่งจับทั่วทั้งร่างบางจนสั่นสะท้าน เธออยากจะเบือนหน้าหนีไปที่อื่นหรือแม้กระทั่งวิ่งออกไปกรี๊ดลั่นให้โรงเรียนแตกเลยก็ทำได้
แต่ร่างใหญ่ในชุดวอร์มกีฬาคลุมทั้งตัวดันนั่งอยู่ตรงหน้าปิดทางออกสะมิด จึงต้องพูดอะไรบางอย่างออกไปแก้เขินด้วยเสียงอันสั่นประหม่าเล็กน้อย
"ถ้าใช่...แล้วจะทำไม นายจะถอยห่างจากพี่เหรอ?"
พูดเสร็จด้วยความคิดที่ว่า ...คิดเองเออเอง... ร่างเล็กพลันลุกขึ้นจะเดินหนีพรวดออกไป
รัตนะต้องใช้มือหนาจับคว้าข้อมือเล็กรั้งไว้ แล้วดึงร่างเล็ก ๆ ให้กลับมานั่งที่เดิม ประกายตาคู่สวยหลุบมองมือที่เขาจับ รัตนะรู้ตัวคลายมือออกทันที
"อย่าพึ่งคิดยังงั้นสิ เมื่อวานเชื่อมั้ย...รัตน์คุยกับแม่เรื่องพี่ด้วยนะ แม่แนะนำว่า ให้ผมลองขอคบกับพี่แจ๊ส"
จะดีใจก็ไม่ อารมณ์ตอนนี้มันน่าหงุดหงิดขึ้นมาหน่อย
"นี่เธอ...ทำตามคำสั่งคนอื่นตลอดเลยเหรอ ไม่ว่าจะเป็นโค๊ช พี่ พ่อหรือแม่ ถามจริงเถอะ...มันใช่ออกมาจากความรู้สึกเธอจริง ๆ มั้ย?"
เสียงเธอมีรอยเอ็ดชักยั้วขึ้น
สาวเอวน้อยจะลุกหนีขึ้นอีกรอบ รัตนะต้องได้ใช้มือทั้งสองจับเข้าที่ไหล่บางกดเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน ประกายตาคมคู่เหยี่ยวของเขามองเข้มประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาคมคายตีสีหน้าจริงจังเป็นทางการ เพื่อบ่งบอกความในใจว่าเขาจริงใจแค่ไหน
"ผมตัดสินใจแล้ว พี่แจ๊สคบกับผมนะ อันนี้ขอเองจากใจ จะคบไม่คบ!"
หนุ่มวัยรุ่นเลือดเสียงดังจริงจัง
"คบจ้าคบ!"
เธอสะดุ้งเผลอไผลปากตอบรับออกไปในทันที คล้ายมันหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึก ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มแก้มเริ่มแดงออก
แต่ทว่า...มีบุคคลที่ 3 พึ่งเปิดประตูหวืดเข้ามาทันได้ยินประโยคเด็ดพอดี
"ปลาย!"
ทั้งคู่ตกใจอุทานขึ้นพร้อมกัน
"ใช่...ปลายเอง ยินดีด้วยนะคะ พอดีมาตามหารัตน์ สวีทกันเสร็จรึยัง นายรัตน์...ขอคุยด้วยหน่อยสิ?"
ปลายนภาหน้าตากรุ่มกริ่มกระหยิ่มยิ้มย่อง รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนพึ่งจั่วได้ไพ่เอสโพธิ์ดำ
เดือนอันดับหนึ่งขบฟันเซ็ง มองหน้าแรง แต่เธอกลับทำหน้าทะเล้นล้อเลียนใส่คืนกลัวสะทีไหน
...ยัยปลาย เธอนี่มัน...ดวงขัดลาภความสุขของฉันตลอด...
ส่วนพี่แจ๊สอ่าปากค้างเติ่ง อายเลยละสิไม่นึกว่าจะมีใครคนอื่นเข้ามาได้ยิน