นิยายเบาสมอง : Mikaza ไอ้บ้าเอ๊ย! ( 7 : ขัดลาภสะจริง )

เสียงร้องเพลงชาติไทยดังขึ้นตามโทรโข่งภายในโรงเรียน บ่งบอกว่าได้เวลาเข้าแถวเตรียมตัวเคารพธงชาติ  นักเรียนทุกชั้นรวมคณะครูอาจารย์   ต่างเริ่มเดินทยอยกันไปที่ลานโดมขนาดใหญ่บริเวณหน้าเสาธง
            ตรีรัตนาเดินฉายเดี่ยวสง่างามเฉกเช่นทุกวันไปที่แถวห้องตัวเอง   ช่วงขณะยืนรอเวลาขาสั้นกระโปรงบานหลายคน   หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูกระทู้เด็ดอันร้อนแรง   ซุบซิบนินทากันอื้ออึง  หลากสายตานั้นก็แอบชำเลืองมองมาที่นางฟ้าประจำโรงเรียน
เรื่องที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ  และกำลังเป็นที่โจษจันกันอย่างสนุกปากคงหนีไม่พ้น  
...ตรียื่นหน้าไปใกล้กับหน้าของปลาย...
            กลุ่มเพื่อนของสาวงามห้อง 5/4  สะกิดเข้าไหล่บอบบางจากด้านหลัง  
            "ตรี...เธอชอบปลายเหรอ?"
‘น้อย’  ที่ตัวไม่น้อยเหมือนชื่อ  กล้าถามขึ้นเพราะเธอสนิทและหวงแหนเพื่อนสาวคนนี้อย่างที่สุด  พร้อมกับยื่นโทรศัพท์ที่แชร์รูปกันว่อนในสื่อโซเชี่ยวเน็ตเวิร์คให้เธอดู   ทำให้คนรอบข้างกายหล่อนต่างลุ้นหูผึ่งรอฟัง
            "ก็ชอบนะปลายดูใกล้ ๆ หน้าสวยดี   ใครไม่ชอบสิแปลก"
หล่อนตอบออกมาอย่างหน้าตาเฉยไม่มีความผิดปกติใด ๆ เป็นประโยคที่มักพบเห็นในหมู่ดาราคนดัง  ที่ฟังแล้วกลาง ๆ กว้าง ๆ แล้วแต่ผู้ฟังจะคิดต่อยอดกันเอาเอง
ดวงตาคู่สวยหันไปมองหน้าปลายนภา  ที่ยืนอยู่ในแถวถัดไปอีก สามห้อง   แล้วเรียวปากอิ่มก็เม้มปากยิ้มให้นักเรียนหญิงคู่กรณี
            หัวหน้าปอมปอมเชียร์เดิมที  ยืนมองสาวร่างบางอยู่แล้ว  เหมือนกำลังค้นหาคำตอบในอากัปกิริยาของอีกฝ่าย  และมีคำถามมากมายในหัวอยากคุยด้วย  แต่เมื่อได้รับรอยยิ้มที่ตรีรัตนาส่งมาให้  ทำให้เธอกลับนึกขึ้นเอาเองว่า  
...ตรีตอบตกลงแล้ว...   
ปลายนภาดีใจเป็นอย่างมาก  ฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีดูสดใส  คนรอบข้างได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มมีความสุข  มันทำให้โลกรอบข้างเธอพลันเบิกบานขึ้นตาม   
 
 
..นายคุยกับตรีแล้วนะ   คำตอบว่ายังไง..
ข้อความแสดงขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์  เรียวคิ้วโค้งงามหลุบตามอง  ตรีรัตนากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของโรงเรียนกับกลุ่มเพื่อนสาว
บรรยากาศภายในเจี๊ยวจ๊าวครื้นเครงกันใหญ่ตามประสาคนวัยเรียนในยามพักเที่ยง 
            "ใครส่งมาอะ   อ่านแล้วก็ยิ้ม   ปกติตรีอ่านข้อความแล้วก็เฉย ๆ"
พฤติกรรมเธอแปลกไปผิดวิสัย  มันทำให้คนในโต๊ะสงสัย   แม้ทานข้าวเที่ยงด้วยกันทุกวัน   แต่ตรีรัตนาก็ระวังและเก็บโลกส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี   เรื่องที่พูดคุยกันส่วนมากก็จะเป็นเรื่องของสวย ๆงาม ๆ  
ทว่า...มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงกลุ่มนี้จูนกันได้  ก็คือ  เกม ‘ROV’  ที่ติดกันงอมแงมชนิดที่ว่าว่างกันไม่ได้เป็นต้องไล่ฆ่า  (หมายถึงในเกมนะ)
            "อ๋อ...พอดีมีคนขอความช่วยเหลือ   เขาทวงมา   ตรีอดขำไม่ได้   คนอะไรจะบ้าการเต้นเชียร์ได้ขนาดนั้น"
            "เดี๋ยวนะ   อย่าบอกนะว่าตรีจะไปช่วยสีฟ้า   ทั้งที่พี่ประธานสีของเราก็จีบตรีตามตื้อมาตั้งแต่ม.4  ให้ช่วยไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์"
นักเรียนหญิงหุ่นอุ้ยอ้ายย่นจมูกพร้อมกับชักสีหน้า
            "ก็รัตน์ขอมา   ตรีก็แค่ช่วยเห็นว่าจะโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด  ตรีเห็นใจทั้งสองคนก็แค่นั้น"
            "เธอไปสนิทกับรัตน์ตั้งแต่เมื่อไร   ถึงขั้นขอให้ช่วยได้ด้วยเหรอ   มีอะไรแอบแฝงรึเปล่า?"
            "อันนี้ขอไม่เล่า   เดี๋ยวไม่สนุก"
ใบหน้างดงามหวานเยิ้มยิ้มออกมาเล็กน้อย  เธอยังคงตอบเลี่ยงได้เหมือนเดิม
            หากแต่...เพื่อนในกลุ่มเกมเมอร์  ‘ROV’  ของเธอนี่สิ   มีน้อย   อั้ม  กวางและดาว   ...ครบห้าคนตั้งทีมเล่นเกมได้...  ไม่รู้ว่าเทพธิดาคนสวยของพวกหล่อนจะเดินหน้าไปทางไหน  ช่วยรัตนะหรือช่วยปลายนภา   จริง ๆ แล้วเธอตั้งใจช่วยใครกันแน่
 
 
พยาบาลสาวหวานน่ารักมีนิสัยขี้เล่นซุกซน   ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลากำลังง่วนกับงานที่เธอรัก   ร่างเล็กบางกำลังก้มหน้าเขียนบันทึกการเบิกจ่ายยาประจำวัน  ที่โต๊ะทำงานหลังหน้าต่างบานเลื่อนตำแหน่งด้านหน้าของอาคาร   
            เสียงเคาะบานกระจกให้สัญญาณสามที  เป็นการทักตามมารยาททั่วไป   คนได้ยินยังคงก้มหน้าตามเดิมไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าคนอื่น  เขียนเสร็จจบบรรทัดจึงแหงนหน้าขึ้นมอง   
            ปรากฏหน้าหล่อคมสันที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี  เขายืนเต็มตัวหุ่นสูงใหญ่ดูสมาร์ทแมน   เธอตะลึงกับความงามตรงหน้าอยู่สักพัก  พออยู่ใกล้กันมากมักไม่เห็น  แต่พอลองถอยห่างกลับมองเห็นความสง่างามน่ามองอีกด้าน  
            หนึ่งธิดาสั่นศรีษะเรียกสติ  ตั้งตัวได้จึงเลื่อนกระจกออก
            "ว่าไงอะเธอ  จะมานอนเล่นเหรอ?  เตียงยังพอว่างอยู่นะ"
            "คือ...ก่อนอื่นขอเข้าไปข้างในก่อนได้ไหมพี่?   มีเรื่องอยากคุยด้วย"
รัตนะยังเขินอายกลัวคนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา   และอาจมีใครที่ไม่พึ่งปรารถนาเห็นถึงการมาในครั้งนี้
            "ได้สิ"  
มือเล็กบางเลื่อนบานหน้าต่างปิดคืน  แล้วหมุนเก้าอี้ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูออกให้หนุ่มร่างสูงเข้ามา
            รัตนะด้วยความใสซื่อ  ลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้หนึ่งธิดา  อยากคุยกันเบา ๆ กลัวคนอื่นได้ยิน   เมื่อร่างใหญ่นั่งลงหน้าหล่อเหลาหันขวับมาจมูกแทบแตะกัน  ลมหายใจอุ่น ๆ ต่างรดผ่าวริมฝีปากของอีกฝ่าย  สองหน้านิ่งงันมองตาซึ่งกันเห็นเงาตัวเองสะท้อนในกระจกตาของกันและกัน
            รอบข้างสงบนิ่งพลัน  
สักครู่เหมือนมีสัญญาณคล้ายเป็นการบอกหมดเวลา  กิ่งไม้ต้นจามจุรีหน้าอาคารหลังเล็กเปราะบางหักลงมากระทบหลังคาดังปัง  ทั้งคู่สะดุ้งจนตัวกระตุก  แล้วผละออกจากกันด้วยความเขินอาย
            "เอ่อ...รัตน์เธอขยับออกไปนิดหนึ่งนะ  เข้ามาสะใกล้ขนาดนี้พี่ก็เขินแย่"
หน้าเริ่มแดงระเรื่อเหมือนอากาศร้อน  พี่แจ๊สพูดออกไปพร้อมมือไม้ยกขึ้นบังปิดป้องตัวเองเอียงอาย   มือข้างหนึ่งดันหน้าอกใหญ่ของรัตน์ผลักออกไปอยากให้ถอย
            พ่อเทพบุตรก็เขินขึ้นเช่นกัน   ใจเต้นรั่วไม่เป็นจังหวะ   ปลิวตามแรงมือนุ่มของพี่พยาบาลบวกกับแรงถีบรูดเก้าอี้ดึงร่างตัวเองถอยออกไปพร้อม ๆ กัน
            สาวผมม้าหน้าหวานตีหน้าประหลาดใจ
            "ไกลไปนะ  จะให้ตะโกนรึไง  หนึ่งเมตรเอาที่หนึ่งเมตร"
เรียวนิ้วเล็ก ๆ จึงชี้ตำแหน่งให้เลื่อนเก้าอี้มาตรงนี้
            เมื่อทั้งคู่พร้อมตั้งสติกันได้  
            หนึ่งธิดาจึงเริ่มถามก่อนด้วยเสียงหวานปกติ
"มีเรื่องอะไร  ทีว่าอยากคุยด้วย?"
            กัปตันทีมบอลอาการตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น   ภายในมันออกร้อน ๆ   ทีลงสนามหญ้าเขียวเตะฟุตบอลแข่งขันกับทีมโรงเรียนอื่นที่เก่ง ๆ มีแมทช์สำคัญ ๆ ก็ยังรู้สึกไม่เท่ากับครั้งนี้   ต้องได้สูดเอาลมเข้าปอดเฮือกใหญ่   รวบรวมความกล้าก่อนที่จะพูดออกไป
"เมื่อวานกอล์ฟมันบอกหมดแล้วละ   ทั้งผมและพี่...”
เขามองตากลมคู่หวาน
“เอ่อ...มันบอกว่ากำลังชอบกันอยู่"
            ...สตันท์สิ...อึ้งเลยนิ...
            สาวรุ่นพี่หน้านิ่งคล้ายรูปปั้นไม่ไหวติง  ทีตอนมีนักเรียนป่วยเห็นหัวแตกเลือดออกกระดูกหักเธอยังไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้าน  เหตุไฉนคำพูดที่ออกจากปากชายคนนี้จึงมีผลกับเธอได้ขนาดนี้
            หนุ่มน้อยวัยเลือดลมแตกผ่านเห็นสาวเจ้านั่งเงียบ  ยื่นหน้าเข้าไปมองดูนัยน์ตาว่ายังกระพริบอยู่ไหม   มือใหญ่ขึ้นโบกผ่านหน้าไปมาดูปฏิกิริยา
            สมองโล่งอยู่ครู่จึงได้สติคืน   ความเขินล้นวิ่งพุ่งจับทั่วทั้งร่างบางจนสั่นสะท้าน   เธออยากจะเบือนหน้าหนีไปที่อื่นหรือแม้กระทั่งวิ่งออกไปกรี๊ดลั่นให้โรงเรียนแตกเลยก็ทำได้   
แต่ร่างใหญ่ในชุดวอร์มกีฬาคลุมทั้งตัวดันนั่งอยู่ตรงหน้าปิดทางออกสะมิด   จึงต้องพูดอะไรบางอย่างออกไปแก้เขินด้วยเสียงอันสั่นประหม่าเล็กน้อย
"ถ้าใช่...แล้วจะทำไม   นายจะถอยห่างจากพี่เหรอ?"
พูดเสร็จด้วยความคิดที่ว่า   ...คิดเองเออเอง...  ร่างเล็กพลันลุกขึ้นจะเดินหนีพรวดออกไป
            รัตนะต้องใช้มือหนาจับคว้าข้อมือเล็กรั้งไว้  แล้วดึงร่างเล็ก ๆ ให้กลับมานั่งที่เดิม  ประกายตาคู่สวยหลุบมองมือที่เขาจับ   รัตนะรู้ตัวคลายมือออกทันที
            "อย่าพึ่งคิดยังงั้นสิ   เมื่อวานเชื่อมั้ย...รัตน์คุยกับแม่เรื่องพี่ด้วยนะ  แม่แนะนำว่า  ให้ผมลองขอคบกับพี่แจ๊ส"
            จะดีใจก็ไม่   อารมณ์ตอนนี้มันน่าหงุดหงิดขึ้นมาหน่อย
"นี่เธอ...ทำตามคำสั่งคนอื่นตลอดเลยเหรอ   ไม่ว่าจะเป็นโค๊ช  พี่  พ่อหรือแม่   ถามจริงเถอะ...มันใช่ออกมาจากความรู้สึกเธอจริง ๆ มั้ย?"
เสียงเธอมีรอยเอ็ดชักยั้วขึ้น
            สาวเอวน้อยจะลุกหนีขึ้นอีกรอบ   รัตนะต้องได้ใช้มือทั้งสองจับเข้าที่ไหล่บางกดเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน   ประกายตาคมคู่เหยี่ยวของเขามองเข้มประกอบกับใบหน้าหล่อเหลาคมคายตีสีหน้าจริงจังเป็นทางการ   เพื่อบ่งบอกความในใจว่าเขาจริงใจแค่ไหน
"ผมตัดสินใจแล้ว   พี่แจ๊สคบกับผมนะ  อันนี้ขอเองจากใจ   จะคบไม่คบ!"
หนุ่มวัยรุ่นเลือดเสียงดังจริงจัง
            "คบจ้าคบ!"
เธอสะดุ้งเผลอไผลปากตอบรับออกไปในทันที  คล้ายมันหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึก   ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มแก้มเริ่มแดงออก
            แต่ทว่า...มีบุคคลที่ 3 พึ่งเปิดประตูหวืดเข้ามาทันได้ยินประโยคเด็ดพอดี  
            "ปลาย!"
ทั้งคู่ตกใจอุทานขึ้นพร้อมกัน
            "ใช่...ปลายเอง   ยินดีด้วยนะคะ   พอดีมาตามหารัตน์   สวีทกันเสร็จรึยัง   นายรัตน์...ขอคุยด้วยหน่อยสิ?"
ปลายนภาหน้าตากรุ่มกริ่มกระหยิ่มยิ้มย่อง  รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเหมือนพึ่งจั่วได้ไพ่เอสโพธิ์ดำ
            เดือนอันดับหนึ่งขบฟันเซ็ง  มองหน้าแรง  แต่เธอกลับทำหน้าทะเล้นล้อเลียนใส่คืนกลัวสะทีไหน   
...ยัยปลาย   เธอนี่มัน...ดวงขัดลาภความสุขของฉันตลอด...
ส่วนพี่แจ๊สอ่าปากค้างเติ่ง   อายเลยละสิไม่นึกว่าจะมีใครคนอื่นเข้ามาได้ยิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่