ในอดีตเวลามีคุณครูหรือใครสักคนมาถามพวกเราว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร?" ปกติเด็กๆ คงตอบว่า อยากเป็นตำรวจ ทหาร นักวิทยาศาตร์ หรือที่โดดเด่นก็อาจเป็นนักบินอวกาศ หรือ Superhero
ถ้าตอนนี้ผมกลับมาถามพวกคุณด้วยประโยคเดิมว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร?" เด็กที่โตขึ้นมาหน่อย หรือนักศึกษาที่กำลังหางาน ก็คงตอบในสิ่งที่ตนเองอยากจะเป็นหนึ่งอย่าง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ประหลาดมากๆ ว่าทำไมตอนเด็กๆ สิ่งที่เราอยากจะเป็นมันมีไม่จำกัด แต่มันกลับลดน้อยลงจนเหมือนจะถูกบังคับให้เลือกเพี่ยงอย่างเดียว
จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดสามารถพบเห็นได้ทั่วไปเพราะมันคือกลไกของสังคมที่เหมือนจะกำหนดว่าคนเราควรจะถนัดแค่อย่างเดียว ไม่ควรจะถนัดมากกว่านั้น ซึ่งคุณ Emilie Wapnick ที่ปรึกษาทางด้านอาชีพได้เล็งเห็น และพบว่าเราไม่ควรจะถูกปิดกั้นแบบนี้ คนเราสามารถเลือกที่จะเป็นได้หลายอย่าง มีความถนัดได้หลายทาง ซึ่งคุณ Emilie ได้เรียกสิ่งนี้ว่า "Multipotentialites"
แล้วการเป็น Multipotentialites มันดีอย่างไร คุณ Emilie ได้สรุปข้อดีของคนที่ถนัดหลายอย่างดังนี้
1. Idea synthesis คือการที่พวกเขาสามารถนำองค์ความรู้หลายๆ อย่างมารวมกันเพื่อสร้างารรค์หรือทำงานที่ดีขึ้น เช่น การนำองค์ความรู้เรื่องเลขาคณิคมารวมกับแผนที่และความหลงไหลในอัญมณี เพื่อทำออกมาเป็นเครื่องประดับ brand Meshu
2. Rapid learning คือการที่พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจริงๆคือการต่อยอดจากสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้ว ทำให้เข้าใจได้หลากหลาย กว้างและลึกในเวลาเดียวกัน
3. Adaptability คือการที่พวกเขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยองค์ความรู้อันหลากหลายของเขามาใช้ให้ดีขึ้น
จากที่บอกมาทั้งหมด การเป็นคนที่มีความสามารถที่หลากหลายมีข้อดีหลายประการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนางานที่ทำ ต่อยอดองค์ความรู้ของทีม ทำให้งานสำเร็จในที่สุดครับ
Ref:
https://www.ted.com/talks/emilie_wapnick_why_some_of_us_don_t_have_one_true_calling?language=en
หรือติดตามข้อมูลดีๆ ได้ทาง
https://www.facebook.com/Unbox-your-thinking-112756357217401 หรือ
https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ครับ
[Multipotentialites] เมื่อคนเราสามารถเลือกอาชีพได้มากกว่าหนึ่งอย่าง
ถ้าตอนนี้ผมกลับมาถามพวกคุณด้วยประโยคเดิมว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร?" เด็กที่โตขึ้นมาหน่อย หรือนักศึกษาที่กำลังหางาน ก็คงตอบในสิ่งที่ตนเองอยากจะเป็นหนึ่งอย่าง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ประหลาดมากๆ ว่าทำไมตอนเด็กๆ สิ่งที่เราอยากจะเป็นมันมีไม่จำกัด แต่มันกลับลดน้อยลงจนเหมือนจะถูกบังคับให้เลือกเพี่ยงอย่างเดียว
จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดสามารถพบเห็นได้ทั่วไปเพราะมันคือกลไกของสังคมที่เหมือนจะกำหนดว่าคนเราควรจะถนัดแค่อย่างเดียว ไม่ควรจะถนัดมากกว่านั้น ซึ่งคุณ Emilie Wapnick ที่ปรึกษาทางด้านอาชีพได้เล็งเห็น และพบว่าเราไม่ควรจะถูกปิดกั้นแบบนี้ คนเราสามารถเลือกที่จะเป็นได้หลายอย่าง มีความถนัดได้หลายทาง ซึ่งคุณ Emilie ได้เรียกสิ่งนี้ว่า "Multipotentialites"
แล้วการเป็น Multipotentialites มันดีอย่างไร คุณ Emilie ได้สรุปข้อดีของคนที่ถนัดหลายอย่างดังนี้
1. Idea synthesis คือการที่พวกเขาสามารถนำองค์ความรู้หลายๆ อย่างมารวมกันเพื่อสร้างารรค์หรือทำงานที่ดีขึ้น เช่น การนำองค์ความรู้เรื่องเลขาคณิคมารวมกับแผนที่และความหลงไหลในอัญมณี เพื่อทำออกมาเป็นเครื่องประดับ brand Meshu
2. Rapid learning คือการที่พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจริงๆคือการต่อยอดจากสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้ว ทำให้เข้าใจได้หลากหลาย กว้างและลึกในเวลาเดียวกัน
3. Adaptability คือการที่พวกเขาสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยองค์ความรู้อันหลากหลายของเขามาใช้ให้ดีขึ้น
จากที่บอกมาทั้งหมด การเป็นคนที่มีความสามารถที่หลากหลายมีข้อดีหลายประการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนางานที่ทำ ต่อยอดองค์ความรู้ของทีม ทำให้งานสำเร็จในที่สุดครับ
Ref: https://www.ted.com/talks/emilie_wapnick_why_some_of_us_don_t_have_one_true_calling?language=en
หรือติดตามข้อมูลดีๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/Unbox-your-thinking-112756357217401 หรือ https://www.blockdit.com/pages/5f4b6519e807060cb777cdbf ครับ