"เจ้าเสือใหญ่ " นักมวยไทยรายใหม่ ที่ส่อแววไปได้สวยในศีก K-1

ปัจจุบันมวย K-1 ของญี่ปุ่น ตกผลึกเรื่องการแก้ทางมวยไทยขนานแท้มาเรียบร้อย หลักๆน่าจะเใช้เคสของบัวขาวเป็นแนวทางปรับแก้กติกามาเรื่อย
จนทำให้นำเทคนิคมวยไทยมาใช้บนเวทีได้น้อยมาก ลูกหัก เหวี่ยง เหลี่ยมเข่า นี่หมดสิทธิ์ เพราะห้ามจับคอเด็ดขาด นักมวยไทยเก่งๆเจอกติกา K-1 เผลอตัวจับคอนิดหน่อย กรรมการเตือนจนมึน กอดนิดนึงก็ไม่ได้ พลาดท่าโดนต่อยแพ้น็อกเป็นประจำ เพราะนักมวยญี่ปุ่นสมัยนี้ถ้าระดับแนวหน้าเก่งทุกคน มาฝึกมวยไทยจนคล่องแล้วถึงไปฝึกคิ๊กบ๊อกซิ่ง เน้นต่อยหมัดกันเป็นหลัก เพราะรู้ว่ามวยไทยเวลาเจอมวยหมัดจะเข้ากอดเพื่อป้องกันตัว แต่กติกา K-1 ห้ามกอดเด็ดขาด ทำให้ป้องกันตัวลำบากเวลาเพลี่ยงพล้ำ

ถ้าจะส่งมวยไทยไปโกยเงินเยนเมืองญี่ปุ่น ต่อยแนว คิ๊กบ็อกซิ่ง ต้องปรับวิธีฝึกกันใหม่ เน้นมวยที่ใช้หมัดเก่งๆเป็นหลัก ปัจจุบันมวยไทยเริ่มจับทาง
K-1 ได้บ้างแล้ว ที่ต่อยประจำ อย่าง แก้ว  และ ก้องนภา ก็โลดแล่นได้สบาย แต่ถ้าพลาดท่าก็แพ้ภัยกรรมการอยู่เสมอ ชกแบบสูสี โดนให้แพ้หมด หรือถ้าชนะไม่ขาด จะลากไปยก 4 เพราะนักมวยไทยมักจะหมดแรง  อย่างเช่น แก้ว  โดนมา 2 ไฟต์รวด  ผมว่ากรรมการนี่น่ากล้วกว่านักมวยอีกนะ

แต่นักมวยไทยที่ปรับตัวเข้ากับ K-1 ได้ดีและมาแรง ในสายตาผม คือ เจ้าเสือใหญ่ ที่มีท่ากระโดดเข่าลอย เป็นจุดขายใช้ได้น่าตื่นตาตื่นใจ หลังจากไปพลาดโดนต่อยน็อกใน K-1 รอบชิง เพราะล้าเนื่องจากก่อนต่อยรอบชิง ต้องสู้กับมวยตัวเก่งญี่ปุ่นถึง 4 ยก ขณะที่คู่ต่อสู้ ชนะน็อกในยก 2 ทำให้สดกว่าเยอะ หลังจากนั้นกลับไปซุ่มฝึกมาใหม่ กลับมาต่อยอีกคร้ง เตะนักมวยตัวแรงญี่ปุ่นปากฉีก เลือดกลบปาก กรรมการต้องจับแพ้ไปเพราะกลัวอันตราย เสียดายมีโควิดมาคั่นเสียก่อนไม่เช่นน่าจะได้ต่อยอีกหลายแมตซ์

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่