วันวันหาแต่เรื่อง เที่ยว......
ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวภาคใต้แบบใหม่ ที่ไม่ซ้ำจำเจกับใคร ไปล่องแก่ง เล่นเรือตะขาบ ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ชิมน้ำผึ้งสดๆจากรัง ขี่ม้า ทุกกิจกรรมนี้ ทำได้ครบจบที่ชุมชนตะโหมด พัทลุงงงงงงงงงงงงงง
เริ่มต้นทริปด้วยการวิ่งไปเช็คอินให้ทันที่สนามบินดอนเมือง ทริปนี้เราไปกับแอร์เอเชียค่ะ ซึ่งชุมชนตะโหมด สามารถเลือกลงได้ 2 สนามบินค่ะ มีสนามบินของจังหวัดตรัง และ สนามบินหาดใหญ่ แต่ว่าในทริปนี้เราไปหาข้อมูลมาแล้วว่า ลงที่หาดใหญ่ใกล้สุด พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยยยยย
"นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ หาดใหญ่ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานติณ ถิ่นธุรกิจแดนใต้"
เราบินลัดฟ้ามาลงกันที่สนามบินหาดใหญ่ แต่ แต่ แต่!! ยังไม่ถึงชุมชนนะ เพราะว่าเราต้องนั่งรถต่อเข้าไปที่ชุมชนอี๊กกก

จุดนัดพบแรกอยู่ที่ “หลาดต้นไทร” พร้อมกับการรับประทานมื้อเที่ยงแบบปิ่นโตเก๋ ๆ ที่ ครัวร้อยสาย ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารด้วยปิ่นโตให้คนละ 1 สาย รับประทานกันให้จุ ๆ ไปเลย
พอท้องอิ่ม พวกเราก็ไปกันต่อที่วัดตะโหมด เที่ยวชมวัดและกราบสักการะหลวงพ่อท่านช่วย พระเกจิที่ชาวตะโหมดต่างให้ความเคารพนับถือ เพื่อเป็นสิริมงคล
และช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง พวกเรามุ่งหน้าเดินทางไปยัง คลองส้านแดง ความท้าทายจากสายน้ำรอเราอยู่ นั่นก็คือ การล่องแก่งพายเรือคายัค วัดพลังกาย วัดพลังใจ ไปกับสายน้ำของคลองส้านแดง คลองประจำชุมชนที่ใสเย็นชื่นใจ เป็นการพายล่องแก่งคายัคในระดับสอง ที่ไม่ง่ายและไม่ยากจนเกินไป สบาย ๆ สำหรับมือใหม่ไม่ต้องกังวล สนุกแถมยังปลอดภัยด้วย

มีนายแบบมากระโดดน้ำโชว์ด้วย (ภาพนี้จากกล้องฟิล์มของเราเอง ขออภัยมือใหม่หัดถ่าย)
จบจากบททดสอบของสายน้ำคลองส้านแดง พวกเราแวะมาเช็กอินถ่ายรูปกับต้นระฆังทองอายุกว่า 300 ปี ต้นใหญ่สวยงาม น่าเกรงขามมาก ๆ ต้องไม่พลาดที่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึก

ขากลับพระอาทิตย์ลาเราไประหว่างเดินทางก่อนไปถึงที่โฮมสเตย์เพื่อรับประทานมื้อค่ำและพักผ่อนเก็บแรงไว้สำหรับตะลุยชุมชนตะโหมดต่อในวันพรุ่งนี้
ค่ำคืนแรกไม่ยาวนานเกินไปสำหรับพวกเรา เพราะความสนุกยังรออยู่
เริ่มต้นวันที่สอง ด้วยอาหารเช้าของโฮมสเตย์ เรียบง่ายแต่อร่อยมาก เพื่อนหลายคนเติมไปหลายจาน
จากนั้นไปกันต่อที่กลุ่มรักษ์ผึ้งและชัญโรงเทือกเขาบรรทัด มาถึงที่นี่แล้วต้องมาลิ้มชิมรสน้ำผึ้งหอมหวานอมเปรี้ยวสด ๆ จากรังผึ้งแบบนี้ เค้าจะให้หลอดเรามา 1 อัน เพื่อดูดจากกะเปราะนี้เลย ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ลองชิมแล้วติดใจมากกกกกก อยากขอหลอดเพิ่มอีกสัก 2-3 อัน รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่เหมือนน้ำผึ้งปกติที่เคยชิมเลย

ตกบ่ายเราไปชมสวนบ้านตานึง เที่ยวชมเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง และที่ชอบกันสุด ๆ คือ ได้ทดลองขี่ม้า ตอนแรก ๆ มีแอบเกร็ง แต่พอขี่ไปสักพัก ก็รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งกับเจ้าม้าไปเลย เราใช้เวลาครึ่งบ่ายที่สวนตานึงกันอย่างเต็มที่

นี่คือโฉมหน้าของตานึง หรือ ตาคะนึง เจ้าของสวนนี้เอง
จนกระทั่งแดดร่มลมตก เปลี่ยนบรรยากาศไปล่องเรือตะขาบชิล ๆ ชมวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้ที่อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง วิวเบื้องหน้าสวยสะกดใจมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ยังไม่อยากให้ผ่านไปง่าย ๆ เลย

จนเมื่อได้เวลาที่ต้องบอกลาที่นี่ กลับไปยังโฮมสเตย์เพื่อรับประทานมื้อค่ำและพักผ่อนให้พร้อมกับวันพรุ่งนี้ที่จะมาถึง
สำหรับวันสุดท้ายของทริป พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่มายังจุดชมวิวควนตาคม เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงอาทิตย์ค่อย ๆ สาดทอสลับทิวเขาและท้องทุ่ง เป็นภาพที่สวยงาม สดชื่นทั้งสายตาและหัวใจ ทำให้เช้านี้เราได้จิบกาแฟและของว่างไปพร้อมกับวิวสวย ๆ ฟินสุด ๆ ไปเลย
กลับจากจุดชุมวิวควนตาคม เรารีบรับประทานมื้อเช้า เพื่อที่จะไปกันต่อ วันนี้เรามีนัดทำโรตีกรอบกับป้า ๆ น้า ๆ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร โรตีกรอบเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ พวกเราได้ลองทำตั้งแต่นวดแป้ง ทอดแป้งโรตี ก่อนจะนำไปอบและคลุกกับน้ำตาลเป็นขั้นตอนสุดท้าย ออกมาเป็นโรตีกรอบฝีมือตัวเองชิ้นแรกในชีวิต ที่สนุกด้วยอร่อยด้วย
พวกเราจบทริปชุมชนตะโหมดด้วยมื้อเที่ยงที่อร่อยและเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของพวกเราสลับกับลุง ป้า น้า อา ในชุมชนแห่งนี้ มิตรภาพเกิดขึ้นได้จากการเดินทาง ความทรงจำดี ๆ เองก็เช่นกัน ณ ที่แห่งนี้ ชุมชนตะโหมด จ. พัทลุง จะยังอยู่ในหัวใจและความทรงจำของเราไปแสนนาน และเราจะหาโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งในสักวัน
ราคา 2,200 บาท (สำหรับ 3 ท่านขึ้นไป ไม่รวมค่าเดินทาง)
ราคา 2,000 บาท (สำหรับ 10 ท่านขึ้นไป ไม่รวมค่าเดินทาง)
สนใจติดต่อชุมชน (กรุณาสำรองล่วงหน้า) คุณธนินธรณ์ โทร: 087-298-8588
Facebook: Go Adventure ชุมชนตะโหมด พัทลุง
#Go adventure #ชุมชนตะโหมด #Creativetourism #ครีเอทีฟทัวริซึ่ม #ท่องเที่ยวสร้างสรรค์
[SR] Go adventure ชุมชนตะโหมด พัทลุง
ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวภาคใต้แบบใหม่ ที่ไม่ซ้ำจำเจกับใคร ไปล่องแก่ง เล่นเรือตะขาบ ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน ชิมน้ำผึ้งสดๆจากรัง ขี่ม้า ทุกกิจกรรมนี้ ทำได้ครบจบที่ชุมชนตะโหมด พัทลุงงงงงงงงงงงงงง
เริ่มต้นทริปด้วยการวิ่งไปเช็คอินให้ทันที่สนามบินดอนเมือง ทริปนี้เราไปกับแอร์เอเชียค่ะ ซึ่งชุมชนตะโหมด สามารถเลือกลงได้ 2 สนามบินค่ะ มีสนามบินของจังหวัดตรัง และ สนามบินหาดใหญ่ แต่ว่าในทริปนี้เราไปหาข้อมูลมาแล้วว่า ลงที่หาดใหญ่ใกล้สุด พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยยยยย
"นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ หาดใหญ่ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานติณ ถิ่นธุรกิจแดนใต้"
เราบินลัดฟ้ามาลงกันที่สนามบินหาดใหญ่ แต่ แต่ แต่!! ยังไม่ถึงชุมชนนะ เพราะว่าเราต้องนั่งรถต่อเข้าไปที่ชุมชนอี๊กกก
จุดนัดพบแรกอยู่ที่ “หลาดต้นไทร” พร้อมกับการรับประทานมื้อเที่ยงแบบปิ่นโตเก๋ ๆ ที่ ครัวร้อยสาย ที่นี่จะเสิร์ฟอาหารด้วยปิ่นโตให้คนละ 1 สาย รับประทานกันให้จุ ๆ ไปเลย
พอท้องอิ่ม พวกเราก็ไปกันต่อที่วัดตะโหมด เที่ยวชมวัดและกราบสักการะหลวงพ่อท่านช่วย พระเกจิที่ชาวตะโหมดต่างให้ความเคารพนับถือ เพื่อเป็นสิริมงคล
และช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง พวกเรามุ่งหน้าเดินทางไปยัง คลองส้านแดง ความท้าทายจากสายน้ำรอเราอยู่ นั่นก็คือ การล่องแก่งพายเรือคายัค วัดพลังกาย วัดพลังใจ ไปกับสายน้ำของคลองส้านแดง คลองประจำชุมชนที่ใสเย็นชื่นใจ เป็นการพายล่องแก่งคายัคในระดับสอง ที่ไม่ง่ายและไม่ยากจนเกินไป สบาย ๆ สำหรับมือใหม่ไม่ต้องกังวล สนุกแถมยังปลอดภัยด้วย
มีนายแบบมากระโดดน้ำโชว์ด้วย (ภาพนี้จากกล้องฟิล์มของเราเอง ขออภัยมือใหม่หัดถ่าย)
จบจากบททดสอบของสายน้ำคลองส้านแดง พวกเราแวะมาเช็กอินถ่ายรูปกับต้นระฆังทองอายุกว่า 300 ปี ต้นใหญ่สวยงาม น่าเกรงขามมาก ๆ ต้องไม่พลาดที่จะเก็บภาพเป็นที่ระลึก
ขากลับพระอาทิตย์ลาเราไประหว่างเดินทางก่อนไปถึงที่โฮมสเตย์เพื่อรับประทานมื้อค่ำและพักผ่อนเก็บแรงไว้สำหรับตะลุยชุมชนตะโหมดต่อในวันพรุ่งนี้
ค่ำคืนแรกไม่ยาวนานเกินไปสำหรับพวกเรา เพราะความสนุกยังรออยู่
เริ่มต้นวันที่สอง ด้วยอาหารเช้าของโฮมสเตย์ เรียบง่ายแต่อร่อยมาก เพื่อนหลายคนเติมไปหลายจาน
จากนั้นไปกันต่อที่กลุ่มรักษ์ผึ้งและชัญโรงเทือกเขาบรรทัด มาถึงที่นี่แล้วต้องมาลิ้มชิมรสน้ำผึ้งหอมหวานอมเปรี้ยวสด ๆ จากรังผึ้งแบบนี้ เค้าจะให้หลอดเรามา 1 อัน เพื่อดูดจากกะเปราะนี้เลย ตอนแรกก็กล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ลองชิมแล้วติดใจมากกกกกก อยากขอหลอดเพิ่มอีกสัก 2-3 อัน รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่เหมือนน้ำผึ้งปกติที่เคยชิมเลย
ตกบ่ายเราไปชมสวนบ้านตานึง เที่ยวชมเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง และที่ชอบกันสุด ๆ คือ ได้ทดลองขี่ม้า ตอนแรก ๆ มีแอบเกร็ง แต่พอขี่ไปสักพัก ก็รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งกับเจ้าม้าไปเลย เราใช้เวลาครึ่งบ่ายที่สวนตานึงกันอย่างเต็มที่
นี่คือโฉมหน้าของตานึง หรือ ตาคะนึง เจ้าของสวนนี้เอง
จนกระทั่งแดดร่มลมตก เปลี่ยนบรรยากาศไปล่องเรือตะขาบชิล ๆ ชมวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้ที่อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง วิวเบื้องหน้าสวยสะกดใจมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งวัน ที่ยังไม่อยากให้ผ่านไปง่าย ๆ เลย
จนเมื่อได้เวลาที่ต้องบอกลาที่นี่ กลับไปยังโฮมสเตย์เพื่อรับประทานมื้อค่ำและพักผ่อนให้พร้อมกับวันพรุ่งนี้ที่จะมาถึง
สำหรับวันสุดท้ายของทริป พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่มายังจุดชมวิวควนตาคม เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น แสงอาทิตย์ค่อย ๆ สาดทอสลับทิวเขาและท้องทุ่ง เป็นภาพที่สวยงาม สดชื่นทั้งสายตาและหัวใจ ทำให้เช้านี้เราได้จิบกาแฟและของว่างไปพร้อมกับวิวสวย ๆ ฟินสุด ๆ ไปเลย
กลับจากจุดชุมวิวควนตาคม เรารีบรับประทานมื้อเช้า เพื่อที่จะไปกันต่อ วันนี้เรามีนัดทำโรตีกรอบกับป้า ๆ น้า ๆ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร โรตีกรอบเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ พวกเราได้ลองทำตั้งแต่นวดแป้ง ทอดแป้งโรตี ก่อนจะนำไปอบและคลุกกับน้ำตาลเป็นขั้นตอนสุดท้าย ออกมาเป็นโรตีกรอบฝีมือตัวเองชิ้นแรกในชีวิต ที่สนุกด้วยอร่อยด้วย
พวกเราจบทริปชุมชนตะโหมดด้วยมื้อเที่ยงที่อร่อยและเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของพวกเราสลับกับลุง ป้า น้า อา ในชุมชนแห่งนี้ มิตรภาพเกิดขึ้นได้จากการเดินทาง ความทรงจำดี ๆ เองก็เช่นกัน ณ ที่แห่งนี้ ชุมชนตะโหมด จ. พัทลุง จะยังอยู่ในหัวใจและความทรงจำของเราไปแสนนาน และเราจะหาโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งในสักวัน
ราคา 2,200 บาท (สำหรับ 3 ท่านขึ้นไป ไม่รวมค่าเดินทาง)
ราคา 2,000 บาท (สำหรับ 10 ท่านขึ้นไป ไม่รวมค่าเดินทาง)
สนใจติดต่อชุมชน (กรุณาสำรองล่วงหน้า) คุณธนินธรณ์ โทร: 087-298-8588
Facebook: Go Adventure ชุมชนตะโหมด พัทลุง
#Go adventure #ชุมชนตะโหมด #Creativetourism #ครีเอทีฟทัวริซึ่ม #ท่องเที่ยวสร้างสรรค์
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้