JJNY : ปิยบุตรยันยื่นตั้งส.ส.ร.พร้อมแก้ม.272ได้/สมชัยสรุปงานกมธ.แก้รธน./ชาวเน็ตแห่ชื่นชม#มารีญา/หุ้นโรงแรมติดลบยกแผง

“ปิยบุตร”ยัน ยื่นตั้งส.ส.ร.ไปพร้อมแก้ม.272ได้ ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายทางการเมืองใดๆ
https://www.matichon.co.th/heading-news/news_2324536

 
“ปิยบุตร” ยัน ยื่นแก้ม.256 ตั้งส.ส.ร. ไปพร้อมกับยื่นแก้ ม.272 ได้ ชี้ ส่วนตัวเห็นว่าต้องเสนอรูปแบบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้ทดลอง เชื่อ มองในฐานะคนนอก  “ก้าวไกล” ไม่ได้ขัดแย้งกับ “เพื่อไทย” แค่คิดต่างกัน แต่ละพรรคมีอิสระในตัวเอง
 
เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 27 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวว่า เหตุผลของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมองว่า 1.ต้องมีส.ส.ร.มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่ต้องจำกัดว่า ห้ามแก้หมวดใด หมวดหนึ่ง ให้ทำใหม่ทั้งฉบับ ภายใต้กรอบการเป็นรัฐเดี่ยวภายใต้หลักการและราชอาณาจักร ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.ระหว่างทางที่รอการพิจารณาในสภาฯว่าจะได้ส.ส.ร.เมื่อไหร่ เราสามารถเสนอเข้าไปคู่ขนานได้ คือ การเสนอญัตติเพื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 269-272 ซึ่งเป็นการปิดสวิตช์ส.ว. รวมทั้งการยกเลิกมาตรา 279 ที่รับรองประกาศ การกระทำของคณะรัฐประหารก่อนหน้านี้ เหตุที่ต้องเสนอคู่ขนาน เพราะว่ากว่าจะมีสสร.กว่าจะแก้ไข จนมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้น อาจใช้เวลาถึง 1-2 ปี หากเกิดอุบัติเหตุการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาฯ โดยการยุบสภาฯจะไม่เกิดความหมายอะไร ถ้ายังมี 250 ส.ว. ที่ยังมีอำนาจไปเลือกนายกฯ จึงได้เสนอให้มีการปิดสวิตช์ส.ว.ไปก่อน หากยังประสงค์จะมีสว.อีก ค่อยให้เข้ากลับมาตามช่องทางปกติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อย่างสง่างาม ไม่มีคำครหา ทั้งนี้ สว.หลายคนก็มีปฏิกิริยาที่จะยอมยกเลิกอำนาจตัวเองตามมาตรา 272 บางคนก็ไปไกลยอมถึงขั้นให้ยกเลิก 250 ส.ว.ไปเลย ทั้งหมด ทำให้สถานการณ์ชุมนุมผ่อนคลาย คลี่คลายลง ลองนึกสภาพว่า ถ้าสิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง ไม่ได้รับการตอบสนองแม้แต่เรื่องเดียว พวกเขาอาจยกระดับการชุมนุม เราคาดเดาไม่ออกว่า ท้ายที่สุดจะออกมาเป็นแบบใด เรื่องใดที่พอจะผ่อนคลายสถานการณ์ลงได้ ควรจะรีบทำ
 
เมื่อถามว่า ทางพรรคเพื่อไทย (พท.) มองว่าหนทางของก.ก.เป็นไปได้ยาก ที่ส.ว.จะปิดสวิตช์ตัวเอง และแรงจากการชุมนุมอาจไม่สามารถกดดันส.ว.ได้ นายปิยบุตรกล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ2560 จำเป็นต้องได้รับเสียงโหวต1ใน3จากสว. ไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเรื่องใดที่ไปกระทบประโยชน์คสช. หรือส.ว.ย่อมแก้ยากทุกเรื่อง เชื่อว่าพี่น้องประชาชน หรือแม้กระทั่งส.ส. ต่างตระหนักในเรื่องนี้ เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญยากมากหรืออาจเป็นไปได้ การจะแก้ได้หรือไม่ได้ อยู่ที่การกดดันนอกสภาฯ การกดดันนอกสภาฯที่ทำมาตลอด1เดือนที่ผ่านมา เป็นเหตุผลหลักที่ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้ง ทำให้รัฐบาลยอมขยับ เชื่อว่าถ้านอกสภาฯ ยังกดดันเรื่องให้ยกเลิกส.ว. เป็นไปได้ที่ ส.ว.จะยอมเปลี่ยนใจ ถ้าบอกว่า กำลังนอกสภาฯยังไม่เพียงพอ เชื่อว่า หากปล่อยไปเรื่อยๆ ก็จะอ่อนแรงลง คราวนี้แม้แต่สสร.ก็จะไม่ได้ด้วย หรือแม้แต่การแก้ไขในสภาฯ ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกัน เขาอาจยอมในวาระ1 แต่อาจไปเบี้ยวในวาระ3 ก็ได้
 
เมื่อถามว่า พท.มองว่า ช่วงเวลานี้ อาจจะยังไม่เหมาะสม นายปิยบุตร กล่าวว่า เคารพการประเมินของแต่ละบุคคล ในส่วนตัวยังเห็นว่า การเมืองคือความเป็นไปได้ ต้องเสนอรูปแบบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้ทดลอง ถ้าเราคิดต่างจากกรอบเดิม เราก็จะบอกว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ได้เลย ถ้าเรารู้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะแก้ได้ ต้องมีการกดดัน เมื่อมีการกดดัน สมาชิกสภาฯต้องใช้โอกาสนี้ ในการผลักดันใหม่ๆ ก็นึกภาพไม่ออก ถ้าวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่เป็นอะไร สว.ก็จะเสื่อมความชอบธรรมไปอีก ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรต่อร่างสว.เลย สงสัยทำไมไม่เสนอไปพร้อมกัน เสียหายทางการเมืองตรงไหน
 
เมื่อถามว่า ความเห็นที่ต่างกันกับพรรคพท. จนอาจเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคฝ่ายค้านด้วยกันเอง นายปิยบุตร กล่าวว่า ตอนนี้เป็นคนนอกแล้ว ไม่ทราบว่า เขาประชุมอะไรกันหรือมีความขัดแย้งอะไรกัน ในฐานะคนนอกที่มองเข้าไป เชื่อว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีอิสระต่อกัน มีความคิดแตกต่างหลากหลาย หากคิดเหมือนกันหมด คงเป็นพรรคเดียวกันไปแล้ว ในเมื่อเป็นคนละพรรค ย่อมคิดแตกต่างกัน จึงได้มียุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการขับเคลื่อน แตกต่างกัน ที่ผ่านมาคิดว่า บุคคล กรรมการบริหารพรรค ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร ยังทำงานในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่สำหรับคนที่สนับสนุน บางคนอาจสนับสนุนเพื่อไทย บางคนสนับสนุนก้าวไกล ก็มีการถกเถียงกันบ้างทางโลกโซเชียล ซึ่งเป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย
 

 
"สมชัย" สรุปงาน กมธ.วิสามัญ แก้รัฐธรรมนูญ เห็นร่วมแก้บัตรเลือกตั้งเป็นสองใบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2324401
 
วันที่ 27 สิงหาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร รองประธาน กมธ. โพสต์ข้อความระบุว่า 
 
สรุปงาน กมธ.วิสามัญ แก้รัฐธรรมนูญ
 
1) กมธ. มี 49 คน จาก ครม.เสนอ 12 คน จาก พรรครัฐบาลเสนอ 18 คน พรรคฝ่ายค้าน 19
 
2) เริ่มประชุมครั้งแรก 24 ธ.ค. 2562 ประชุมครั้งสุดท้าย 27 ส.ค.2563 (8 เดือน 3 วัน หยุดในช่วงระบาดโควิด 2 เดือนเศษ) มีการประชุมทั้งหมด 23 ครั้ง
 
3) นอกเหนือจากการประชุม กมธ.ชุดใหญ่ ยังมีการประชุมของอนุ กมธ. ชุดย่อยอีก 2 ชุด และการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ
 
4) รายงานหลัก มีจำนวน 149 หน้า รายงานย่อยและภาคผนวกอีกกว่า 1,000 หน้า
 
ข้อเสนอแนะในการแก้รัฐธรรมนูญที่สำคัญ มีดังนี้
 
ประเด็นเห็นร่วม
 
1. แก้บัตรเลือกตั้งเป็นสองใบ (ม.89 , ม.90-94)
 
ประเด็นเสียงส่วนใหญ่
 
1. การแก้รัฐธรรมนูญ เอาเงื่อนไขวุฒิสภาเห็นชอบหนึ่งในสามและการทำประชามติที่ไม่จำเป็นออก (ม.256)
2. ส.ว.ไม่ต้องร่วมเลือกนายกฯ (ม.272)
 
ประเด็นความเห็นต่างก้ำกึ่ง
 
1. ยกเลิก ส.ว.250 คน ตามบทเฉพาะกาล (ม.269)
2. ยกเลิกรับรองความชอบธรรม ของคำสั่ง คสช. (ม.279)
 
ปิดประชุมเวลา 12.16 น.
 
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/photos/a.1529535067095891/3111959212186794/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่