เรื่องเส้นทางทุนอาเซียนที่กำลังจะเขียนถึงนี้ ขอเสนอเป็นมุมมองของพ่อแม่ที่มีส่วนในการช่วยวางแผนในแต่ละขั้นตอนให้ลูกเพื่อมุ่งสู่จุดหมายการได้เรียนต่างประเทศ ด้วยความสามารถและเหมาะกับทุนทรัพย์ของครอบครัวเรา
แม่เริ่มศึกษาทุนนี้ตั้งแต่ลูกอยู่ม.1 เพราะมองว่าลูกชอบเรียนภาษาอังกฤษ และมีความต้องการอยากไปเรียนเมืองนอก แต่ถ้าให้ส่งระยะยาวตั้งแต่มัธยมถึงมหาวิทยาลัยคงจะไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำอย่างนั้นได้ เพราะฉะนั้นต้องมองหาทุน ทุนอาเซียนเป็นทุนที่ให้สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนมัธยม 3 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในหลายด้าน ด้วยอายุ ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับนึง และไม่ช้าหรือไม่เร็วเกินไปที่จะเรียนรู้
ช่วงก่อนที่อายุและคุณสมบัติจะถึงเกณฑ์ในการสอบทุนได้ เราจะต้องช่วยเตรียมพร้อม หากิจกรรมเองให้ลูกฝึกฝน และให้ลูกมองหากิจกรรมในโรงเรียนที่ตัวเองชอบ และต้องสามารถเขียนลงในใบสมัคร Extra Curricular Activities ได้ด้วย กิจกรรมที่ลูกทำในช่วงโดยแบ่งช่วงเวลาวันเสาร์ทำ คือ การสอนภาษาอังกฤษให้เด็กพิการทางสายตา ของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ช่วงปิดเทอม กิจกรรมที่ลูกทำคือ การเป็นพี่เลี้ยงเด็กออทิสติก ที่มูลนิธิออทิสติกไทย กิจกรรมสองอย่างนี้ต้องอาศัยระยะเวลาและความสม่ำเสมอในการทำ เพราะท้ายสุดเราต้องขอใบประกาศรับรองจากองค์กรเหล่านี้ด้วย เลือกสองกิจกรรมนี้เพราะอยากให้ลูกได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่ลูกมีช่วยติวน้อง และอยากให้ลูกได้มีประสบการณ์กับเด็กพิเศษเหล่านี้
กิจกรรมสั้นๆ ที่ทำก็มีเช่น การไปศึกษาแนวปะการังและช่วยเก็บขยะ การไปปลูกป่าชายเลนซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราค้นหา และโรงเรียนจัดให้ทำ เราสามารถหาโอกาสทำกิจกรรมได้ตามความสนใจ เป็นการสะสมผลงานและได้ประสบการณ์ชีวิตด้วย ทั้งนี้ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้ขอใบประกาศนียบัตรเป็นภาษาอังกฤษเพราะเราจะไม่ต้องเสียค่าแปลเอกสารทีหลัง บางกิจกรรมไม่สามารถออกใบประกาศให้ได้ ก็ขอให้ถ่ายรูปเก็บไว้ไปหลักฐานว่าเราได้ทำกิจกรรมนั้นจริงๆ
กิจกรรมดีๆ มีมากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับความชอบและความสนใจของลูก ความสะดวกในการรับส่งของผู้ปกครอง ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง เท่าที่สอบถามจากเด็กๆ ที่เป็นเพื่อนลูกจากพม่า คือ การเป็นนักกีฬาฟุตบอลในตำแหน่งกองกลาง แข่งขันในระดับภูมิภาค การทำหนังสั้นลงใน Youtube เพื่อนลูกจากโรงเรียนเดียวกันที่ได้ Shortlist หลายคนเก่งด้านดนตรี เล่นเปียโน สีไวโอลิน แต่ควรจะเป็นระดับขั้นดีเพราะแสดงถึงความสามารถของเด็ก กิจกรรมโต้วาที เป็นต้น
ครูสอนพิเศษลูกท่านนึงเคยแนะนำว่า เราอาจจะคิดโครงการที่เราอยากจะทำขึ้นมาเองก็ได้ เช่น การเป็นผู้นำในการเก็บขยะในชุมชนเป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นทักษะความเป็นผู้นำ ในกรณีของครูท่านนี้สนใจโลกใต้น้ำเป็นหลัก สามารถต่อยอดได้รับทุนมากมาย
กิจกรรมที่เขียนใส่ในใบสมัครควรมีหลากหลายที่แสดงว่าเด็กเป็นคน well- rounded เช่น
• ทักษะความเป็นผู้นำเช่นการเป็นหัวหน้าห้อง ประธานชมรม หรือ พิธีกรในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียน
• การทำงานร่วมกันเป็นทีม
• จิตอาสา
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ กิจกรรมที่ต้องใส่ในช่องกิจกรรมพิเศษในใบสมัคร ส่วนอีกช่องเป็นผลงานด้านการเรียนAcademic ของลูกซึ่งก็คือ เกรดเฉลี่ยในแต่ละช่วงชั้น คะแนนผลการสอบที่เด็กได้ทำเช่น Toefl Junior , Cambridge Test การได้เป็นตัวแทนเข้าค่ายวิชาการ หรือ
การที่พ่อแม่ส่งให้ไปฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษช่วงปิดเทอมในต่างแดน (อาจเขียนเล่าประสบการณ์ของลูกในสามประเทศภายหลัง)
Timeline ของการส่งใบสมัคร การได้รับ Shortlist การประกาศผล ลองหาอ่านได้จากFacebookรุ่นพี่ทุนอาเซียน TSnxtgen ที่ได้ให้ข้อมูลละเอียดไว้แล้ว
ตอนที่สอง จะเล่าในส่วนหลังจากส่งใบสมัครและได้รับ Shortlist ค่ะ
เส้นทางนักเรียนทุนอาเซียน ตอนที่ 1
แม่เริ่มศึกษาทุนนี้ตั้งแต่ลูกอยู่ม.1 เพราะมองว่าลูกชอบเรียนภาษาอังกฤษ และมีความต้องการอยากไปเรียนเมืองนอก แต่ถ้าให้ส่งระยะยาวตั้งแต่มัธยมถึงมหาวิทยาลัยคงจะไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำอย่างนั้นได้ เพราะฉะนั้นต้องมองหาทุน ทุนอาเซียนเป็นทุนที่ให้สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนมัธยม 3 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในหลายด้าน ด้วยอายุ ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับนึง และไม่ช้าหรือไม่เร็วเกินไปที่จะเรียนรู้
ช่วงก่อนที่อายุและคุณสมบัติจะถึงเกณฑ์ในการสอบทุนได้ เราจะต้องช่วยเตรียมพร้อม หากิจกรรมเองให้ลูกฝึกฝน และให้ลูกมองหากิจกรรมในโรงเรียนที่ตัวเองชอบ และต้องสามารถเขียนลงในใบสมัคร Extra Curricular Activities ได้ด้วย กิจกรรมที่ลูกทำในช่วงโดยแบ่งช่วงเวลาวันเสาร์ทำ คือ การสอนภาษาอังกฤษให้เด็กพิการทางสายตา ของมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ช่วงปิดเทอม กิจกรรมที่ลูกทำคือ การเป็นพี่เลี้ยงเด็กออทิสติก ที่มูลนิธิออทิสติกไทย กิจกรรมสองอย่างนี้ต้องอาศัยระยะเวลาและความสม่ำเสมอในการทำ เพราะท้ายสุดเราต้องขอใบประกาศรับรองจากองค์กรเหล่านี้ด้วย เลือกสองกิจกรรมนี้เพราะอยากให้ลูกได้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่ลูกมีช่วยติวน้อง และอยากให้ลูกได้มีประสบการณ์กับเด็กพิเศษเหล่านี้
กิจกรรมสั้นๆ ที่ทำก็มีเช่น การไปศึกษาแนวปะการังและช่วยเก็บขยะ การไปปลูกป่าชายเลนซึ่งเป็นกิจกรรมที่เราค้นหา และโรงเรียนจัดให้ทำ เราสามารถหาโอกาสทำกิจกรรมได้ตามความสนใจ เป็นการสะสมผลงานและได้ประสบการณ์ชีวิตด้วย ทั้งนี้ถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำให้ขอใบประกาศนียบัตรเป็นภาษาอังกฤษเพราะเราจะไม่ต้องเสียค่าแปลเอกสารทีหลัง บางกิจกรรมไม่สามารถออกใบประกาศให้ได้ ก็ขอให้ถ่ายรูปเก็บไว้ไปหลักฐานว่าเราได้ทำกิจกรรมนั้นจริงๆ
กิจกรรมดีๆ มีมากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับความชอบและความสนใจของลูก ความสะดวกในการรับส่งของผู้ปกครอง ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถทำได้ต่อเนื่อง เท่าที่สอบถามจากเด็กๆ ที่เป็นเพื่อนลูกจากพม่า คือ การเป็นนักกีฬาฟุตบอลในตำแหน่งกองกลาง แข่งขันในระดับภูมิภาค การทำหนังสั้นลงใน Youtube เพื่อนลูกจากโรงเรียนเดียวกันที่ได้ Shortlist หลายคนเก่งด้านดนตรี เล่นเปียโน สีไวโอลิน แต่ควรจะเป็นระดับขั้นดีเพราะแสดงถึงความสามารถของเด็ก กิจกรรมโต้วาที เป็นต้น
ครูสอนพิเศษลูกท่านนึงเคยแนะนำว่า เราอาจจะคิดโครงการที่เราอยากจะทำขึ้นมาเองก็ได้ เช่น การเป็นผู้นำในการเก็บขยะในชุมชนเป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นทักษะความเป็นผู้นำ ในกรณีของครูท่านนี้สนใจโลกใต้น้ำเป็นหลัก สามารถต่อยอดได้รับทุนมากมาย
กิจกรรมที่เขียนใส่ในใบสมัครควรมีหลากหลายที่แสดงว่าเด็กเป็นคน well- rounded เช่น
• ทักษะความเป็นผู้นำเช่นการเป็นหัวหน้าห้อง ประธานชมรม หรือ พิธีกรในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่โรงเรียน
• การทำงานร่วมกันเป็นทีม
• จิตอาสา
ทั้งหมดที่กล่าวมาคือ กิจกรรมที่ต้องใส่ในช่องกิจกรรมพิเศษในใบสมัคร ส่วนอีกช่องเป็นผลงานด้านการเรียนAcademic ของลูกซึ่งก็คือ เกรดเฉลี่ยในแต่ละช่วงชั้น คะแนนผลการสอบที่เด็กได้ทำเช่น Toefl Junior , Cambridge Test การได้เป็นตัวแทนเข้าค่ายวิชาการ หรือ
การที่พ่อแม่ส่งให้ไปฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษช่วงปิดเทอมในต่างแดน (อาจเขียนเล่าประสบการณ์ของลูกในสามประเทศภายหลัง)
Timeline ของการส่งใบสมัคร การได้รับ Shortlist การประกาศผล ลองหาอ่านได้จากFacebookรุ่นพี่ทุนอาเซียน TSnxtgen ที่ได้ให้ข้อมูลละเอียดไว้แล้ว
ตอนที่สอง จะเล่าในส่วนหลังจากส่งใบสมัครและได้รับ Shortlist ค่ะ