สวัสดีค่ะ ตอนนี้หลายๆคนคงเตรียมวางแผนและรอเที่ยวเมื่อโควิดหมดใช่มั้ยคะ เรามีทิปส์เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ให้สนุก กินอิ่ม ได้ดูวิวสวย สำหรับมือใหม่หัดเที่ยวสวิตฯมาฝากค่ะ รวบรวมจากประสบการณ์ส่วนตัวและเมื่อพาเพื่อนคนไทยมาเที่ยว มือเก๋าคนไหนอยากช่วยเพิ่มเติมเรายินดีมากค่ะ
📌 การเลือกที่นั่งในรถไฟให้ได้วิวดีที่สุด
(ให้หันหน้าไปทางเดียวกับการเคลื่อนของรถไฟนะคะ)
๐ ซูริค-เบิร์น นั่งฝั่งซ้าย ก่อนถึงเบิร์นเห็นวิวเมืองและยอดเขา
๐ ซูริค-ลูเซิร์น นั่งฝั่งซ้าย เห็นวิวทะเลสาบตลอดเส้นทาง
๐ ซูริค-โลซานน์-เจนีวา นั่งฝั่งซ้าย เห็นวิวทะเลสาบเจนีวาและไร่องุ่นยูเนสโก้ก่อนถึงโลซานน์
๐ ซูริค-ริกิ นั่งได้สองฝั่ง เห็นทะเลสาบทั้งสองฝั่ง
๐ ซูริค-ลูกาโน่-มิลาน นั่งฝั่งขวา เห็นทะเลสาบ
๐ กลาเซียร์ เอ๊กเพรส ถ้าอยากได้วิวสะพานโค้ง
- ออกจากเมืองแซร์มัทนั่งฝั่งขวา (บอกตอนจอง)
- ออกจากเมืองแซงก์ มอริตซ์ นั่งฝั่งซ้าย (บอกตอนจอง)
๐ เบอร์นิน่า เอ๊กเพรส อยากเห็นวิวทะเลสาบ นั่งฝั่งขวา (บอกตอนจอง)
📌 แอพที่ต้องมีติดเครื่องเวลามาเที่ยว
SBB และ MeteoSwiss
- SBB เอาไว้เช็คตารางขนส่งสาธารณะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ แทรม บัส เคเบิลคาร์ขึ้นภูเขา
- MeteoSwiss เอาไว้เช็คสภาพอากาศ เพื่อจะได้แต่งตัวได้ถูกต้อง จะไปเที่ยวไหน เพิ่มเมืองนั้นๆไว้ในแอพล่วงหน้าได้เลย ความแม่นยำสูงมากค่ะ
📌 ภาษาราชการ4ภาษาในประเทศเดียวทำยังไง
ใครอยากลองพูดภาษาเพื่อให้เจ้าถิ่นประทับใจ เช่นเวลาไปร้านอาหาร หรือที่ไหนๆ แนะนำคำสามคำนี้ค่ะ
- "กรึ๊ดซิ" = สวัสดี ใช้ในเมืองฝั่งบนของประเทศ เช่น ซูริค เบิร์น อินเทอร์ลาเค่น ลูเซิร์น เวลาไป ยุงเฟรา ทิตลิส ริกิ
- "บองชูค์" = สวัสดี ใช้ในเมืองฝั่งล่างของประเทศ เช่น โลซานน์ เจนีวา มองเทรอค์
- "แมกซิ" = ขอบคุณ ใช้ไปเลยทุกเมือง คำเดียวอยู่
📌 อาหารการกินในที่ต่างๆสำหรับคนกินยาก
- ในตัวเมืองใหญ่ มีร้านอาหารไทยอยู่แล้วหายห่วง
- เมืองเล็ก ลองหาร้านอาหารอิตาเลียน แล้วสั่งพาสต้า กินง่ายและอร่อย
- ไปบนภูเขา มักเป็นอาหารแบบโรงอาหารคือ ถือถาดไปสั่งแล้วจ่ายเงิน กินเสร็จเก็บโต๊ะเอง มักจะมีแต่อาหารสวิสที่ให้พลังงานสูงสำหรับนักสกีหรือนักปีนเขา อาหารที่แนะนำสำหรับคนไทยคือ "สปาเก็ตตี้ โบโลยีส" หรือสปาเก็ตตี้เนื้อในซ้อสมะเขือเทศ กินง่ายที่สุดแล้วค่ะ ส่วนคนไม่เลือกกินก็สบายไป กินอะไรก็ได้เน้อ
📌 มื้อเช้าในโรงแรม
คนสวิสชอบทานขนมปัง แฮม ชีส โยเกิร์ต ชา กาแฟ เป็นอาหารเช้าค่ะ ดังนั้นบางโรงแรมก็จะมีแค่นี้เลย หรือมีเพิ่มมะเขือเทศ หรือไข่มานิดหน่อย (บางโรงแรมก็ไม่มีไข่ ยกเว้นใครจองโรงแรมในเครือจากอเมริกา อาหารจะครบถูกใจหน่อยค่ะ) ใครกินยาก แนะนำให้เอามาม่าหรือโจ๊กสำเร็จไปค่ะ แค่เติมน้ำก็กินได้แล้ว ชามเราขอได้จากทางโรงแรมค่ะ ใส่น้ำทานได้เลย เค้าไม่ถือค่ะ
📌 อยากหามาม่าโจ๊กหรือส่วนประกอบทำอาหารไทยในซูริค
ใครของที่เตรียมมาไม่พอ หรืออยากซื้อของไปทำอาหารเอง หรือเกิดอยากกะทันหัน ที่สถานีรถไฟในซูริคมีร้านเอเชียค่ะ เปิดทุกวัน วันอาทิตย์ก็เปิด วิธีไปคือ เดินไปที่สถานีรถไฟฝั่งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หันหน้าออกไปพิพิธภัณฑ์ ซ้ายมือจะเห็นแม่น้ำเล็กๆ เดินข้ามแม่น้ำไป จะเจอสตาร์บักส์ ใกล้ๆจะมีบันใดทางลงใต้ดินที่มีเบอร์เกอร์คิงอยู่ตรงทางเข้า เดินลงไปเจอเลยค่ะ เดินตามนี้ไม่หลงแน่
📌 วันอาทิตย์ทุกอย่างปิด
ที่นี่เป็นประเทศคริสต์ที่วันอาทิตย์จะไม่ทำงานค่ะ ดังนั้น ใครวางแผนช้อปปิ้งควรเลี่ยงนะคะ ร้านอาหารเปิดบางส่วนค่ะ ต้องเช็คก่อนเสมอ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและภูเขา เช่น ยุงเฟรา ทิตลิส ริกิ เปิดทุกวันค่ะ ขึ้นไปเลยไม่ต้องกลัวร้านอาหารปิด อินเทอร์ลาเคิ่นก็เปิดทุกวันค่ะ
ส่วนใครยังอยากช้อปปิ้ง ซื้อของใช้ ของกิน สถานีรถไฟ เช่น ที่ซูริค เบิร์น เปิดทุกวัน 365 วันค่ะ ยกตัวอย่างซูริค มีตั้งแต่ร้านขายยา ร้านเสื้อผ้า เซโฟร่า ล็อกซิทาน ช็อคโกแลต และอื่นๆเยอะแยะค่ะ
📌 การแต่งตัวแต่ละฤดูกาล
๐๐๐ หน้าหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) ๐๐๐
- ชั้นในใส่เสื้อผ้าปกติได้ แนะนำฮีตเทคคอเต่า คอกลม แขนยาว
- ชั้นกลางแนะนำ เสื้อแจ็กเก็ตกันลมเรียกว่า softshell
- ชั้นนอกแนะนำ เสื้อขนเป็ดกันฝนได้
- ส่วนขา แนะนำเล๊กกิ้งใส่1ชั้นก่อนกางเกง
- ถุงเท้าหนาๆ
- รองเท้าที่กันน้ำได้ แนะนำ Uggs ถ้าอยากอุ่นสุดชีวิต หรือ Timberland รุ่น signature สีเหลือง (เค้ามีหลายสีนะ)
๐๐๐ หน้าใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) ๐๐๐
หน้านี้แต่งตัวอยาก เพราะบางทีก็เกิดหนาวขึ้นมาอีกและส่วนใหญ่ฝนจะตก แนะนำให้ใส่คล้ายๆหน้าหนาวคือ
- ชั้นในใส่เสื้อผ้าปกติได้ แนะนำฮีตเทคคอเต่า คอกลม แขนยาว
- ชั้นกลาง อาจจะเป็นเสื้อกั๊กขนเป็ดสำหรับคนขี้หนาว หรือข้ามได้
- ชั้นนอกเป็นโค้ทกันน้ำ ที่เรียกว่า เทรนช์โค้ท (สไตล์เบอร์เบอร์รี่)
- พกร่มไปด้วยจ่ะ
๐๐๐ หน้าร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) ๐๐๐
อันนี้แต่งตัวเหมือนอยู่ไทยได้เลย บางปีร้อนแตะ 40 องศา กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เกาะอกต้องมา
- แนะนำให้ติดเสื้อคาร์ดิแกนบางๆไปด้วยนิดนึงสำหรับสาวๆขี้หนาว เพราะตอนเช้าๆก็มีเย็นๆอยู่บ้างค่ะ
- พัด หรือ พัดลมมือถือ ติดกระเป๋าไว้นิดนึงสำหรับคนขี้ร้อนค่ะ
๐๐๐ หน้าฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พศจิกายน) ๐๐๐
อันนี้แต่งตัวเหมือนใบไม้ผลิได้เลยค่ะ
📌 หน้าหนาววันสั้นหน้าร้อนวันยาว
ใครอยากดูหิมะ มาหน้าหนาว วันก็จะสั้นๆหน่อยนะคะ สี่โมงเย็นก็มืดแล้ว ส่วนหน้าร้อน พระอาทิตย์อยู่ยาววววววววไปถึงเกือบสี่ทุ่มโน่นค่ะ
📌 คนสวิสไม่กินน้ำเย็นและน้ำแข็ง
น้ำแช่เย็นหาได้ตามซุเปอร์ค่ะ แต่จะไม่เย็นเจี๊ยบสะใจเหมือนบ้านเรานะคะ เวลาไปร้านอาหาร เครื่องดื่มก็จะไม่ใส่น้ำแข็ง ใครมีปัญหา(เหมือนเรา)ที่ไม่ชอบดื่มโค้กเปล่าๆ ต้องมีน้ำแข็ง พอบอกเค้าว่า ขอน้ำแข็งเยอะๆ เค้าก็จะให้มาสองสามก้อนอยู่ดี วิธีแก้คือ ขอเค้าว่า ขอน้ำแข็งเปล่าแก้วนึง อันนี้ช่วยได้เยอะค่ะ
📌 การสั่งอาหารแบบคนสวิส
- เมื่อเรานั่งโต๊ะ พนักงานจะมารับออเดอร์เครื่องดื่มก่อน (มักจะเป็นโปรเซกโก้หรือไวน์ขาว)
- ดื่มเครื่องดื่มไป ดูเมนูอาหารจานหลักไป
- พนักงานมารับออเดอร์อาหารจานหลัก และถามว่าจะดื่มอะไรคู่อาหารจานหลัก (มักจะเป็นไวน์แดงหรือขาว แล้วแต่อาหารค่ะ)
- ทานอาหารเสร็จสั่งของหวาน
- ของหวานเสร็จสั่งชา กาแฟ
สำหรับคนไทย ถ้าเราอยากประหยัดค่าเครื่องดื่มชุดแรก ให้สั่งอาหารจานหลักและเครื่องดื่ม แล้วบอกเค้าว่า ให้เอามาพร้อมกันเลย แต่ต้องทำใจนะคะ เพราะมักจะลืมเพราะชินค่ะ
📌 ถ้าอยากประหยัดค่าอาหาร
ไปซื้ออาหารในซุปเปอร์ค่ะ แนะนำ Coop และ Migros มีทั้งอาหารอุ่นร้อน และอาหารแช่เย็น จะซื้ออาหารแช่เย็นต้องถามเค้าก่อนว่ามีไมโครเวฟมั้ย จากนั้นก็ถือออกมาทานข้างนอก ดูวิว แม่น้ำ ทะเลสาบ อะไรไป คนทำเยอะแยะไม่ต้องอาย ประหยัดเงินมากๆและวิวหลักล้าน ประหยัดกว่าร้านอาหารตั้งเยอะค่ะ
📌 อ่านชื่อให้ถูกต้องกันเถอะ
Coop = โค้ป หรือ โก๊ป
Migros = มิโกร (ไม่ออกเสียงเอส)
Jungfrau = ยุงเฟรา ยุง ยุง ยุง เลิกอ่าน จุ๊งเฟรา หรือ จุงเฟร้า เถอะนะคะเราขอร้องงงงงงงงง
Rigi = ริกิ
📌 อยู่ในขนส่งสาธารณะอย่าส่งเสียงดัง
โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟนานๆ คุยกันได้ค่ะ แต่คุยเบาๆพอประมาณ ทานอาหารก็ได้ค่ะ เค้าไม่ว่า
📌 เรื่องของห้องน้ำ
- สถานีรถไฟใหญ่ๆ เช่น ซูริค เบิร์น ลูเซิร์น มักจะเป็นห้องน้ำแบบเสียเงินค่ะ ประมาณ 1.5 - 2 ฟรังก์
- สถานีเล็กๆบ้านนอก มีห้องน้ำเสมอและมักจะฟรี
- ตัวเมืองใหญ่มีห้องน้ำสาธารณะอยู่ทั่วไปและมักจะสะอาด
- หาห้องน้ำสาธารณะไม่เจอ เข้าที่ห้างได้ค่ะ Coop-City, Manor, Globus, Migros-MM&MMM
- สถานีเคเบิลคาร์มีห้องน้ำทุกที่และฟรีค่ะ
- คนสวิสบ้าทิชชู่ ใครเข้าห้องน้ำแล้วเจอทิชชู่หมด ควรรีบกลับไทยไปซื้อหวยค่ะ คุณอาจจะถูกรางวัลที่1ได้
📌 คนสวิสมีนิสัยชอบปิดฝาชักโครก
ถ้าใครเจอห้องน้ำชักโครกปิดฝาอยู่ไม่ได้แปลว่าจะเจอบ่อทองแบบที่ไทย และไม่ได้แปลว่าห้องน้ำเสีย คนสวิสมีนิสัยชอบปิดฝาชักโครกค่ะ แถมการปิดฝาชักโครกแล้วกด ยังช่วยลดการกระจายของน้ำและเชื้อโรคได้ด้วยนะคะ
หวังว่าจะชอบกันและเอาไปใช้ได้จริงตอนมาเที่ยวนะคะ ขอให้เที่ยวสนุกทุกคนค่ะ
ส่วนใครชอบอ่านความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสวิตเซอร์แลนด์ อยากรู้จักสวิตฯและคนสวิสให้มากขึ้น และเที่ยวสวิตฯในที่ใหม่ๆ หรือมีคำถามเกี่ยวกับสวิตฯและการท่องเที่ยวก็ถามเราได้ค่ะ ติดตามเพจเราได้ที่นี่เลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
✦✦ คู่มือเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ✦✦ เลือกที่นั่งรถไฟยังไงให้ได้วิวดีที่สุด อาหารการกิน และทิปส์สำหรับมือใหม่ ✦✦
๐ ซูริค-ลูเซิร์น นั่งฝั่งซ้าย เห็นวิวทะเลสาบตลอดเส้นทาง
๐ ซูริค-โลซานน์-เจนีวา นั่งฝั่งซ้าย เห็นวิวทะเลสาบเจนีวาและไร่องุ่นยูเนสโก้ก่อนถึงโลซานน์
๐ ซูริค-ริกิ นั่งได้สองฝั่ง เห็นทะเลสาบทั้งสองฝั่ง
๐ ซูริค-ลูกาโน่-มิลาน นั่งฝั่งขวา เห็นทะเลสาบ
๐ กลาเซียร์ เอ๊กเพรส ถ้าอยากได้วิวสะพานโค้ง
- ออกจากเมืองแซร์มัทนั่งฝั่งขวา (บอกตอนจอง)
- ออกจากเมืองแซงก์ มอริตซ์ นั่งฝั่งซ้าย (บอกตอนจอง)
๐ เบอร์นิน่า เอ๊กเพรส อยากเห็นวิวทะเลสาบ นั่งฝั่งขวา (บอกตอนจอง)
- SBB เอาไว้เช็คตารางขนส่งสาธารณะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เรือ แทรม บัส เคเบิลคาร์ขึ้นภูเขา
- MeteoSwiss เอาไว้เช็คสภาพอากาศ เพื่อจะได้แต่งตัวได้ถูกต้อง จะไปเที่ยวไหน เพิ่มเมืองนั้นๆไว้ในแอพล่วงหน้าได้เลย ความแม่นยำสูงมากค่ะ
- "กรึ๊ดซิ" = สวัสดี ใช้ในเมืองฝั่งบนของประเทศ เช่น ซูริค เบิร์น อินเทอร์ลาเค่น ลูเซิร์น เวลาไป ยุงเฟรา ทิตลิส ริกิ
- "บองชูค์" = สวัสดี ใช้ในเมืองฝั่งล่างของประเทศ เช่น โลซานน์ เจนีวา มองเทรอค์
- "แมกซิ" = ขอบคุณ ใช้ไปเลยทุกเมือง คำเดียวอยู่
- เมืองเล็ก ลองหาร้านอาหารอิตาเลียน แล้วสั่งพาสต้า กินง่ายและอร่อย
- ไปบนภูเขา มักเป็นอาหารแบบโรงอาหารคือ ถือถาดไปสั่งแล้วจ่ายเงิน กินเสร็จเก็บโต๊ะเอง มักจะมีแต่อาหารสวิสที่ให้พลังงานสูงสำหรับนักสกีหรือนักปีนเขา อาหารที่แนะนำสำหรับคนไทยคือ "สปาเก็ตตี้ โบโลยีส" หรือสปาเก็ตตี้เนื้อในซ้อสมะเขือเทศ กินง่ายที่สุดแล้วค่ะ ส่วนคนไม่เลือกกินก็สบายไป กินอะไรก็ได้เน้อ
ใครของที่เตรียมมาไม่พอ หรืออยากซื้อของไปทำอาหารเอง หรือเกิดอยากกะทันหัน ที่สถานีรถไฟในซูริคมีร้านเอเชียค่ะ เปิดทุกวัน วันอาทิตย์ก็เปิด วิธีไปคือ เดินไปที่สถานีรถไฟฝั่งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ หันหน้าออกไปพิพิธภัณฑ์ ซ้ายมือจะเห็นแม่น้ำเล็กๆ เดินข้ามแม่น้ำไป จะเจอสตาร์บักส์ ใกล้ๆจะมีบันใดทางลงใต้ดินที่มีเบอร์เกอร์คิงอยู่ตรงทางเข้า เดินลงไปเจอเลยค่ะ เดินตามนี้ไม่หลงแน่
ที่นี่เป็นประเทศคริสต์ที่วันอาทิตย์จะไม่ทำงานค่ะ ดังนั้น ใครวางแผนช้อปปิ้งควรเลี่ยงนะคะ ร้านอาหารเปิดบางส่วนค่ะ ต้องเช็คก่อนเสมอ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและภูเขา เช่น ยุงเฟรา ทิตลิส ริกิ เปิดทุกวันค่ะ ขึ้นไปเลยไม่ต้องกลัวร้านอาหารปิด อินเทอร์ลาเคิ่นก็เปิดทุกวันค่ะ
ส่วนใครยังอยากช้อปปิ้ง ซื้อของใช้ ของกิน สถานีรถไฟ เช่น ที่ซูริค เบิร์น เปิดทุกวัน 365 วันค่ะ ยกตัวอย่างซูริค มีตั้งแต่ร้านขายยา ร้านเสื้อผ้า เซโฟร่า ล็อกซิทาน ช็อคโกแลต และอื่นๆเยอะแยะค่ะ
๐๐๐ หน้าหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) ๐๐๐
- ชั้นในใส่เสื้อผ้าปกติได้ แนะนำฮีตเทคคอเต่า คอกลม แขนยาว
- ชั้นกลางแนะนำ เสื้อแจ็กเก็ตกันลมเรียกว่า softshell
- ชั้นนอกแนะนำ เสื้อขนเป็ดกันฝนได้
- ส่วนขา แนะนำเล๊กกิ้งใส่1ชั้นก่อนกางเกง
- ถุงเท้าหนาๆ
- รองเท้าที่กันน้ำได้ แนะนำ Uggs ถ้าอยากอุ่นสุดชีวิต หรือ Timberland รุ่น signature สีเหลือง (เค้ามีหลายสีนะ)
๐๐๐ หน้าใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) ๐๐๐
หน้านี้แต่งตัวอยาก เพราะบางทีก็เกิดหนาวขึ้นมาอีกและส่วนใหญ่ฝนจะตก แนะนำให้ใส่คล้ายๆหน้าหนาวคือ
- ชั้นในใส่เสื้อผ้าปกติได้ แนะนำฮีตเทคคอเต่า คอกลม แขนยาว
- ชั้นกลาง อาจจะเป็นเสื้อกั๊กขนเป็ดสำหรับคนขี้หนาว หรือข้ามได้
- ชั้นนอกเป็นโค้ทกันน้ำ ที่เรียกว่า เทรนช์โค้ท (สไตล์เบอร์เบอร์รี่)
- พกร่มไปด้วยจ่ะ
๐๐๐ หน้าร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) ๐๐๐
อันนี้แต่งตัวเหมือนอยู่ไทยได้เลย บางปีร้อนแตะ 40 องศา กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เกาะอกต้องมา
- แนะนำให้ติดเสื้อคาร์ดิแกนบางๆไปด้วยนิดนึงสำหรับสาวๆขี้หนาว เพราะตอนเช้าๆก็มีเย็นๆอยู่บ้างค่ะ
- พัด หรือ พัดลมมือถือ ติดกระเป๋าไว้นิดนึงสำหรับคนขี้ร้อนค่ะ
อันนี้แต่งตัวเหมือนใบไม้ผลิได้เลยค่ะ
ใครอยากดูหิมะ มาหน้าหนาว วันก็จะสั้นๆหน่อยนะคะ สี่โมงเย็นก็มืดแล้ว ส่วนหน้าร้อน พระอาทิตย์อยู่ยาววววววววไปถึงเกือบสี่ทุ่มโน่นค่ะ
น้ำแช่เย็นหาได้ตามซุเปอร์ค่ะ แต่จะไม่เย็นเจี๊ยบสะใจเหมือนบ้านเรานะคะ เวลาไปร้านอาหาร เครื่องดื่มก็จะไม่ใส่น้ำแข็ง ใครมีปัญหา(เหมือนเรา)ที่ไม่ชอบดื่มโค้กเปล่าๆ ต้องมีน้ำแข็ง พอบอกเค้าว่า ขอน้ำแข็งเยอะๆ เค้าก็จะให้มาสองสามก้อนอยู่ดี วิธีแก้คือ ขอเค้าว่า ขอน้ำแข็งเปล่าแก้วนึง อันนี้ช่วยได้เยอะค่ะ
- เมื่อเรานั่งโต๊ะ พนักงานจะมารับออเดอร์เครื่องดื่มก่อน (มักจะเป็นโปรเซกโก้หรือไวน์ขาว)
- ดื่มเครื่องดื่มไป ดูเมนูอาหารจานหลักไป
- พนักงานมารับออเดอร์อาหารจานหลัก และถามว่าจะดื่มอะไรคู่อาหารจานหลัก (มักจะเป็นไวน์แดงหรือขาว แล้วแต่อาหารค่ะ)
- ทานอาหารเสร็จสั่งของหวาน
- ของหวานเสร็จสั่งชา กาแฟ
สำหรับคนไทย ถ้าเราอยากประหยัดค่าเครื่องดื่มชุดแรก ให้สั่งอาหารจานหลักและเครื่องดื่ม แล้วบอกเค้าว่า ให้เอามาพร้อมกันเลย แต่ต้องทำใจนะคะ เพราะมักจะลืมเพราะชินค่ะ
ไปซื้ออาหารในซุปเปอร์ค่ะ แนะนำ Coop และ Migros มีทั้งอาหารอุ่นร้อน และอาหารแช่เย็น จะซื้ออาหารแช่เย็นต้องถามเค้าก่อนว่ามีไมโครเวฟมั้ย จากนั้นก็ถือออกมาทานข้างนอก ดูวิว แม่น้ำ ทะเลสาบ อะไรไป คนทำเยอะแยะไม่ต้องอาย ประหยัดเงินมากๆและวิวหลักล้าน ประหยัดกว่าร้านอาหารตั้งเยอะค่ะ
Coop = โค้ป หรือ โก๊ป
Migros = มิโกร (ไม่ออกเสียงเอส)
Jungfrau = ยุงเฟรา ยุง ยุง ยุง เลิกอ่าน จุ๊งเฟรา หรือ จุงเฟร้า เถอะนะคะเราขอร้องงงงงงงงง
Rigi = ริกิ
โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟนานๆ คุยกันได้ค่ะ แต่คุยเบาๆพอประมาณ ทานอาหารก็ได้ค่ะ เค้าไม่ว่า
- สถานีรถไฟใหญ่ๆ เช่น ซูริค เบิร์น ลูเซิร์น มักจะเป็นห้องน้ำแบบเสียเงินค่ะ ประมาณ 1.5 - 2 ฟรังก์
- สถานีเล็กๆบ้านนอก มีห้องน้ำเสมอและมักจะฟรี
- ตัวเมืองใหญ่มีห้องน้ำสาธารณะอยู่ทั่วไปและมักจะสะอาด
- หาห้องน้ำสาธารณะไม่เจอ เข้าที่ห้างได้ค่ะ Coop-City, Manor, Globus, Migros-MM&MMM
- สถานีเคเบิลคาร์มีห้องน้ำทุกที่และฟรีค่ะ
ถ้าใครเจอห้องน้ำชักโครกปิดฝาอยู่ไม่ได้แปลว่าจะเจอบ่อทองแบบที่ไทย และไม่ได้แปลว่าห้องน้ำเสีย คนสวิสมีนิสัยชอบปิดฝาชักโครกค่ะ แถมการปิดฝาชักโครกแล้วกด ยังช่วยลดการกระจายของน้ำและเชื้อโรคได้ด้วยนะคะ