"คนจน ไม่ได้ยากจนเพราะขี้เกียจเสมอไป"
เช่นเดียวกับคนไทยหลาย ๆ คน ตัวเองเคยคิดว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นแดนสวรรค์ที่มีทัศนียภาพสวยงามและคุณภาพชีวิตที่ดีในอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นประเทศที่ไม่มีความยากจน และคนส่วนใหญ่รวยเสียด้วยซ้ำ ตอนที่ไปเที่ยวก็ได้เห็นด้านดี ๆ สวย ๆ งาม ๆ และไม่อยากจะเชื่อคำพูดของคนสวิสคนนึงที่ได้รู้จักระหว่างการประชุมว่า ประเทศเขาก็มีปัญหาเหมือนกัน
แต่พอได้ติดตามสื่อภาษาเยอรมันของสำนักข่าวหนึ่งในสวิส จึงได้รู้ว่า สวิสก็พบกับปัญหาต่าง ๆ แม้มีระบบสวัสดิการที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ เมื่อได้อ่านข่าวเกี่ยวกับชีวิตของคนสวิสที่ตกยากคนหนึ่ง
«Manchmal bin ich durch die Strassen geirrt und habe Münz gesucht»
คนในข่าวเคยเป็นเด็กเรียนเก่ง ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนมีบ้านพร้อมสระว่ายน้ำ แต่เพราะวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เลยสูญเงินจำนวนมาก พอหางานใหม่ได้ ก็ต้องตกงานในเวลาต่อมาเพราะบริษัทที่จ้างสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไป และเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า
การหลุดพ้นจากความยากจนเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากระบบสวัสดิการ แต่เงินก็ไม่พอแม้กระทั่งจ้างช่างไฟมาติดตั้งหลอดไฟในบ้านเช่า จะซื้อของกินในซุปเปอร์ทีก็ต้องคำนวณแล้วคำนวณอีกไม่ให้เกินงบ มีบางครั้งคำนวณผิดเลยต้องเอาของกลับไปคืนที่ชั้น ผลไม้แทบไม่ได้ซื้อเพราะแพงมาก บางครั้งพอถึงวันที่ 20 ของเดือนเงินก็หมดแล้ว จนบางวันต้องเดินหาเงินตกตามท้องถนน
ขนส่งสาธารณะที่สวิสแพงมาก โดยเฉพาะรถไฟ เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปสัมภาษณ์งาน หรือแม้กระทั่งเดินทางไปติดต่อทางการ ตอนที่แม่มีชีวิต
อยู่ ต้องนั่งรถไฟไปหาโดยไม่มีตั๋ว เลยโดนปรับ หลายครั้งเข้าก็โดนศาลตัดสินจำคุก 16 วัน ถ้าไม่จ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล ตอนนี้พยายามขอเลื่อนวันจำคุกเพราะจะมีผลต่อการจบหลักสูตรฝึกอบรมทักษะงานที่ทางการจัดให้
ส่วนงานที่ได้ตอนนี้ เงินเดือนก็แสนน้อยนิด แถมต้องเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง (ขาเดียว)
คนในข่าวเคยคิดว่า คนยากจนเพราะขี้เกียจ แต่มาตอนนี้ถึงได้รู้ซึ้งถึงหัวอกของคนจน และมีแผนทำแอ๊พสำหรับช่วยเหลือคนจนทั้งการเปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจดหมายและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางกฎหมาย หากวันหนึ่งตัวเองสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้
นี่ขนาดคนสวิสยังประสบปัญหาขนาดนี้ คนยากจนในไทยจะต้องเผชิญกับความแร้นแค้นขนาดไหน ขนาดตัวเองมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรยังต้องดิ้นรนขวนขวายมาตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่งวันนี้ก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
อยากให้ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการที่ดี สังคมไทยคงจะน่าอยู่มากขึ้น
ความยากจนในสวิตเซอร์แลนด์: เมื่อคนรวยตกยากรู้ซึ้งถึงหัวอกคนจนว่า คนจนไม่ได้ยากจนเพราะขี้เกียจเสมอไป
เช่นเดียวกับคนไทยหลาย ๆ คน ตัวเองเคยคิดว่า สวิตเซอร์แลนด์เป็นแดนสวรรค์ที่มีทัศนียภาพสวยงามและคุณภาพชีวิตที่ดีในอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นประเทศที่ไม่มีความยากจน และคนส่วนใหญ่รวยเสียด้วยซ้ำ ตอนที่ไปเที่ยวก็ได้เห็นด้านดี ๆ สวย ๆ งาม ๆ และไม่อยากจะเชื่อคำพูดของคนสวิสคนนึงที่ได้รู้จักระหว่างการประชุมว่า ประเทศเขาก็มีปัญหาเหมือนกัน
แต่พอได้ติดตามสื่อภาษาเยอรมันของสำนักข่าวหนึ่งในสวิส จึงได้รู้ว่า สวิสก็พบกับปัญหาต่าง ๆ แม้มีระบบสวัสดิการที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ เมื่อได้อ่านข่าวเกี่ยวกับชีวิตของคนสวิสที่ตกยากคนหนึ่ง «Manchmal bin ich durch die Strassen geirrt und habe Münz gesucht»
คนในข่าวเคยเป็นเด็กเรียนเก่ง ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนมีบ้านพร้อมสระว่ายน้ำ แต่เพราะวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2008 เลยสูญเงินจำนวนมาก พอหางานใหม่ได้ ก็ต้องตกงานในเวลาต่อมาเพราะบริษัทที่จ้างสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไป และเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า
การหลุดพ้นจากความยากจนเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก
แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากระบบสวัสดิการ แต่เงินก็ไม่พอแม้กระทั่งจ้างช่างไฟมาติดตั้งหลอดไฟในบ้านเช่า จะซื้อของกินในซุปเปอร์ทีก็ต้องคำนวณแล้วคำนวณอีกไม่ให้เกินงบ มีบางครั้งคำนวณผิดเลยต้องเอาของกลับไปคืนที่ชั้น ผลไม้แทบไม่ได้ซื้อเพราะแพงมาก บางครั้งพอถึงวันที่ 20 ของเดือนเงินก็หมดแล้ว จนบางวันต้องเดินหาเงินตกตามท้องถนน
ขนส่งสาธารณะที่สวิสแพงมาก โดยเฉพาะรถไฟ เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปสัมภาษณ์งาน หรือแม้กระทั่งเดินทางไปติดต่อทางการ ตอนที่แม่มีชีวิต
อยู่ ต้องนั่งรถไฟไปหาโดยไม่มีตั๋ว เลยโดนปรับ หลายครั้งเข้าก็โดนศาลตัดสินจำคุก 16 วัน ถ้าไม่จ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล ตอนนี้พยายามขอเลื่อนวันจำคุกเพราะจะมีผลต่อการจบหลักสูตรฝึกอบรมทักษะงานที่ทางการจัดให้
ส่วนงานที่ได้ตอนนี้ เงินเดือนก็แสนน้อยนิด แถมต้องเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่ง (ขาเดียว)
คนในข่าวเคยคิดว่า คนยากจนเพราะขี้เกียจ แต่มาตอนนี้ถึงได้รู้ซึ้งถึงหัวอกของคนจน และมีแผนทำแอ๊พสำหรับช่วยเหลือคนจนทั้งการเปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจดหมายและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความช่วยเหลือทางกฎหมาย หากวันหนึ่งตัวเองสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้
นี่ขนาดคนสวิสยังประสบปัญหาขนาดนี้ คนยากจนในไทยจะต้องเผชิญกับความแร้นแค้นขนาดไหน ขนาดตัวเองมาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรยังต้องดิ้นรนขวนขวายมาตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่งวันนี้ก็ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
อยากให้ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการที่ดี สังคมไทยคงจะน่าอยู่มากขึ้น