LENOVO ได้ทำการเปิดตัว GAMING NOTEBOOK รุ่นล่าสุดในไทยไปไม่นาน แต่กระแสนั้นบอกว่าขายดีพอสมควรทั้งที่การเปิดตัวมาพร้อมกับ สเปกทั้งทีม AMD ทีม INTEL ตอบโจทย์ลูกค้าแล้วแต่ชอบเลยว่าจะใช้งานค่ายไหนรวมถึงทางด้านงานออกแบบ และ สเปกที่ให้มาทั้งหน้าจอ ลำโพงอะไรให้ ATMOS มาครบ และราคาก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นครับสำหรับค่ายนี้ ทาง LEGION 5I ครั้งนี้เราจะมาอยู่กับทีม INTEL ที่ใช้งาน i7 Gen 10 พร้อมกับ สเปก GTX 1650TI อยู่ในช่วงเรทราคาที่กำลังจับต้องได้ไม่แรงเกินไป พร้อมกับงานออกแบบใหม่ดีไซน์อะไรสวยงามขึ้นเยอะอย่างมากอีกทั้ง เด่นๆคือทางด้านหน้าจอที่สีตรง และเด่นกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันมาดูกันเลยสำหรับ LENOVO LEGION 5I รุ่นล่าสุดจากค่าย LENOVO ในครั้งนี้ครับ
LEGION 5I ตัวนี้ต้องบอกว่าสเปกนั้นถือว่า มาพร้อมกับ Intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด 2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz และใช้งาน NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 8GB DDR4 2933 MHz และมีให้อัพเกรดได้อีก 1 ช่อง รวมถึงทางด้านความจุของตัวเครื่องนั้น ให้มาเป็น 512GB SSD NVMe เรียกได้ว่าการอ่านเขียนนั้นถือว่าไวมากๆเลยทีเดียว ส่วนทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ถือว่ามีความโดดเด่นพอสมควรเพราะใช้งานหน้าจอ 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 144Hz และยังได้ sRGB 100% ด้วยเน้นในเรื่องของความแม่นยำสีถือว่าโอเคเลยทีเดียว และใช้งานหน้าจอแบบด้าน และทางด้านลำโพงรุ่นนี้ใช้ลำโพง Harman รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย และทางด้าน แป้นพิมพ์นั้นให้ไฟ RGB 4 โซนมาด้วยสีสันสวยงามพอสมควร และ ทางด้านงานออกแบบมีความโดดเด่น และหน้าจอใช้งานได้อิสระกางเรียบไปกับพื้นได้เลยเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้เลยแหละ ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อก็รองรับ WIFI 6 +BT 5.0 มาให้พร้อม
LENOVO LEGION 5I ในรุ่นนี้ เริ่มต้น 32,990 บาท แต่ในส่วนของสเปกที่รีวิวนั้นจะเป็น 36,990 บาท ซึ่งจะมาพร้อมกับ i7 10750H + GTX 1650Ti พร้อมหน้าจอ IPS 144HZ 15.6 นิ้ว และ RAM 8GB DDR4 2933Mhz และ 512GB SSD NVMe ถือว่าสเปกพอใช้งานเลยทีเดียว แต่ถ้าเพิ่ม RAM จะลงตัวทีเดียวเลย
UNBOX
ตัวกล่องมีการออกแบบสวยงามและโดดเด่นพอสมควรมีความหนาพอประมาณ และเล่นลวดลายอะไรสวยเลยแหละ อุปกรณ์ให้มานั้นเพียงพอไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่กล่องค่อนข้างใหญ่กว่าที่คิดหรือเกินจำเป็นไปนิดหน่อย
- ตัวเครื่อง LENOVO LEGION 5I
- คู่มือการใช้งาน
- Adaptor ชาร์จไฟ 170W
DESIGN
งานออกแบบทาง LENOVO LEGION นั้นจะยังคงงานออกแบบธีมอะไรคล้ายกับรุ่น Lenovo Legion Y540 ก่อนหน้าแต่ปรับปรุงเล็กๆน้อยๆให้ลงตัวมากขึ้นงานออกแบบยังคงทำได้ดูดีเรียบๆแต่คงความดุดัน ซึ่งทำให้สามารถใช้งานทั่วไปได้พกพาได้ดูเรียบ แต่สเปกเล่นเกมแรงๆได้นั้นเองไม่ได้ออกแบบสายเกมมากเกินไป รวมถึงทางด้านงานประกอบงานออกแบบวัสดุรอยต่อพวกนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าคุณภาพสูง รอยต่ออะไรดูแน่นหนาและแข็งแรงกว่าตัวอื่นๆแบบชัดเจนเวลาจับถือแล้วรู้สึกถึงความแน่นดีเลยแหละ ส่วนการพกพาอาจจะดูหนาไปนิดหน่อยและหนัก 2.3 kg
ด้านหลังเราจะเห็นว่ามีงานออกแบบเรียบๆไม่ได้มีไฟอะไรเสริมแทรกเข้ามาครับเป็นวัสดุสีเทาทั้งหมดรวมถึงเขียนโลโก้ และชื่อรุ่นไว้ให้เรียบร้อยที่เห็นสีเขียวๆนั้นจะเป็นแสงที่สะท้อนตรงโลโก้เหมือนมีการเคลือบเล่นกับแสงสีรุ้งได้ดีครับสะท้อนสีได้สวยงามเลยแหละ ส่วนข้อต่อการพับนั้นยังคงโดดเด่นอยู่การกางได้ 180องศาต่างๆถือว่าดูดี และทางด้านหน้าจอขอบบางสวยงามพร้อมกับรองรับ 144Hz ได้สบายในการทำงานเล่นเกมรวมถึงแป้นพิมพ์วางลงตัว
ฝาหลังนั้นใช้วัสดุพลาสติกสีดำด้านออกเทา มีการเล่นสะท้องกับแสงนิดหน่อยออกสีเทาดำ Phantom Black แน่นอนว่า มีโลโก้ไว้มุมขวาของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ประจำแบรนด์รวมถึงในมุมซ้ายบนนั้นจะเป็นโลโก้ LEGION ที่วัสดุเล่นกับแสงได้เหมือนกับพร้อมกับสีไทเทเนียม และถ้ามองดีๆตัวแกนกลมๆก็จะเป็นสีแบบเดียวกัน ค่อนข้างการเก็บงานตามขอบเครื่อง ขอบหน้าจอ ขอพับต่างๆนั้นดูแข็งแรงและแน่นหนามากพอสมควรถือว่าทำได้ดี
การระบายความร้อนนั้นจะเห็นว่าฝาหลังตรงฐานนั้นจะมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่จัดเต็มเลยแหละด้วยการออกแบบและการใส่ใจมีแผ่นกันฝุ่นใส่เข้ามาข้างในเหมือนแผ่น Filter ด้วยไม่ค่อยเจอค่ายไหนใส่กันเข้ามาครับ และระบบระบายความร้อนแบบใหม่ Lenovo Legion Coldfront 2.0 ทำให้การระบายได้ดีขึ้น แต่ยังคงเงียบเช่นเดิมครับ ทั้งแกนทองแดง พัดลมที่ดีขึ้น รวมถึงในรุ่นนี้มีพัดลม 2 ตัวพร้อมกับ Heatpipe 3 เส้นใหญ่ยิง ลมออกด้านหลังและดูดลมจากด้านล่าง ยังออกด้านข้าง ยิงออกด้านหลังเต็มๆ 2 ฝั่งครับ ถือว่าเรื่องระบายทำได้ดีอย่างมาก
เมื่อเปิดออกมาข้างในดูในส่วนของฐานของตัวคอมพิวเตอร์นั้นต้องบอกว่าเป็นไม่กี่รุ่นที่ทำออกมาได้ดีมากๆทั้งในเรื่องของการเก็บงาน วัสดุที่ใช้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมากในการวางตำแหน่งอะไรหลายๆอย่าง ไม่ค่อยเจองานเก็บสวยๆแบบนี้ในคอมพิวเตอร์เรทประมาณนี้เท่าไรเลย ถือว่าน่าสนใจและขอชื่นชมการเก็บงานข้างใน ตรง RAM มีที่คลุมมาให้อีกชั้น รวมถึงตรง SSD มีซิลิโคนและแผ่นคลุมมาให้และ HDD DUMMY ใส่มาให้สามารถถอดได้เก็บงานดูดีอย่างมาก ส่วนฝาหลังตรงฐานจะเห็นแผ่นกันฝุ่นสีดำเว้นวงกลมพัดลมไว้ถือว่าไม่เจอค่ายไหนทำแบบนี้ การอัพเกรดนั้น HDD/SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว มีโครงพลาสติกติดตั้งเอาไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงด้วย และ อัพเกรดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB (ที่ 16GB x 2 แถว) รวมถึง M.2 SSD ก็เปลี่ยนแทนของเดิมได้ไม่ยาก
ทางด้านหน้าจอมาพร้อมกับขอบจอบาง พร้อมกับหน้าจอ IPS 15.6 นิ้ว 144Hz รองรับ sRGB100% รวมถึงใช้งานหน้าจอด้าน ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงตัวนึงเท่าที่เคยลองมาในงบนี้ครับทั้งเรื่องของ สีสัน การใช้งานตัดต่อ รวมถึงความลื่นไหลในการเล่นเกม ในเรทราคานี้ถือว่าน่าพอใจ และ ทางด้านกล้องหน้าให้มานั้นรองรับการปิดกล้องเลื่อนปิดเพื่อความปลอดภัยได้ด้วย สำหรับใครที่เป็นห่วงว่าจะมีความเป็นส่วนตัวไหมถ้ากล้องปิดไม่ได้
แกนพับวงกลมแบบนี้สวยงาม และออกแบบดูดีเลยทีเดียวในตัวแกนนี้สามารถรองรับการกางได้กว้าง แบนเกือบราบไปกับพื้นเลยทีเดียวทำให้มันเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ ไม่ค่อยมีสายเกมมิ่งตัวไหนทำแบบนี้ได้ กางได้อิสระรองรับการทำงานได้เยอะมากขึ้นรวมถึงมีความแข็งแรงมากๆในการกางหรือว่าเปิดใช้งานจับตรงไหนก็เปิดได้ ไม่มีเอนหรือว่าดูหลวมเลยแม้แต่น้อยถือว่าเรื่องของข้อพับสวยงามและยังแข็งแรงรวมถึงมีการเล่นสี ไทเทเนียมตรงแกนครับ
ปุ่ม Power ไว้ตรงกลางด้านในวัสดุเงาสวยงาม และอีกจุดที่ค่อนข้างชอบในรุ่นนี้คือด้านหลังเครื่องนั้นสามารถเสียบใช้งาน USB-C / USB-A และรวมถึง HDMI – LAN และที่สำหรับการชาร์จไฟเข้า DC IN ด้วยถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้ดีไม่เกะกะรวมถึงใส่มาให้ครบมากๆในการใช้งาน และเวลาเสียบก็จะไม่เกะกะด้านขวามือเวลาใช้งานหรือซ้ายมือ แต่ก็ยังมีพอร์ตบางตัวใส่มาให้ทั้งซ้าย และ ขวาด้วย ถือว่าคิดมาดีมากๆพอร์ตพร้อมใช้งานเหลือๆ
SPEC
- CPU 10th Gen Intel®Core™ i7-10750H
- RAM 8 GB DDR4-2933 MHz
- VGA NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6
- SSD 512 GB SSD M.2 2280 PCIe NVMe
- หน้าจอ 15.6″ Full HD 144Hz 100% sRGB
- 170W AC Adapter Slim (3pin)-Thailand
- 1 Year Courier or Carry-in
- Backlit 4 Zone RGB Keyboard Black Thai
- 720p HD 4mm Camera with Array Microphone
- Wi-Fi 6 2×2 AX, Bluetooth Version 5.0 or above
- 2W SPEAKER DOLBY ATMOS BY HARMAN
- Windows 10 Home Single Language 64
- USB-A 3.1 Gen 1 (always on)
- 3 x USB-A 3.1 Gen 1
- USB-C 3.1 (DisplayPort™)
- HDMI 2.0
- RJ45 ethernet
- Mic / headphone combo
- Kensington lock slot
- การใช้งานแบต สูงสุด 7.7 ชั่วโมง
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-10750H 14nm 2.60GHz 12MB 8 Core/16 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce GTX 1650TI มาพร้อมกับ 4GB GDDR6 และ ทางด้าน Ram ให้มา 8GB DDR4 bus 2933 และ อีก 1 ช่องสำหรับอัพเกรดทำให้มันรองรับได้ 32GB สูงสุดนั้นเองครับ ส่วน SSD 1TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย 1 ช่องเท่านั้นและมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้งานในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีและความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆทำให้ใช้งานได้ดีทีเดียวกับ SSD ที่ใส่เข้ามา
PCMARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen10 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 4573 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 4,690 คะแนน แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ทางด้านอีกค่ายจะแรงกว่านิดหน่อยถ้าวัดกัน
[SR] รีวิว LENOVO LEGION 5i สเปก i7 10750H + GTX 1650Ti พร้อมจอ IPS 144Hz !
LENOVO ได้ทำการเปิดตัว GAMING NOTEBOOK รุ่นล่าสุดในไทยไปไม่นาน แต่กระแสนั้นบอกว่าขายดีพอสมควรทั้งที่การเปิดตัวมาพร้อมกับ สเปกทั้งทีม AMD ทีม INTEL ตอบโจทย์ลูกค้าแล้วแต่ชอบเลยว่าจะใช้งานค่ายไหนรวมถึงทางด้านงานออกแบบ และ สเปกที่ให้มาทั้งหน้าจอ ลำโพงอะไรให้ ATMOS มาครบ และราคาก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นครับสำหรับค่ายนี้ ทาง LEGION 5I ครั้งนี้เราจะมาอยู่กับทีม INTEL ที่ใช้งาน i7 Gen 10 พร้อมกับ สเปก GTX 1650TI อยู่ในช่วงเรทราคาที่กำลังจับต้องได้ไม่แรงเกินไป พร้อมกับงานออกแบบใหม่ดีไซน์อะไรสวยงามขึ้นเยอะอย่างมากอีกทั้ง เด่นๆคือทางด้านหน้าจอที่สีตรง และเด่นกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ในการใช้งานจริงนั้นจะเป็นอย่างไรกันมาดูกันเลยสำหรับ LENOVO LEGION 5I รุ่นล่าสุดจากค่าย LENOVO ในครั้งนี้ครับ
LEGION 5I ตัวนี้ต้องบอกว่าสเปกนั้นถือว่า มาพร้อมกับ Intel Core i7-10750H ตัวล่าสุด 2.60 GHz, 12 MB L3 Cache, up to 5.00 GHz และใช้งาน NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) พร้อมกับ RAM 8GB DDR4 2933 MHz และมีให้อัพเกรดได้อีก 1 ช่อง รวมถึงทางด้านความจุของตัวเครื่องนั้น ให้มาเป็น 512GB SSD NVMe เรียกได้ว่าการอ่านเขียนนั้นถือว่าไวมากๆเลยทีเดียว ส่วนทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ถือว่ามีความโดดเด่นพอสมควรเพราะใช้งานหน้าจอ 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 144Hz และยังได้ sRGB 100% ด้วยเน้นในเรื่องของความแม่นยำสีถือว่าโอเคเลยทีเดียว และใช้งานหน้าจอแบบด้าน และทางด้านลำโพงรุ่นนี้ใช้ลำโพง Harman รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย และทางด้าน แป้นพิมพ์นั้นให้ไฟ RGB 4 โซนมาด้วยสีสันสวยงามพอสมควร และ ทางด้านงานออกแบบมีความโดดเด่น และหน้าจอใช้งานได้อิสระกางเรียบไปกับพื้นได้เลยเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้เลยแหละ ส่วนทางด้านการเชื่อมต่อก็รองรับ WIFI 6 +BT 5.0 มาให้พร้อม
LENOVO LEGION 5I ในรุ่นนี้ เริ่มต้น 32,990 บาท แต่ในส่วนของสเปกที่รีวิวนั้นจะเป็น 36,990 บาท ซึ่งจะมาพร้อมกับ i7 10750H + GTX 1650Ti พร้อมหน้าจอ IPS 144HZ 15.6 นิ้ว และ RAM 8GB DDR4 2933Mhz และ 512GB SSD NVMe ถือว่าสเปกพอใช้งานเลยทีเดียว แต่ถ้าเพิ่ม RAM จะลงตัวทีเดียวเลย
UNBOX
ตัวกล่องมีการออกแบบสวยงามและโดดเด่นพอสมควรมีความหนาพอประมาณ และเล่นลวดลายอะไรสวยเลยแหละ อุปกรณ์ให้มานั้นเพียงพอไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่กล่องค่อนข้างใหญ่กว่าที่คิดหรือเกินจำเป็นไปนิดหน่อย
- ตัวเครื่อง LENOVO LEGION 5I
- คู่มือการใช้งาน
- Adaptor ชาร์จไฟ 170W
DESIGN
งานออกแบบทาง LENOVO LEGION นั้นจะยังคงงานออกแบบธีมอะไรคล้ายกับรุ่น Lenovo Legion Y540 ก่อนหน้าแต่ปรับปรุงเล็กๆน้อยๆให้ลงตัวมากขึ้นงานออกแบบยังคงทำได้ดูดีเรียบๆแต่คงความดุดัน ซึ่งทำให้สามารถใช้งานทั่วไปได้พกพาได้ดูเรียบ แต่สเปกเล่นเกมแรงๆได้นั้นเองไม่ได้ออกแบบสายเกมมากเกินไป รวมถึงทางด้านงานประกอบงานออกแบบวัสดุรอยต่อพวกนี้ต้องบอกกันตรงๆว่าคุณภาพสูง รอยต่ออะไรดูแน่นหนาและแข็งแรงกว่าตัวอื่นๆแบบชัดเจนเวลาจับถือแล้วรู้สึกถึงความแน่นดีเลยแหละ ส่วนการพกพาอาจจะดูหนาไปนิดหน่อยและหนัก 2.3 kg
ด้านหลังเราจะเห็นว่ามีงานออกแบบเรียบๆไม่ได้มีไฟอะไรเสริมแทรกเข้ามาครับเป็นวัสดุสีเทาทั้งหมดรวมถึงเขียนโลโก้ และชื่อรุ่นไว้ให้เรียบร้อยที่เห็นสีเขียวๆนั้นจะเป็นแสงที่สะท้อนตรงโลโก้เหมือนมีการเคลือบเล่นกับแสงสีรุ้งได้ดีครับสะท้อนสีได้สวยงามเลยแหละ ส่วนข้อต่อการพับนั้นยังคงโดดเด่นอยู่การกางได้ 180องศาต่างๆถือว่าดูดี และทางด้านหน้าจอขอบบางสวยงามพร้อมกับรองรับ 144Hz ได้สบายในการทำงานเล่นเกมรวมถึงแป้นพิมพ์วางลงตัว
ฝาหลังนั้นใช้วัสดุพลาสติกสีดำด้านออกเทา มีการเล่นสะท้องกับแสงนิดหน่อยออกสีเทาดำ Phantom Black แน่นอนว่า มีโลโก้ไว้มุมขวาของตัวเครื่องที่เป็นเอกลักษณ์ประจำแบรนด์รวมถึงในมุมซ้ายบนนั้นจะเป็นโลโก้ LEGION ที่วัสดุเล่นกับแสงได้เหมือนกับพร้อมกับสีไทเทเนียม และถ้ามองดีๆตัวแกนกลมๆก็จะเป็นสีแบบเดียวกัน ค่อนข้างการเก็บงานตามขอบเครื่อง ขอบหน้าจอ ขอพับต่างๆนั้นดูแข็งแรงและแน่นหนามากพอสมควรถือว่าทำได้ดี
การระบายความร้อนนั้นจะเห็นว่าฝาหลังตรงฐานนั้นจะมีช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่จัดเต็มเลยแหละด้วยการออกแบบและการใส่ใจมีแผ่นกันฝุ่นใส่เข้ามาข้างในเหมือนแผ่น Filter ด้วยไม่ค่อยเจอค่ายไหนใส่กันเข้ามาครับ และระบบระบายความร้อนแบบใหม่ Lenovo Legion Coldfront 2.0 ทำให้การระบายได้ดีขึ้น แต่ยังคงเงียบเช่นเดิมครับ ทั้งแกนทองแดง พัดลมที่ดีขึ้น รวมถึงในรุ่นนี้มีพัดลม 2 ตัวพร้อมกับ Heatpipe 3 เส้นใหญ่ยิง ลมออกด้านหลังและดูดลมจากด้านล่าง ยังออกด้านข้าง ยิงออกด้านหลังเต็มๆ 2 ฝั่งครับ ถือว่าเรื่องระบายทำได้ดีอย่างมาก
เมื่อเปิดออกมาข้างในดูในส่วนของฐานของตัวคอมพิวเตอร์นั้นต้องบอกว่าเป็นไม่กี่รุ่นที่ทำออกมาได้ดีมากๆทั้งในเรื่องของการเก็บงาน วัสดุที่ใช้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างมากในการวางตำแหน่งอะไรหลายๆอย่าง ไม่ค่อยเจองานเก็บสวยๆแบบนี้ในคอมพิวเตอร์เรทประมาณนี้เท่าไรเลย ถือว่าน่าสนใจและขอชื่นชมการเก็บงานข้างใน ตรง RAM มีที่คลุมมาให้อีกชั้น รวมถึงตรง SSD มีซิลิโคนและแผ่นคลุมมาให้และ HDD DUMMY ใส่มาให้สามารถถอดได้เก็บงานดูดีอย่างมาก ส่วนฝาหลังตรงฐานจะเห็นแผ่นกันฝุ่นสีดำเว้นวงกลมพัดลมไว้ถือว่าไม่เจอค่ายไหนทำแบบนี้ การอัพเกรดนั้น HDD/SSD SATA ขนาด 2.5 นิ้ว มีโครงพลาสติกติดตั้งเอาไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงด้วย และ อัพเกรดหน่วยความจำได้สูงสุดถึง 32 GB (ที่ 16GB x 2 แถว) รวมถึง M.2 SSD ก็เปลี่ยนแทนของเดิมได้ไม่ยาก
ทางด้านหน้าจอมาพร้อมกับขอบจอบาง พร้อมกับหน้าจอ IPS 15.6 นิ้ว 144Hz รองรับ sRGB100% รวมถึงใช้งานหน้าจอด้าน ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีคุณภาพสูงตัวนึงเท่าที่เคยลองมาในงบนี้ครับทั้งเรื่องของ สีสัน การใช้งานตัดต่อ รวมถึงความลื่นไหลในการเล่นเกม ในเรทราคานี้ถือว่าน่าพอใจ และ ทางด้านกล้องหน้าให้มานั้นรองรับการปิดกล้องเลื่อนปิดเพื่อความปลอดภัยได้ด้วย สำหรับใครที่เป็นห่วงว่าจะมีความเป็นส่วนตัวไหมถ้ากล้องปิดไม่ได้
แกนพับวงกลมแบบนี้สวยงาม และออกแบบดูดีเลยทีเดียวในตัวแกนนี้สามารถรองรับการกางได้กว้าง แบนเกือบราบไปกับพื้นเลยทีเดียวทำให้มันเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ ไม่ค่อยมีสายเกมมิ่งตัวไหนทำแบบนี้ได้ กางได้อิสระรองรับการทำงานได้เยอะมากขึ้นรวมถึงมีความแข็งแรงมากๆในการกางหรือว่าเปิดใช้งานจับตรงไหนก็เปิดได้ ไม่มีเอนหรือว่าดูหลวมเลยแม้แต่น้อยถือว่าเรื่องของข้อพับสวยงามและยังแข็งแรงรวมถึงมีการเล่นสี ไทเทเนียมตรงแกนครับ
ปุ่ม Power ไว้ตรงกลางด้านในวัสดุเงาสวยงาม และอีกจุดที่ค่อนข้างชอบในรุ่นนี้คือด้านหลังเครื่องนั้นสามารถเสียบใช้งาน USB-C / USB-A และรวมถึง HDMI – LAN และที่สำหรับการชาร์จไฟเข้า DC IN ด้วยถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้ดีไม่เกะกะรวมถึงใส่มาให้ครบมากๆในการใช้งาน และเวลาเสียบก็จะไม่เกะกะด้านขวามือเวลาใช้งานหรือซ้ายมือ แต่ก็ยังมีพอร์ตบางตัวใส่มาให้ทั้งซ้าย และ ขวาด้วย ถือว่าคิดมาดีมากๆพอร์ตพร้อมใช้งานเหลือๆ
SPEC
- CPU 10th Gen Intel®Core™ i7-10750H
- RAM 8 GB DDR4-2933 MHz
- VGA NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti 4GB GDDR6
- SSD 512 GB SSD M.2 2280 PCIe NVMe
- หน้าจอ 15.6″ Full HD 144Hz 100% sRGB
- 170W AC Adapter Slim (3pin)-Thailand
- 1 Year Courier or Carry-in
- Backlit 4 Zone RGB Keyboard Black Thai
- 720p HD 4mm Camera with Array Microphone
- Wi-Fi 6 2×2 AX, Bluetooth Version 5.0 or above
- 2W SPEAKER DOLBY ATMOS BY HARMAN
- Windows 10 Home Single Language 64
- USB-A 3.1 Gen 1 (always on)
- 3 x USB-A 3.1 Gen 1
- USB-C 3.1 (DisplayPort™)
- HDMI 2.0
- RJ45 ethernet
- Mic / headphone combo
- Kensington lock slot
- การใช้งานแบต สูงสุด 7.7 ชั่วโมง
PERFORMANCE
ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-10750H 14nm 2.60GHz 12MB 8 Core/16 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce GTX 1650TI มาพร้อมกับ 4GB GDDR6 และ ทางด้าน Ram ให้มา 8GB DDR4 bus 2933 และ อีก 1 ช่องสำหรับอัพเกรดทำให้มันรองรับได้ 32GB สูงสุดนั้นเองครับ ส่วน SSD 1TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย 1 ช่องเท่านั้นและมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้งานในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีและความเร็วในการอ่านเขียนสูงมากๆทำให้ใช้งานได้ดีทีเดียวกับ SSD ที่ใส่เข้ามา
PCMARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen10 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 4573 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 4,690 คะแนน แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย ทางด้านอีกค่ายจะแรงกว่านิดหน่อยถ้าวัดกัน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้