[CR] เราเที่ยวด้วยกัน @ Royal Orchid Sheraton กรุงเทพฯ

เริ่มจากหาบุฟเฟต์ทานอาหารวันแม่ เลือกได้ห้อง Riverside Grill โรงแรม Royal Orchid Sheraton ซึ่งมี Promotion ฺClub Marriott มา 2 จ่าย 1 ราคา 1,600 บาทเน็ท พอจอง ทางเจ้าหน้าที่แนะนำว่าโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาลด้วย แล้วราคาห้องพักช่วงนี้มี Promotion แพ็คเก็จพิเศษที่ทั้งลด แลก แจก แถม จากเดิมต้องเข้าพัก 2 คืน ก็ปรับเป็นพักคืนเดียวได้ ก็เลยเป็นที่มาของการได้ใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐบาล เพราะบ้าน จขกท. อยู่ปทุมธานี 

ขอข้ามวิธีการลงทะเบียนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันนะคะ เพราะมีคนเขียนถึงเยอะ และส่วนใหญ่น่าจะลงทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว

โรงแรม Royal Orchid Sheraton เป็นโรงแรมในเครือของ Marriott ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมที่มีจำนวนโรงแรมเยอะที่สุดในตอนนี้ จขกท. เป็นสมาชิกของ Marriott Bonvoy อยู่แล้ว ตอนแรกจะจอง 3 ห้องด้วยสมาชิกเดิม แต่พอเห็นรายละเอียดโปรโมชั่น Summer Dreaming Staycation ที่สมาชิกจะได้ Bonus Point 5,000 คะแนนเพิ่มต่อการเข้าพัก ก็เลยเปลี่ยนใจสมัครสมาชิกเพิ่มอีก 2 คน เพื่อให้ได้ Bonus Point 15,000 คะแนน แล้วยังไม่หมดเท่านี้ ช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นสมัครสมาชิกใหม่ แล้วพัก 2 ครั้งภายในเดือนที่สมัครบวก 120 วัน (รวมประมาณ 4 เดือนกว่า ๆ สมัครเดือนสิงหาคม ก็พักได้ถึงธันวาคม 2563 ) จะได้ Free Night 1 คืน พอเห็นโปรซ้อนโปรอย่างนี้ ยังไงก็สมัครใหม่คุ้มกว่าแน่

วิธีสมัครสมาชิกใหม่เพื่อให้ได้ Free Night สมัครได้ที่ https://www.joinmarriottrewards.com/freenight16/ สมัครได้ถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2563

(เพิ่มเติมโปรโมชั่น Marriott Bonvoy สมาชิกที่เข้าพักตั้งแต่ 13 สิงหาคม – 18 ตุลาคม 2563 จะได้ Bonus Point เพิ่ม 2,500 คะแนนต่อการเข้าพัก และถ้าเข้าพักครบ 3 ครั้งจะได้เพิ่มพิเศษอีก 5,000 คะแนน แต่ต้องลงทะเบียนก่อนนะคะ)

จขกท. เข้าพักวันที่ 11-12 สิงหาคม 2563 ราคา Package Member Rate Summer Dreaming Staycation คืนละ 2,700 บาทรวมภาษี โดย Package นี้ จะประกอบด้วยอาหารเช้าฟรี 2 คน เครดิตสำหรับใช้ภายในโรงแรม จะทานอาหารที่ห้องอาหาร สั่ง Room Service สปา หรือบริการอื่น ๆ ของโรงแรมได้ ยกเว้น Minibar ในวงเงิน 1,000 บาท ฺBonus Point 5,000 คะแนน และเช็คอินได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า เช็คเอาท์ได้ถึง 6 โมงเย็น
จขกท. ก็เข้า Website Marriott.com และจองตามขั้นตอนปกติ โดย Package นี้เป็นราคาที่สามารถยกเลิกได้ แต่ต้องให้ หมายเลข Credit Card เพื่อการันตี แต่จะไม่ตัดเงิน ยกเว้นไม่ยกเลิกและไม่เข้าพักตามกำหนดถึงจะตัดเงิน

หลังจากจองแล้วก็โทร. ไป Reservation ที่เบอร์ 02-266-0123 หรือส่งข้อมูลไปที่ Email address : res172.royalorchid@sheraton.com เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ชำระเงินผ่าน แอปฯ เป๋าตัง ข้อมูลที่ต้องให้ คือ เลขที่การจอง (Reservation No.) ชื่อผู้จองซึ่งต้องเป็นคนเดียวกับที่ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันไว้ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 4 เลขท้าย และหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้กับแอปฯ เป๋าตัง

หลังจากนั้น จะมีข้อความแจ้งมาทางโทรศัพท์ว่า “โปรดตรวจสอบข้อมูลการจองห้องพักของท่านผ่านแอปฯ เป๋าตัง” ก็ log in เข้าแอปฯ เป๋าตัง กดเข้าหน้า G-Walllet จะเข้าหน้าเราเที่ยวด้วยกัน กดที่ปุ่มคลิกสีส้ม ตรวจสอบรายละเอียด ถ้าถูกต้องก็กดชำระเงิน ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าต้องชำระเงินให้เรียบร้อยภายใน 23.59 น. ของวันรุ่งขึ้นจากที่ได้รับข้อความ  ซึ่งเราสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือจะเติมเงินสดเข้าแอปฯ เป๋าตังก่อน แล้วชำระเป็นเงินสดก็ได้ จากราคาเต็ม 2,700 บาท รัฐบาลจ่าย 40% เราต้องชำระส่วนที่เหลือ 1,620 บาท จขกท. ชำระผ่านบัตรเครดิตก็สะดวกไม่ยุ่งยากอะไร หลังชำระเสร็จ ก็จะมีคูปองที่พักเข้ามาในแอปฯ เป๋าตัง และแจ้งจำนวนสิทธิที่ใช้ไป

วันเข้าพัก จขกท. มาถึงเกือบบ่าย 2 โมง การเช็คอินใช้บัตรประชาชมและแอปฯ เป๋าตัง โดยกดตามข้างต้นจนถึงหน้าคูปองที่พัก กด QR เช็คอินเพื่อรับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว ก็จะมีบาร์โค๊ดขึ้นให้เจ้าหน้าที่เช็คอินดำเนินการต่อ ส่วนคูปองอาหารจะยังไม่เข้าตอนนี้ จะเข้าตอน 17.00 น.

ห้องที่เข้าพักเป็นห้อง Deluxe อยู่ชั้น 9 ห้องพักที่นี่ทุกห้องจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามเป็นไอคอนสยาม มีเก้าอี้พักผ่อนนั่งสบาย ๆ อยู่ริมหน้าต่าง ถ้าไม่มีแพลนไปไหน นั่งชมวิว มองเรือหลากหลายรูปแบบ ทั้งเรือข้ามฟาก เรือขนทราย เรือร้านอาหาร เรือสำราญ รวมถึงเรือแจวลำเล็ก ๆ ผ่านไปเรื่อย ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายใจกลางกรุง เลยเอารูปแต่ละช่วงเวลาตลอดการเข้าพักมาฝาก

โรงแรมนี้จริง ๆ สร้างมานานมากแล้ว แต่เค้าก็คงมี renovate อยู่เรื่อย ๆ มั้ง ห้องพักยังดูโอเคอยู่เลย เสียแต่ไม่ค่อยเก็บเสียง ยืนอยู่หน้าห้องได้ยินเสียงคนในห้องคุยกันชัดเจนมาก ส่วนในห้องมีผลไม้ ชากาแฟ น้ำดื่ม 4 ขวด และของใช้ในห้องน้ำยี่ห้อ Le Grand Bain ตามมาตรฐานของ Sheraton

หลังจากเข้าห้องเก็บกระเป๋า พักผ่อนกันเล็กน้อย ก็พร้อมลุยย่านเจริญกรุงกัน ออกจากโรงแรม ตรงข้ามโรงแรมจะเป็นบ้านเลขที่ 1 อาคารที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนีโอคลาสสิค หลังคาทรางปั้นหยาสีเขียวขี้ม้า ตัวตึกสีเหลืองนวล ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่จัดงาน มีบริการจัดเลี้ยง แพ็คเก็จงานแต่งงาน

จากหน้าโรงแรมเลี้ยวขวาเดินไปประมาณ 50 เมตร เพื่อไปซอยเจริญกรุง 30 เป้าหมายอยู่ที่ Warehouse 30 – Creative Community Mall ที่เอาโกดังเก่ามาปรับปรุง ตัวโกดังทำด้วยโครงเหล็กและสังกะสี โทนสีเทา-ส้ม ภายในประกอบด้วยแกลลอรี่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จขกท. แวะตรงนี้แป๊บเดียว เพราะมีเป้าหมายอื่น ต้องรีบไป เพราะดูพยากรณ์อากาศบ่ายนี้มีโอกาสฝนตก 50% ไว้คราวหลังมีเวลาค่อยมาเก็บรายละเอียด

จากนั้นย้อนกลับทางเดิมผ่านหน้าโรงแรมตรงไปเรื่อย ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปชุมชมตลาดน้อย เดินผ่านโรงแรมไปหน่อยก็เริ่มเห็นศิลปะบนกำแพงให้รู้ว่าเข้าเขตแล้วนะ ทางเดินบางช่วงเป็นตรอกเล็ก ๆ รถยนต์เข้าไม่ได้ แต่มอเตอร์ไซค์เยอะ พอหลุดจากตรอกเล็ก ๆ จะถึงวัดแม่พระลูกประคำ หรือโบสถ์กาลหว่าร์ โบสถ์คริสต์นิกายโรมันแคทอลิก โบสถ์นี้เดิมสร้างโดยนักบวชชาวโปรตุเกตุ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2330 แต่เกิดไฟไหม้ และมีการสร้างหลังใหม่ทดแทน โดยหลังปัจจุบันเป็นหลังที่ 3

ติดกับวัดเป็นสำนักงานของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาตลาดน้อย ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2451 เป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชยก่อตั้งครั้งแรกในปี พ.ศ. 2447 ใช้ชื่อว่าบุคคลัภย์ (Book Club) ต่อมาในปี พ.ศ. 2449 รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งเป็นบริษัท แบงก์สยามกัมมาจล จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจธนาคารอย่างเป็นทางการ และได้ย้ายจากที่ทำการเดิมแถวบ้านหม้อมาที่อาคารตลาดน้อยแห่งนี้ อาคารหลังนี้เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโบซาร์ผสมนีโอคลาสสิค มีทั้งหมด 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เสียดายไม่มีเวลา ก็เลยต้องเดินผ่านไปอีก

เดินต่อไปอีกนิดก็ถึงเป้าหมาย ซอยศาลเจ้าโรงเกือก เป็นตรอกเล็ก ๆ รถยนต์เข้าออกไม่ได้ ช่วงต้นของตรอก ทั้ง 2 ด้านเป็นกำแพง ด้านขวาติดรูปภาพที่ถ่ายชุมชมตลาดน้อย ฉลองครบรอบ 200 ปี ยาวตลอดหลายสิบภาพ 

ส่วนกำแพงด้านซ้ายเป็นสตรีทอาร์ทที่วาดในงานเทศกาลศิลปะ 2016 บุกรุก ครั้งที่ 2 โดยศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเรื่องราวได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของชาวตลาดน้อย ทุกภาพสีสรรสวยงานเหมาะกับการถ่ายรูปมาก สุดกำแพงเริ่มมีบ้านไม้เก่า ๆ ซึ่งยังคงสภาพเดิม ๆ อยู่ บางหลังก็มีภาพวาด หรือเอาของมาประดับ ไม่น่าเชื่อว่าแค่กะทะดำ ๆ แขวนบนผนังเก่า ๆ จะดูคลาสสิคสวยงาม

ตรงกลางซอยมีร้านกาแฟชื่อ Mother Roaster ซึ่งย้ายมาจากร้านเดิมแถวหัวลำโพง ตัวร้านเป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ผนังด้านนอกชั้นล่างเพ้นท์ลายน่ารัก ๆ เกี่ยวกับร้านและกาแฟ มีม้านั่งให้วางท่าถ่ายรูปสวย ๆ กันก่อนจะก้าวผ่านประตูไม้เข้าไป สำหรับคนที่ไม่เคยมาและไม่เคยทราบเรื่องราวของร้านมาก่อน ก้าวผ่านประตูมาก็คงจะต้องตกใจเหมือน จขกท. เพราะทั้งบ้านเต็มไปด้วยเครื่องจักรชิ้นเล็ก ๆ และมีกลิ่นน้ำมันนิด ๆ ติดอยู่ ส่วนตัวร้านกาแฟอยู่ชั้น 2 ได้ความว่าเดิมบ้านนี้เป็นเชียงกงเก็บของเก่าเหล่านี้ พอร้านกาแฟมาเปิดก็รวบรวมของทั้งหมดมารวมกันที่ชั้นล่าง แต่เท่าที่เห็นก็ดูเป็นอาร์ทดีนะ

** มีต่อค่ะ **
ชื่อสินค้า:   เราเที่ยวด้วยกัน @ Royal Orchid Sheraton กรุงเทพฯ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่