มีใครเคยเป็นไหมคะ จะซื้อของแพงก็เสียดายเงิน แต่พอจะซื้อของถูกกว่าก็มีความรู้สึกว่าเพิ่มเงินอีกนิดก็ได้ของแพง(ที่อยากได้)

สวัสดีค่ะ มีใครเคยเป็นเหมือนเราไหมคะ เวลาจะซื้อของใหม่ๆมักจะมีเหตุผลให้ตัวเองเสมอว่าถ้ามีแล้วจะเอามาใช้ประโยชน์นู้นนี่นั้น ซื้อมาแล้วคุ้มแน่นอน แต่พอซื้อมาจริงๆแล้วก็มานั่งเสียดายเงิน

    อย่างกระทู้ก่อนหน้านี้เราเคยขอคำแนะนำเรื่องซื้อรถใหม่ไป ระหว่างรถญี่ปุ่นราคาเกือบสองล้าน กับรถยุโรปราคาสองล้านกว่า ตอนนั้นที่บ้านก็เชียร์รถญี่ปุ่นเพราะบอกว่าได้รถใหญ่กว่า (SUV7ที่นั่ง) ในราคาถูกกว่ารถยุโรป (5ที่นั่ง) แต่สุดท้ายเราก็เลืกรถยุโรปเพราะมีความรู้สึกว่าเพิ่มเงินจากรถญี่ปุ่นที่เล็งไว้นิดเดียวก็ได้รถยุโรปแล้ว

    แต่พอซื้อมาใช้ได้สักพัก บางครั้งก็แอบเครียดปนเสียดาย คิดไม่ตกว่าเลือกผิดรึเปล่า ถ้าเลือกรถญี่ปุ่นก็จะได้รถที่ใหญ่กว่าและถูกกว่า อนาคตถ้ามีลูกเพิ่มอีกหนึ่งคน(ซึ่งตอนนี้มีแล้วหนึ่ง) ก็ไม่ต้องซื้อรถใหม่ (แต่จริงๆตอนนี้ก็มี Fortuner อีกคัน อายุ10ปีแล้ว เลยทำให้บางครั้งก็กลัวว่าถ้า Fortuner พัง ก็ต้องซื้อคันใหม่อีกเป็นล้าน) เราก็กังวัลกลัวไม่มีเงิน เพราะเศรษฐกิจไม่แน่นอน กลัวจะหาเงินไม่ได้เหมือนที่ผ่านมา (สำหรับเรา เราคิดว่าเราไม่ได้ใช้เงินเกินตัวนะคะ มีเงินเก็บประมาณแปดหลักกลางๆ แต่ก็อดกังวลไม่ได้ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ บวกกับดป็นคนคิดมากอยู้แล้วด้วย)

และบางครั้งก็คิดว่า ถ้าไม่ซื้อรถแพงก็อาจจะเอามาลงทุนต่อได้ แต่ถ้าซื้อรถญี่ปุ่นก็จะเสียดายที่ไม่ได้ขับรถยุโรป งงไหมคะ 555) 

ปล. ก่อนหน้านี้ก็เคยใช้รถยุโรปมาแล้ว รับกับค่าซ่อมได้ค่ะ และมีความรู้สึกว่าฟีลลิ่งการขับและช่วงล่างแน่นดีมาก

แบบนี้เรียกว่าเป็นโรคอะไรไหมคะ หรือคนส่วนใหญ่ก็เป็นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าคิดทบทวนแล้วค่อยซื้อ ก้ถือว่า ตัดสินใจดีที่สุด ตามเงื่อนไขและข้อมูลที่มีในตอนนั้นแล้วครับ
ไม่ต้องคิดย้อนไปถึงอดีต ว่าที่ทำไปนั้นดีหรือเปล่า  มองแค่ว่า จากนี้ต่อไป จะทำยังไงก็พอ

ที่คุณเป็น ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ มีคนจำนวนมากที่อาลัยหรือเสียดายในอดีต กังวลถึงอนาคต จนบางทีหลงลืมการอยู่กับปัจจุบัน ผมเองก็เป็นอยู่บ้างเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่