*** สินค้าศีรษะมนุษย์ โมโคโมไค ***

ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เป็นยุคที่เศรษฐกิจนิวซีแลนด์กำลังบูม ...แต่เป็นการบูมจากสินค้าที่เรียกว่า "ศีรษะมนุษย์" เรื่องของศีรษะเหล่านี้น่าทุเรศสังเวชกว่าที่คุณคิดนัก...

ชาวเผ่าเมารีแห่งนิวซีแลนด์มีประเพณีสักหน้า รอยสักนั้นจะมีความหมายบ่งบอกเผ่าพันธุ์, ครอบครัว ชาติตระกูล, ฐานะ, อาชีพ, และวีรกรรมที่เคยประกอบ 
 

ผู้ชายมักสักทั่งหน้า ผู้หญิงสักปากและคาง คนที่สักมักเป็นชนชั้นสูงเท่านั้น 
 

เมื่อผู้สักหน้าตายไป ครอบครัวของเขาจะทำการ "ทำมัมมี่เฉพาะหัว" โดยเอาสมองกับลูกตาออก บุรูต่างๆ ของศีรษะด้วยต้นปอและยางไม้ จากนั้นต้ม แล้วตากแดดหลายวัน จึงเอาศีรษะชุบน้ำมันฉลามรักษาไว้ เรียกหัวมัมมี่นี้ว่า "โมโคโมไค" เอาไว้ใช้ในพิธีสำคัญ เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษ 
 

บางทีชาวเมารีรบกัน จับชนชั้นสูงเผ่าศัตรูได้ก็จะตัดศีรษะมาทำโมโคโมไคเพื่อเอาไว้หยาม การเจรจาแลกคืนโมโคโมไคระหว่างเผ่ามักเป็นข้อตกลงสำคัญอย่างหนึ่งในสัญญาไมตรี 
 


เมื่อชาวตะวันตกได้พบกับพวกเมารี พวกเขาต่างชอบใจโมโคโมไคว่าแปลกดี จึงขอซื้อโดยยอมแลกกับปืนคาบศิลาและกระสุนดินดำ 
 

โมโคโมไคเป็นของสำคัญ ชาวเมารีบางเผ่าไม่ยอมขาย แต่บางเผ่าก็ยอมเพราะอยากได้ปืน พวกที่ขายเอาปืนไปโจมตีเผ่าอื่น กลายเป็นแผ่อำนาจได้มาก
 

สิ่งนี้ทำให้เกิด “สงครามปืนคาบศิลา” (1807–1842) ในหมู่ชาวเมารีเผ่าต่างๆ เผ่าที่ยังไม่มีปืนตระหนักว่าแย่แล้ว ต้องพยายามหาปืนมาเพื่อปกป้องตัวเองให้ได้ ในที่สุดจึงยอมขายศีรษะบรรพชนแลกปืนกันหมด 
 

Demand ปืน และโมโคโมไคพุ่งทะยาน ชาวเมารีขายหัวพ่อแม่ปู่ย่าหมดแล้วจึงตอบสนองความต้องการโดยจับทาส และศัตรูมาสักหน้า แล้วทำโมโคโมไคเก๊ส่งออก บางอันทำลวกๆ ราคาก็ต่างกันตามความสวย 
 

ชาวตะวันตกก็บ้าสะสมสิ่งนี้เป็นคอลเลคชันไว้อวดกัน ตลาดรุ่งเรืองสุดๆ 


สงครามปืนคาบศิลาดำเนินไป ชาวเมารีล้มตายมากมายทั้งจากการรบ และการเร่งตัดหัวขาย บางเผ่าย่อยยับ บ้านแตกสาแหรกขาด จนนักประวัติศาสตร์เรียกว่า "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตัวเอง"
 

สุดท้ายโมโคโมไคและปืนก็ล้นตลาดจนราคาตก แต่นั่นคือหลังจากสร้างความเสียหายแก่ชาวเผ่าไปมากแล้ว 
 

ในที่สุดชาวเมารีอ่อนแอตกเป็นเมืองขึ้นตะวันตก รัฐบาลใหม่เห็นว่าโมโคโมไคป่าเถื่อนก็สั่งเลิกซื้อขาย เรื่องราวของศีรษะและรอยสักอันน่าสยดสยองจึงจบลงเพียงนี้

ชาวเมารีที่ยิ่งใหญ่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานได้สูญเสียเอกราชขณะที่ลูกหลานขายศีรษะบรรพบุรุษตนเพื่อชิงความเป็นใหญ่ เรื่องนี้สอนอะไรให้เราบ้าง? 


:::  :::  :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่