1 ปีก่อน ณ หอประชุมชั้น 2 ด้านบนอาคารหอสมุดโรงเรียน นักเรียนชายหญิงเก่าใหม่ ม.1และม.4 นับรวม 500 กว่าคน นั่งประจำแถวตามห้องเรียน คณะครูอาจารย์นั่งเรียงแถวหน้ากระดานบนเวทีดูศักดิ์สิทธิ์น่าเลื่อมใส รอเพียงผู้อำนวยการมากล่าวปฐมนิเทศ ในการเปิดเรียนเป็นวันแรก
เสียงพูดคุยกันหยอกเย้าคลื่นเครงคละคลุ้งไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ตามประสาศิษย์เก่าตั้งแต่ ม.ต้น ที่บังเอิญได้อยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็มีบ้าง...หลายคนที่นั่งอย่างเบื่อหน่ายเวลาจำพวกพิธีการ
ความเซ็งในอารมณ์และเสียงที่สนุกยินดีต้องมลายหายไปในทันที เมื่อจู่ ๆ ปรากฏร่างดรุณีนางหนึ่ง เธอมาในชุดนักเรียนขาวปกติ ร่างสตรีแรกแย้มผู้นี้ไม่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของเหล่านักเรียนเก่า
ทุกสายตาจับจ้องเรือนร่างระหงที่แสงแดดสาดส่องผ่านด้านหลังคล้ายมีรัศมีออกจากกายก็ไม่ปาน ยืนตะหง่านอยู่กลางประตูใหญ่หอประชุม ก้าวแรกปรากกฏแสงสะท้อนผิวนางผุดผาดซีดขาวละเอียดนวลตา ก้าวต่อไปเผยใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพร้าว ปากเป็นเรียวงามชมพูเด่น บุคลิกเฉิดฉันดูมั่นใจ ดวงตาคู่งามกลิ้งซ้ายแลขวาหาบางสิ่ง
ทุกท่วงท่าเดินที่ธรรมดาปกติ คล้ายร่างนี้เคลื่อนไหวเชื่องช้าอย่างมีมนต์สะกดน่ามอง คล้ายการเดินของนางแบบตามแคทวอร์ค คนทั้งหอประชุมมองตามร่างงามอย่างมิได้นัดหมาย ความเงียบที่สงัดก็ถูกทำลายลงเมื่อนักเรียนหญิงนางนี้ ทรุดตัวลงนั่งที่แถวตัวเอง ม.4/1 สีฟ้า
สรรพเสียงระเบิดขึ้นอีกในทันที การปรากฏตัวของนักเรียนใหม่นางนี้ ล้วนสร้างความดีใจเป็นอย่างมากที่มีสาวงามเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ผู้ที่สามารถเทียบเคียงนางฟ้าองค์เดิมของโรงเรียนได้
นักเรียนใหม่คนงามสัมผัสถึงความรู้สึกของผู้คนเหล่านี้ได้ รู้สึกยินดีเป็นนักหนาที่ได้รับความชื่นชมแม้ไม่ได้เอ่ยกับเธอมาตรง ๆ
ไหล่บางถูกสะกิดเธอจึงหันหลังไป
“ปลายจำเราได้ไหม ฟางไง...โรงเรียนนครสวรรค์ฯ”
เรียวคิ้วย่นเล็กพร้อมเพ่งพินิจ
“อ๋อจำได้ละ ตัดผมสั้นกับใส่แว่นสะหนาเกือบจำไม่ได้แนะ”
“พอดีได้มาอยู่ห้องหนึ่งก็อยากเปลี่ยนลุคบ้างไรบ้าง...ให้ดูมั่น ๆ ผมยาวหน้าจืดแบบเก่าทิ้งไปดีกว่า โรงเรียนใหม่ลุคใหม่ ปลายอ่ะ...สวยกว่าเดิมเยอะเลยนะเนี้ย จำเกือบแทบไม่ได้” ฟางเสียงใสหน้ายิ้มชวนคุยต่อ
“ก็ธรรมดานะ สงสัยช่วงนี้เต้นออกกำลังกายบ่อย ตัวเลยยืดเหงื่อออกเยอะผิวก็เลยดีตาม...” ปลายนภาตอบอย่างราบเรียบปกติ เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
ขณะสองสาวม.ปลายห้องหนึ่งกำลังคุยกันอย่างออกรส ความเงียบสงัดแผ่ซ่านขึ้นอีกครั้ง จนทั้งสองต้องหยุดตามคลื่นบรรยากาศที่เข้ามากกระทบให้รู้สึก แล้วมองตามเป้าสายตาของคนหมู่มากที่หันไปก่อนแล้ว
ร่างระหงสวยงามอ่อนช้อย ใบหน้าสวยหวานหยาดเยิ้มสง่างามปานนางฟ้านางสวรรค์ ยืนเด่นชำเหลืองหาห้องตัวเอง เรียวนิ้วขาวละเอียดชี้ไปที่ต้นแถวแรกเพื่อนับเลขห้อง
ทุกสายตาจับจ้องร่างงามนี้พลันสลับดูหญิงสาวคนก่อนหน้า คล้ายเปรียบเทียบ
เมื่อรู้แถวห้องตัวเองที่ใดจึงเริ่มก้าวออก ลักษณะการเดินของเธอแตกต่างจากหญิงสาวคนเมื่อครู่ เป็นการเดินที่เชื่อยช้าอ่อนหวานกว่า น่ามองคนละอย่าง
เสียงระงมดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างบางนั้นทรุดลงไปนั่งที่ห้อง 4/4 สีชมพู
บรรยากาศคำวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเรือนร่างของดรุณีสองนาง คนที่ถูกพาดพิงมีอารมณ์ที่ต่างกัน คนหนึ่งสนใจ...แต่อีกคนไม่ยี่หระให้เป็นสาระรกสมอง
ปลายนภาและตรีรัตนาไม่ต้องการเป็นจุดเด่นในครั้งนี้ ด้วยความบังเอิญจึงทำให้มาเข้าแถวช้า
คนที่ใส่ใจผึ่งหูฟังอย่างตั้งใจ ปลายนภาเคยเป็นหนึ่งในทุก ๆ ด้านที่โรงเรียนเก่าตั้งแต่เล็กจนโต มาครั้งนี้เธอจำต้องมีความหงุดหงิดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเสียงส่วนใหญ่ไปในทางเธอตกเป็นรองโดยเฉพาะเรื่องหน้าอกที่ดูเล็กไป...ก็คนมันยังไม่โตเต็มวัย
รัตนะนอนเหยียดกายเต็มตัวอย่างสบายใจ เฝ้าคอยเวลาหลังเลิกเรียน สำหรับเขาถือเป็นวินัยข้อหนึ่ง เป็นการสะสมพลังงานเพื่อที่จะได้ใช้มันอย่างเต็มที่
ขณะหลับใหลอยู่นั้น มีมือเล็กข้างหนึ่งเขย่าที่หัวไหล่
“น้อง ๆ เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมได้มานอนที่นี้” เสียงปลุกนั้นใสหวาน
เปลือกตายังมีขี้ตาหน่วงให้ลืมยาก ปรือตามองดูหน้าคนปลุก พอภาพกระจ่างชัด เห็นผู้หญิงวัยยี่สิบกว่าในชุดพยาบาลกางเกงสีฟ้า “ไม่ได้เป็นอะไรครับพี่ ผมมานอนพักเอาแรงรอซ้อมบอล” เสียงห้าวนั้นตอบตรง ๆ
“อ้าว...ยังงี่ก็กินที่คนอื่นสิ แล้วไม่อยู่ในห้องเรียน”
ชายหนุ่มเพ่งตามองหน้าตาคนถาม ...ใบหน้ามีความน่ารักผิวนวลเนียน รูปร่างบางเล็กสูงไม่น่าเกิน 160 แต่หน้าไม่คุ้น...
คนทำงานในอาคารพยาบาลหลังเล็กนี้ ล้วนรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมจึงสามารถเข้าออกนอนห้องนี้ได้
“พี่มาใหม่ละสิ ผมค่อนข้างพิเศษหน่อยนะครับ ถ้าอยากรู้อะไรมากเกี่ยวกับผม ก็ให้ไปถามอาจารย์แดงได้ครับ”
“อาจารย์แดง?”
“ไม่รู้จัก?” เขาอ่านสีหน้าที่ดูสงสัยจึงพูดขึ้น
“ก็ใช่นะสิ บรรจุที่นี้เป็นวันแรก จะให้รู้จักครูหมดโรงเรียนเลยเหรอ แต่ถึงยังไง...ต่อให้พิเศษแค่ไหน ห้องนี้ก็เป็นห้องพักสำหรับคนที่ไม่สบาย น้องเองก็ดูแข็งแรงบึกบึน มาเอาเปรียบคนอื่นแบบนี้พี่ไม่ยอมหรอกนะ” ใบหน้าน่ารักสดใส กล่าวออกมาอย่างข้องใจสิทธิพิเศษของหนุ่มน้อยคนนี้
“พี่ไปถามอาจารย์แดงเถอะครับ ผมจะรอที่นี้” รัตนะคร้านอธิบายยืดยาว ด้วยที่ว่าเป็นเด็กพูดไปน้ำหนักก็น้อย
“แล้วอาจารย์แดงอยู่ที่ไหน”
เขาชี้นิ้วไปที่หมวดพละฯนอกหน้าต่างด้านหน้าอาคาร ซึ่งมองเห็นได้จากบนเตียง และมีระยะห่างกันไม่ถึง 30 เมตร
ร่างเล็กบางผละเร็วออกไปนอกห้องอย่างฉุนเล็ก ๆ แต่ครั้นเดินเหินกลับดูสันทัดกระฉับกระเฉง พุ่งตรงไปตามทิศทางที่นิ้วชี้นำ
รัตนะมองตามพี่สาวพนักงานใหม่ที่ยังไม่รู้เขา ร่างนั้นหายเข้าไปในประตูหน้าหมวดพละฯ เขาเองก็ได้แต่นั่งคอยมองผ่านหน้าต่างรอผลการเจรจา
ผ่านไปสักพักรู้สึกว่าเนินนานไป สงสัยคงเคลียร์กันยาว ร่างใหญ่จึงเอนกายลงนอนสะสมพลังงานตามเดิม
“ไม่นึกว่านักกีฬาโรงเรียนนี้มีสิทธิพิเศษแบบนี้กับเขาด้วย” เสียงเปล่งดังอย่างตั้งใจปลุก
รัตนะลุกจากเตียงยืนเต็มตัว พี่สาวตรงหน้าสูงเพียงเสมอไหล่เขา
“อาจารย์ว่าไงบ้างพี่ ผมอยู่ที่นี้ต่อได้นะ บอกตรง ๆ จริงๆแล้วผมกลับไปนอนรอที่บ้านก็ได้ แต่มันไกล ปั่นจักรยานไปกลับก็ยี่สิบกิโล ฯ เอาพลังงานที่เสียมาซ้อมบอลดีกว่า อีกอย่างคงไม่มีที่ไหนนอนสบายเหมือนที่นี้แล้ว นี่ผมก็นอนมาตั้งแต่ ม.1”
คำพูดที่ดูสุภาพถ่อมตนกว่าก่อนหน้า ทำให้หญิงสาวหน้าหวานผมม้ายาวเพียงประบ่าอารมณ์เย็นลงบ้าง แม้เมื่อครู่เจอเหตุการณ์หยอดขนมจีบที่หมวดพละมา
“ครูเธอนี่ใช่ย่อยเลย ถ้าพี่ไม่สวยสงสัยคงเคลียร์กันยาก คนเก่ายอมเพราะเสียงดังสินะ ทำชื่อเสียงให้โรงเรียนแล้วไง เป็นนักเรียนก็ต้องเรียนหนังสือบ้างสิ นี่ดูท่า...ให้เตะแต่บอลอย่างเดียวเลย”
“ผมก็ส่งการบ้านครบอยู่นะ สอบก็ผ่านทุกวิชา”
“พี่ตกลงกับอาจารย์ของเธอแล้ว ให้อาศัยที่นี้ก็ได้ แต่ต้องช่วยพี่ทำงาน”
“งั้นผมก็ไม่ได้นอนเอาแรงนะสิ”
“พูดเหมือนครูเธอเปี๊ยบ งานพี่ไม่ได้ใช้เวลานานหรอก จัดยาตามชั้น ลงบันทึกการเบิกจ่ายแต่ละวัน ดูแลความเรียบร้อยสถานที่ หากมีคนไม่สบายมานอนพักแล้วเต็มเธอต้องลุกให้เค้า ที่สำคัญนะ...”
ประกายตาคมเข้มเบิกกว้างลุ้นรอฟัง
“ต้องเป็นลูกมือหรือผู้ช่วยเวลามีคนป่วย”
“ผมไม่มีพื้นฐานพวกนี้จะช่วยได้ไง จะไม่ป่วยซ้ำเหรอพี่”
“ฟัง...ก็แค่หยิบจับนู้นนี่ขณะที่พี่ปฐมพยาบาลแค่นั้น ทุกอย่างเรียบร้อยเธอนอนเอาแรงได้”
รัตนะกลอกกลิ้งตาบุ้ยปากขบคิด
“ก็ได้”
“พูดกับผู้ใหญ่ให้มีหางเสียงหน่อย”
“ตกลงครับ....”
“ดีมาก น่ารักจริงๆ” หน้าหวานนั้นฉีกยิ้มดีใจเพราะเธอได้ผู้ช่วยโดยไม่ต้องทำเรื่องถึงผู้อำนวยการให้วุ่นวาย ขั้นตอนและระยะกว่าจะผ่านหรืออาจไม่ผ่านก็กินเวลานาน
อีกทั้งเขย่งยีดตัว มือขาวเล็กลูบผมนักเรียนหนุ่มคล้ายเจ้านายลูบหัวหมาอย่างเอ็นดู
สำหรับรัตนะรู้สึกประหลาด ยืนอึ้งอยู่พัก อย่างมากที่ผ่านมาก็มีแต่ผู้หญิงมาขอเขาเพียงแค่เอาผ้าเช็ดหน้าแตะซับเหงื่อเบา ๆ ทีเดียว แล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึก เทียบดูแล้วยังไงก็ยังไม่มากเท่าผู้หญิงคนนี้ที่พึ่งคุยกัน
“พี่ชื่อแจ๊สนะ เป็นพยาบาลใหม่ประจำที่นี้ อาคารเล็กๆหลังนี้พี่จะเป็นดูแลเอง เธอละชื่ออะไร”
“รัตน์ครับ” เสียงห้าวตอบ ในใจยังไม่คลายสงสัยยืนมองสาวรุ่นพี่น่ารักที่กำลังยิ้มแป้นหน้าบานให้เขา
นิยายเบาสมอง : Mikaza ไอ้บ้าเอ๊ย! ( 2 : ชังได้ชัง )
เสียงพูดคุยกันหยอกเย้าคลื่นเครงคละคลุ้งไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ตามประสาศิษย์เก่าตั้งแต่ ม.ต้น ที่บังเอิญได้อยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็มีบ้าง...หลายคนที่นั่งอย่างเบื่อหน่ายเวลาจำพวกพิธีการ
ความเซ็งในอารมณ์และเสียงที่สนุกยินดีต้องมลายหายไปในทันที เมื่อจู่ ๆ ปรากฏร่างดรุณีนางหนึ่ง เธอมาในชุดนักเรียนขาวปกติ ร่างสตรีแรกแย้มผู้นี้ไม่เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของเหล่านักเรียนเก่า
ทุกสายตาจับจ้องเรือนร่างระหงที่แสงแดดสาดส่องผ่านด้านหลังคล้ายมีรัศมีออกจากกายก็ไม่ปาน ยืนตะหง่านอยู่กลางประตูใหญ่หอประชุม ก้าวแรกปรากกฏแสงสะท้อนผิวนางผุดผาดซีดขาวละเอียดนวลตา ก้าวต่อไปเผยใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มพร้าว ปากเป็นเรียวงามชมพูเด่น บุคลิกเฉิดฉันดูมั่นใจ ดวงตาคู่งามกลิ้งซ้ายแลขวาหาบางสิ่ง
ทุกท่วงท่าเดินที่ธรรมดาปกติ คล้ายร่างนี้เคลื่อนไหวเชื่องช้าอย่างมีมนต์สะกดน่ามอง คล้ายการเดินของนางแบบตามแคทวอร์ค คนทั้งหอประชุมมองตามร่างงามอย่างมิได้นัดหมาย ความเงียบที่สงัดก็ถูกทำลายลงเมื่อนักเรียนหญิงนางนี้ ทรุดตัวลงนั่งที่แถวตัวเอง ม.4/1 สีฟ้า
สรรพเสียงระเบิดขึ้นอีกในทันที การปรากฏตัวของนักเรียนใหม่นางนี้ ล้วนสร้างความดีใจเป็นอย่างมากที่มีสาวงามเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ผู้ที่สามารถเทียบเคียงนางฟ้าองค์เดิมของโรงเรียนได้
นักเรียนใหม่คนงามสัมผัสถึงความรู้สึกของผู้คนเหล่านี้ได้ รู้สึกยินดีเป็นนักหนาที่ได้รับความชื่นชมแม้ไม่ได้เอ่ยกับเธอมาตรง ๆ
ไหล่บางถูกสะกิดเธอจึงหันหลังไป
“ปลายจำเราได้ไหม ฟางไง...โรงเรียนนครสวรรค์ฯ”
เรียวคิ้วย่นเล็กพร้อมเพ่งพินิจ
“อ๋อจำได้ละ ตัดผมสั้นกับใส่แว่นสะหนาเกือบจำไม่ได้แนะ”
“พอดีได้มาอยู่ห้องหนึ่งก็อยากเปลี่ยนลุคบ้างไรบ้าง...ให้ดูมั่น ๆ ผมยาวหน้าจืดแบบเก่าทิ้งไปดีกว่า โรงเรียนใหม่ลุคใหม่ ปลายอ่ะ...สวยกว่าเดิมเยอะเลยนะเนี้ย จำเกือบแทบไม่ได้” ฟางเสียงใสหน้ายิ้มชวนคุยต่อ
“ก็ธรรมดานะ สงสัยช่วงนี้เต้นออกกำลังกายบ่อย ตัวเลยยืดเหงื่อออกเยอะผิวก็เลยดีตาม...” ปลายนภาตอบอย่างราบเรียบปกติ เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
ขณะสองสาวม.ปลายห้องหนึ่งกำลังคุยกันอย่างออกรส ความเงียบสงัดแผ่ซ่านขึ้นอีกครั้ง จนทั้งสองต้องหยุดตามคลื่นบรรยากาศที่เข้ามากกระทบให้รู้สึก แล้วมองตามเป้าสายตาของคนหมู่มากที่หันไปก่อนแล้ว
ร่างระหงสวยงามอ่อนช้อย ใบหน้าสวยหวานหยาดเยิ้มสง่างามปานนางฟ้านางสวรรค์ ยืนเด่นชำเหลืองหาห้องตัวเอง เรียวนิ้วขาวละเอียดชี้ไปที่ต้นแถวแรกเพื่อนับเลขห้อง
ทุกสายตาจับจ้องร่างงามนี้พลันสลับดูหญิงสาวคนก่อนหน้า คล้ายเปรียบเทียบ
เมื่อรู้แถวห้องตัวเองที่ใดจึงเริ่มก้าวออก ลักษณะการเดินของเธอแตกต่างจากหญิงสาวคนเมื่อครู่ เป็นการเดินที่เชื่อยช้าอ่อนหวานกว่า น่ามองคนละอย่าง
เสียงระงมดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างบางนั้นทรุดลงไปนั่งที่ห้อง 4/4 สีชมพู
บรรยากาศคำวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเรือนร่างของดรุณีสองนาง คนที่ถูกพาดพิงมีอารมณ์ที่ต่างกัน คนหนึ่งสนใจ...แต่อีกคนไม่ยี่หระให้เป็นสาระรกสมอง
ปลายนภาและตรีรัตนาไม่ต้องการเป็นจุดเด่นในครั้งนี้ ด้วยความบังเอิญจึงทำให้มาเข้าแถวช้า
คนที่ใส่ใจผึ่งหูฟังอย่างตั้งใจ ปลายนภาเคยเป็นหนึ่งในทุก ๆ ด้านที่โรงเรียนเก่าตั้งแต่เล็กจนโต มาครั้งนี้เธอจำต้องมีความหงุดหงิดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเสียงส่วนใหญ่ไปในทางเธอตกเป็นรองโดยเฉพาะเรื่องหน้าอกที่ดูเล็กไป...ก็คนมันยังไม่โตเต็มวัย
รัตนะนอนเหยียดกายเต็มตัวอย่างสบายใจ เฝ้าคอยเวลาหลังเลิกเรียน สำหรับเขาถือเป็นวินัยข้อหนึ่ง เป็นการสะสมพลังงานเพื่อที่จะได้ใช้มันอย่างเต็มที่
ขณะหลับใหลอยู่นั้น มีมือเล็กข้างหนึ่งเขย่าที่หัวไหล่
“น้อง ๆ เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมได้มานอนที่นี้” เสียงปลุกนั้นใสหวาน
เปลือกตายังมีขี้ตาหน่วงให้ลืมยาก ปรือตามองดูหน้าคนปลุก พอภาพกระจ่างชัด เห็นผู้หญิงวัยยี่สิบกว่าในชุดพยาบาลกางเกงสีฟ้า “ไม่ได้เป็นอะไรครับพี่ ผมมานอนพักเอาแรงรอซ้อมบอล” เสียงห้าวนั้นตอบตรง ๆ
“อ้าว...ยังงี่ก็กินที่คนอื่นสิ แล้วไม่อยู่ในห้องเรียน”
ชายหนุ่มเพ่งตามองหน้าตาคนถาม ...ใบหน้ามีความน่ารักผิวนวลเนียน รูปร่างบางเล็กสูงไม่น่าเกิน 160 แต่หน้าไม่คุ้น...
คนทำงานในอาคารพยาบาลหลังเล็กนี้ ล้วนรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมจึงสามารถเข้าออกนอนห้องนี้ได้
“พี่มาใหม่ละสิ ผมค่อนข้างพิเศษหน่อยนะครับ ถ้าอยากรู้อะไรมากเกี่ยวกับผม ก็ให้ไปถามอาจารย์แดงได้ครับ”
“อาจารย์แดง?”
“ไม่รู้จัก?” เขาอ่านสีหน้าที่ดูสงสัยจึงพูดขึ้น
“ก็ใช่นะสิ บรรจุที่นี้เป็นวันแรก จะให้รู้จักครูหมดโรงเรียนเลยเหรอ แต่ถึงยังไง...ต่อให้พิเศษแค่ไหน ห้องนี้ก็เป็นห้องพักสำหรับคนที่ไม่สบาย น้องเองก็ดูแข็งแรงบึกบึน มาเอาเปรียบคนอื่นแบบนี้พี่ไม่ยอมหรอกนะ” ใบหน้าน่ารักสดใส กล่าวออกมาอย่างข้องใจสิทธิพิเศษของหนุ่มน้อยคนนี้
“พี่ไปถามอาจารย์แดงเถอะครับ ผมจะรอที่นี้” รัตนะคร้านอธิบายยืดยาว ด้วยที่ว่าเป็นเด็กพูดไปน้ำหนักก็น้อย
“แล้วอาจารย์แดงอยู่ที่ไหน”
เขาชี้นิ้วไปที่หมวดพละฯนอกหน้าต่างด้านหน้าอาคาร ซึ่งมองเห็นได้จากบนเตียง และมีระยะห่างกันไม่ถึง 30 เมตร
ร่างเล็กบางผละเร็วออกไปนอกห้องอย่างฉุนเล็ก ๆ แต่ครั้นเดินเหินกลับดูสันทัดกระฉับกระเฉง พุ่งตรงไปตามทิศทางที่นิ้วชี้นำ
รัตนะมองตามพี่สาวพนักงานใหม่ที่ยังไม่รู้เขา ร่างนั้นหายเข้าไปในประตูหน้าหมวดพละฯ เขาเองก็ได้แต่นั่งคอยมองผ่านหน้าต่างรอผลการเจรจา
ผ่านไปสักพักรู้สึกว่าเนินนานไป สงสัยคงเคลียร์กันยาว ร่างใหญ่จึงเอนกายลงนอนสะสมพลังงานตามเดิม
“ไม่นึกว่านักกีฬาโรงเรียนนี้มีสิทธิพิเศษแบบนี้กับเขาด้วย” เสียงเปล่งดังอย่างตั้งใจปลุก
รัตนะลุกจากเตียงยืนเต็มตัว พี่สาวตรงหน้าสูงเพียงเสมอไหล่เขา
“อาจารย์ว่าไงบ้างพี่ ผมอยู่ที่นี้ต่อได้นะ บอกตรง ๆ จริงๆแล้วผมกลับไปนอนรอที่บ้านก็ได้ แต่มันไกล ปั่นจักรยานไปกลับก็ยี่สิบกิโล ฯ เอาพลังงานที่เสียมาซ้อมบอลดีกว่า อีกอย่างคงไม่มีที่ไหนนอนสบายเหมือนที่นี้แล้ว นี่ผมก็นอนมาตั้งแต่ ม.1”
คำพูดที่ดูสุภาพถ่อมตนกว่าก่อนหน้า ทำให้หญิงสาวหน้าหวานผมม้ายาวเพียงประบ่าอารมณ์เย็นลงบ้าง แม้เมื่อครู่เจอเหตุการณ์หยอดขนมจีบที่หมวดพละมา
“ครูเธอนี่ใช่ย่อยเลย ถ้าพี่ไม่สวยสงสัยคงเคลียร์กันยาก คนเก่ายอมเพราะเสียงดังสินะ ทำชื่อเสียงให้โรงเรียนแล้วไง เป็นนักเรียนก็ต้องเรียนหนังสือบ้างสิ นี่ดูท่า...ให้เตะแต่บอลอย่างเดียวเลย”
“ผมก็ส่งการบ้านครบอยู่นะ สอบก็ผ่านทุกวิชา”
“พี่ตกลงกับอาจารย์ของเธอแล้ว ให้อาศัยที่นี้ก็ได้ แต่ต้องช่วยพี่ทำงาน”
“งั้นผมก็ไม่ได้นอนเอาแรงนะสิ”
“พูดเหมือนครูเธอเปี๊ยบ งานพี่ไม่ได้ใช้เวลานานหรอก จัดยาตามชั้น ลงบันทึกการเบิกจ่ายแต่ละวัน ดูแลความเรียบร้อยสถานที่ หากมีคนไม่สบายมานอนพักแล้วเต็มเธอต้องลุกให้เค้า ที่สำคัญนะ...”
ประกายตาคมเข้มเบิกกว้างลุ้นรอฟัง
“ต้องเป็นลูกมือหรือผู้ช่วยเวลามีคนป่วย”
“ผมไม่มีพื้นฐานพวกนี้จะช่วยได้ไง จะไม่ป่วยซ้ำเหรอพี่”
“ฟัง...ก็แค่หยิบจับนู้นนี่ขณะที่พี่ปฐมพยาบาลแค่นั้น ทุกอย่างเรียบร้อยเธอนอนเอาแรงได้”
รัตนะกลอกกลิ้งตาบุ้ยปากขบคิด
“ก็ได้”
“พูดกับผู้ใหญ่ให้มีหางเสียงหน่อย”
“ตกลงครับ....”
“ดีมาก น่ารักจริงๆ” หน้าหวานนั้นฉีกยิ้มดีใจเพราะเธอได้ผู้ช่วยโดยไม่ต้องทำเรื่องถึงผู้อำนวยการให้วุ่นวาย ขั้นตอนและระยะกว่าจะผ่านหรืออาจไม่ผ่านก็กินเวลานาน
อีกทั้งเขย่งยีดตัว มือขาวเล็กลูบผมนักเรียนหนุ่มคล้ายเจ้านายลูบหัวหมาอย่างเอ็นดู
สำหรับรัตนะรู้สึกประหลาด ยืนอึ้งอยู่พัก อย่างมากที่ผ่านมาก็มีแต่ผู้หญิงมาขอเขาเพียงแค่เอาผ้าเช็ดหน้าแตะซับเหงื่อเบา ๆ ทีเดียว แล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึก เทียบดูแล้วยังไงก็ยังไม่มากเท่าผู้หญิงคนนี้ที่พึ่งคุยกัน
“พี่ชื่อแจ๊สนะ เป็นพยาบาลใหม่ประจำที่นี้ อาคารเล็กๆหลังนี้พี่จะเป็นดูแลเอง เธอละชื่ออะไร”
“รัตน์ครับ” เสียงห้าวตอบ ในใจยังไม่คลายสงสัยยืนมองสาวรุ่นพี่น่ารักที่กำลังยิ้มแป้นหน้าบานให้เขา