บันทึกแห่งการเดินทางของสาวสองวัย:พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน

พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
By Auntie & Yayee

พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยมีมากมายให้เลือกเข้าไปเที่ยวชม หาความรู้ ให้เราได้เรียนรู้รากเหง้าความเป็นมาของประเทศเรา ชุมชนที่เราอยู่ หรือชุมชนที่เราเข้าไปเที่ยวชม ถ้าเราไม่ได้แค่เที่ยวชมผ่านๆ แต่ให้ความใส่ใจสักนิด เราจะได้ความรู้และเข้าใจความเป็นไป ของการดำเนินชีวิต และทัศนคติของคนในยุคสมัยนั้น ผ่านการเล่าขานของกาลเวลา และจะรู้สึกว่าเราโชคดีที่ในเวลานั้นมีบรรพบุรุษเหล่านั้น จึงมีประเทศไทยในวันนี้ 

ทำไมถึงเลือกเขียนถึงศิริราช
น่าจะเป็นเพราะความผูกพัน ชีวิตวนเวียนอยู่กับศิริราชมาร่วม 50 ปี สมัยเด็กๆแม่พามาดูซีอุย มาดูเด็กดอง จำได้ว่ากลัวมาก แต่ก็ดู และก็ยังกลัวมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้เวลามีคนในครอบครัวเจ็บป่วยก็มารักษาที่ศิริราชกันทุกคน จนมาถึงช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยนั่งเรือผ่านศิริราชทุกวัน เพราะต้องใช้เส้นทางเรือเดินทางกลับบ้านผ่านทางคลองบางกอกน้อย ก็จะเห็นสถานีรถไฟบางกอกน้อย สภาพเก่าๆไม่ได้ใช้งาน ดูทึมๆร้างๆ และท่ารถไฟที่ไม่น่าก้าวขึ้นไปเลย เป็นท่าน้ำที่ไม่สวยเอาซะเลย ภาพจำเกี่ยวกับสถานีบางกอกน้อยในสมองที่ดีหน่อย ก็จะนึกถึงแต่โกโบริ กับอังศุมาลินเท่านั้น
จนมาถึงในวันที่รู้ข่าวว่าจะมีการจัดทำพิพิธภัณฑ์ขึ้นในบริเวณท่ารถไฟและสถานีบางกอกน้อย ก็ตั้งใจว่าเมื่อพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมเมื่อไหร่จะต้องมาดูให้ได้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาที่นี่ แต่เป็นครั้งแรกที่เขียนถึงที่นี่อย่างเป็นทางการ

ครั้งแรกที่มาที่นี่มาทางเรือ นั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาจากบ้าน มาขึ้นที่ท่ารถไฟ ขึ้นมาถึงก็ต้องแปลกใจกับโฉมใหม่ของท่ารถไฟที่ดูสวยงามผิดหูผิดตาจนนึกว่าขึ้นมาผิดที่ ดูป้ายดูแล้วอีกว่าใช่แน่รึเปล่า จากท่าเรือทึมๆ แปลงโฉมเป็นท่าเรือสวยงาม มีร้าน S&P ซะด้วย  ถ้าไม่ขึ้นเรือด่วน จะขึ้นเรือข้ามฟากมาจากทางฝั่งธรรมศาสตร์ก็ได้ แต่คนที่ไม่ชำนาญการนั่งเรือก็ไม่ต้องกังวล เพราะนั่งรถมาได้ มาที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ แล้วเดินมาทางด้านหลังตึกโรงพยาบาลทางด้านริมน้ำก็จะเจอกับทางเข้าสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ให้เดินตรงเข้ามาเลย

ทางเข้าสวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

บริเวณรอบอาคารพิพิธภัณฑ์และทางเดินไปท่าน้ำ หรือ ทางเดินระหว่างอาคาร จะมีการปลูกต้นไม้ไทย ที่มีคุณค่าเป็นสมุนไพร อยากรู้ว่าต้นไม้ชื่ออะไร ก็อ่านจากป้ายชื่อของต้นไม้แต่ละต้นที่บอกทั้งชื่อต้นไม้ และสรรพคุณที่มีประโยชน์

ท่ารถไฟโฉมใหม่ ไฉไล ทันสมัย  ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บรรยากาศโดยรอบ มีการจัดภูมิทัศน์ให้ดูร่มรื่น สวยงาม ถ้ามาในช่วงเช้า หรือช่วงเย็น แดดร่มลมตก บรรยากาศจะดีมาก มองไปทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จะเห็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อไปดูด้านข้างฝั่งคลองบางกอกน้อย ฝั่งตรงข้ามเป็นโฮมสเตย์บรรยากาศไทยๆดูน่าอยู่มาก



พลับพลาสยามินทราศิริราชานุสรนีย์
ภายในพลับพลาประดิษฐานพระบรมราชานุเสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุ้ม พระราชโอรส คือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ไว้บนพระเพลา ชื่อโรงพยาบาลศิริราช ได้พระราชทานตามพระนามของพระราชโอรสพระองค์นี้

หัวรถจักรไอน้ำ # 950  เริ่มนำมาใช้ในปี 2493 และ เลิกใช้งานในปี 2525 นำมาจัดแสดงไว้ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ฝั่งคลองบางกอกน้อย ได้จัดแสดงหัวรถจักรไอน้ำไว้ บริเวณนี้เคยเป็นสถานีรถไฟธนบุรี หรือ สถานีบางกอกน้อย เป็นต้นทางของขบวนรถไฟสายใต้สายแรก ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต้นทางสถานีธนบุรี ปลายทางสถานีเพชรบุรี ต่อมาสถานีแห่งนี้ได้ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และบูรณะ ขึ้นมาใหม่ สร้างอาคารสถานีแห่งใหม่ เปิดใช้ในปี พ.ศ 2493 จนเลิกใช้อย่างถาวรในปี 2546


หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยกพื้นที่สถานีธนบุรี ให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแล้วนั้น ทางศิริราชได้ใช้พื้นที่ดังกล่าว สร้างโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ และอาคารสถานีเดิมได้เก็บอนุรักษ์ไว้เปิดเป็น พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน เมื่อเดินเข้ามาในโถงต้อนรับ ยังคงรูปแบบห้องขายตั๋วรถไฟ ไว้เป็นห้องขายบัตรเข้าชม และเก้าอี้ที่ห้องโถงเป็นเก้าอี้ที่จะพบเห็นได้ในสถานีรถไฟสมัยก่อนทุกสถานี


ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีล็อคเกอร์ ให้เก็บสัมภาระ จะได้เดินชมกันแบบสบายๆ ถ่ายรูปภายในพิพิธภัณฑ์ได้ ยกเว้น ห้องที่จัดแสดงศาสตราวุธ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของพื้นที่แห่งนี้ ตั้งแต่สมัยเริ่มขุดคลองเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา จนมาเป็นพระราชวังหลังในต้นกรุงรัตนโกสินทร์ การก่อกำเนิดศิริราช จนถึงปัจจุบัน รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนย่านบางกอกน้อย ผ่านทางภาพนิ่ง วิดีทัศน์ ในรูปแบบต่างๆกัน  พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย 2 อาคาร อาคารหลักมี 2 ชั้น ชั้นล่างจัดแสดงเกี่ยวกับความเป็นมาของสถานที่ และพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาคุณของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้ จนถึงการชมภาพยนตร์ 4 มิติ ย้อนอดีตไปชมการเปิดใช้สถานีแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายใต้ จนถึงปัจจุบัน ส่วนชั้นสองนั้นจัดแสดงจุดเริ่มต้นของการกำเนิดโรงเรียนแพทย์แห่งแรกของประเทศไทยจนกลายมาเป็นโรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน มีแบบจำลองห้องเรียน ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน และ การแพทย์แผนไทย อาคารแห่งนี้ได้ประยุกต์รองรับผู้สูงอายุ และ วีลแชร์ โดยมีลิฟท์โดยสารที่ทันสมัยไว้รองรับภายในอาคาร
    
อาคารที่สอง จัดแสดงวิถีชีวิตของชาวบางกอกน้อย และเรือโบราณที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
เมื่อพร้อมแล้ว เราจะเริ่มชั้นล่างของอาคาร จากห้องแรก คือ ห้องศิริสารประพาส ที่จัดเป็นเหมือนห้องสมุด มีวิดีทัศน์เล่าความเป็นมา และสิ่งของที่จัดแสดงภายในห้องที่ได้จากการขุดปรับพื้นที่ก่อนที่จะสร้างโรงพยาบาล 


ห้องศิริราชบุราณปวัตติ์
บอกเล่าเรื่องราว ภาพประวัติศาสตร์และที่มาของการสร้างโรงศิริราชพยาบาล เป็นโรงพยาบาลหลวงแห่งแรกในแผ่นดินสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 5 ความทุ่มเทเสียสละ ของพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ รวมถึงองค์บิดาแห่งการแพทย์และการสาธารณสุขของไทย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในรัชกาลที่ 9 จนทำให้เราได้มีโรงพยาบาลศิริราช และรากฐานทางด้านการสาธารณสุขที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้ก็ว่าได้


การเดินทาง
สามารถเดินทางมาโดย
1.รถยนต์ส่วนตัว มาจอดรถตรงที่รับฝากรถวัดอินทราราม เสียค่าจอดรถ 60 บาท แล้วเดินต่อมายังพิพิธภัณฑ์
2.ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา มาขึ้นที่ท่า N 11 จะใกล้กับตัวอาคารพิพิธภัณฑ์มากที่สุด
3.ใช้บริการเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์  ท่ามหาราช หรือ ท่าช้าง มาขึ้นที่ท่าวังหลัง แล้วเดินผ่านโรงพยาบาลศิริราชมาทางโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์
4. รถเมล์ สาย 19 , 57 , 81 , 146 , 149 , 169 , ปอ 91 , ปอ 177 , ปอ 157 แล้วเดินต่อมาทางโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่