อย่างที่รู้กันดีว่า Netflix ได้ประกาศสร้างซีรีส์ Avatar: The Last Airbender ฉบับคนแสดงขึ้นมา ซึ่งผมนั้นก็อดใจรอไม่ไหวแล้วเหมือนกันที่จะดู นอกจากนี้ยังได้ Michael Dante DiMartino และ Bryan Konietzko สองผู้สร้างอนิเมชั่น Avatar the Last airbender มารับหน้าที่เป็นโปรดิว เขียนบท และควมคุมการเลือกนักแสดง อีกด้วย 

(อย่างที่รู้กันดี  Avatar: The Last Airbender เคยเป็นภาพยนตร์มาก่อนใน ปี 2010 แต่ทำออกมาแย่เลยจบไม่สวย)

แต่แล้วกลับมีข่าวออกมาว่า Michael Dante DiMartino และ Bryan Konietzko สองผู้สร้างอนิเมชั่น  ประกาศถอนตัวจากโปรเจ็กนี้ไปที่สุด 

ซึ่งMichael Dante DiMartino ได้เขียนข้อความถึงเหตุผลที่ถอนตัวออกจากโปรเจค Avatar: The Last Airbender ฉบับคนแสดง ไว้ว่า

"จนหมายถึง ATLA "

"หลายๆคนได้ขอให้ผมอัพเดตเกี่ยวกับ live action ตลอดในที่สุดผมก็บอกได้สักทีว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจ็กอีกต่อไปแล้ว ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 2 ปีแห่งการพัฒนาผลงาน Bryan Konietzko และผมตัดสินใจแล้วว่าจะถอนตัวออกจากโปรดักชั่น

ตอนที่ Bryanและผมเริ่มโปรเจ็กในปี 2018ถูกว่าจ้างในนามของ executive producer และ showrunner ตอนประกาศว่าจะทำเป็นซีรีย์ ทาง Netflix บอกผมว่าจะให้เกียรติวิศัยทัศน์ของพวกเรา ในการเล่าและสร้างตัวซีรีย์ และพวกเราก็ตื่นเต้นมากๆกับโอกาศที่ได้เป็นหัวเรือของเรื่อง แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเราหวังไว้

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การถ่ายทำมันท้าทาย เกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน และเมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นในอาชีพของผม ผมพยายามทำตัวแบบเผ่าวายุและปรับตัว ผมพยายามปรับตัวให้ดีที่สุด ไม่ว่าอุปสรรคใดจะมาขวางทาง แต่แม้แต่ชาวเผ่าวายุก็รู้ดี เมื่อยามที่สละและมุ่งหน้าต่อ

ผมได้ประเมินสิ่งที่สำคัญในชีวิต และสิ่งที่อยากทำให้กับสิ่งที่เหลืออยู่ ผมใช้คำแนะนำจากลุง Iroh ผมมองลึกเข้าไปข้างในและถามตัวเองครั้งใหญ่ว่า  "เจ้าเป็นใครและเจ้าต้องการอะไร?" 

ผมศึกษานักปรัชญาผู้ชำนาญการแยกระหว่างสิ่งที่เราควบคุมได้และไม่ได้ ผมรู้ตัวว่าผมคงไม่สามารถควบคุมทิศทางการสร้างของซีรีย์นี้ แต่ผมควบคุมคำตอบของผมได้ ผมจึงเลือกถอนตัวจากโปรเจ็ก มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในอาชีพเลยและแน่นอนว่าผมไม่ได้ออกมาส่งๆ แต่เพราะมันจำเป็นและซื่อสัตย์กับความคิดสร้างสรรค์และความสุขของผม

แต่ใครจะไปรู้ล่ะ Netflix สามารถพอจะปรับแต่ง Avatar ให้ออกมาดีได้ จนอาจเป็นเรื่องที่พวกคุณหลายๆคนชอบ แต่สิ่งที่ผมแน่ใจในเวอร์ชั่นที่จะออกฉาย มันจะไม่ใช้สิ่งที่ Bryan และผมคิดและเจตนาให้มันเป็นแน่

ผมยังอยากบอกอีกให้ชัดอีกว่า นี้ไม่ใช้จุดจบผมยังเกี่ยวข้องกับ Avatar universe อยู่เรื่องราวและตัวละครเหล่านี้สำคัญสำหรับผมผมเห็นการเริ่มต้นใหม่และความตื่นเต้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Avatar และ korra

การเขียนจดหมายฉบับนี้ทำให้ผมทุกข์ใจยิ่ง ผมรู้ว่าพวกคุณหลายคนจะผิดหวังและหงุดหงิดกับข่าวนี้ ผมเข้าใจดี ผมก็เช่นกันที่ท้อแท้และหัวเสียแบบพวกคุณ และผมก็รู้ดีว่าปัญหาเรื่องความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นเรื่องเล็กไปเลย เมื่อเทียบกับปัญหาสังคมที่พวกเราเผชิญอยู่ตอนนี้

โชคดีที่ Iroh ได้ให้คำสอนกับผมอีกอย่างไว้ด้วย "บางครั้งชีวิตก็เหมือนกับอุโมงค์มืดนี้เจ้ามองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอไป แต่ถ้าเจ้าเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เจ้าจะพบกับที่ๆ ดีกว่าเสมอ" 

ขอให้พวกเราทุกคนเดินหน้าต่อไป พบกับสิ่งดี ๆ

ขอบคุณที่อ่านและติดตาม Avatar universe อย่างใจจดใจจ่อ

ขอบคุณ

Michael Dante DiMartino"

แปลโดย ช่อง DeftSheep จากYoutude 

พอผมทราบข่าวจึงตามไปอ่าน กระทู้ reddit ของพวกฝรั่ง ทุกคนต่างพากันวิจารณ์เรื่องนี้กันยกใหญ่ พวกเขาพูดว่าสาเหตุที่สองผู้สร้างอวตารถอนตัวอันเป็นผลมาจากความไม่ลงลอยกันกับสตูดิโอ นอกจากนี้ยังมีบ้างคนเสนอความเห็นว่า

(อันนี้ผมไม่รู้ว่าในประเทศจีนมีการดู Netflix หรือเปร่า) สาเหตุที่ทั้งสองขัดแย้งกับสตูดิโออันเนื่องมาจาก การดัดแปลงนั้น ทาง Netflix พยายามดัดแปลงเผ่าวายุให้มีวัฒนธรรมอื่นที่ไม่มีความใกล้เคียงกับทิเบต อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมเผ่าวายุนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากทิเบต ซึ่งทาง  Netflix นั้นคงกังวลว่ามันจะไม่สามารถเข้าไปฉายในจีนได้เพราะความละเอียดอ่อนในเรื่องการเมือง (ทิเบตนั้นถูกจีนยึดครองและกลืนกิน ถึงแม่ในการ์ตูนจะเขียนว่าเผ่าวายุนั้นถูกชาวประเทศอัคคีล้างบ้าง(ชาวประเทศอัคคีมีวัฒนธรรมคล้ายเกาหลีแลญี่ปุ่น) แต่ก็เหมือนผู้สร้างพยายามสอดแทรกประวัติศาสตร์ความจริงของโลกไว้นั้นคือประวัตศาสตร์จีนแดงบุกยึดทิเบตและลบวัฒนธรรมกับภาษาของพวกเขา) ทำให้พวกเขานั้นพยายามดัดแปลงเผ่าวายุให้ไม่มีความใกล่เคียงกับวัฒนธรรมของทิเบต

แล้วพวกคุณคิดว่าสาเหตุที่ผู้สร้าง อวตารถอนตัวไปนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร