ผมเป็นทาสพระพุทธศาสนา......หรือไม่
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุจริต ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน
คือ กายสุจริต ๑ วจีสุจริต ๑ มโนสุจริต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สุจริต ๓ อย่างนี้แล ฯ
......บุคคลผู้มีปัญญา ละกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
และไม่กระทำอกุศลกรรมอย่างอื่น อันประกอบด้วยโทษ
กระทำกุศลเป็นอันมาก เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสวรรค์......
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้สะอาด ๓ อย่างนี้
๓ อย่างเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้สะอาดทางกาย ๑
ความเป็นผู้สะอาดทางวาจา ๑ ความเป็นผู้สะอาดทางใจ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้สะอาด ๓ อย่างนี้แล ฯ
......พระอริยะเจ้าทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าว
บุคคลผู้สะอาดทางกาย ผู้สะอาดทางวาจา ผู้สะอาดทางใจ
ผู้หาอาสวะมิได้ ว่าเป็นผู้สะอาด ผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นผู้สะอาด
ผู้ละกิเลสทั้งปวงเสียได้ ฯ
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้รู้ ๓ อย่างนี้
๓ อย่างเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้รู้ทางกาย ๑ ความเป็นผู้รู้ทางวาจา ๑
ความเป็นผู้รู้ทางใจ ๑ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ความเป็นผู้รู้ ๓ อย่างนี้แล ฯ
......พระอริยเจ้าทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าว
บุคคลผู้รู้ทางกาย ผู้รู้ทางวาจา ผู้รู้ทางใจ ผู้หาอาสวะมิได้
ว่าเป็นมุนี ผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นมุนี มีบาปอันล้างแล้ว ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ......
ผมเป็นบุคคลผู้มีสัทธา มีความเพียร มีสติ ในธรรมสามอย่างนี้
มีความมุ่งมั่นเพื่อให่เกิด สมาธิ และ ปัญญา
เพื่อนสมาชิกมีความเห็นว่า ผมเป็นทาสพระพุทธศาสนา
หรือไม่ครับ ......
ผมเป็นทาสพระพุทธศาสนา......หรือไม่
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุจริต ๓ อย่างนี้ ๓ อย่างเป็นไฉน
คือ กายสุจริต ๑ วจีสุจริต ๑ มโนสุจริต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สุจริต ๓ อย่างนี้แล ฯ
......บุคคลผู้มีปัญญา ละกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
และไม่กระทำอกุศลกรรมอย่างอื่น อันประกอบด้วยโทษ
กระทำกุศลเป็นอันมาก เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสวรรค์......
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้สะอาด ๓ อย่างนี้
๓ อย่างเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้สะอาดทางกาย ๑
ความเป็นผู้สะอาดทางวาจา ๑ ความเป็นผู้สะอาดทางใจ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้สะอาด ๓ อย่างนี้แล ฯ
......พระอริยะเจ้าทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าว
บุคคลผู้สะอาดทางกาย ผู้สะอาดทางวาจา ผู้สะอาดทางใจ
ผู้หาอาสวะมิได้ ว่าเป็นผู้สะอาด ผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นผู้สะอาด
ผู้ละกิเลสทั้งปวงเสียได้ ฯ
......ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นผู้รู้ ๓ อย่างนี้
๓ อย่างเป็นไฉน คือ ความเป็นผู้รู้ทางกาย ๑ ความเป็นผู้รู้ทางวาจา ๑
ความเป็นผู้รู้ทางใจ ๑ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย ความเป็นผู้รู้ ๓ อย่างนี้แล ฯ
......พระอริยเจ้าทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้กล่าว
บุคคลผู้รู้ทางกาย ผู้รู้ทางวาจา ผู้รู้ทางใจ ผู้หาอาสวะมิได้
ว่าเป็นมุนี ผู้ถึงพร้อมด้วยความเป็นมุนี มีบาปอันล้างแล้ว ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ......
ผมเป็นบุคคลผู้มีสัทธา มีความเพียร มีสติ ในธรรมสามอย่างนี้
มีความมุ่งมั่นเพื่อให่เกิด สมาธิ และ ปัญญา
เพื่อนสมาชิกมีความเห็นว่า ผมเป็นทาสพระพุทธศาสนา
หรือไม่ครับ ......