ผลสกอร์คือ ซัปโปโร โดนไป 6-1
ดูแล้วนึกถึงทีมชาติไทย โดยเฉพาะยุคคัดบอลโลกของคุณซิโก้ ไม่ว่าจะแผน สกิลผู้เล่น หรือสภาพจิตใจ เริ่มมาคือสู้ได้เลยนะ ออกได้ทั้งสามหน้า ถ้าวัดแค่รูปเกมและจังหวะของช่วงต้นเกม แต่พอเวลาผ่านไป ความผิดพลาดมันก็มักจะเกิดขึ้น ความฟิตอาจจะส่วนนึง แต่ตอนเจอบางทีมที่สภาพความฟิตพอ ๆ กัน ก็ออกหน้าเดิม คือถ้าคิดกันแบบหยาบ ๆ เลย ฟุตบอล มันก็ขึ้นอยู่กับสามสิ่ง ความฟิต, ความเคี่ยว และลูกปาฏิหารย์ ดูลีกแข็ง ๆ ที่ความฟิตเค้าอยู่ในระดับสูงทันกัน ความเคี่ยวถึงเกิดขึ้น ความเคี่ยวในแผน ในแท็กติก ใครจะหลุดก่อน หลาย ๆ นัด ต้องถึงกับพึ่งลูกปาฎิหารย์ แต่ถ้าทีมไหนฟิตไม่พอ ก็โดนโถม หรือถ้าความฟิตถึง แต่ไม่เคี่ยวพอ ยืนระยะนานไม่ได้ หลุดแท็กติก ก็นำไปสู่ความพ่ายแพ้ ส่วนตัวมองว่าทีมไทยชาติไทยมีปัญหาคาบเกี่ยวกันระหว่างความฟิตกับตวามเคี่ยว คือ เราไม่มีความฟิตมากพอ เป็นปัญหาแรกที่เราต้องแก้ แต่พอเจอทีมที่ความฟิตพอกัน เราก็เคี่ยวไม่พอ มีหลุด มีหลง แล้วแพ้ไปแบบไม่น่าแพ้ อย่างเกมซัปโปโรวันนี้ ให้คนที่ไม่เคยดู J-League มาดู 23 นาทีแรก ทายไม่ถูกว่าทีมไหนทีมเต็งแชมป์ เริ่มมาคือขึงเขาซะหมดรูปเลย การเข้าทำมีมิติ เดี๋ยวยิงไกล เดี๋ยวชิ่งเข้าไปยิง ครอสข้ามไปให้ปีกเลี้ยงเข้าเขตโทษก็มา แต่สักพักคือคนละเรื่อง ความเคี่ยวไม่มี ไทยเราก็เหมือนกัน แมตช์เจอญี่ปุ่น ชิงแชมป์เอเชีย เริ่มมา 6 นาที เพลสสู้จนญี่ปุ่นต้องถอยลงไปรับอะตอนนั้น หรือ คาชิม่า เจอ เมืองทอง นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ACL ครึ่งแรกคือแลกกันสูสีเลย ช่วงท้ายครึ่งแรกโดนมุ้ยยิง มีช๊อต ถอยลงไปรับจบหมดเวลา โค้ชคาชิม่า ให้สัมภาษณ์ตอนมาคุมสมุทรปราการ ในความรู้สึกเค้า ทีมในไทย เล่นบอลบุกดี แต่เกมรับยังต้องปรับ โค้ชทีมใหญ่ ทีมเต็งแชมป์ลีกระดับเอเชียขนาดนั้น เค้ายังยอมรับเรื่องประสิทธิภาพเกมบุกของเรา คือเกมบุกเราไม่ต้องแก้แล้ว เราขาดความเคี่ยว การยืนระยะ เราต้องมาโฟกัสกันว่ามีปัญหาตรงจุดไหน ทำไมเราถึงเสียประตูง่าย
ซัปโปโร-ฟรอนตาเล่, ดูเกมวันนี้แล้วนึกถึงทีมชาติไทย
ดูแล้วนึกถึงทีมชาติไทย โดยเฉพาะยุคคัดบอลโลกของคุณซิโก้ ไม่ว่าจะแผน สกิลผู้เล่น หรือสภาพจิตใจ เริ่มมาคือสู้ได้เลยนะ ออกได้ทั้งสามหน้า ถ้าวัดแค่รูปเกมและจังหวะของช่วงต้นเกม แต่พอเวลาผ่านไป ความผิดพลาดมันก็มักจะเกิดขึ้น ความฟิตอาจจะส่วนนึง แต่ตอนเจอบางทีมที่สภาพความฟิตพอ ๆ กัน ก็ออกหน้าเดิม คือถ้าคิดกันแบบหยาบ ๆ เลย ฟุตบอล มันก็ขึ้นอยู่กับสามสิ่ง ความฟิต, ความเคี่ยว และลูกปาฏิหารย์ ดูลีกแข็ง ๆ ที่ความฟิตเค้าอยู่ในระดับสูงทันกัน ความเคี่ยวถึงเกิดขึ้น ความเคี่ยวในแผน ในแท็กติก ใครจะหลุดก่อน หลาย ๆ นัด ต้องถึงกับพึ่งลูกปาฎิหารย์ แต่ถ้าทีมไหนฟิตไม่พอ ก็โดนโถม หรือถ้าความฟิตถึง แต่ไม่เคี่ยวพอ ยืนระยะนานไม่ได้ หลุดแท็กติก ก็นำไปสู่ความพ่ายแพ้ ส่วนตัวมองว่าทีมไทยชาติไทยมีปัญหาคาบเกี่ยวกันระหว่างความฟิตกับตวามเคี่ยว คือ เราไม่มีความฟิตมากพอ เป็นปัญหาแรกที่เราต้องแก้ แต่พอเจอทีมที่ความฟิตพอกัน เราก็เคี่ยวไม่พอ มีหลุด มีหลง แล้วแพ้ไปแบบไม่น่าแพ้ อย่างเกมซัปโปโรวันนี้ ให้คนที่ไม่เคยดู J-League มาดู 23 นาทีแรก ทายไม่ถูกว่าทีมไหนทีมเต็งแชมป์ เริ่มมาคือขึงเขาซะหมดรูปเลย การเข้าทำมีมิติ เดี๋ยวยิงไกล เดี๋ยวชิ่งเข้าไปยิง ครอสข้ามไปให้ปีกเลี้ยงเข้าเขตโทษก็มา แต่สักพักคือคนละเรื่อง ความเคี่ยวไม่มี ไทยเราก็เหมือนกัน แมตช์เจอญี่ปุ่น ชิงแชมป์เอเชีย เริ่มมา 6 นาที เพลสสู้จนญี่ปุ่นต้องถอยลงไปรับอะตอนนั้น หรือ คาชิม่า เจอ เมืองทอง นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ACL ครึ่งแรกคือแลกกันสูสีเลย ช่วงท้ายครึ่งแรกโดนมุ้ยยิง มีช๊อต ถอยลงไปรับจบหมดเวลา โค้ชคาชิม่า ให้สัมภาษณ์ตอนมาคุมสมุทรปราการ ในความรู้สึกเค้า ทีมในไทย เล่นบอลบุกดี แต่เกมรับยังต้องปรับ โค้ชทีมใหญ่ ทีมเต็งแชมป์ลีกระดับเอเชียขนาดนั้น เค้ายังยอมรับเรื่องประสิทธิภาพเกมบุกของเรา คือเกมบุกเราไม่ต้องแก้แล้ว เราขาดความเคี่ยว การยืนระยะ เราต้องมาโฟกัสกันว่ามีปัญหาตรงจุดไหน ทำไมเราถึงเสียประตูง่าย