ว่ากันด้วยกระแสของ WR 155 เปิดไปชแนลไหนมีแต่เรื่องนี้ .....แต่ ขออภัยนะครับ นายแบบของเราคือ KTM
เนื่องจาก ไม่มี WR 55555+ อีกเรื่องเนื่องจาก ความสามารถของผมแค่...ขี่รถไปเซเว่นได้เท่านั้น ดังนั้น ผมจะเน้นเรื่องพื้นฐานและความปลอดภัย และเทคนิคการเซ็ตรถ ที่ผมไปฟังฝรั่งโม้มาเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากปัญญาของผมเอง
เนื่องจาก สถานะการ์ณ โควิท 19 เลยทำให้มีเวลาว่างพอสมควร (24 ชั่วโมง)เลยมาเขียนบทความแบ่งปัน อีกเรื่อง ผมตกวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พิมพ์ถูกบ้างผิดบ้างขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จะให้ผมตรวจทานหรอ ท่านลืมมันไปเหอะ

สิ่ง ที่ทุกคน หลังจาก รับรถมาแล้ว (วิบาก ทุกชนิด) คือ ต้องมาปรับแต่งขั้นพื้นฐาน ให้เข้ากับสรีระของเรา โดยเริ่มจากทรงผม.....ไม่ใช่มั้ง 555+ ทรงของเบาะ เนื่องจากรถที่มีอยู่ เป็นรถแข่งโดยกำเนิด พ่อแม่เป็นใครอย่าถามผม เนื่องจากเราจะ (คล่อม)ขี่มันแล้ว
1. เริ่มจากการนั่งเลย จากตำแหน่ง น้องชาย หรือ น้องสาว ของเรา ให้ห่างจาก จุดเริ่มต้นของเบาะประมาณ 2 กำปั้น สาเหตุที่ใช้กำปั้น
เพราะจะได้ไม่ต้อง หาอะไรมาวัดอีก หรือน้องชายยาวพอชักออกมาวัดก็ไม่น่าเกลียด 5555

ขออภัยเรื่องรูป เนื่องจาก ขี้เกียจลดขนาดรูป...จริงๆคือ ทำไม่เป็น 55555+
2. หลังตั้งฉากกับตัวรถ
3. เข่าและข้อเท้าแนบสนิทกับตัวรถ
4. ปลายเท้า ใกล้กับคันเกียร์และแป้นเบรกมากที่สุด แต่ระวังปลายเท้าจะไปเขี่ยเกียร์หรือเบรคโดยไม่ตั้งใจ

5. แขนและศอกกางออกไม่แนบกับลำตัว เพราะเวลาเลี้ยวแคบๆมันจะมีวงแขนเหลือให้เลี้ยวได้ครับ
6. ฝ่ามือ เมื่อกำปลอกแฮนด์แล้วต้องสนิทพอดีไม่หักเป็นมุม ขึ้นลงหรือ ซ้ายขวา ถ้าข้อมือหักเป็นมุมซ้ายขวา แสดงว่าตำแหน่งแฮนด์ อาจจะสูงหรือต่ำ ไป ให้ปรับให้พอดีกับตัวเรา ถ้าเราไม่ปรับ ทำให้เมื่อเราขับขี่นานๆ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จะทำให้มือชา ในเวลาอันรวดเร็วครับ

7. มือเบรก มือคลัทช์ กดลงไปเป็นมุม 30 องศา ไม่มากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ และไม่ขันล็อคแน่นเกินไป สาเหตุมากจาก พอท่านเก่งขึ้น อาจทำให้มี การยืนขับขี่มากขึ้น เมื่อทำการยืนเบรก ตัวเราจะโล้ไปข้างหลัง เข่าหนีบตัวรถไว้ ถ้ามุมของมือเบรกมือคลัทช์มากไป อาจจะทำให้นิ้วเราเกี่ยวไม่ถึง ถ้าชันไปมันก็งัดนิ้วเรา ถึงตอนนั้นเราคงไปนอนในโค้งแล้ว
8. แป้น เบรก จะขนานกับพักเท้า แป้นเกียร์ก็เช่นกัน แต่แป้นเกียร์นั้นอาจจะยกสูงมาสัก 1 ฟันก็ได้ครับ
SAG Spring (Preload)
อันนี้แนนนะนำให้เปิดดูคู่มือในแต่ละยี่ห้อครับ แต่ในรถแข่งหรือตัวแข่งนั้น ระยะ 95-105 มิลลิมิเตอร์ โดยทำการวัดจาก แกนล้อหลังตั้งฉากไปถึงขอบบังโคลนหลัง โดยใช้ขาตั้งกลางดันท้องรถขี้นไปและไม่มีน้ำหนักตัวผู้ขับ L1แล้วปล่อยขาตั้งลง ผู้ขับขึ้นไปนั่งบนรถ ขย่ม 1-2 ครั้ง ขาทั้ง 2 ข้างอยู่บนพักเท้า แนนะนำหาผู้ช่วยมากกว่า 1 คน ทำการวัดได้ค่า L2 เอา L1-L2 ปรับให้ได้ตามค่ากำหนด
SAG สำคัญ ยังงัย ไม่ปรับได้มัย ...ได้ครับ ท่านจะได้รถช๊อปเปอร์แถมมาด้วย 5555+ และเมื่อท่านขับขี่ผ่านหลุมเล็กๆ จำนวนมาก รถท่านจะโยกหน้าหลังไม่เท่ากัน มีโอกาสส่งท่านไปนอนชมดาวได้ตลอดเวลาครับ

รถบางยี่ห้อ กำหนดจุดที่จะวัดมาให้เลย แต่ถ้าไม่มีมาก็เอาปากกามาร์คไว้ก็ได้ครับ
Free SAG หลังจากปรับตั้ง SAG ได้แล้ว เมื่อรถตั้งฉากโดยไม่มีขาตั้ง เอามือยกท้ายรถ ท้ายรถจะขยับขึ้นลง ได้ 10 มิลลิเมตรโดยประมาณ ถ้าขยับไม่ได้เลย แสดงว่าท่านหนักเกินสปริงที่ติดรถมาครับ และท่านต้องไปศึกษาเรื่อง Spring rate อีกทีครับ

โช้ค หน้า หัวกลับ (69)
อันนี้มีทริค นิดหน่อย ให้คลายน็อตล็อคแกนออก 1 ข้าง แล้วขย่ม โช้คหน้า (กดเบรกมือ) 2-3 ครั้ง จนมั่นใจว่าแกนโช้คขนาน แล้วจึงทำการล็อคน็อตแกนล้อ เพราะถ้าไม่ทำตรงนี้จะมีสองอาการที่ตามมาครับ
1. ซีลโช้ครั่วเร็วมาก
2. เวลารถลอย ไม่ว่าจงใจหรือไม่ระวัง ตอนรถตกลงมารถจะให้อาการเอียงไปด้านหนึ่ง ถ้าเป็นมือใหม่ อาจจะส่งท่านไปนอนที่พื้นได้ครับ

ทริค ที่สอง น็อตแผงคอล็อคแกนโช้ค ทั้งล่าง บน อันนี้ เปิดคู่มือรถครับ ถ้า เคทีเอ็ม แผงล่าง 12 Nm แผงบน 17 Nm ถามว่าสำคัญมัย บอกเลยว่าสำคัญมาก ถ้าเราขันแน่นมาก จะทำให้โช้คหน้าทำงานไม่สะดวก ใช้ไปสักระยะรั่ว ซ่อมไม่หาย เพราะปลอกประคองด้านในมันสึกไปมาก แต่สำหรับรถแข่งมีเปลี่ยน
โช้ค หลัง น็อคล็อคตัวโช้ค ล่างบน ก็ต้องขันปอนด์ เช่นกัน ถ้าขันแน่นไป อาการที่เจอบ่อยคือ แกนโช้คขาดตรงเกลียว ผมเห็น CRF L ไปเปลี่ยน โช้ค ขาดประจำบริเวณนี้ครับ คงจบแค่นี้ก่อนครับ อ่อ เกือบลืม เรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย จัดหาตามกำลังทรัพย์ครับ แต่แน้นว่าต้องมีครับ หมวก การ์ดคอ เกาะ นอกในแล้วแต่สะดวก มือใหม่แนนะนำเกาะนอกแบบเต็มตัว เพราะมันจะคลุมร่างกายมากว่าจนถึงไหล่เลย ถ้าลุยหนักๆสเตย์รัดท้องต้องมีครับ การ์ดเข่าถ้ามีกำลังทรัพย์จัดแบบกันบิดได้ครับ เพราะค่าผ่าเข่าครั้งละสองแสน และอาจกลับมาขี่ไม่ได้ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา รองเท้าถ้าเข้าป่าแนนะนำพื้นเย็บครับ เพราะโดนน้ำบ่อยๆพื้นจะได้ไม่หลุด ถ้าแข่งขัน แนนะนำรุ่นท็อปของทุกยี่ห้อครับแต่ปัญหารุ่นท็อปคือ โดนน้ำแล้วเหม็นมาก โดนแดดมากล่อนหลุดเป็นชิ้นๆ ....นอกนั้นถ้ายังมีเวลาว่าง จะมาต่อเรื่องเทคนิคขับขี่รถวิบากเบื่องต้นครับ 101 ส่วนเรื่องการปรับโช้คหน้าหลัง จะเอาไว้ตอนที่สองเช่นกัน
“ มาขับรถ วิบากกัน เหอะ “ EP.1
เนื่องจาก ไม่มี WR 55555+ อีกเรื่องเนื่องจาก ความสามารถของผมแค่...ขี่รถไปเซเว่นได้เท่านั้น ดังนั้น ผมจะเน้นเรื่องพื้นฐานและความปลอดภัย และเทคนิคการเซ็ตรถ ที่ผมไปฟังฝรั่งโม้มาเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากปัญญาของผมเอง
เนื่องจาก สถานะการ์ณ โควิท 19 เลยทำให้มีเวลาว่างพอสมควร (24 ชั่วโมง)เลยมาเขียนบทความแบ่งปัน อีกเรื่อง ผมตกวิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พิมพ์ถูกบ้างผิดบ้างขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย จะให้ผมตรวจทานหรอ ท่านลืมมันไปเหอะ
สิ่ง ที่ทุกคน หลังจาก รับรถมาแล้ว (วิบาก ทุกชนิด) คือ ต้องมาปรับแต่งขั้นพื้นฐาน ให้เข้ากับสรีระของเรา โดยเริ่มจากทรงผม.....ไม่ใช่มั้ง 555+ ทรงของเบาะ เนื่องจากรถที่มีอยู่ เป็นรถแข่งโดยกำเนิด พ่อแม่เป็นใครอย่าถามผม เนื่องจากเราจะ (คล่อม)ขี่มันแล้ว
1. เริ่มจากการนั่งเลย จากตำแหน่ง น้องชาย หรือ น้องสาว ของเรา ให้ห่างจาก จุดเริ่มต้นของเบาะประมาณ 2 กำปั้น สาเหตุที่ใช้กำปั้น
เพราะจะได้ไม่ต้อง หาอะไรมาวัดอีก หรือน้องชายยาวพอชักออกมาวัดก็ไม่น่าเกลียด 5555
ขออภัยเรื่องรูป เนื่องจาก ขี้เกียจลดขนาดรูป...จริงๆคือ ทำไม่เป็น 55555+
2. หลังตั้งฉากกับตัวรถ
3. เข่าและข้อเท้าแนบสนิทกับตัวรถ
4. ปลายเท้า ใกล้กับคันเกียร์และแป้นเบรกมากที่สุด แต่ระวังปลายเท้าจะไปเขี่ยเกียร์หรือเบรคโดยไม่ตั้งใจ
5. แขนและศอกกางออกไม่แนบกับลำตัว เพราะเวลาเลี้ยวแคบๆมันจะมีวงแขนเหลือให้เลี้ยวได้ครับ
6. ฝ่ามือ เมื่อกำปลอกแฮนด์แล้วต้องสนิทพอดีไม่หักเป็นมุม ขึ้นลงหรือ ซ้ายขวา ถ้าข้อมือหักเป็นมุมซ้ายขวา แสดงว่าตำแหน่งแฮนด์ อาจจะสูงหรือต่ำ ไป ให้ปรับให้พอดีกับตัวเรา ถ้าเราไม่ปรับ ทำให้เมื่อเราขับขี่นานๆ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก จะทำให้มือชา ในเวลาอันรวดเร็วครับ
7. มือเบรก มือคลัทช์ กดลงไปเป็นมุม 30 องศา ไม่มากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ และไม่ขันล็อคแน่นเกินไป สาเหตุมากจาก พอท่านเก่งขึ้น อาจทำให้มี การยืนขับขี่มากขึ้น เมื่อทำการยืนเบรก ตัวเราจะโล้ไปข้างหลัง เข่าหนีบตัวรถไว้ ถ้ามุมของมือเบรกมือคลัทช์มากไป อาจจะทำให้นิ้วเราเกี่ยวไม่ถึง ถ้าชันไปมันก็งัดนิ้วเรา ถึงตอนนั้นเราคงไปนอนในโค้งแล้ว
8. แป้น เบรก จะขนานกับพักเท้า แป้นเกียร์ก็เช่นกัน แต่แป้นเกียร์นั้นอาจจะยกสูงมาสัก 1 ฟันก็ได้ครับ
SAG Spring (Preload)
อันนี้แนนนะนำให้เปิดดูคู่มือในแต่ละยี่ห้อครับ แต่ในรถแข่งหรือตัวแข่งนั้น ระยะ 95-105 มิลลิมิเตอร์ โดยทำการวัดจาก แกนล้อหลังตั้งฉากไปถึงขอบบังโคลนหลัง โดยใช้ขาตั้งกลางดันท้องรถขี้นไปและไม่มีน้ำหนักตัวผู้ขับ L1แล้วปล่อยขาตั้งลง ผู้ขับขึ้นไปนั่งบนรถ ขย่ม 1-2 ครั้ง ขาทั้ง 2 ข้างอยู่บนพักเท้า แนนะนำหาผู้ช่วยมากกว่า 1 คน ทำการวัดได้ค่า L2 เอา L1-L2 ปรับให้ได้ตามค่ากำหนด
SAG สำคัญ ยังงัย ไม่ปรับได้มัย ...ได้ครับ ท่านจะได้รถช๊อปเปอร์แถมมาด้วย 5555+ และเมื่อท่านขับขี่ผ่านหลุมเล็กๆ จำนวนมาก รถท่านจะโยกหน้าหลังไม่เท่ากัน มีโอกาสส่งท่านไปนอนชมดาวได้ตลอดเวลาครับ
รถบางยี่ห้อ กำหนดจุดที่จะวัดมาให้เลย แต่ถ้าไม่มีมาก็เอาปากกามาร์คไว้ก็ได้ครับ
Free SAG หลังจากปรับตั้ง SAG ได้แล้ว เมื่อรถตั้งฉากโดยไม่มีขาตั้ง เอามือยกท้ายรถ ท้ายรถจะขยับขึ้นลง ได้ 10 มิลลิเมตรโดยประมาณ ถ้าขยับไม่ได้เลย แสดงว่าท่านหนักเกินสปริงที่ติดรถมาครับ และท่านต้องไปศึกษาเรื่อง Spring rate อีกทีครับ
โช้ค หน้า หัวกลับ (69)
อันนี้มีทริค นิดหน่อย ให้คลายน็อตล็อคแกนออก 1 ข้าง แล้วขย่ม โช้คหน้า (กดเบรกมือ) 2-3 ครั้ง จนมั่นใจว่าแกนโช้คขนาน แล้วจึงทำการล็อคน็อตแกนล้อ เพราะถ้าไม่ทำตรงนี้จะมีสองอาการที่ตามมาครับ
1. ซีลโช้ครั่วเร็วมาก
2. เวลารถลอย ไม่ว่าจงใจหรือไม่ระวัง ตอนรถตกลงมารถจะให้อาการเอียงไปด้านหนึ่ง ถ้าเป็นมือใหม่ อาจจะส่งท่านไปนอนที่พื้นได้ครับ
ทริค ที่สอง น็อตแผงคอล็อคแกนโช้ค ทั้งล่าง บน อันนี้ เปิดคู่มือรถครับ ถ้า เคทีเอ็ม แผงล่าง 12 Nm แผงบน 17 Nm ถามว่าสำคัญมัย บอกเลยว่าสำคัญมาก ถ้าเราขันแน่นมาก จะทำให้โช้คหน้าทำงานไม่สะดวก ใช้ไปสักระยะรั่ว ซ่อมไม่หาย เพราะปลอกประคองด้านในมันสึกไปมาก แต่สำหรับรถแข่งมีเปลี่ยน
โช้ค หลัง น็อคล็อคตัวโช้ค ล่างบน ก็ต้องขันปอนด์ เช่นกัน ถ้าขันแน่นไป อาการที่เจอบ่อยคือ แกนโช้คขาดตรงเกลียว ผมเห็น CRF L ไปเปลี่ยน โช้ค ขาดประจำบริเวณนี้ครับ คงจบแค่นี้ก่อนครับ อ่อ เกือบลืม เรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย จัดหาตามกำลังทรัพย์ครับ แต่แน้นว่าต้องมีครับ หมวก การ์ดคอ เกาะ นอกในแล้วแต่สะดวก มือใหม่แนนะนำเกาะนอกแบบเต็มตัว เพราะมันจะคลุมร่างกายมากว่าจนถึงไหล่เลย ถ้าลุยหนักๆสเตย์รัดท้องต้องมีครับ การ์ดเข่าถ้ามีกำลังทรัพย์จัดแบบกันบิดได้ครับ เพราะค่าผ่าเข่าครั้งละสองแสน และอาจกลับมาขี่ไม่ได้ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา รองเท้าถ้าเข้าป่าแนนะนำพื้นเย็บครับ เพราะโดนน้ำบ่อยๆพื้นจะได้ไม่หลุด ถ้าแข่งขัน แนนะนำรุ่นท็อปของทุกยี่ห้อครับแต่ปัญหารุ่นท็อปคือ โดนน้ำแล้วเหม็นมาก โดนแดดมากล่อนหลุดเป็นชิ้นๆ ....นอกนั้นถ้ายังมีเวลาว่าง จะมาต่อเรื่องเทคนิคขับขี่รถวิบากเบื่องต้นครับ 101 ส่วนเรื่องการปรับโช้คหน้าหลัง จะเอาไว้ตอนที่สองเช่นกัน