ขออนุญาตแอดมิน pantip นะครับ วันนี้ไม่ได้มาขายของ แต่อยากจะมาแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์ที่ผ่านมา
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมไม่ได้เป็นคนร่ำรวย หรือประสบความสำเร็จ ในชีวิตทุกๆด้าน แต่ผมแค่อยากบอกว่า ผมสามารถก้าวผ่านเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต และเริ่มมองชีวิตในด้านบวก เมื่อก่อนผมคิดว่าการเรียนจบทำงานดีๆมีหน้าที่การงานมั่นคง หรือเป็นข้าราชการ จะทำให้เราสบาย และรวยขึ้น (อันนี้แล้วแต่คนนะครับความสุขและความพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน)
แต่ผมจะเล่าในส่วนของผมให้ฟัง เพราะตลอดเกือบครึ่งชีวิตผมเป็นแบบนั่นมาตลอด ล้มลุกคลุกคลาน สมหวังบ้างผิดหวังบ้าง แต่ผมยอมรับตัวเองเป็นคนทะเยอทะยาน ไม่หยุดอยู่ที่เดิม (เหมือนจะดี )ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขายลูกชิ้นทอด ที่เป็นแบบรถพ่วง ขายของตามงานวัด ขายกับข้าวตลาดนัด ขายเสื้อผ้ามือสอง ทำมาหมด ตอนเราขายของเราก็แอบมองคนอื่นทำไมชีวิตเค้าดีจัง ทำไมเราลำบากจังทำงานเงินเดือนก็น้อยต้องคอยหาอาชีพเสริม เพิ่งมารู้ว่าตอนนั่นเราคิดผิดเพราะสิ่งที่เราทำ เรามองแค่ว่าต้องการเงิน ทำงานเพื่อให้ได้เงิน การมีเงินทำให้เรามีความสุข แต่เราไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าเราทำงานเพื่อให้ได้ความรู้เราและพัฒฒนาตัวเอง มันน่าจะดีกว่า
ผมก็เลยเปลี่ยนชีวิตตัวเองพยายามอ่านหนังสือ พัฒนาความรู้ทั้งที่ก่อนหน้านั่น ไม่ค่อยสนใจ และทำงานหนักจนได้เลื่อนตำแหน่งเกือบทุกปี(เพราะผมเริ่มจากตำแหน่งเล็กๆประมาณช่างเทคนิค) เจ้านายรัก และเอ็นดู ผมก็รู้สึก มีพลังและคิดว่าตัวเองเก่ง และมีศักยภาพ มีความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป คือคิดไปก่อนว่าปีหน้าเงินเดือนต้องขึ้นเท่านั่นเท่านี้ ตอนนั่นคิดอย่างเดียว ทำงานเพื่อเงิน เอาเวลาให้กับบริษัท ล่วงเวลา เสาร์อาทิตย์ทำหมด เหมือนคนติดกับดัก กับมนุษย์เงินเดือน แต่ถามว่ามีเงินเพิ่มขึ้นไหม ไม่เลยครับ ทุกสิ้นเดือนวนอยู่กับ ธนาคาร จ่ายค่าบ้าน ค่ารถยนต์จิปาถะ ไม่เคยคิดที่จะแบ่งเงินมาลงทุน
จนชีวิตผมหักเห ทุลักทุเล ได้มาอยู่ที่ ออสเตรเลีย มาได้แบบงงๆ มาอยู่ที่นี้ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ทำร้านอาหารไทย ทำคาเฟ่ ทำร้านอิตาเลียน ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คือคิดว่าการทำงานหนัก และเยอะจะทำให้รวย แต่ตอนนั้นมันก็พอมีจริงเพราะค่าเงินยังสูงอยู่น่าจะประมาณ 27-30฿/$1 ส่งกลับไทย ฝากไว้ในบัญชีอย่างเดียว ไม่เคยคิดที่จะลงทุนอะไร
จนกระทั่งผมมาเจอผู้มีพระคุญ แนะนำให้ผมรู้จักการลงทุน ผมก้อนำเงินที่เก็บไว้ที่เมืองไทยและที่ได้จากงานแต่ง เพราะแม่แฟนเค้ายกสินสอดให้กลับคืนเพื่อมาลงทุน ลืมบอกว่าผมกลับไปแต่งงานที่เมืองไทย แล้วกลับมาออสเตรเลียอีกครั้ง ผมก็มาเปิดร้านอาหารไทย เปิดมาได้ 2 ปี ก้อไม่ได้แย่มาก แต่พอมาถึงสถานการณ์โควิด แบบนี้ผมก็ยังมีร้านที่ยังพอหล่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัว มีงานให้น้องๆทำบ้างมีกำลังที่จะช่วยเหลือคนอื่นตอนยากลำบากผมก็เลยคิดกลับไปถ้าผมยังเป็นลูกจ้างทำงานเพื่อเงิน ตอนนี้ผมก็คงตกงาน ไม่มีเงินพอที่จะจุนเจือครอบครัว ที่อยากจะสื่อให้ทุกคน ทำงานทุกอย่างขอให้คิดว่าทำเพื่อความรู้และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ ทำเพื่อพัฒนาตัวเอง และหาโอกาสในการลงทุน อย่ายึดติดกับงานที่คิดว่ามั่นคง เมื่อใดที่เราหยุดทำงานแล้วเรายังมีรายได้ เลี้ยงครอบได้ นั่นแหละ คือความรวยที่จริง และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆนักเรียนทุกคนอย่าท้อนะครับ อดทนก้าวผ่านสถานการณ์ โควิดนี้ไปให้ได้ ขอโทษอาจจะเขียนยาวและเยิ่นเย้อไปหน่อย แต่ทุกอย่างคือความจริงใจที่อยากจะสื่อครับ
ชีวิตที่ต้องสู้ในต่างประเทศ(Melbourne Australia)ในสถานการณ์โควิด
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าผมไม่ได้เป็นคนร่ำรวย หรือประสบความสำเร็จ ในชีวิตทุกๆด้าน แต่ผมแค่อยากบอกว่า ผมสามารถก้าวผ่านเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต และเริ่มมองชีวิตในด้านบวก เมื่อก่อนผมคิดว่าการเรียนจบทำงานดีๆมีหน้าที่การงานมั่นคง หรือเป็นข้าราชการ จะทำให้เราสบาย และรวยขึ้น (อันนี้แล้วแต่คนนะครับความสุขและความพอใจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน)
แต่ผมจะเล่าในส่วนของผมให้ฟัง เพราะตลอดเกือบครึ่งชีวิตผมเป็นแบบนั่นมาตลอด ล้มลุกคลุกคลาน สมหวังบ้างผิดหวังบ้าง แต่ผมยอมรับตัวเองเป็นคนทะเยอทะยาน ไม่หยุดอยู่ที่เดิม (เหมือนจะดี )ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ขายลูกชิ้นทอด ที่เป็นแบบรถพ่วง ขายของตามงานวัด ขายกับข้าวตลาดนัด ขายเสื้อผ้ามือสอง ทำมาหมด ตอนเราขายของเราก็แอบมองคนอื่นทำไมชีวิตเค้าดีจัง ทำไมเราลำบากจังทำงานเงินเดือนก็น้อยต้องคอยหาอาชีพเสริม เพิ่งมารู้ว่าตอนนั่นเราคิดผิดเพราะสิ่งที่เราทำ เรามองแค่ว่าต้องการเงิน ทำงานเพื่อให้ได้เงิน การมีเงินทำให้เรามีความสุข แต่เราไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าเราทำงานเพื่อให้ได้ความรู้เราและพัฒฒนาตัวเอง มันน่าจะดีกว่า
ผมก็เลยเปลี่ยนชีวิตตัวเองพยายามอ่านหนังสือ พัฒนาความรู้ทั้งที่ก่อนหน้านั่น ไม่ค่อยสนใจ และทำงานหนักจนได้เลื่อนตำแหน่งเกือบทุกปี(เพราะผมเริ่มจากตำแหน่งเล็กๆประมาณช่างเทคนิค) เจ้านายรัก และเอ็นดู ผมก็รู้สึก มีพลังและคิดว่าตัวเองเก่ง และมีศักยภาพ มีความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป คือคิดไปก่อนว่าปีหน้าเงินเดือนต้องขึ้นเท่านั่นเท่านี้ ตอนนั่นคิดอย่างเดียว ทำงานเพื่อเงิน เอาเวลาให้กับบริษัท ล่วงเวลา เสาร์อาทิตย์ทำหมด เหมือนคนติดกับดัก กับมนุษย์เงินเดือน แต่ถามว่ามีเงินเพิ่มขึ้นไหม ไม่เลยครับ ทุกสิ้นเดือนวนอยู่กับ ธนาคาร จ่ายค่าบ้าน ค่ารถยนต์จิปาถะ ไม่เคยคิดที่จะแบ่งเงินมาลงทุน
จนชีวิตผมหักเห ทุลักทุเล ได้มาอยู่ที่ ออสเตรเลีย มาได้แบบงงๆ มาอยู่ที่นี้ก็ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ทำร้านอาหารไทย ทำคาเฟ่ ทำร้านอิตาเลียน ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คือคิดว่าการทำงานหนัก และเยอะจะทำให้รวย แต่ตอนนั้นมันก็พอมีจริงเพราะค่าเงินยังสูงอยู่น่าจะประมาณ 27-30฿/$1 ส่งกลับไทย ฝากไว้ในบัญชีอย่างเดียว ไม่เคยคิดที่จะลงทุนอะไร
จนกระทั่งผมมาเจอผู้มีพระคุญ แนะนำให้ผมรู้จักการลงทุน ผมก้อนำเงินที่เก็บไว้ที่เมืองไทยและที่ได้จากงานแต่ง เพราะแม่แฟนเค้ายกสินสอดให้กลับคืนเพื่อมาลงทุน ลืมบอกว่าผมกลับไปแต่งงานที่เมืองไทย แล้วกลับมาออสเตรเลียอีกครั้ง ผมก็มาเปิดร้านอาหารไทย เปิดมาได้ 2 ปี ก้อไม่ได้แย่มาก แต่พอมาถึงสถานการณ์โควิด แบบนี้ผมก็ยังมีร้านที่ยังพอหล่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัว มีงานให้น้องๆทำบ้างมีกำลังที่จะช่วยเหลือคนอื่นตอนยากลำบากผมก็เลยคิดกลับไปถ้าผมยังเป็นลูกจ้างทำงานเพื่อเงิน ตอนนี้ผมก็คงตกงาน ไม่มีเงินพอที่จะจุนเจือครอบครัว ที่อยากจะสื่อให้ทุกคน ทำงานทุกอย่างขอให้คิดว่าทำเพื่อความรู้และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ ทำเพื่อพัฒนาตัวเอง และหาโอกาสในการลงทุน อย่ายึดติดกับงานที่คิดว่ามั่นคง เมื่อใดที่เราหยุดทำงานแล้วเรายังมีรายได้ เลี้ยงครอบได้ นั่นแหละ คือความรวยที่จริง และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆนักเรียนทุกคนอย่าท้อนะครับ อดทนก้าวผ่านสถานการณ์ โควิดนี้ไปให้ได้ ขอโทษอาจจะเขียนยาวและเยิ่นเย้อไปหน่อย แต่ทุกอย่างคือความจริงใจที่อยากจะสื่อครับ