💥🔥⚡️ THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น # 16 สัปดาห์ที่ 7 : 10-14 กรกฎาคม "เมื่อวันนั้นมาถึง" โดย ถุงมือ "ถังแตก" 💥🔥⚡️

กระทู้คำถาม
อมยิ้ม50
เริ่ม ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องแรก ประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 7 ครับ ^^

เรื่องนี้เกี่ยวกับนักเล่นหุ้น มีศัพท์แสงในแวดวงการเล่นหุ้นปรากฏอยู่หลายคำ...

นักลงทุนในตลาดหุ้น หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "นักเล่นหุ้น" คนหนึ่ง เคยมีชีวิตอู้ฟู่บ้านหรูรถเท่ แต่แล้ววันหนึ่งก็ประสพชะตากรรมตกต่ำเพราะผลกระทบจาก COVID-19 บ้านเมือง LOCKDOWN เศรษฐกิจถดถอยตกต่ำถึงขีดสุด เขากลายเป็นคนถังแตก จนกรอบ จนเหลือทองชิ้นสุดท้ายจะเอาไปปล่อยขายเอาเงินมาประทังชีวิต พอไปถึงร้านทองปรากฏว่ามิใช่มีแต่เขาคนเดียวที่ต้องการจะขายทองแต่มีคนรอต่อคิวกันหน้าร้านทองยาวเหยียด!

เรื่องจะจบลงอย่างไร ตามมาดูกันครับ ^^

"ขอหมี่กรอบ กับแตงโมปั่นอย่างละหนึ่งครับ" สาครพูดอย่างเลื่อนลอย

         "เหมือนเดิมนะคะ" พนักงานร้านทวนรายการอย่างคุ้นเคย

          แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิม  ผู้คนเคยขวักไขว่หายไปหมด  ไม่มีเสียงจอแจของชาวต่างชาติที่คุ้นหู  แม้แต่ในร้านก็ดูเงียบเหงา  มีเพียงเสียงเพลงคลอเบา ๆ  สีหน้าของพนักงานก็แลเศร้าสลด

          ความซบเซาทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรยากาศหมองหม่น  ในใจของสาครก็เช่นกัน  เขาก้มหน้าจ้องมองโทรศัพท์มือถืออย่างเซื่องซึมเป็นเวลานาน  มันเป็นโทรศัพท์มือสองตกรุ่น  แต่ยังคงไม่มีเสียงทักจากไลน์ที่รอคอย

          ปกติยามนี้จะมีเสียงหวานสดใส ของมาร์เก็ตติ้งสาวจากบริษัทหลักทรัพย์ ทักไลน์เพื่อให้ข้อมูลการค้าหุ้น  แม้เขาจะซื้อขายหุ้นออนไลน์  แต่เขาก็ชอบให้มาร์เก็ตติ้งโทรเข้ามาคุย ให้คำปรึกษาและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา
  
          สองสัปดาห์นี้แทบไม่มีการติดต่อเข้ามา  หรือจะมีก็แค่ บอกสถานการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และข่าวสำคัญตามหน้าที่เพียงสั้น ๆ เท่านั้น

          การไม่ได้ยินเสียงของเธอ  มันทำให้เขารู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง  แต่นั่นไม่ได้สำคัญมากไปกว่า ผลการลงทุนในหุ้น  เขาต้องเสียหายอย่างหนัก  โดยขาดทุนเป็นตัวเงินถึงเลขเจ็ดหลักปลาย ๆ  เงินที่เคยเก็บสะสมมาชั่วชีวิต ต้องมลายไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน

          สาครย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์  ซื้อหุ้นตัวไหนไม่นานก็ขึ้น  กำไรที่ได้มาอย่างง่ายดาย ทำให้เขาสามารถจับจ่ายซื้อหลาย ๆ สิ่งตามที่ใจเคยปรารถนา  ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา  จนในที่สุดเขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ  เพื่อมาเทรดหุ้นเลี้ยงชีพเพียงด้านเดียว

          ในห้วงคำนึง  เขาเคยมีรถหรู อยู่คอนโดระดับพรีเมี่ยม มีตัวเลขเจ็ดหลักปลายๆในบัญชีธนาคาร ไปทัวร์ต่างประเทศเป็นว่าเล่น  สาครสลดใจกับสภาพปัจจุบัน ที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ  ในชั่วเวลาเพียงไม่กี่เดือน ทุกสิ่งสลายไปหมด  เหลือเพียงห้องเช่าราคาถูกกับเงินติดกระเป๋าไม่มากนัก

          เสียงเรียกจากไลน์ดังขึ้น สาครรีบรับสาย

     "สวัสดีครับ น้องฝน  ผมสาครครับ"

     "ขอโทษนะคะ  คือฝนลาออกไปแล้วค่ะ  หนูมารับงานแทน เรียกหนูว่าเมย์ก็ได้นะคะ  ยินดีรับใช้ค่ะ  ติดต่อเมย์ทางไลน์เก่านี้เลย" เสียงสดใสของสาววัยทำงาน  ฟังดูเหมือนไร้เดียงสาตอบกลับมา

     "อ้าว ! แล้วทำไม น้องฝนถึงต้องออกด้วยล่ะครับ  เสียดายจัง"  ปากส่งเสียงเรียบ ๆ แต่ใจหายวาบ

     "คือมันเป็นนโยบายของทางบริษัทค่ะ  แต่เมย์ยินดีให้ข้อมูล กับช่วยซื้อขายหุ้นแทนฝนนะคะ  ขออนุญาตแจ้งข่าวของตลาดเช้านี้เลยค่ะ"

          สาครไม่ตอบ แต่รับฟังอย่างใจลอย  เขาไม่ได้ใส่ใจ กับข่าวสารสำคัญทางเศรษฐกิจ จากห้องค้าหุ้นแม้แต่น้อย  ความสับสน วิตกกังวล งุนงง ประเดประดังเข้ามา  จนกระทั่งเมย์จบการรายงาน  อันเป็นงานรูทีนของพนักงานการตลาด ที่เรียกกันว่ามาร์เก็ตติ้ง  ความคล่องแคล่วของเธอทำให้กินเวลาไม่นานนัก

     "เช้านี้จะตั้งราคา รอซื้อตัวไหนบ้างไหมคะ  เมย์ว่าตั้งซื้อราคาต่ำ ๆ ไว้ก็ดีนะคะ  ตลาดกำลังเป็นขาลง  เก็บไว้ตอนรีบาวน์ค่อยขายออกทำกำไร"

     "เอ่อ ! ขอคิดดูก่อนนะครับ แล้วผมจะไลน์หานะครับ" สาครตัดบท พร้อมกับปิดการติดต่อ

     "สงสัยคงเป็นเด็กใหม่  นี่ไม่รู้เหรอ ว่าพอร์ตเราพังป่นปี้แล้ว  ยังจะมาเชียร์ซื้ออีก  มีเงินเหลือซะที่ไหน"  สาครบ่นเบา ๆ  แต่ในใจเจ็บช้ำรุนแรง

          สิบนาฬิกาเศษ ตลาดหลักทรัพย์เปิดแล้ว  ทุกวันเวลานี้ เขาต้องรีบเปิดแอปของโบรกเกอร์ด้วยความเคยชิน  แต่วันนี้ตั้งแต่เห็นไอค่อนของแอปค้าหุ้น  เขาก็รู้สึกคลื่นไส้มวนท้อง  หมดอารมณ์ที่จะใส่ใจกับมัน  ในที่สุดเขาปิดมือถือ แล้วเหม่อมองออกไปนอกร้าน

          ความฮึกเหิมที่เคยลุกโชนในใจมอดหมดสิ้นแล้ว  มันดับสนิทในวันที่เขาถูกคอลล์มาร์จิ้น  นอกเหนือจากเงินสดที่วางไว้ในบัญชีหลักทรัพย์  เขาจะต้องเติมเงินเข้าไปอีกเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะราคาหุ้นตกหนักมาก  วันนั้นมันเหมือนฟ้าถล่ม  เขาหาเงินไม่ทัน  ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ต จึงถูกบังคับขายทิ้งโดยบริษัทหลักทรัพย์ในทันที  วิธีนี้มันเรียกกันว่า ฟอร์ซเซล

          หลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือน เมื่อสถานการณ์โควิดผ่อนปรน  ทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่เขาเคยถือเด้งขึ้นมา  จนบางตัวราคากลับมาเกือบเท่าเดิม  นั่นยิ่งเท่ากับตอกย้ำความเจ็บช้ำของเขาให้รุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ

     "ทำไมถึงซวยอย่างนี้วะ !  ไม่น่าเลย" เขาร่ำร้องในใจอย่างเจ็บปวด ทุกครั้งที่คิดถึงวันโลกาวินาศนั่น  แต่เรื่องนี้สำหรับเขา ทุกอย่างมันสายเกินแก้ไขเยียวยาเสียแล้ว

          คอนโดระดับพรีเมี่ยมที่เช่าไว้ต้องส่งคืน  รถหรูขาดส่งงวด ก็จากเขาไปในเวลาไล่เลี่ยกัน  เขากลายเป็นคนไร้อาชีพกับเงินที่เหลือติดกระเป๋าอีกไม่เท่าไร  ตอนนี้แม้แต่มาร์เก็ตติ้งสาวคู่ใจ ก็จากไปโดยไม่ร่ำลา

          อนาคต ความรุ่งโรจน์ ความมั่งคั่ง ความสุขที่คาดหวังไว้อยู่ใกล้แค่เอื้อม  แต่ทุกสิ่งได้สูญสิ้นไปต่อหน้าต่อตา ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ  

          แล้วสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คืออะไร  เขาถามตัวเองเชิงประชด  ขณะยังทำใจรับความจริงไม่ได้

     "ก็สร้อยข้อมือทองคำหนักหนึ่งบาท  ที่เคยซื้อไว้ เตรียมให้เป็นรางวัลน้องฝน  ตอนพอร์ตหุ้นได้กำไรมหาศาล"

          มันเป็นคำตอบที่ไม่น่าตอบ  แน่นอนว่า ไม่มีรางวัลสำหรับผู้แพ้  ทองคงต้องขายเป็นเงินมาประทังชีพแล้ว  ก็เงินสดมันร่อยหรอเต็มที  โชคดีในโชคร้าย  ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึงบาทละสามหมื่นบาท  นี่เป็นเหตุทำให้เขาตัดใจรีบขาย

          ไม่ช้าสาครลุกขึ้นเดินพรวดพราดออกจากร้าน  เขาตรงดิ่งไปยังห้างทอง ซึ่งตั้งอยู่อีกหัวมุมถนน

          เมื่อเดินพ้นซอยไปถึงถนน  เขาตกตะลึงกับคิวยาวเหยียด จากหน้าห้างทองมาจนจรดปากซอย  ด้วยความจำใจ เขาต่อแถวท่ามกลางควันรถและแสงแดดช่วงใกล้เที่ยง

     "อะไรวะ !  มันรับซื้อแค่บาทละสองหมื่นเจ็ด  ไม่ขายก็ไม่ได้  หมูมาถึงเขียงแล้ว  ไม่ขาย ก็ไม่รู้จะเอาอะไรกิน" เสียงบ่นของมนุษย์ป้า ซึ่งเดินสวนออกมาจากห้างทองดังเข้าหู

          ความรู้สึกอัดอั้น พลุ่งพล่านขึ้นในใจของสาครอย่างฉับพลัน  เขาล้วงกระเป๋ากางเกง ควักหาตลับใส่ทองที่ตั้งใจจะเอามาขาย  แต่ตังค์ทอนเหรียญสิบบาทจากร้านอาหารดันกระเด็นออกมา  แล้วกลิ้งไปหยุดอยู่บนพื้นผิวถนน

          อารามรีบร้อน  สาครก้าวเท้าโน้มตัวไป หวังหยิบเหรียญบนพื้นถนน  แต่มีมือหนึ่งคว้าจับเข้าที่ต้นแขน และฉุดรั้งเขาไว้

     "อย่าหยิบเหรียญสิบตัดหน้ารถสิบล้อครับ  มันไม่คุ้ม" คำเตือนดังออกมาจากปากชายผู้หวังดี ที่ได้ฉุดรั้งเขาไว้

     "ให้ตายเถอะ !" สาครสบถอย่างคนสติแตก  ก็ไอ้คำเตือนที่ว่านี้ มันดันเขียนอยู่ในตำราสอนการเล่นหุ้นเล่มแรกที่เขาอ่าน  ขนาดว่าเลิกเล่นหุ้น เพราะเจ๊งจนหมดตัวแล้ว  มันยังตามมาหลอกมาหลอนกันไม่เลิก

     "ถ้ากูใช้เงินขายทองเส้นนี้หมด  หากกูยังไม่มีงานทำ  ถึงไม่มีเหรียญสิบ กูก็จะตัดหน้ารถสิบล้อเว้ย !" สาครทำตาขวางขณะคำราม  โดยไม่เกรงใจผู้หวังดี หรือใคร ๆ ในบริเวณนั้นทั้งสิ้น

.......................

=== จบ ===

รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919
6. Psycho G
7. ruennara
8. Soul Master
9. TOSHARE - 5212378
10. WANG JIE (กรรมการ)
11. แจ๊คในสวนถั่ว
12. ดินสอสีน้ำ
13. นลินมณี
14. ป้ามล - 3650985
15. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
16. รัชต์สารินท์
17. ลุงแผน
18. ลูนาติก
19. วนิล - 3188982
20. ส.สัตยา
21. สวนดอก
22. สิงห์ริมถนน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่