เริ่ม ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องแรก ประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 7 ครับ ^^
เรื่องนี้เกี่ยวกับนักเล่นหุ้น มีศัพท์แสงในแวดวงการเล่นหุ้นปรากฏอยู่หลายคำ...
นักลงทุนในตลาดหุ้น หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "นักเล่นหุ้น" คนหนึ่ง เคยมีชีวิตอู้ฟู่บ้านหรูรถเท่ แต่แล้ววันหนึ่งก็ประสพชะตากรรมตกต่ำเพราะผลกระทบจาก COVID-19 บ้านเมือง LOCKDOWN เศรษฐกิจถดถอยตกต่ำถึงขีดสุด เขากลายเป็นคนถังแตก จนกรอบ จนเหลือทองชิ้นสุดท้ายจะเอาไปปล่อยขายเอาเงินมาประทังชีวิต พอไปถึงร้านทองปรากฏว่ามิใช่มีแต่เขาคนเดียวที่ต้องการจะขายทองแต่มีคนรอต่อคิวกันหน้าร้านทองยาวเหยียด!
เรื่องจะจบลงอย่างไร ตามมาดูกันครับ ^^
"ขอหมี่กรอบ กับแตงโมปั่นอย่างละหนึ่งครับ" สาครพูดอย่างเลื่อนลอย
"เหมือนเดิมนะคะ" พนักงานร้านทวนรายการอย่างคุ้นเคย
แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิม ผู้คนเคยขวักไขว่หายไปหมด ไม่มีเสียงจอแจของชาวต่างชาติที่คุ้นหู แม้แต่ในร้านก็ดูเงียบเหงา มีเพียงเสียงเพลงคลอเบา ๆ สีหน้าของพนักงานก็แลเศร้าสลด
ความซบเซาทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรยากาศหมองหม่น ในใจของสาครก็เช่นกัน เขาก้มหน้าจ้องมองโทรศัพท์มือถืออย่างเซื่องซึมเป็นเวลานาน มันเป็นโทรศัพท์มือสองตกรุ่น แต่ยังคงไม่มีเสียงทักจากไลน์ที่รอคอย
ปกติยามนี้จะมีเสียงหวานสดใส ของมาร์เก็ตติ้งสาวจากบริษัทหลักทรัพย์ ทักไลน์เพื่อให้ข้อมูลการค้าหุ้น แม้เขาจะซื้อขายหุ้นออนไลน์ แต่เขาก็ชอบให้มาร์เก็ตติ้งโทรเข้ามาคุย ให้คำปรึกษาและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา
สองสัปดาห์นี้แทบไม่มีการติดต่อเข้ามา หรือจะมีก็แค่ บอกสถานการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และข่าวสำคัญตามหน้าที่เพียงสั้น ๆ เท่านั้น
การไม่ได้ยินเสียงของเธอ มันทำให้เขารู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง แต่นั่นไม่ได้สำคัญมากไปกว่า ผลการลงทุนในหุ้น เขาต้องเสียหายอย่างหนัก โดยขาดทุนเป็นตัวเงินถึงเลขเจ็ดหลักปลาย ๆ เงินที่เคยเก็บสะสมมาชั่วชีวิต ต้องมลายไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน
สาครย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ ซื้อหุ้นตัวไหนไม่นานก็ขึ้น กำไรที่ได้มาอย่างง่ายดาย ทำให้เขาสามารถจับจ่ายซื้อหลาย ๆ สิ่งตามที่ใจเคยปรารถนา ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา จนในที่สุดเขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเทรดหุ้นเลี้ยงชีพเพียงด้านเดียว
ในห้วงคำนึง เขาเคยมีรถหรู อยู่คอนโดระดับพรีเมี่ยม มีตัวเลขเจ็ดหลักปลายๆในบัญชีธนาคาร ไปทัวร์ต่างประเทศเป็นว่าเล่น สาครสลดใจกับสภาพปัจจุบัน ที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในชั่วเวลาเพียงไม่กี่เดือน ทุกสิ่งสลายไปหมด เหลือเพียงห้องเช่าราคาถูกกับเงินติดกระเป๋าไม่มากนัก
เสียงเรียกจากไลน์ดังขึ้น สาครรีบรับสาย
"สวัสดีครับ น้องฝน ผมสาครครับ"
"ขอโทษนะคะ คือฝนลาออกไปแล้วค่ะ หนูมารับงานแทน เรียกหนูว่าเมย์ก็ได้นะคะ ยินดีรับใช้ค่ะ ติดต่อเมย์ทางไลน์เก่านี้เลย" เสียงสดใสของสาววัยทำงาน ฟังดูเหมือนไร้เดียงสาตอบกลับมา
"อ้าว ! แล้วทำไม น้องฝนถึงต้องออกด้วยล่ะครับ เสียดายจัง" ปากส่งเสียงเรียบ ๆ แต่ใจหายวาบ
"คือมันเป็นนโยบายของทางบริษัทค่ะ แต่เมย์ยินดีให้ข้อมูล กับช่วยซื้อขายหุ้นแทนฝนนะคะ ขออนุญาตแจ้งข่าวของตลาดเช้านี้เลยค่ะ"
สาครไม่ตอบ แต่รับฟังอย่างใจลอย เขาไม่ได้ใส่ใจ กับข่าวสารสำคัญทางเศรษฐกิจ จากห้องค้าหุ้นแม้แต่น้อย ความสับสน วิตกกังวล งุนงง ประเดประดังเข้ามา จนกระทั่งเมย์จบการรายงาน อันเป็นงานรูทีนของพนักงานการตลาด ที่เรียกกันว่ามาร์เก็ตติ้ง ความคล่องแคล่วของเธอทำให้กินเวลาไม่นานนัก
"เช้านี้จะตั้งราคา รอซื้อตัวไหนบ้างไหมคะ เมย์ว่าตั้งซื้อราคาต่ำ ๆ ไว้ก็ดีนะคะ ตลาดกำลังเป็นขาลง เก็บไว้ตอนรีบาวน์ค่อยขายออกทำกำไร"
"เอ่อ ! ขอคิดดูก่อนนะครับ แล้วผมจะไลน์หานะครับ" สาครตัดบท พร้อมกับปิดการติดต่อ
"สงสัยคงเป็นเด็กใหม่ นี่ไม่รู้เหรอ ว่าพอร์ตเราพังป่นปี้แล้ว ยังจะมาเชียร์ซื้ออีก มีเงินเหลือซะที่ไหน" สาครบ่นเบา ๆ แต่ในใจเจ็บช้ำรุนแรง
สิบนาฬิกาเศษ ตลาดหลักทรัพย์เปิดแล้ว ทุกวันเวลานี้ เขาต้องรีบเปิดแอปของโบรกเกอร์ด้วยความเคยชิน แต่วันนี้ตั้งแต่เห็นไอค่อนของแอปค้าหุ้น เขาก็รู้สึกคลื่นไส้มวนท้อง หมดอารมณ์ที่จะใส่ใจกับมัน ในที่สุดเขาปิดมือถือ แล้วเหม่อมองออกไปนอกร้าน
ความฮึกเหิมที่เคยลุกโชนในใจมอดหมดสิ้นแล้ว มันดับสนิทในวันที่เขาถูกคอลล์มาร์จิ้น นอกเหนือจากเงินสดที่วางไว้ในบัญชีหลักทรัพย์ เขาจะต้องเติมเงินเข้าไปอีกเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะราคาหุ้นตกหนักมาก วันนั้นมันเหมือนฟ้าถล่ม เขาหาเงินไม่ทัน ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ต จึงถูกบังคับขายทิ้งโดยบริษัทหลักทรัพย์ในทันที วิธีนี้มันเรียกกันว่า
ฟอร์ซเซล
หลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือน เมื่อสถานการณ์โควิดผ่อนปรน ทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่เขาเคยถือเด้งขึ้นมา จนบางตัวราคากลับมาเกือบเท่าเดิม นั่นยิ่งเท่ากับตอกย้ำความเจ็บช้ำของเขาให้รุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
"ทำไมถึงซวยอย่างนี้วะ ! ไม่น่าเลย" เขาร่ำร้องในใจอย่างเจ็บปวด ทุกครั้งที่คิดถึงวันโลกาวินาศนั่น แต่เรื่องนี้สำหรับเขา ทุกอย่างมันสายเกินแก้ไขเยียวยาเสียแล้ว
คอนโดระดับพรีเมี่ยมที่เช่าไว้ต้องส่งคืน รถหรูขาดส่งงวด ก็จากเขาไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เขากลายเป็นคนไร้อาชีพกับเงินที่เหลือติดกระเป๋าอีกไม่เท่าไร ตอนนี้แม้แต่มาร์เก็ตติ้งสาวคู่ใจ ก็จากไปโดยไม่ร่ำลา
อนาคต ความรุ่งโรจน์ ความมั่งคั่ง ความสุขที่คาดหวังไว้อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ทุกสิ่งได้สูญสิ้นไปต่อหน้าต่อตา ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ
แล้วสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คืออะไร เขาถามตัวเองเชิงประชด ขณะยังทำใจรับความจริงไม่ได้
"ก็สร้อยข้อมือทองคำหนักหนึ่งบาท ที่เคยซื้อไว้ เตรียมให้เป็นรางวัลน้องฝน ตอนพอร์ตหุ้นได้กำไรมหาศาล"
มันเป็นคำตอบที่ไม่น่าตอบ แน่นอนว่า ไม่มีรางวัลสำหรับผู้แพ้ ทองคงต้องขายเป็นเงินมาประทังชีพแล้ว ก็เงินสดมันร่อยหรอเต็มที โชคดีในโชคร้าย ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึงบาทละสามหมื่นบาท นี่เป็นเหตุทำให้เขาตัดใจรีบขาย
ไม่ช้าสาครลุกขึ้นเดินพรวดพราดออกจากร้าน เขาตรงดิ่งไปยังห้างทอง ซึ่งตั้งอยู่อีกหัวมุมถนน
เมื่อเดินพ้นซอยไปถึงถนน เขาตกตะลึงกับคิวยาวเหยียด จากหน้าห้างทองมาจนจรดปากซอย ด้วยความจำใจ เขาต่อแถวท่ามกลางควันรถและแสงแดดช่วงใกล้เที่ยง
"อะไรวะ ! มันรับซื้อแค่บาทละสองหมื่นเจ็ด ไม่ขายก็ไม่ได้ หมูมาถึงเขียงแล้ว ไม่ขาย ก็ไม่รู้จะเอาอะไรกิน" เสียงบ่นของมนุษย์ป้า ซึ่งเดินสวนออกมาจากห้างทองดังเข้าหู
ความรู้สึกอัดอั้น พลุ่งพล่านขึ้นในใจของสาครอย่างฉับพลัน เขาล้วงกระเป๋ากางเกง ควักหาตลับใส่ทองที่ตั้งใจจะเอามาขาย แต่ตังค์ทอนเหรียญสิบบาทจากร้านอาหารดันกระเด็นออกมา แล้วกลิ้งไปหยุดอยู่บนพื้นผิวถนน
อารามรีบร้อน สาครก้าวเท้าโน้มตัวไป หวังหยิบเหรียญบนพื้นถนน แต่มีมือหนึ่งคว้าจับเข้าที่ต้นแขน และฉุดรั้งเขาไว้
"อย่าหยิบเหรียญสิบตัดหน้ารถสิบล้อครับ มันไม่คุ้ม" คำเตือนดังออกมาจากปากชายผู้หวังดี ที่ได้ฉุดรั้งเขาไว้
"ให้ตายเถอะ !" สาครสบถอย่างคนสติแตก ก็ไอ้คำเตือนที่ว่านี้ มันดันเขียนอยู่ในตำราสอนการเล่นหุ้นเล่มแรกที่เขาอ่าน ขนาดว่าเลิกเล่นหุ้น เพราะเจ๊งจนหมดตัวแล้ว มันยังตามมาหลอกมาหลอนกันไม่เลิก
"ถ้ากูใช้เงินขายทองเส้นนี้หมด หากกูยังไม่มีงานทำ ถึงไม่มีเหรียญสิบ กูก็จะตัดหน้ารถสิบล้อเว้ย !" สาครทำตาขวางขณะคำราม โดยไม่เกรงใจผู้หวังดี หรือใคร ๆ ในบริเวณนั้นทั้งสิ้น
.......................
=== จบ ===
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919
6. Psycho G
7. ruennara
8. Soul Master
9. TOSHARE - 5212378
10. WANG JIE (กรรมการ)
11. แจ๊คในสวนถั่ว
12. ดินสอสีน้ำ
13. นลินมณี
14. ป้ามล - 3650985
15. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
16. รัชต์สารินท์
17. ลุงแผน
18. ลูนาติก
19. วนิล - 3188982
20. ส.สัตยา
21. สวนดอก
22. สิงห์ริมถนน
💥🔥⚡️ THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น # 16 สัปดาห์ที่ 7 : 10-14 กรกฎาคม "เมื่อวันนั้นมาถึง" โดย ถุงมือ "ถังแตก" 💥🔥⚡️
เรื่องนี้เกี่ยวกับนักเล่นหุ้น มีศัพท์แสงในแวดวงการเล่นหุ้นปรากฏอยู่หลายคำ...
นักลงทุนในตลาดหุ้น หรือที่เรียกกันสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "นักเล่นหุ้น" คนหนึ่ง เคยมีชีวิตอู้ฟู่บ้านหรูรถเท่ แต่แล้ววันหนึ่งก็ประสพชะตากรรมตกต่ำเพราะผลกระทบจาก COVID-19 บ้านเมือง LOCKDOWN เศรษฐกิจถดถอยตกต่ำถึงขีดสุด เขากลายเป็นคนถังแตก จนกรอบ จนเหลือทองชิ้นสุดท้ายจะเอาไปปล่อยขายเอาเงินมาประทังชีวิต พอไปถึงร้านทองปรากฏว่ามิใช่มีแต่เขาคนเดียวที่ต้องการจะขายทองแต่มีคนรอต่อคิวกันหน้าร้านทองยาวเหยียด!
เรื่องจะจบลงอย่างไร ตามมาดูกันครับ ^^
"เหมือนเดิมนะคะ" พนักงานร้านทวนรายการอย่างคุ้นเคย
แต่วันนี้ไม่เหมือนเดิม ผู้คนเคยขวักไขว่หายไปหมด ไม่มีเสียงจอแจของชาวต่างชาติที่คุ้นหู แม้แต่ในร้านก็ดูเงียบเหงา มีเพียงเสียงเพลงคลอเบา ๆ สีหน้าของพนักงานก็แลเศร้าสลด
ความซบเซาทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรยากาศหมองหม่น ในใจของสาครก็เช่นกัน เขาก้มหน้าจ้องมองโทรศัพท์มือถืออย่างเซื่องซึมเป็นเวลานาน มันเป็นโทรศัพท์มือสองตกรุ่น แต่ยังคงไม่มีเสียงทักจากไลน์ที่รอคอย
ปกติยามนี้จะมีเสียงหวานสดใส ของมาร์เก็ตติ้งสาวจากบริษัทหลักทรัพย์ ทักไลน์เพื่อให้ข้อมูลการค้าหุ้น แม้เขาจะซื้อขายหุ้นออนไลน์ แต่เขาก็ชอบให้มาร์เก็ตติ้งโทรเข้ามาคุย ให้คำปรึกษาและเป็นเพื่อนคุยแก้เหงา
สองสัปดาห์นี้แทบไม่มีการติดต่อเข้ามา หรือจะมีก็แค่ บอกสถานการณ์ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และข่าวสำคัญตามหน้าที่เพียงสั้น ๆ เท่านั้น
การไม่ได้ยินเสียงของเธอ มันทำให้เขารู้สึกว่า ชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง แต่นั่นไม่ได้สำคัญมากไปกว่า ผลการลงทุนในหุ้น เขาต้องเสียหายอย่างหนัก โดยขาดทุนเป็นตัวเงินถึงเลขเจ็ดหลักปลาย ๆ เงินที่เคยเก็บสะสมมาชั่วชีวิต ต้องมลายไปในเวลาเพียงไม่กี่วัน
สาครย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ ซื้อหุ้นตัวไหนไม่นานก็ขึ้น กำไรที่ได้มาอย่างง่ายดาย ทำให้เขาสามารถจับจ่ายซื้อหลาย ๆ สิ่งตามที่ใจเคยปรารถนา ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา จนในที่สุดเขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเทรดหุ้นเลี้ยงชีพเพียงด้านเดียว
ในห้วงคำนึง เขาเคยมีรถหรู อยู่คอนโดระดับพรีเมี่ยม มีตัวเลขเจ็ดหลักปลายๆในบัญชีธนาคาร ไปทัวร์ต่างประเทศเป็นว่าเล่น สาครสลดใจกับสภาพปัจจุบัน ที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในชั่วเวลาเพียงไม่กี่เดือน ทุกสิ่งสลายไปหมด เหลือเพียงห้องเช่าราคาถูกกับเงินติดกระเป๋าไม่มากนัก
เสียงเรียกจากไลน์ดังขึ้น สาครรีบรับสาย
"สวัสดีครับ น้องฝน ผมสาครครับ"
"ขอโทษนะคะ คือฝนลาออกไปแล้วค่ะ หนูมารับงานแทน เรียกหนูว่าเมย์ก็ได้นะคะ ยินดีรับใช้ค่ะ ติดต่อเมย์ทางไลน์เก่านี้เลย" เสียงสดใสของสาววัยทำงาน ฟังดูเหมือนไร้เดียงสาตอบกลับมา
"อ้าว ! แล้วทำไม น้องฝนถึงต้องออกด้วยล่ะครับ เสียดายจัง" ปากส่งเสียงเรียบ ๆ แต่ใจหายวาบ
"คือมันเป็นนโยบายของทางบริษัทค่ะ แต่เมย์ยินดีให้ข้อมูล กับช่วยซื้อขายหุ้นแทนฝนนะคะ ขออนุญาตแจ้งข่าวของตลาดเช้านี้เลยค่ะ"
สาครไม่ตอบ แต่รับฟังอย่างใจลอย เขาไม่ได้ใส่ใจ กับข่าวสารสำคัญทางเศรษฐกิจ จากห้องค้าหุ้นแม้แต่น้อย ความสับสน วิตกกังวล งุนงง ประเดประดังเข้ามา จนกระทั่งเมย์จบการรายงาน อันเป็นงานรูทีนของพนักงานการตลาด ที่เรียกกันว่ามาร์เก็ตติ้ง ความคล่องแคล่วของเธอทำให้กินเวลาไม่นานนัก
"เช้านี้จะตั้งราคา รอซื้อตัวไหนบ้างไหมคะ เมย์ว่าตั้งซื้อราคาต่ำ ๆ ไว้ก็ดีนะคะ ตลาดกำลังเป็นขาลง เก็บไว้ตอนรีบาวน์ค่อยขายออกทำกำไร"
"เอ่อ ! ขอคิดดูก่อนนะครับ แล้วผมจะไลน์หานะครับ" สาครตัดบท พร้อมกับปิดการติดต่อ
"สงสัยคงเป็นเด็กใหม่ นี่ไม่รู้เหรอ ว่าพอร์ตเราพังป่นปี้แล้ว ยังจะมาเชียร์ซื้ออีก มีเงินเหลือซะที่ไหน" สาครบ่นเบา ๆ แต่ในใจเจ็บช้ำรุนแรง
สิบนาฬิกาเศษ ตลาดหลักทรัพย์เปิดแล้ว ทุกวันเวลานี้ เขาต้องรีบเปิดแอปของโบรกเกอร์ด้วยความเคยชิน แต่วันนี้ตั้งแต่เห็นไอค่อนของแอปค้าหุ้น เขาก็รู้สึกคลื่นไส้มวนท้อง หมดอารมณ์ที่จะใส่ใจกับมัน ในที่สุดเขาปิดมือถือ แล้วเหม่อมองออกไปนอกร้าน
ความฮึกเหิมที่เคยลุกโชนในใจมอดหมดสิ้นแล้ว มันดับสนิทในวันที่เขาถูกคอลล์มาร์จิ้น นอกเหนือจากเงินสดที่วางไว้ในบัญชีหลักทรัพย์ เขาจะต้องเติมเงินเข้าไปอีกเป็นจำนวนไม่น้อย เพราะราคาหุ้นตกหนักมาก วันนั้นมันเหมือนฟ้าถล่ม เขาหาเงินไม่ทัน ดังนั้นหุ้นทุกตัวในพอร์ต จึงถูกบังคับขายทิ้งโดยบริษัทหลักทรัพย์ในทันที วิธีนี้มันเรียกกันว่า ฟอร์ซเซล
หลังจากนั้นไม่ถึงสองเดือน เมื่อสถานการณ์โควิดผ่อนปรน ทำให้ราคาหลักทรัพย์ที่เขาเคยถือเด้งขึ้นมา จนบางตัวราคากลับมาเกือบเท่าเดิม นั่นยิ่งเท่ากับตอกย้ำความเจ็บช้ำของเขาให้รุนแรงขึ้นเป็นทวีคูณ
"ทำไมถึงซวยอย่างนี้วะ ! ไม่น่าเลย" เขาร่ำร้องในใจอย่างเจ็บปวด ทุกครั้งที่คิดถึงวันโลกาวินาศนั่น แต่เรื่องนี้สำหรับเขา ทุกอย่างมันสายเกินแก้ไขเยียวยาเสียแล้ว
คอนโดระดับพรีเมี่ยมที่เช่าไว้ต้องส่งคืน รถหรูขาดส่งงวด ก็จากเขาไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เขากลายเป็นคนไร้อาชีพกับเงินที่เหลือติดกระเป๋าอีกไม่เท่าไร ตอนนี้แม้แต่มาร์เก็ตติ้งสาวคู่ใจ ก็จากไปโดยไม่ร่ำลา
อนาคต ความรุ่งโรจน์ ความมั่งคั่ง ความสุขที่คาดหวังไว้อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ทุกสิ่งได้สูญสิ้นไปต่อหน้าต่อตา ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ
แล้วสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้คืออะไร เขาถามตัวเองเชิงประชด ขณะยังทำใจรับความจริงไม่ได้
"ก็สร้อยข้อมือทองคำหนักหนึ่งบาท ที่เคยซื้อไว้ เตรียมให้เป็นรางวัลน้องฝน ตอนพอร์ตหุ้นได้กำไรมหาศาล"
มันเป็นคำตอบที่ไม่น่าตอบ แน่นอนว่า ไม่มีรางวัลสำหรับผู้แพ้ ทองคงต้องขายเป็นเงินมาประทังชีพแล้ว ก็เงินสดมันร่อยหรอเต็มที โชคดีในโชคร้าย ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปถึงบาทละสามหมื่นบาท นี่เป็นเหตุทำให้เขาตัดใจรีบขาย
ไม่ช้าสาครลุกขึ้นเดินพรวดพราดออกจากร้าน เขาตรงดิ่งไปยังห้างทอง ซึ่งตั้งอยู่อีกหัวมุมถนน
เมื่อเดินพ้นซอยไปถึงถนน เขาตกตะลึงกับคิวยาวเหยียด จากหน้าห้างทองมาจนจรดปากซอย ด้วยความจำใจ เขาต่อแถวท่ามกลางควันรถและแสงแดดช่วงใกล้เที่ยง
"อะไรวะ ! มันรับซื้อแค่บาทละสองหมื่นเจ็ด ไม่ขายก็ไม่ได้ หมูมาถึงเขียงแล้ว ไม่ขาย ก็ไม่รู้จะเอาอะไรกิน" เสียงบ่นของมนุษย์ป้า ซึ่งเดินสวนออกมาจากห้างทองดังเข้าหู
ความรู้สึกอัดอั้น พลุ่งพล่านขึ้นในใจของสาครอย่างฉับพลัน เขาล้วงกระเป๋ากางเกง ควักหาตลับใส่ทองที่ตั้งใจจะเอามาขาย แต่ตังค์ทอนเหรียญสิบบาทจากร้านอาหารดันกระเด็นออกมา แล้วกลิ้งไปหยุดอยู่บนพื้นผิวถนน
อารามรีบร้อน สาครก้าวเท้าโน้มตัวไป หวังหยิบเหรียญบนพื้นถนน แต่มีมือหนึ่งคว้าจับเข้าที่ต้นแขน และฉุดรั้งเขาไว้
"อย่าหยิบเหรียญสิบตัดหน้ารถสิบล้อครับ มันไม่คุ้ม" คำเตือนดังออกมาจากปากชายผู้หวังดี ที่ได้ฉุดรั้งเขาไว้
"ให้ตายเถอะ !" สาครสบถอย่างคนสติแตก ก็ไอ้คำเตือนที่ว่านี้ มันดันเขียนอยู่ในตำราสอนการเล่นหุ้นเล่มแรกที่เขาอ่าน ขนาดว่าเลิกเล่นหุ้น เพราะเจ๊งจนหมดตัวแล้ว มันยังตามมาหลอกมาหลอนกันไม่เลิก
"ถ้ากูใช้เงินขายทองเส้นนี้หมด หากกูยังไม่มีงานทำ ถึงไม่มีเหรียญสิบ กูก็จะตัดหน้ารถสิบล้อเว้ย !" สาครทำตาขวางขณะคำราม โดยไม่เกรงใจผู้หวังดี หรือใคร ๆ ในบริเวณนั้นทั้งสิ้น
1. Chi River
2. Christian Trevelyan Grey
3. KTHc
4. Ladylongleg - 2326325 (คุณเล็ก)
5. Lady Star 919
6. Psycho G
7. ruennara
8. Soul Master
9. TOSHARE - 5212378
10. WANG JIE (กรรมการ)
11. แจ๊คในสวนถั่ว
12. ดินสอสีน้ำ
13. นลินมณี
14. ป้ามล - 3650985
15. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
16. รัชต์สารินท์
17. ลุงแผน
18. ลูนาติก
19. วนิล - 3188982
20. ส.สัตยา
21. สวนดอก
22. สิงห์ริมถนน