ความในใจ
เนื่องจากผมได้ตั้งกระทู้สนทนาเรื่อง "ชีวิตหลังความตาย" เมื่อ 7 ส.ค. 63
https://pantip.com/topic/40113907
แต่ปรากฏว่าไม่ผ่านการพิจารณาของ Admin จึงถูกตัดแท็กออกไป 3 ห้องคือ ความเชื่อส่วนบุคล เรื่องลึกลับ และวิทยาศาสตร์
คงเหลือแต่ห้องศาสนา และศาสนาคริสต์ ผมเคารพในการตัดสินใจของ Admin แต่ผมอยากให้ทุกคนได้รับรู้เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับผม
ซึ่งอาจจะนำพาให้บางคนเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ แล้วเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งย่อมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับมนุษย์
ผมจึงขอตัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับศาสนาออกไป เพื่อให้แท็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับเนื้อหา โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผมเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง เนื่องจากผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณที่เจอด้วยตนเอง ในตอนที่ผมเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย
โดยมีรุ่นน้องคนหนึ่งมาจุดประกายให้ผมสนใจเรื่องวิญญาณว่ามีจริงหรือไม่ ? แต่ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์
ผมจึงยังคงเชื่อว่าวิญญาณไม่มีจริง
น้องคนนั้นได้บอกกับผมว่า "คนที่ทำความดีมามากจะตายสบาย ส่วนคนที่ทำบาปมามากจะตายทรมาน"
ซึ่งผมก็ไม่ได้เชื่อน้องคนนั้น แต่ผมกลับมาคิดว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แสดงว่าในโลกนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญมากต่อชีวิตของมนุษย์
แต่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังไปไม่ถึง (ยังไม่สามารถเข้าใจกลไกดังกล่าวได้) ผมจึงเริ่มต้นค้นหาข้อมูลว่า ชีวิตในบั้นปลายของมนุษย์
จะเป็นไปตามที่น้องคนนี้กล่าวไว้หรือไม่ ?
ผมจึงเริ่มศึกษาเรื่องวิญญาณอย่างจริงจัง โดยใช้วิธีอ่านเรื่องวิญญาณจากหนังสือต่างๆ หลายเล่ม เช่น ประวัติของ ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล
จนกระทั่งผมคิดว่าเรื่องวิญญาณมีมูลที่อาจเป็นเรื่องจริงได้ แต่ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ผมเชื่อว่าวิญญาณมีจริง
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมได้เจอเหตุการณ์ประหลาดเกี่ยวกับวิญญาณด้วยตนเอง ซึ่งผมไม่สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้
และไม่ได้เกิดจากการอุปทาน เหตุการณ์นั้นเองทำให้ผมเชื่อว่าวิญญาณมีจริง
หลักฐานที่แสดงว่าวิญญาณมีจริง มีให้ค้นหาอย่างมากมาย ส่วนจะเป็นหลักฐานที่เป็นจริงหรือเท็จ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่สำหรับผมแล้ว ผมได้ทำการพิสูจน์เรื่องวิญญาณด้วยตนเอง โดยมีน้องชายของผมร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่อยู่คนละสถานที่กับผม
โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน เหตุการณ์นั้นก็คือ ผมและน้องชายได้กลิ่นเหม็นในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นกลิ่นเหม็นเน่าจางๆ เหมือนกัน
จนกระทั่งน้องชายเดินทางกลับมาถึงห้องพักที่เราอยู่ (อพาร์ทเมนท์) ก็ยังได้กลิ่นเหม็นเหมือนกับผม
โดยที่ผมได้ถามน้องชายว่าได้กลิ่นเหม็นในห้องไหม ? แต่น้องชายกลับตอบว่าได้กลิ่นเหม็นตั้งแต่อยู่ที่ ม.รามฯ
แล้วได้กลิ่นเหม็นมาตลอดทางที่นั่งรถเมล์ (ธรรมดา) และในขณะที่เดินจากป้ายรถเมล์มายังห้องพักก็ได้กลิ่นเหม็นมาโดยตลอด
และยังคงได้กลิ่นเหม็นในห้องนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความผิดปกติคือ ผมและน้องชายไม่สามารถค้นหาว่าเป็นกลิ่นเหม็นของอะไร
แต่ได้กลิ่นเหม็นแรงที่สุดที่หน้าประตูห้อง ต่อมาสักพักใหญ่ๆ ผมจึงคิดได้ว่า อาจเป็นวิญญาณป้าของผมมาหาก็ได้
เนื่องจากป้าเพึ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน (ช่วงนั้นผมกำลังศึกษาเรื่องวิญญาณ แต่ผมยังไม่เชื่อ) แล้วผมก็คิดต่อไปว่า
ที่วิญญาณป้ามาหาผมและน้องชายในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะต้องการให้ผมรู้ว่าวิญญาณมีจริง เนื่องจากวิญญาณป้าสามารถสื่อสารกับผมได้
ดังนั้นเมื่อป้าทำภารกิจเสร็จแล้ว ป้าจะต้องกลับทันที เพราะฉะนั้นกลิ่นเหม็นจะต้องหายไปทันทีด้วยเช่นกัน
ปรากฏว่าผมและน้องชายไม่ได้กลิ่นเหม็นในห้องอีกเลย แต่เพื่อความมั่นใจผมจึงชวนน้องชายออกไปดมกลิ่นที่หน้าประตูห้อง
เพราะว่ามีกลิ่นเหม็นแรงที่สุด แต่น้องชายกลับไม่กล้าออกไปพิสูจน์ ผมจึงตัดสินใจออกไปที่หน้าประตูห้องคนเดียว
ปรากฏว่าผมไม่ได้กลิ่นเหม็นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก ที่กลิ่นเหม็นได้หายไปอย่างทันทีทันใด โดยไม่มีร่องรอยหลงเหลือ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผมจึงได้ไตร่ตรองอย่างหนักว่าเกิดอะไรขึ้น โดยพยายามคิดหาเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์
แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ จนในที่สุดผมจึงเชื่อว่าไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลย นอกจากเชื่อว่าวิญญาณมีจริง
ชีวิตหลังความตาย (ฉบับย่อ)
เนื่องจากผมได้ตั้งกระทู้สนทนาเรื่อง "ชีวิตหลังความตาย" เมื่อ 7 ส.ค. 63 https://pantip.com/topic/40113907
แต่ปรากฏว่าไม่ผ่านการพิจารณาของ Admin จึงถูกตัดแท็กออกไป 3 ห้องคือ ความเชื่อส่วนบุคล เรื่องลึกลับ และวิทยาศาสตร์
คงเหลือแต่ห้องศาสนา และศาสนาคริสต์ ผมเคารพในการตัดสินใจของ Admin แต่ผมอยากให้ทุกคนได้รับรู้เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นกับผม
ซึ่งอาจจะนำพาให้บางคนเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ แล้วเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งย่อมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับมนุษย์
ผมจึงขอตัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับศาสนาออกไป เพื่อให้แท็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับเนื้อหา โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผมเชื่อว่าชีวิตหลังความตายมีจริง เนื่องจากผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับวิญญาณที่เจอด้วยตนเอง ในตอนที่ผมเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย
โดยมีรุ่นน้องคนหนึ่งมาจุดประกายให้ผมสนใจเรื่องวิญญาณว่ามีจริงหรือไม่ ? แต่ผมเป็นคนที่เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์
ผมจึงยังคงเชื่อว่าวิญญาณไม่มีจริง
น้องคนนั้นได้บอกกับผมว่า "คนที่ทำความดีมามากจะตายสบาย ส่วนคนที่ทำบาปมามากจะตายทรมาน"
ซึ่งผมก็ไม่ได้เชื่อน้องคนนั้น แต่ผมกลับมาคิดว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แสดงว่าในโลกนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญมากต่อชีวิตของมนุษย์
แต่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังไปไม่ถึง (ยังไม่สามารถเข้าใจกลไกดังกล่าวได้) ผมจึงเริ่มต้นค้นหาข้อมูลว่า ชีวิตในบั้นปลายของมนุษย์
จะเป็นไปตามที่น้องคนนี้กล่าวไว้หรือไม่ ?
ผมจึงเริ่มศึกษาเรื่องวิญญาณอย่างจริงจัง โดยใช้วิธีอ่านเรื่องวิญญาณจากหนังสือต่างๆ หลายเล่ม เช่น ประวัติของ ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล
จนกระทั่งผมคิดว่าเรื่องวิญญาณมีมูลที่อาจเป็นเรื่องจริงได้ แต่ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ผมเชื่อว่าวิญญาณมีจริง
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมได้เจอเหตุการณ์ประหลาดเกี่ยวกับวิญญาณด้วยตนเอง ซึ่งผมไม่สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้
และไม่ได้เกิดจากการอุปทาน เหตุการณ์นั้นเองทำให้ผมเชื่อว่าวิญญาณมีจริง
หลักฐานที่แสดงว่าวิญญาณมีจริง มีให้ค้นหาอย่างมากมาย ส่วนจะเป็นหลักฐานที่เป็นจริงหรือเท็จ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่สำหรับผมแล้ว ผมได้ทำการพิสูจน์เรื่องวิญญาณด้วยตนเอง โดยมีน้องชายของผมร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่อยู่คนละสถานที่กับผม
โดยไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน เหตุการณ์นั้นก็คือ ผมและน้องชายได้กลิ่นเหม็นในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นกลิ่นเหม็นเน่าจางๆ เหมือนกัน
จนกระทั่งน้องชายเดินทางกลับมาถึงห้องพักที่เราอยู่ (อพาร์ทเมนท์) ก็ยังได้กลิ่นเหม็นเหมือนกับผม
โดยที่ผมได้ถามน้องชายว่าได้กลิ่นเหม็นในห้องไหม ? แต่น้องชายกลับตอบว่าได้กลิ่นเหม็นตั้งแต่อยู่ที่ ม.รามฯ
แล้วได้กลิ่นเหม็นมาตลอดทางที่นั่งรถเมล์ (ธรรมดา) และในขณะที่เดินจากป้ายรถเมล์มายังห้องพักก็ได้กลิ่นเหม็นมาโดยตลอด
และยังคงได้กลิ่นเหม็นในห้องนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความผิดปกติคือ ผมและน้องชายไม่สามารถค้นหาว่าเป็นกลิ่นเหม็นของอะไร
แต่ได้กลิ่นเหม็นแรงที่สุดที่หน้าประตูห้อง ต่อมาสักพักใหญ่ๆ ผมจึงคิดได้ว่า อาจเป็นวิญญาณป้าของผมมาหาก็ได้
เนื่องจากป้าเพึ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน (ช่วงนั้นผมกำลังศึกษาเรื่องวิญญาณ แต่ผมยังไม่เชื่อ) แล้วผมก็คิดต่อไปว่า
ที่วิญญาณป้ามาหาผมและน้องชายในครั้งนี้ อาจเป็นเพราะต้องการให้ผมรู้ว่าวิญญาณมีจริง เนื่องจากวิญญาณป้าสามารถสื่อสารกับผมได้
ดังนั้นเมื่อป้าทำภารกิจเสร็จแล้ว ป้าจะต้องกลับทันที เพราะฉะนั้นกลิ่นเหม็นจะต้องหายไปทันทีด้วยเช่นกัน
ปรากฏว่าผมและน้องชายไม่ได้กลิ่นเหม็นในห้องอีกเลย แต่เพื่อความมั่นใจผมจึงชวนน้องชายออกไปดมกลิ่นที่หน้าประตูห้อง
เพราะว่ามีกลิ่นเหม็นแรงที่สุด แต่น้องชายกลับไม่กล้าออกไปพิสูจน์ ผมจึงตัดสินใจออกไปที่หน้าประตูห้องคนเดียว
ปรากฏว่าผมไม่ได้กลิ่นเหม็นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก ที่กลิ่นเหม็นได้หายไปอย่างทันทีทันใด โดยไม่มีร่องรอยหลงเหลือ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผมจึงได้ไตร่ตรองอย่างหนักว่าเกิดอะไรขึ้น โดยพยายามคิดหาเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์
แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ จนในที่สุดผมจึงเชื่อว่าไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลย นอกจากเชื่อว่าวิญญาณมีจริง