มีหลายครั้งที่คิดจะไม่อยากอยู่โลกนี้แล้ว เราเป็นลูกคนโตมีน้องชาย1คน ปัจจุบันอาศัยอยู่กับตา ยาย แม่ และ น้อง
ตลอดเวลาที่ได้เติบโตมารู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความอบอุ่น ครอบครัวชอบทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ใช้แต่อารมย์พูดคุยกัน ย้อนไปตอนเด็กๆพ่อชอบกินเหล้าแล้วมาทุบตีแม่เป็นประจำ แม่เป็นคนอารมย์ร้อนไม่ยอมคน ตากับยายต้องได้มาห้ามตลอด แต่แม่ก็ไม่เคยทำให้เราลำบากแม่ทำทุกอย่างให้เราสุขสบายเสมอ แต่ทำไมเราก็สึกว่ามันขาดอยู่ดี ข่วงจะเข้ามหาลัย สุดท้ายพ่อกับแม่ก็ได้แยกทางกัน ช่วงนั้นบอกได้เลยว่าร้องไห้แทบทุกคืน ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ ยิ่งช่วงใกล้สอบไฟนอลยิ่งมีแต่เรื่อง แม่ก็จะคอยมาระบายกับเราก็ทั้งปลอบแม่และปลอบตัวเอง ช่วงปี2 พยายาหางานพาทไทม์ทำช่วยแบ่งเบาภาระและไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน ทำให้ไม่ค่อยเต็มที่กับการเรียน เพราะอะไรหลายๆอย่าง เราชอบทะเลาะกับแม่(บ่อยมาก) ไม่รู้ทำไม แม่ชอบเปรียบเทียบเรากับคนอื่นตลอดก็รู้สึกน้อยใจมากๆ ยิ่งตอนนี้เรียนจบมาได้สักพักแล้วยังไม่มีงานทำ มาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยทำอะไรเลย รู้สึกเบื่อ และหมดไฟ พอเครียดมากๆก็รู้จริงว่าโลกนี้

ไม่น่าอยู่เลย
มีหลายครั้งที่คิดจะไม่อยากอยู่โลกนี้แล้ว
ตลอดเวลาที่ได้เติบโตมารู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับความอบอุ่น ครอบครัวชอบทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกัน ใช้แต่อารมย์พูดคุยกัน ย้อนไปตอนเด็กๆพ่อชอบกินเหล้าแล้วมาทุบตีแม่เป็นประจำ แม่เป็นคนอารมย์ร้อนไม่ยอมคน ตากับยายต้องได้มาห้ามตลอด แต่แม่ก็ไม่เคยทำให้เราลำบากแม่ทำทุกอย่างให้เราสุขสบายเสมอ แต่ทำไมเราก็สึกว่ามันขาดอยู่ดี ข่วงจะเข้ามหาลัย สุดท้ายพ่อกับแม่ก็ได้แยกทางกัน ช่วงนั้นบอกได้เลยว่าร้องไห้แทบทุกคืน ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ ยิ่งช่วงใกล้สอบไฟนอลยิ่งมีแต่เรื่อง แม่ก็จะคอยมาระบายกับเราก็ทั้งปลอบแม่และปลอบตัวเอง ช่วงปี2 พยายาหางานพาทไทม์ทำช่วยแบ่งเบาภาระและไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน ทำให้ไม่ค่อยเต็มที่กับการเรียน เพราะอะไรหลายๆอย่าง เราชอบทะเลาะกับแม่(บ่อยมาก) ไม่รู้ทำไม แม่ชอบเปรียบเทียบเรากับคนอื่นตลอดก็รู้สึกน้อยใจมากๆ ยิ่งตอนนี้เรียนจบมาได้สักพักแล้วยังไม่มีงานทำ มาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยทำอะไรเลย รู้สึกเบื่อ และหมดไฟ พอเครียดมากๆก็รู้จริงว่าโลกนี้