content is king
story is thing
data is everything
นี่น่าจะเป็นนิยามที่ถูกที่สุดในหัวเรื่องการตลาดในยุคปัจจุบัน
จากประสบการณ์อันยาวนานในการวิ่งหาคำตอบที่ว่า
การตลาดคืออะไรและต้องทำยังไง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากในการเพียรหาคำตอบ เพราะว่า
1 การตลาดนั้นเป็นนิยามที่ต้องอาศัยความเข้าใจ
ไม่เหมือนการมานั่งกดโปรแกรมยิง ads ที่แค่อาศัยความคุ้นชิน
ก็สามารถมานั่งกดปุ่มเพื่อนำส่งโฆษณาได้
ที่เห็นมีสอนกันเกลื่อนกลาดกันอยู่ใน youtube
ที่ปล่อยกันหมดสิ้นเพราะไม่รู้จะสอนอะไรให้ดูกันฟรีๆ
2 การตลาดต้องอาศัยการลงมือทำ
เพราะผลลัพธ์นั้นอยู่อีกด้านหนึ่งที่มองไม่เห็น
ไม่ได้มีผลลัพธ์ตายตัว
อย่างเด็ดขาดดุจดั่งสมการ
หรือโจทย์ทางคณิตศาสตร์ที่มีปลายทางที่แน่นอน
3 การได้ลงมือทำการตลาดนั้นเป็นสิ่งที่ยากเย็น
ถ้าคุณนั้นไม่ได้ไปเจอคนที่เก่งจริง รู้จริง และพร้อมที่จะบอกคุณ
โดยคุณมีสองทางเลือกคือ
1 เปิดบริษัทและรับคนที่เก่งการตลาดเข้ามาทำงานโดยแลกกับเงินเดือน
โดยที่คุณนั้นก็ต้องลุ้นว่าจะทำได้จริงรึเปล่า
2 คุณมั่วนิ่มเข้าไปทำงานแผนกการตลาดตามบริษัท
แล้วไปลุ้นเอาหน้างานว่าจะไปเจอคนที่เก่งจริง หรือ หัวหน้าที่รู้จริง
ไม่เช่นนั้นรอดยาก
เฉกเช่นหัวหน้าโยนขี้มาให้คุณ หรือปล่อยลอยแพคุณ
โดยถ้าคุณทำไม่ได้ก็บีบกระทั่งคุณทนไม่ได้
เพราะฉะนั้นจากประสบการณ์คลุกลงในจริงมาอย่างยาวนานดั่งที่เราได้บอกไป
เราจึงรู้ดีว่าการตลาดคืออะไรและทำยังไง
เราจึงอยากที่จะเอาความรู้และประสบการณ์จากการต่อสู้
ในเรื่องการทำการตลาดอันสุดแสนขมขื่นเหล่านั้น
มาช่วยให้งานทางด้านการตลาดของคุณนั้น
เกิดสิ่งที่เรียกว่า flow หรือในภาษาไทยนั้นก็คือมีการไหลลื่น
เพราะจากที่เราได้เจอมานั้นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายอันนำพาไปสู่ความล้มเลิก
หรือต้องรื้อทำใหม่
นั้นก็คือความเงียบงันในยามที่แคมเปญสิ้นสุด
คือไม่รู้ว่าต้อง run กันยังไงต่อ
เพราะว่าอะไร
เพราะไม่ได้วางแผนมาน่ะสิ
จึงได้แต่ทำเป็นรอบๆโดยที่ไร้ซึ่งความต่อเนื่องใดๆทั้งสิ้น
เอาง่ายๆก็คือดำน้ำไปแล้วไปวัดเอาผลลัพธ์หน้างาน
แล้วเอาผลลัพธ์ที่ได้มามั่ว job ต่อไปเรื่อยๆ
และที่น่ากลัวกว่านั้นคือการทำตามกระแส
เป็นสิ่งที่สยดสยองมากอย่างที่เราได้เจอมา
ก็เฉกเช่นเดิมเพราะว่าไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
การตลาดไม่ใช่งานที่มีรูปแบบตายตัวทำวนซ้ำ
เหมือนการเงินและบัญชี
ที่คุณนั้นเข้ามาศึกษาตามรุ่นพี่ดูและทำตามทำไปเรื่อยๆก็ทำได้
ต่อให้คุณนั้นไปซื้อหนังสือมาอ่าน
คุณก็จะได้เจอแต่นิยาม what to หามิใช่ how to
เพราะผู้เขียนก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ถึงรู้ก็ต้องมาปรับให้เข้ากับธุรกิจนั้นๆอยู่ดี
เพราะเราก็เห็นมาอีกมากมายที่ทำตามสูตรสุดท้ายก็เจ๊ง
แม้กระทั่งสินค้าชนิดเดียวกันตลาดเดียวกันก็ตาม
ซึ่งสุดท้ายแล้วจึงไปหมกมุ่นกับการขาย
เช่นการออก boot เสียเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งถ้าโชคดีสินค้าดีก็ได้ไปต่อ
แต่ถ้าสินค้าไม่ดีก็ไม่มีทางขายได้
หนำซ้ำพอมี digitalmarketing ก็เที่ยวยิง ads มั่วซั่ว
คราวนี้หนักกกว่าเดิม
เป็นตัวเร่งให้ต้องร้อนรนหนักเพราะยิงไปไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย
ไปออก boot ก็ยังได้ไปตั้งร้านขาย
แต่บนโลกดิจิตอลนั้นจบโฆษณาทุกอย่างก็เงียบงันไร้การเข้าถึง
ทั้งหมดนั้นเราสรุปได้เลยว่ามาจากความไม่รู้ว่า
ต้องทำอะไรอย่างไรในเรื่องการตลาด
อันนำพามาด้วยการที่มานั่งทำงานก็ต้อง
มโนหาทำ
อะไรซักอย่าง
แล้วอะไรล่ะ
ในเมื่อมั่วนิ่มตามที่ได้ศึกษามาแล้วไม่ work
ก็ต้องไปหา sub ด้านต่างๆเข้ามา
ยืมมือคนอื่น
และในเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ก็ไม่มีทางรู้ว่าคนที่มาทำให้นั้น
รู้จริงหรือแค่มั่นหน้ามั่วนิ่ม
ไม่ว่าจะ
มาจัดกิจกรรม
มาเป็น influencer
มา live สด
มายิง ads
ทำ web
หรือแม้กระทั่งมาทำ data
ถ้าไม่รู้จริง ก็มักโดนหลอกโดยพวกมั่วนิ่มที่อาจหนักถึงขั้นไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้
เราขอยกตัวอย่างอย่างกระบวนการ data ที่มารับทำ data ที่แท้จริงแล้วแค่เอา file excel มาทำ visualization
แล้วก็มั่วนิ่มวิเคราะห์
หรือมารับทำ web มั่วนิ่มทำ web หลักล้านด้วยคำว่าเขียนมาทั้งหมด
ที่สุดท้ายไม่ได้อะไรนอกจาก web หน้าตากากๆ
ที่ไม่เคยต้อง dev
เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังมองหาผู้ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ
ในด้านการตลาด
โดยเน้นที่การสร้าง brand เพื่อไปสู่การขาย
และคุณนั้นไม่อยากเสี่ยงไปเจอแบบที่เรายกตัวอย่างไป
เพราะว่าทั้งหมดนั้นคือของจริงที่เราเผชิญมาตลอด 15 ปี
อย่างน่าสยดสยอง
เพราะคนเรานั้นต้องใช้เงิน เมื่อไม่รู้จึงต้องมั่ว กลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนวงในที่รู้กันอย่างดี
แต่คนวงนอกที่อาจทำงานสบายๆ หรือ บ้านรวยนั้น
ยากที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้
กระทั่งได้เจอด้วยตัวเอง
ดังนั้นเราจึงนำเสนอบริการเพื่อเป็นการช่วยเหลือ
สำหรับผู้ที่รู้และเข้าใจว่า
การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่ได้อาศัยดวงดี
ต้องมีที่ไปที่มาและแบบแผน
ถ้าคุณนั้นไม่อย่างเสี่ยงกับการคิดไปเอง
และจบลงที่นั่งยิง ads และสุดท้ายก็ขายดีเจ๊งคือไม่คุ้มค่าโฆษณา
นั่งมองจอคอมพร้อมกล่าวโทษ google กับ Facebook ว่าไม่ work ว่าค่าโฆษณาแพง
แล้วก็จบลงเพียงเท่านั้น
ทั้งๆที่หลายต่อหลายคนรู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงไปต่อได้
จากเม็ดเงินลงทุนในเวลาที่เท่ากันกับคุณ
สนใจอ่านบทความเพิ่มเติม
https://bit.ly/karntalard101
อยากทำการตลาดเป็นต้องทำอย่างไร | โคตรเซียนการตลาด | episode 11
content is king
story is thing
data is everything
นี่น่าจะเป็นนิยามที่ถูกที่สุดในหัวเรื่องการตลาดในยุคปัจจุบัน
จากประสบการณ์อันยาวนานในการวิ่งหาคำตอบที่ว่า
การตลาดคืออะไรและต้องทำยังไง
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากในการเพียรหาคำตอบ เพราะว่า
1 การตลาดนั้นเป็นนิยามที่ต้องอาศัยความเข้าใจ
ไม่เหมือนการมานั่งกดโปรแกรมยิง ads ที่แค่อาศัยความคุ้นชิน
ก็สามารถมานั่งกดปุ่มเพื่อนำส่งโฆษณาได้
ที่เห็นมีสอนกันเกลื่อนกลาดกันอยู่ใน youtube
ที่ปล่อยกันหมดสิ้นเพราะไม่รู้จะสอนอะไรให้ดูกันฟรีๆ
2 การตลาดต้องอาศัยการลงมือทำ
เพราะผลลัพธ์นั้นอยู่อีกด้านหนึ่งที่มองไม่เห็น
ไม่ได้มีผลลัพธ์ตายตัว
อย่างเด็ดขาดดุจดั่งสมการ
หรือโจทย์ทางคณิตศาสตร์ที่มีปลายทางที่แน่นอน
3 การได้ลงมือทำการตลาดนั้นเป็นสิ่งที่ยากเย็น
ถ้าคุณนั้นไม่ได้ไปเจอคนที่เก่งจริง รู้จริง และพร้อมที่จะบอกคุณ
โดยคุณมีสองทางเลือกคือ
1 เปิดบริษัทและรับคนที่เก่งการตลาดเข้ามาทำงานโดยแลกกับเงินเดือน
โดยที่คุณนั้นก็ต้องลุ้นว่าจะทำได้จริงรึเปล่า
2 คุณมั่วนิ่มเข้าไปทำงานแผนกการตลาดตามบริษัท
แล้วไปลุ้นเอาหน้างานว่าจะไปเจอคนที่เก่งจริง หรือ หัวหน้าที่รู้จริง
ไม่เช่นนั้นรอดยาก
เฉกเช่นหัวหน้าโยนขี้มาให้คุณ หรือปล่อยลอยแพคุณ
โดยถ้าคุณทำไม่ได้ก็บีบกระทั่งคุณทนไม่ได้
เพราะฉะนั้นจากประสบการณ์คลุกลงในจริงมาอย่างยาวนานดั่งที่เราได้บอกไป
เราจึงรู้ดีว่าการตลาดคืออะไรและทำยังไง
เราจึงอยากที่จะเอาความรู้และประสบการณ์จากการต่อสู้
ในเรื่องการทำการตลาดอันสุดแสนขมขื่นเหล่านั้น
มาช่วยให้งานทางด้านการตลาดของคุณนั้น
เกิดสิ่งที่เรียกว่า flow หรือในภาษาไทยนั้นก็คือมีการไหลลื่น
เพราะจากที่เราได้เจอมานั้นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายอันนำพาไปสู่ความล้มเลิก
หรือต้องรื้อทำใหม่
นั้นก็คือความเงียบงันในยามที่แคมเปญสิ้นสุด
คือไม่รู้ว่าต้อง run กันยังไงต่อ
เพราะว่าอะไร
เพราะไม่ได้วางแผนมาน่ะสิ
จึงได้แต่ทำเป็นรอบๆโดยที่ไร้ซึ่งความต่อเนื่องใดๆทั้งสิ้น
เอาง่ายๆก็คือดำน้ำไปแล้วไปวัดเอาผลลัพธ์หน้างาน
แล้วเอาผลลัพธ์ที่ได้มามั่ว job ต่อไปเรื่อยๆ
และที่น่ากลัวกว่านั้นคือการทำตามกระแส
เป็นสิ่งที่สยดสยองมากอย่างที่เราได้เจอมา
ก็เฉกเช่นเดิมเพราะว่าไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
การตลาดไม่ใช่งานที่มีรูปแบบตายตัวทำวนซ้ำ
เหมือนการเงินและบัญชี
ที่คุณนั้นเข้ามาศึกษาตามรุ่นพี่ดูและทำตามทำไปเรื่อยๆก็ทำได้
ต่อให้คุณนั้นไปซื้อหนังสือมาอ่าน
คุณก็จะได้เจอแต่นิยาม what to หามิใช่ how to
เพราะผู้เขียนก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ถึงรู้ก็ต้องมาปรับให้เข้ากับธุรกิจนั้นๆอยู่ดี
เพราะเราก็เห็นมาอีกมากมายที่ทำตามสูตรสุดท้ายก็เจ๊ง
แม้กระทั่งสินค้าชนิดเดียวกันตลาดเดียวกันก็ตาม
ซึ่งสุดท้ายแล้วจึงไปหมกมุ่นกับการขาย
เช่นการออก boot เสียเป็นส่วนใหญ่
ซึ่งถ้าโชคดีสินค้าดีก็ได้ไปต่อ
แต่ถ้าสินค้าไม่ดีก็ไม่มีทางขายได้
หนำซ้ำพอมี digitalmarketing ก็เที่ยวยิง ads มั่วซั่ว
คราวนี้หนักกกว่าเดิม
เป็นตัวเร่งให้ต้องร้อนรนหนักเพราะยิงไปไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย
ไปออก boot ก็ยังได้ไปตั้งร้านขาย
แต่บนโลกดิจิตอลนั้นจบโฆษณาทุกอย่างก็เงียบงันไร้การเข้าถึง
ทั้งหมดนั้นเราสรุปได้เลยว่ามาจากความไม่รู้ว่า
ต้องทำอะไรอย่างไรในเรื่องการตลาด
อันนำพามาด้วยการที่มานั่งทำงานก็ต้อง
มโนหาทำ
อะไรซักอย่าง
แล้วอะไรล่ะ
ในเมื่อมั่วนิ่มตามที่ได้ศึกษามาแล้วไม่ work
ก็ต้องไปหา sub ด้านต่างๆเข้ามา
ยืมมือคนอื่น
และในเมื่อไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ก็ไม่มีทางรู้ว่าคนที่มาทำให้นั้น
รู้จริงหรือแค่มั่นหน้ามั่วนิ่ม
ไม่ว่าจะ
มาจัดกิจกรรม
มาเป็น influencer
มา live สด
มายิง ads
ทำ web
หรือแม้กระทั่งมาทำ data
ถ้าไม่รู้จริง ก็มักโดนหลอกโดยพวกมั่วนิ่มที่อาจหนักถึงขั้นไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้
เราขอยกตัวอย่างอย่างกระบวนการ data ที่มารับทำ data ที่แท้จริงแล้วแค่เอา file excel มาทำ visualization
แล้วก็มั่วนิ่มวิเคราะห์
หรือมารับทำ web มั่วนิ่มทำ web หลักล้านด้วยคำว่าเขียนมาทั้งหมด
ที่สุดท้ายไม่ได้อะไรนอกจาก web หน้าตากากๆ
ที่ไม่เคยต้อง dev
เพราะฉะนั้นถ้าคุณกำลังมองหาผู้ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณ
ในด้านการตลาด
โดยเน้นที่การสร้าง brand เพื่อไปสู่การขาย
และคุณนั้นไม่อยากเสี่ยงไปเจอแบบที่เรายกตัวอย่างไป
เพราะว่าทั้งหมดนั้นคือของจริงที่เราเผชิญมาตลอด 15 ปี
อย่างน่าสยดสยอง
เพราะคนเรานั้นต้องใช้เงิน เมื่อไม่รู้จึงต้องมั่ว กลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนวงในที่รู้กันอย่างดี
แต่คนวงนอกที่อาจทำงานสบายๆ หรือ บ้านรวยนั้น
ยากที่จะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้
กระทั่งได้เจอด้วยตัวเอง
ดังนั้นเราจึงนำเสนอบริการเพื่อเป็นการช่วยเหลือ
สำหรับผู้ที่รู้และเข้าใจว่า
การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่ได้อาศัยดวงดี
ต้องมีที่ไปที่มาและแบบแผน
ถ้าคุณนั้นไม่อย่างเสี่ยงกับการคิดไปเอง
และจบลงที่นั่งยิง ads และสุดท้ายก็ขายดีเจ๊งคือไม่คุ้มค่าโฆษณา
นั่งมองจอคอมพร้อมกล่าวโทษ google กับ Facebook ว่าไม่ work ว่าค่าโฆษณาแพง
แล้วก็จบลงเพียงเท่านั้น
ทั้งๆที่หลายต่อหลายคนรู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงไปต่อได้
จากเม็ดเงินลงทุนในเวลาที่เท่ากันกับคุณ
สนใจอ่านบทความเพิ่มเติม
https://bit.ly/karntalard101