🍸🍹🍺หักศรกามเทพ..7🍻🍹🍸

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
                                                                           บทที่ 7

 หล่อนพยายามถอนตัวเองออกจากภาพในความคิดคำนึงและลำดับใหม่ว่า หล่อนในภาพควรทำอย่างไรในภาวะการณ์เช่นนี้  แน่ละหล่อนก็คิดได้เท่าที่ความเจริญของสมองที่มีอยู่ การคิดในตอนนี้จะส่งผลถึงอนาคตและบ่งบอกว่าคิดผิดหรือถูก  เหมือนต้องเสี่ยงทาย  หล่อนไม่อยากให้รักคำเดียวเกี่ยวใจเอาไว้แน่น  ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกี่ยวไปอีกกี่ปี จะกักเก็บเอาไว้นานเท่าไร ที่ผ่านมาก็ใช้เวลาหลายปีแล้ว  คิดนับก็เป็นเวลานานมากพอที่จะเห็นถึงความคิดของคนบางคนได้ ถ้าหล่อนพยายามรับรู้ความจริงที่เห็นได้ และต้องไม่ตามใจตนเองอีก
ส่วนคำถามที่ข้องใจ ถามไปแล้วเขาก็ตอบกลับด้วยคำถามนั่นให้ปวดใจขึ้นมาอีก มันลบความรู้สึกที่จะไปออดอ้อนเล่าถึงความต้องการตั้งแต่มาใหม่ๆว่าอยากพบ อยากเห็นหน้า อยากมีเวลาสบตาจริงๆสักที มิต้องเบี่ยงเบนขัดเขินหลบเลี่ยงเหมือนอย่างที่แล้วๆมา..
คงไม่มีโอกาสแล้วทั้งบอกทั้งเจอกัน  จะให้ถึงขนาดไปหาถึงที่ อย่างไรก็คงเป็นไปไม่ได้ ที่ทำมาขนาดนี้ก็ถือว่าเพื่อคนสองคนและน่าอับอายถ้าจะมีคนรู้เป็นคนที่สาม 

      ในเมื่ออีกฝ่ายหนี่งไม่คิดจะทำอะไรนอกจากคอยสดับรับฟังข่าวเรื่อยๆ ก็คงจะได้รับอย่างสมปรารถนาต่อไป
เวลาจะช่วยให้หล่อนรู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ หรือควรทำกับใคร ปรบมือข้างเดียวย่อมไม่ดังจริงแท้แน่นอน

หล่อนใช้เวลานับเนื่องกันจนเดินรอบสวนป่านี้ ในบางแห่งก็ไม่มีคนเดิน แต่ดูว่าหล่อนเหมือนอยู่คนเดียวตั้งแต่เหยียบย่างเข้าในสวนป่านี้แล้ว

         เมื่อกลับถึงหอพัก อากาศก็เริ่มเย็นลงขึ้นมาอีก ความอุ่นของร่างกายตอนออกแรงเดินทำให้มีเหงื่อซึมออกมาบ้าง หล่อนคิดได้ว่าควรจะสระผมเสียเลย ปกติหล่อนอาบน้ำอาทิตย์ละครั้งในหน้าหนาว หากแต่การเดินไปกลับที่ทำงานทำให้บางวันเหงื่อซึมออกมาได้บ้าง  การอาบน้ำอุ่นช่วยผ่อนคลายความอ่อนล้า เมื่อได้ปลดเปลื้องสิ่งของเสื้อผ้าเปลี่ยนมาใส่เสื้อคลุมแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวและยาสระผมกับสบู่เข้าไปในห้องอาบน้ำซึ่งอยู่อีกซีกหนึ่งของห้องสุขาสองห้อง ด้านนี้มีอ่างคู่ใหญ่สำหรับซักผ้าได้อยู่หน้าห้องน้ำ

  เมื่อได้ราดน้ำที่ปรับให้คงความเย็นมากหน่อย ทำให้ร่างกายตื่นตัว สายน้ำที่ไหลราดบนศีรษะเหมือนกระตุ้นเตือนสมองให้กระปรี้กระเปร่า คงจะเกิด Breakthrough ได้  หล่อนให้เวลาน้ำราดบนศีรษะนานเป็นพิเศษ  หล่อนอยากได้ความคิดโลดแล่นต้อนรับคำว่ารักของภูพิงค์ อย่างน้อยหล่อนควรจะน่าดีใจไม่ใช่หรือ  เมื่อหัวใจน้อยๆมีความรักมาชโลม

    เสร็จจากอาบน้ำแล้วหล่อนก็ทำแซนวิซ อาหารที่ง่ายและอร่อยที่สุดของหล่อนนำไปทานระหว่างรอการซักผ้าที่อาจจะเจอคนผิวสีที่มักซักผ้าตอนกลางคืน  เมื่อหอบผ้าใส่ถุงพลาสติกแล้วก็ลงลิฟต์มาห้องใต้ดิน ที่นั่นกลับไม่มีคนอยู่เลย นับว่าโชคดี แต่หล่อนกลับรู้สึกโหวงเหวงเกือบเสมือนกลัว เมื่อต้องอยู่ยามวิกาลคนเดียว  เมื่อนำผ้าใส่เครื่องแล้ว ก็ภาวนาให้ใครสักคนมาซักผ้าด้วยเถิด

  กว่าจะซักผ้าอบแห้งอยู่คนเดียวจนเสร็จก็รีบเอาผ้าใส่ถุงรีบกลับห้อง ไฟบริเวณซีกตึกด้านนี้ก็ยังไม่ได้เปิด หล่อนนึกถึงสวิตซ์ไฟว่าน่าจะอยู่ข้างบันไดทางเดิน ไม่ได้อยู่แถวลิฟต์ เมื่อหาพบก็เปิดไฟสว่าง หล่อนถอนหายใจโล่งอก เดินมาไขกุญแจห้องเข้ามาพลางถามตัวเองว่า ถ้าพี่วิทย์กลับเมืองไทยไปก่อน หล่อนจะอยู่คนเดียวได้ไหม...

    หล่อนออกไปชะโงกดูภายนอก ถ้าอยู่ห้องพี่วิทย์ห้องคุณอนาวิลที่มองจากที่นี่เฉียงไปก็จะพอมองเห็นได้   หล่อนแง้มประตูนิดหน่อยให้อากาศถ่ายเท เปิดไฮซุ่งให้ได้อุณหภูมิยี่สิบองศาตามอุณหภูมิห้องของที่นี่  เมื่อมานั่งเก้าอี้พิงพนักมองผ่านหน้าต่างไปเห็นตัวตึกทึมๆ มีแสงไฟบางช่องที่ห้องเปิดอยู่  รู้สึกตนเองว่าใจคอวับๆหวำๆชอบกล  หล่อนหยิบเอาจดหมายของภูพิงค์มาคลี่ออกเพื่อละจากความรู้สึกที่มีเมื่อกี้ เมื่อสายตาไต่ไล่ไปเรื่อยๆความซึมซับในถ้อยเนื้อความก็ทำให้กำซาบซ่านขึ้นในใจ อย่างน้อยหล่อนก็มีคนรักแล้ว เขาเขียนยืนยันมาสองครั้งสองครา นั่นแสดงถึงความตั้งใจบอกหล่อนมิใช่หรือ จดหมายแม้จะสั้นแต่ก็ได้ความชัดเจน  หล่อนคงไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว ทำให้เกิดความมั่นใจขึ้นมา แรงรักจะผลักดันให้เกิดพลัง  หล่อนไม่ต้องหวั่นเกรงสิ่งที่หลอกหลอนยามจิตว่าง  สุขในใจเป็นอย่างนี้เองหนอ แล้วที่ว่าโลกเป็นสีชมพูนั้นมันจะเป็นตอนไหนกันนี่ หล่อนพยายามยื้อความรู้สึกที่โผล่ผุดขึ้นมาหวังจะให้อยู่กับหล่อนให้นานแสนนานสมกับที่รอคอย....
      
ดั่งน้ำทิพย์โอบอุ้ม......ชโลมใจ
สดชื่นขึ้นทันใด............ย่อมรู้
สายธารเชื่อมดวงใจ.....ชุ่มฉ่ำ
หาใช่ใครอื่นผู้.....ร่วมร้อยรักเรียง

    เออนะ...คนเรานี้หนอบทจะมีความสุข มันก็สุขขึ้นมา โดยมิต้องมีเหตุผล เหตุบอกกล่าว...

     เท้าที่ย่ำสวบๆลงบนพื้นถนนยามที่ท้องฟ้าไม่มีแดดทำให้รู้สึกหนาวเย็นจนต้องกระชับคอเสื้อเข้ามาให้ชิดต้นคอ  กระเป๋าหนังนิ่มที่สะพายไหล่ไว้แกว่งไกวพร้อมกับเส้นผมยาวสยายด้านหลัง ผ่านเจ้าของบ้านออกมากวาดฟุตบาทแล้วก็มองด้วยรอยยิ้มส่งมา  คนที่นี่มักจะเหมาเอาว่าทุกคนเป็นคนจีน คือเขาคงไม่รู้หรือไม่แยกแยะได้ว่าเป็นคนชาติอื่นที่ผิวพรรณคล้ายคลึงกัน  หล่อนเดินอย่างรู้สึกสบายอกสบายใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้หล่อนจะนอนเขลงอยู่บนเตียงเสียเป็นส่วนมาก อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้ เพราะไม่สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ต่อไปได้  หล่อนไม่ได้พบคุณอนาวิลและคิดว่าการอยู่กับตนเองเป็นการทดลองจิตใจของตนดู มีความสับสนบ้างแต่แล้วก็มาสงบนิ่งกับจดหมายของภูพิงค์จนผ่านพ้นวันวานมา

   วันนี้เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่อยู่ในโรงงานข้างล่างใส่ชุดหมีชุดทำงานขึ้นมาที่มือถือเหล้าชนิดหนึ่งพร้อมแก้วใบเล็ก เขารินเหล้าให้ทุกคนดื่มเรียงตามกันมาจนถึงหล่อนเพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่เขาแต่งงาน ทุกคนกล่าวแสดงความยินดี เหล้านั้นเรียก  Schnapps ดื่มแล้วกลิ่นหอมดี  การแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ ดังเมื่อเดือนก่อนมีงานคาร์เนวาล Karneval นาย Block ที่นั่งทำงานถัดไปได้เป็น Prince แห่ในงานด้วย แต่ก่อนวันงานเขาแต่งตัวชุดสีขาวแบบเจ้าชายโบราณถือคทาด้วย มาแจกดอกกุหลาบให้พวกสาวๆและได้หอมแก้มหนึ่งที สาวในออฟฟิศโดนกึ่งหอมกึ่งจูบ เพื่อนๆหัวเราะชอบใจ แต่สำหรับเพ็ญระพีก็หอมแก้มหนึ่งที เรื่องหอมแก้มซ้ายขวาเป็นธรรมเนียมฝรั่งเศสที่เคยได้รับการหอมทักทายแบบนี้ก็จากคุณลุงที่ฝรั่งเศสของคุณเก่งนั่นเอง  นอกนั้นจะมีให้เกียรติก็เรียก Junge Dame แปลตรงตัวก็สุภาพสตรีสาวน้อย  เมื่อนายบล็อคไปแล้ว ดานีลก็ส่งยิ้มมา แววตาราวจะถามว่า...ว่าไงถูกหอมแก้ม?

  เมื่อหล่อนเดินลงบันไดในตอนเย็นมองออกไปก็เห็นรถของคุณอนาวิลจอดท้ายโผล่มาในสายตา  เมื่อเดินมาถึงเขาก็เปิดประตูรถแล้วบอกว่า วันนี้รีบกลับไหมผมจะพาไปดูเสื้อผ้าลดราคาที่ตรงเซ็นเตอร์นี้ หล่อนยิ้มรับก่อนพูดว่า

"ดีจัง มารับแล้วยังพาไปช็อปปิ้งด้วย" เมื่อขึ้นมานั่งแล้วก็ปิดประตูรถ  เห็นรถดานีลวิ่งแซงผ่านไปข้างหน้า

" ไม่ได้บอกก่อนให้เตรียมสตางค์มาครับ"

" ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวถอนที่แบงก์เลยค่ะ " หล่อนนึกได้ในทันที

" สงสัยต้องถอนแยะแน่ จะไปถอนก่อนมั้ยครับ เดี๋ยวแบงก์ปิด" เขาเตือนเพราะธนาคารปิดหกโมงเย็น

" รู้แล้วก็ไปเลยค่ะ " หล่อนยิ้มให้เขาพร้อมพูด
  
   ที่ธนาคารหล่อนดูยอดเงินที่จำนวนเพิ่มมากขึ้นนับว่ารวยถ้าคิดตามวัย เพราะหล่อนไม่ได้มีรายจ่ายอะไรมากกว่าค่าที่อยู่กับที่พัก การกินอาหารแบบไทยราคาก็ถูกอยู่แล้ว เงินที่ถอนจึงมีจำนวนมากจนนักเรียนกอพออย่างอนาวิลต้องเหลือบมอง ตอนนี้พี่วิทย์ไม่อยู่การมาธนาคารไม่ได้บ่อยดังเดิม

   เมื่อจอดรถเดินดูหน้าร้านที่โชว์เสื้อผ้าบนหุ่น หล่อนก็ชอบใจกระโปรงสีเลือดหมู มีกลีบพอประมาณ แต่ที่สวยคือสีและตัดเย็บแบบเนี้ยบมาก หล่อนลองกระโปรงที่ในห้องลองเล็กๆซึ่งใส่ได้พอดี เมื่อออกมาเห็นเสื้อแขวนอยู่คล้ายเชิ๊ตหล่อนขอดูและลังเล อนาวิลเลยบอกว่าลองสวมดูก็ได้นี่ครับ หล่อนเลยเอามาลองสอดแขนเสื้อทับไปบนตัวที่ใส่อยู่ อนาวิลเอื้อมมือมาจะดึงส่วนหน้าหลังจากสอดแขนเข้าไปแล้ว หล่อนถอยหลังทันทีโดยอัตโนมัติ มือคุณอนาวิลก็ชะงักหดมือทันที  ทุกอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นธรรมชาติ อนาวิลรู้สึกในบัดดลนั้นว่า หล่อนมีภาษากายเหมือนนักมวยที่ถอยหลังพร้อมตั้งการ์ดทันที  เมื่อรู้สึกถึงภัย  เมื่อจ่ายเงินค่ากระโปรงที่ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว หล่อนดีใจเป็นอย่างมาก  โดยไม่ได้รู้ว่าอีกคนหนึ่งครุ่นคิดจนเงียบขรึมไป

  การเดินไปทำงานตอนเช้าดูจะเป็นเรื่องที่หล่อนรู้สึกถึงความเป็นอิสระ เดินชมนกชมดอกไม้ สลับกับความคิดของตนเองที่ล่องลอยไปอย่างมีความสุขกับอากาศยามเช้าอันสดชื่นด้วยความเย็น
 
 หล่อนเดินกลับบ้านหลังเลิกงานมาหลายวันแล้ว เนื่องด้วยไม่ได้เห็นหน้าคุณอนาวิลมาหลายวันเช่นกัน หล่อนอดนึกย้อนไปอีกไม่ได้ว่า ในอีกไม่ช้าอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเขาในเมื่อจะครบกำหนดฝึกงานและต้องไปติดต่อทางโรงเรียนที่สมัครไว้อีกครั้งหนึ่ง  เมื่อพี่วิทย์กลับมาคงต้องพูดคุยเรื่องนี้กัน เพราะถ้าไม่เป็นนักเรียนก็คงไม่ได้วีซ่าอยู่ต่อ  เวลาปีหนึ่ง ๆ ช่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน พอจะรู้สึกคุ้นเคยก็ต้องมาผลัดเปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่งแล้ว ช่วงลุ่ม ๆ ดอน ๆ พอจะเข้าที่ก็มีปัญหามาให้ขบคิดอีก  เวลาความสุขรู้สึกว่าเพิ่งได้รับในวันสองวันนี้คงจะมีไปตลอด ถ้าไม่ติดขัดเรื่องการอยู่ที่นี่ของหล่อน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หล่อนนึกเอาเองว่า หล่อนมีคุณภูแล้ว สิ่งอื่นใดก็หาใช่ปัญหาใหญ่ไม่....

       เมื่อถึงหอพักก็พบว่ามีโปสการ์ดส่งถึงหล่อนแผ่นหนึ่ง มาจากมึนเช่น เป็นของคุณดาราบอกว่า อยากจะขอรบกวนอาศัยค้างคืนสักสองคืนด้วยมีธุระที่นี่ ที่ทางบ้านคุณเก่งไม่สะดวก จึงต้องติดต่อคุณเพ็ญ  หวังว่าจะมีโอกาสได้เชิญคุณเพ็ญมามึนเช่นในเร็วๆนี้เช่นกัน  ลงชื่อ  ดารา

    เมื่อได้รับข่าวเช่นนี้ หล่อนจึงได้ตอบโพสการ์ดไปสั้นๆว่า ยินดีต้อนรับ แล้วพบกัน

  ถือว่าเป็นความรวดเร็วอย่างมากที่คุณดาราได้มาให้เห็นหน้าหลังจากรับตอบจากหล่อน  เมื่อได้ไต่ถามจึงได้รู้ว่าคุณดาราอยากจะต่อวีซ่าที่เมืองนี้แทนที่อยู่เดิม เพราะที่เก่าต่อจนไม่มีอะไรจะเอาไปอ้างกับเจ้าหน้าที่แล้ว  เนื่องด้วยแฟนคุณดาราคือคุณวิกรมยังเรียนไม่จบ คุณดาราบอกว่าต้องหางานทำเป็นค่าอยู่ค่ากิน ส่วนมากจะเป็นงานบ้านคือทำความสะอาดและทำอาหารบ้าง แต่งานที่หล่อนสุดจะเหลือทนคืองานซักผ้ารีดผ้า ผ้าที่แสนจะโสโครกจากยายแหม่มนั้นอย่าให้พูดเลย เมื่อเล่าน้ำตาของหล่อนก็ซึมซับออกมาให้เห็น ด้วยความสงสารเพ็ญระพีเอื้อมมือไปบีบแขนหล่อน พลางบอกว่า

" อยู่ที่นี่ก็ห่างไกลคุณวิกรมแต่อยากมาอยู่ก็อยู่ได้ ไม่ต้องเกรงใจ" เพราะเผอิญมีที่ให้นอนด้วยพี่วิทยาไม่อยู่

คุณดาราน้ำตาร่วง บอกว่า

" ก็มองไม่เห็นใครแล้วที่จะช่วยได้ เลยลองมาทางนี้ แต่จะไม่รบกวนมากเดี๋ยวติดต่อเสร็จก็จะต้องรีบกลับไป ห่วงวิกรมเขา "

  เมื่อรอการติดต่อคุณเก่ง ทางคุณดาราก็ดูมีความหวัง รู้สึกแช่มชื่นขึ้น วันต่อมาต้องไปพบคุณเก่งที่บ้าน เพ็ญระพีต้องเดินมาหาคุณอนาวิลที่ห้อง เขาเพิ่งกลับเข้ามาหลังจากอาบน้ำ พอได้ยินเสียงเคาะประตูเขาก็เปิดผางออกไปทันที

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่