สวัสดีค่า
ก่อนหน้านี้เวลาหาไอเทมสกินแคร์ หรือเมคอัพเรามักจะมาหาในพันทิพ
แต่ส่วนมากจะเจอไอเทมสำหรับ คุมมัน ซะเยอะ
ด้วยความที่เรา หน้าแห้งค่อนข้างมาก เลยแอบหาข้อมูลในนี้ลำบากนิดนึง
แต่วันนี้หน้ากลับมาแข็งแรงขึ้นมากกกก บวกกับคอลเลคชั่นเมคอัพที่ใช้ ก็คิดว่าอยู่ตัว แฮปปี้แล้ว
เลยถือโอกาสมา รีวิว + แชร์ เผื่อใครหน้าแห้งเหมือนกันแล้วกำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ 😊
แบ็คกราวผิวเรา
- แห้งเลย ทั้งที และยูโซน
- สิวมีบ้างนานๆที แต่ที่สิวที่หายไปแล้วมีการทิ้งรอยไว้นิดหน่อยช่วงแก้ม
- ผิวแพ้ง่าย (โดยเฉพาะช่วงภูมิต้านทานไม่ดี)
- อายุ 20 ปลายๆ จะขึ้นเลข 3 แล้วววว
เกริ่นนิดนึงว่าเราทุนเดิมผิวไม่ค่อยมีปัญหา (นอกจากแห้ง) ตอนเด็กๆเลยได้ใจไม่บำรุงเท่าที่ควร
ทาครีมตัวเดียว เช้า เย็น และทาแบบลวกๆ กันแดดไม่เคยทาเพราะขี้ร้อน
ทีนี้วันนึงก็เพิ่งจะมาลนลานว่า อ้าว จะ 30 แล้วอ่ะ! กลัวแก่อ่ะ! 😱😱😱
พอดักับเป็นช่วงกักตัวโควิดเลยมีเวลาหาข้อมูลในเน็ต ทั้งเว็บไทย เว็บนอก ดูรีวิว ศึกษาส่วนผสม (มีความเชิงลึก! 55) บวกกับลองใช้เองด้วย
ซึ่งผ่านมาสัก 5-6 เดือนละ เราว่าตอนนี้ค่อนข้างลงตัว ผิวดีขึ้น เราแฮปปี้มากๆ เลยมาแชร์ให้ฟังค่ะ
ก่อนอื่นใด ขอแปะอันนี้ก่อน
ด้วยความที่เคยใช้เสต็ปเดียวทั้งเช้าเย็นเนาะ พอจะบวกนู่นนี่เข้ามา บอกตรงๆว่าเรามึนมากอะไรก่อนอะไรหลัง
อันนี้เข้าใจง่าย และข้อนค่างครอบคลุม เลยเอามาแชร์เผื่อใครยังเลเยอร์สกินแคร์ผิดๆอยู่ค่ะ
เสร็จแล้วก็มาถึงของๆเราาาา 🎉🎉
หมวดแรก คลีนผิว!
1. SIMPLE - hydrating cleansing wipes
2. SEPHORA - triple action gentle makeup remover
3. HADA LABO - deep moisturizing whip foam
ตัวแรกจะเป็นฟีลเหมือนทิชชู่เปียก สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวขี้แพ้
เราใช้ตัวนี้เช็ดเครื่องสำอางออกรอบนึงก่อน เช็ดแล้วเก็บผ้าไว้ข้างๆยังไม่ทิ้ง (555)
ใช้ตัว เซโฟร่า ละเลงแล้วถูวนๆ ก่อนจะเอาผ้าตัวเดิมมาพลิกกลับด้านแล้วเอาส่วนที่ยังสะอาดเช็ดออก
แล้วค่อยล้างหน้าด้วยโฟมของ ฮาดะลาโบะ
แต่ถ้าวันไหนแต่งเบาๆ ก็จะข้ามตัว เซโฟร่า ไปเลยค่ะ
หมวดสอง เตรียมผิว!
4. MONT FLEUR - facial spray
5. ANNUA - heartleaf soothing toner
ล้างหน้าเสร็จล้าว ก็ปรับสภาพผิวค่ะ
ช่วงที่หน้ามีความขี้แพ้เป็นพิเศษ จะสเปรย์น้ำแร่รอบนึงก่อน
คิดเอาเองว่าเป็นไฟนอลทัชที่ดีกว่าน้ำประปา 555
(เราใช้ มองเฟลอร์ แต่คิดว่ายี่ห้อไหนก้อเหมือนๆกันถ้าเป็นน้ำแร่ 100% ไม่ผสมนู่นนี่)
ซับหน้าเบาๆ แล้วต่อด้วยโทนเนอร์ของ แอนนัว
ตัวนี้ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน คือดีสุดๆ 👍
**เพิ่มเติมนิดดส์ หน้าแห้ง ไม่ได้แปลว่าไม่ควรใช้โทนเนอร์นะคะ
จริงๆแล้วโทนเนอร์สำคัญมากๆ เป็นการคลีนหน้าขั้นไฟนอลพร้อมกับปรับสภาพผิวให้เหมาะกับการรับสกินแคร์
ย้ำว่า สำคัญจริงๆจ้า
หมวดสาม บำรุงผิว!
6. DR JART+ - Vital hydra solution biome essence
7. DR JART+ - Vital hydra solution ampoule
สเต็ปแรกๆที่เราลองเพิ่มมาจากแค่ทาครีม ก็คือเอสเซนส์ค่ะ
ลองมาหลายตัว รู้สึกว่าของ ดอกเตอร์จาร์ท ตัวนี้ลงตัวสุด ตัวนี้ก็ไม่มีน้ำหอมอีกเหมือนกัน
ใครที่เคยใช้แบบมีกลิ่นมาก่อนอาจจะไม่ชอบตอนแรกๆนะ แต่แป้ปๆก็ชินค่ะ
(ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย สกินแคร์ผสมน้ำหอมคือเลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่าจ้า)
ตบตัวเอสเซนส์เบาๆให้ซึมผิวก็โอเคแล้วจ้า
สำหรับแอมพูล เราจะใช้หลังเอสเซนส์แต่ไม่ทุกวันค่ะ ใช้สัปดาห์ละครั้ง
แล้วก็จะใช้วันที่ผิวดูเหนื่อยหนัก หรือช่วงที่หน้าแอบแพ้เบาๆ
แอมพูลตัวนี้ ดีมากๆเรื่องปรอบประโลมแล้วก็เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ทาแบบไม่ต้องล้างนะคะ
วันไหนหน้าแห้งหนัก พอกแอมพูลไป ตื่นเช้ามารู้สึกว่าผิวดีขึ้นประมาณนึงเลยค่ะ (ช่วงแพ้ก็ใช้ดีเหมือนกัน 👍)
หมวดสามครึ่ง มาสก์ผิว!
เราใช้มาสก์เกือบทุกวันค่ะ!! (3-5 วัน/สัปดาห์)
หลายๆคนอาจจะบอกว่า เห้ย!! เยอะไปแล้ว รุนแรงกับผิวไปแล้ว ห้ามทำ!!
แต่เราศึกษา บวกกับถามคุณหมอผิวมาแล้วค่ะ ว่าทำได้ จะมาสก์เช้าเย็นทุกวันยังได้เลย
แต่!!! ต้องเป็นมาสก์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื่น และ ส่วนผสมก็จำกัดได้แค่บางอย่างเท่านั้นค่ะ
ถ้าเป็นพวก ไวท์เทนนิ่ง (มี vitamin c, AHA, BHA, หรือ citric ต่างๆ) ไม่ได้เลย
มาสก์เน้นชุ่มชื้น แต่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ กับ น้ำหอม ก็ไม่ได้เหมือนกันค่ะ
**เพิ่มเติมว่า ข้อดีของการทำแบบนี้ สำหรับเราคือ ผิวดีขึ้น ชุ้มชื้นขึ้น แบบก้าวกระโดดเลย 😍
แต่ข้อเสีย แน่นอน เปลืองตังจ้า 555 เราจะอาศัยช่วง เซลล์แหลก หรือ1แถม1 แล้วซื้อทีเดียวเยอะๆค่ะ
หมวดสี่ ท้อปปิ้งผิว ปิดเคส!
8. HADA LABO - gokujyun cream
9. TATCHA - water cream
10. IHADA - medicated emultion
หมวดนี้เป็นครีมปิดฉากการบำรุง
เห็นลิสท์มาสามอย่าง เราเลือกใช้แค่อย่างเดียวนะคะ แล้วแต่ช่วง
ไม่ได้ประโคมโปะสามอันซ้อนเน่อ 😅
ตัวแรกของ ฮาดะลาโบะ ชุ่มชื้น ผิวนุ่ม ไม่แพงด้วย เป็นครีมที่ใช้บ่อยที่สุด แต่ดั๊นนนน ไม่มีในไทย..
ปกติไปญี่ปุ่นทีจะซื้อตุนเยอะๆค่ะ ถ้าไม่ได้ไปก็จะพรีออเดอร์เอา
มีช่วงที่เบื่อความต้องพรี ต้องตุน ลองใช้ตัวอื่นที่ขายในไทย ไม่ได้เลยจริงๆ สิวขึ้นรัวๆเลย 😔
ตัวที่สองของ ทัทชา เห็นชื่อไทยแบบนี้ สูตรญี่ปุ่นสัญชาติอเมริกานาจา 5555
ชอบเนื้อครีมตัวนี้มากกกก เป็นครีมที่ทาลงหน้าแล้วแตกตัวกลายเป็นน้ำ เบาๆเย็นๆ ซึมเร็ว
ตัวนี้หาซื้อไม่ยาก ยิ่งตอนนี้ sephora เอามาขายแล้วยิ่งง่ายใหญ่ แต่!!! ราคาแรงมากจ้าาา
กระปุกจิ๋วแบบในรูปคือพันนึงแล้วจ้าาาา ใช้ได้แค่ช่วงมือเติบค่ะ 5555
ตัวสุดท้ายของ ไอฮาดะ เป็นแบรนด์ลูกของ Shiseido ไม่เจอขายในไทยเลย (อีกแล้ว)
แต่ดีม้ากกกกก (อีกแล้ว) ใช้ตัวนี้ช่วงที่หน้าแพ้ แป้ปเดียวก็หาย โดยที่ไม่ทำให้หน้าแห้งเลย
ตัวนี้ส่วนผสมพิสูจน์ในแล็บมาแล้วว่า allergic free หรือยังไงก็ไม่แพ้ค่ะ 👍
ใครผิวแห้งและเซนซิทีฟระดับสุดถ้ามีโอกาส อยากให้ลองค่ะ <3
จบการสกินแคร์ไปแล้วจ้า
ยาวนิดหน่อย 5555 บางคนอาจจะว่าเยอะ บางคนอาจจะว่าน้อย
ก็ to each their own นะ อันนี้คือเราคิดว่าเหมาะกับผิว และอายุของเรา
ไว้จะมาต่อเรื่องเมคอัพอีกทีนะคะ
🤓❤️
[CR] รีวิว สกินแคร์ + เมคอัพ สำหรับชาวหน้าแห้งและแพ้ง่าย >_<
ก่อนหน้านี้เวลาหาไอเทมสกินแคร์ หรือเมคอัพเรามักจะมาหาในพันทิพ
แต่ส่วนมากจะเจอไอเทมสำหรับ คุมมัน ซะเยอะ
ด้วยความที่เรา หน้าแห้งค่อนข้างมาก เลยแอบหาข้อมูลในนี้ลำบากนิดนึง
แต่วันนี้หน้ากลับมาแข็งแรงขึ้นมากกกก บวกกับคอลเลคชั่นเมคอัพที่ใช้ ก็คิดว่าอยู่ตัว แฮปปี้แล้ว
เลยถือโอกาสมา รีวิว + แชร์ เผื่อใครหน้าแห้งเหมือนกันแล้วกำลังหาข้อมูลอยู่ค่ะ 😊
แบ็คกราวผิวเรา
- แห้งเลย ทั้งที และยูโซน
- สิวมีบ้างนานๆที แต่ที่สิวที่หายไปแล้วมีการทิ้งรอยไว้นิดหน่อยช่วงแก้ม
- ผิวแพ้ง่าย (โดยเฉพาะช่วงภูมิต้านทานไม่ดี)
- อายุ 20 ปลายๆ จะขึ้นเลข 3 แล้วววว
เกริ่นนิดนึงว่าเราทุนเดิมผิวไม่ค่อยมีปัญหา (นอกจากแห้ง) ตอนเด็กๆเลยได้ใจไม่บำรุงเท่าที่ควร
ทาครีมตัวเดียว เช้า เย็น และทาแบบลวกๆ กันแดดไม่เคยทาเพราะขี้ร้อน
ทีนี้วันนึงก็เพิ่งจะมาลนลานว่า อ้าว จะ 30 แล้วอ่ะ! กลัวแก่อ่ะ! 😱😱😱
พอดักับเป็นช่วงกักตัวโควิดเลยมีเวลาหาข้อมูลในเน็ต ทั้งเว็บไทย เว็บนอก ดูรีวิว ศึกษาส่วนผสม (มีความเชิงลึก! 55) บวกกับลองใช้เองด้วย
ซึ่งผ่านมาสัก 5-6 เดือนละ เราว่าตอนนี้ค่อนข้างลงตัว ผิวดีขึ้น เราแฮปปี้มากๆ เลยมาแชร์ให้ฟังค่ะ
ก่อนอื่นใด ขอแปะอันนี้ก่อน
ด้วยความที่เคยใช้เสต็ปเดียวทั้งเช้าเย็นเนาะ พอจะบวกนู่นนี่เข้ามา บอกตรงๆว่าเรามึนมากอะไรก่อนอะไรหลัง
อันนี้เข้าใจง่าย และข้อนค่างครอบคลุม เลยเอามาแชร์เผื่อใครยังเลเยอร์สกินแคร์ผิดๆอยู่ค่ะ
เสร็จแล้วก็มาถึงของๆเราาาา 🎉🎉
หมวดแรก คลีนผิว!
1. SIMPLE - hydrating cleansing wipes
2. SEPHORA - triple action gentle makeup remover
3. HADA LABO - deep moisturizing whip foam
ตัวแรกจะเป็นฟีลเหมือนทิชชู่เปียก สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวขี้แพ้
เราใช้ตัวนี้เช็ดเครื่องสำอางออกรอบนึงก่อน เช็ดแล้วเก็บผ้าไว้ข้างๆยังไม่ทิ้ง (555)
ใช้ตัว เซโฟร่า ละเลงแล้วถูวนๆ ก่อนจะเอาผ้าตัวเดิมมาพลิกกลับด้านแล้วเอาส่วนที่ยังสะอาดเช็ดออก
แล้วค่อยล้างหน้าด้วยโฟมของ ฮาดะลาโบะ
แต่ถ้าวันไหนแต่งเบาๆ ก็จะข้ามตัว เซโฟร่า ไปเลยค่ะ
หมวดสอง เตรียมผิว!
4. MONT FLEUR - facial spray
5. ANNUA - heartleaf soothing toner
ล้างหน้าเสร็จล้าว ก็ปรับสภาพผิวค่ะ
ช่วงที่หน้ามีความขี้แพ้เป็นพิเศษ จะสเปรย์น้ำแร่รอบนึงก่อน
คิดเอาเองว่าเป็นไฟนอลทัชที่ดีกว่าน้ำประปา 555
(เราใช้ มองเฟลอร์ แต่คิดว่ายี่ห้อไหนก้อเหมือนๆกันถ้าเป็นน้ำแร่ 100% ไม่ผสมนู่นนี่)
ซับหน้าเบาๆ แล้วต่อด้วยโทนเนอร์ของ แอนนัว
ตัวนี้ไม่ผสมน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน คือดีสุดๆ 👍
**เพิ่มเติมนิดดส์ หน้าแห้ง ไม่ได้แปลว่าไม่ควรใช้โทนเนอร์นะคะ
จริงๆแล้วโทนเนอร์สำคัญมากๆ เป็นการคลีนหน้าขั้นไฟนอลพร้อมกับปรับสภาพผิวให้เหมาะกับการรับสกินแคร์
ย้ำว่า สำคัญจริงๆจ้า
หมวดสาม บำรุงผิว!
6. DR JART+ - Vital hydra solution biome essence
7. DR JART+ - Vital hydra solution ampoule
สเต็ปแรกๆที่เราลองเพิ่มมาจากแค่ทาครีม ก็คือเอสเซนส์ค่ะ
ลองมาหลายตัว รู้สึกว่าของ ดอกเตอร์จาร์ท ตัวนี้ลงตัวสุด ตัวนี้ก็ไม่มีน้ำหอมอีกเหมือนกัน
ใครที่เคยใช้แบบมีกลิ่นมาก่อนอาจจะไม่ชอบตอนแรกๆนะ แต่แป้ปๆก็ชินค่ะ
(ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย สกินแคร์ผสมน้ำหอมคือเลี่ยงได้เลี่ยงดีกว่าจ้า)
ตบตัวเอสเซนส์เบาๆให้ซึมผิวก็โอเคแล้วจ้า
สำหรับแอมพูล เราจะใช้หลังเอสเซนส์แต่ไม่ทุกวันค่ะ ใช้สัปดาห์ละครั้ง
แล้วก็จะใช้วันที่ผิวดูเหนื่อยหนัก หรือช่วงที่หน้าแอบแพ้เบาๆ
แอมพูลตัวนี้ ดีมากๆเรื่องปรอบประโลมแล้วก็เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ทาแบบไม่ต้องล้างนะคะ
วันไหนหน้าแห้งหนัก พอกแอมพูลไป ตื่นเช้ามารู้สึกว่าผิวดีขึ้นประมาณนึงเลยค่ะ (ช่วงแพ้ก็ใช้ดีเหมือนกัน 👍)
หมวดสามครึ่ง มาสก์ผิว!
เราใช้มาสก์เกือบทุกวันค่ะ!! (3-5 วัน/สัปดาห์)
หลายๆคนอาจจะบอกว่า เห้ย!! เยอะไปแล้ว รุนแรงกับผิวไปแล้ว ห้ามทำ!!
แต่เราศึกษา บวกกับถามคุณหมอผิวมาแล้วค่ะ ว่าทำได้ จะมาสก์เช้าเย็นทุกวันยังได้เลย
แต่!!! ต้องเป็นมาสก์สำหรับเพิ่มความชุ่มชื่น และ ส่วนผสมก็จำกัดได้แค่บางอย่างเท่านั้นค่ะ
ถ้าเป็นพวก ไวท์เทนนิ่ง (มี vitamin c, AHA, BHA, หรือ citric ต่างๆ) ไม่ได้เลย
มาสก์เน้นชุ่มชื้น แต่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ กับ น้ำหอม ก็ไม่ได้เหมือนกันค่ะ
**เพิ่มเติมว่า ข้อดีของการทำแบบนี้ สำหรับเราคือ ผิวดีขึ้น ชุ้มชื้นขึ้น แบบก้าวกระโดดเลย 😍
แต่ข้อเสีย แน่นอน เปลืองตังจ้า 555 เราจะอาศัยช่วง เซลล์แหลก หรือ1แถม1 แล้วซื้อทีเดียวเยอะๆค่ะ
หมวดสี่ ท้อปปิ้งผิว ปิดเคส!
8. HADA LABO - gokujyun cream
9. TATCHA - water cream
10. IHADA - medicated emultion
หมวดนี้เป็นครีมปิดฉากการบำรุง
เห็นลิสท์มาสามอย่าง เราเลือกใช้แค่อย่างเดียวนะคะ แล้วแต่ช่วง
ไม่ได้ประโคมโปะสามอันซ้อนเน่อ 😅
ตัวแรกของ ฮาดะลาโบะ ชุ่มชื้น ผิวนุ่ม ไม่แพงด้วย เป็นครีมที่ใช้บ่อยที่สุด แต่ดั๊นนนน ไม่มีในไทย..
ปกติไปญี่ปุ่นทีจะซื้อตุนเยอะๆค่ะ ถ้าไม่ได้ไปก็จะพรีออเดอร์เอา
มีช่วงที่เบื่อความต้องพรี ต้องตุน ลองใช้ตัวอื่นที่ขายในไทย ไม่ได้เลยจริงๆ สิวขึ้นรัวๆเลย 😔
ตัวที่สองของ ทัทชา เห็นชื่อไทยแบบนี้ สูตรญี่ปุ่นสัญชาติอเมริกานาจา 5555
ชอบเนื้อครีมตัวนี้มากกกก เป็นครีมที่ทาลงหน้าแล้วแตกตัวกลายเป็นน้ำ เบาๆเย็นๆ ซึมเร็ว
ตัวนี้หาซื้อไม่ยาก ยิ่งตอนนี้ sephora เอามาขายแล้วยิ่งง่ายใหญ่ แต่!!! ราคาแรงมากจ้าาา
กระปุกจิ๋วแบบในรูปคือพันนึงแล้วจ้าาาา ใช้ได้แค่ช่วงมือเติบค่ะ 5555
ตัวสุดท้ายของ ไอฮาดะ เป็นแบรนด์ลูกของ Shiseido ไม่เจอขายในไทยเลย (อีกแล้ว)
แต่ดีม้ากกกกก (อีกแล้ว) ใช้ตัวนี้ช่วงที่หน้าแพ้ แป้ปเดียวก็หาย โดยที่ไม่ทำให้หน้าแห้งเลย
ตัวนี้ส่วนผสมพิสูจน์ในแล็บมาแล้วว่า allergic free หรือยังไงก็ไม่แพ้ค่ะ 👍
ใครผิวแห้งและเซนซิทีฟระดับสุดถ้ามีโอกาส อยากให้ลองค่ะ <3
จบการสกินแคร์ไปแล้วจ้า
ยาวนิดหน่อย 5555 บางคนอาจจะว่าเยอะ บางคนอาจจะว่าน้อย
ก็ to each their own นะ อันนี้คือเราคิดว่าเหมาะกับผิว และอายุของเรา
ไว้จะมาต่อเรื่องเมคอัพอีกทีนะคะ
🤓❤️
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้