เรื่องสั้นเรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์สมมุติ เพื่อความบันเทิง
หากชื่อ เหตุการณ์ สถานที่ ไปคล้ายกับ ใด ๆ
เป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น
บางคนบอกว่า เงินคือพระเจ้า ข้าฟังแล้วหัวเราะให้กับวิสัยทัศน์ที่คับแคบแบบจิ้งจกในกะลาของคนพูด เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่เงินคือพ่อของพ่อของพ่อ...ของพระเจ้า ถ้าพระเจ้ามีจริง แต่ข้าไม่สนใจหรอกว่าพระองค์จะมีจริงหรือไม่ แต่ถ้าพระองค์มีจริง ข้าคิดว่าพระองค์ก็อาจจะมาในรูปร่างของชื่อเสียงเงินทอง แม้ว่าเงินทองอำนาจจะไม่สามารถซื้อได้ทุกสิ่ง แต่ก็สามารถซื้อได้มากมายหลายสิ่ง ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด ไม่ต้องรอสะสมบารมีไปถึงโลกหน้า
ดูอย่างข้าสิ ทุกวันนี้มีทั้งเงินทั้งอำนาจบารมี โดยมีเงินเป็นจุดเริ่มต้น มีเงินมากอำนาจก็ตามมา อำนาจมาบารมีก็ตามมา เป็นไปตามขั้นตอน ข้าไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย เพราะเกิดมาจากท้องแม่ก็คาบช้อนเงินช้อนทองและพันธบัตรออกมาด้วย เนื่องจากพ่อแม่ร่ำรวยมหาศาล มีคนบอกว่ามดลูกของแม่ไม่ใช่มดลูกแบบคนธรรมดา แต่เป็นมดลูกทองคำบริสุทธิ์ เห็นไหมว่าข้ารวย มาตั้งแต่ ดีเอนเอ ของพ่อและแม่ มาจับคู่กัน หมอบอกว่าโครโมโซมของพ่อและแม่เป็นธาตุทองและธาตเงิน ลูกเกิดมาถึงได้มหารวย
ข้าไม่ต้องเรียนหนังสือ เพราะการเรียนต้องไปฟังครูอบรมสั่งสอน พ่อบอกว่าตระกูลของเราจะต้องเหนือใคร ไม่ให้ใครมาอบรมสั่งสอน จึงไม่ต้องเรียนหนังสือ ยิ่งเรียนยิ่งโง่ เสียเวลา เอาเวลามานับเงิน หรือหาเรื่องชาวบ้านดีกว่า อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไม่เป็นเป็นไร ถ้ามีอำนาจเสียอย่าง
ผลคือข้าเขียนหนังสือไม่ได้ อ่านหนังสือไม่ออก แต่ไม่มีปัญหา อยากได้อยากทำอะไรก็แค่สั่งการ มีคนมากมายยินยอมพร้อมใจสนองความต้องการทันที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ตามขั้นตอน ชีวิตของข้าจึงโคตรสุขสบายหาใดเปรียบ มีเงินมีอำนาจ อะไรก็ดีไปหมด อยากทำอะไรก็ทำ ไม่กลัวอะไร โลกไม่มีที่ยืนสำหรับตนจนและคนอ่อนแอ
ข้ามีลูกชายสามคน ข้าจำหน้าลูกได้ แม้ว่าต้องใช้ความพยายามบ้างก็ตาม แต่จำหน้าแม่ของลูกไม่ได้ เพราะพวกผู้หญิงรูปร่างหน้าตาก็เหมือนกันไปหมด ข้ารวยมากจึงไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการจดจำอะไรมากมาย ความอยากต่างหากมีคุณค่ามากกว่าการจำ วัน ๆ เอาเวลาไปกับความอยากดีกว่า ความอยากยิ่งยาก ยิ่งท้าทายมากขึ้นเท่านั้น กิเลสอันหอมหวาน
เนื่องจากมีบริวารมากมาย ข้าจึงไม่ต้องดิ้นรนออกไปข้างนอกวิ่งหาอะไร แค่อยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นที่หนึ่งร้อยของอาคารระฟ้า หรูหรายิ่งกว่าวิมาน สายตาสำรวจโลกผ่านจอคอมพิวเตอร์สามมิติขนาดใหญ่ สั่งการทำงานด้วยเสียงเท่านั้น ก็สามารถมองเห็นความเป็นไปภายนอกได้ โลกมนุษย์ยุคนี้มันน่ารังเกียจเหลือเกิน ผู้คนส่วนใหญ่ยากจนลำบากยากแค้น หาเช้ากินเช้า หาค่ำกินค่ำ หลายคนหาเช้าจดเย็นก็ไม่มีอะไรกิน ข้านึกอย่างหยามเหยียด คนพวกนั้นทำไมไม่รู้จักรวยกันเสียบ้าง ไม่เห็นยากตรงไหน แค่เกิดมาเป็นลูกคนรวยเท่านั้น สมน้ำหน้าพวกนั้น ทะลึ่งเกิดมาจนเอง ทั้งที่ไม่มีคนบังคับ การรวยก็ไม่เห็นยาก แค่มีเงินมาก ๆ ก็รวยได้แล้ว
ขณะกำลังคิดอยากนั่นนี่เพลิน ๆ ว่าจะอยากอะไรดี จอภาพข้างผนังทองคำก็ปรากฏภาพใบหน้าของชายในเครื่องแบบคนหนึ่ง พอจำได้ว่าเป็นฝ่ายรักษาความรวยของข้านั่นเอง สีหน้าท่าทางเหมือนอยากรายงานอะไรบางอย่าง และก็เป็นไปตามนั้น เขารายงานมาว่าลูกชายคนโตขับรถสิบล้อเทอร์โบเล่นในเมือง แล้วฝ่าไฟแดงไปชนรถซาเล้ง เป็นเหตุให้คนขับรถซาเล้งเสียชีวิตทั้งพ่อแม่ลูก
“เรื่องเล็กน้อย ทำไมต้องรายงาน เสียเวลาความอยากข้าหมด” ข้าดุเจ้าหน้าที่ไปด้วยความฉุนเฉียว จนเขาหน้าซีดลงทันที เพราะเขายากจนนั่นเอง ทางเลือกจึงมีไม่มากนัก
“ตั้งทนายไปฟ้องพวกมันเลย ข้อหาขับรถตัดหน้า ข้อหาไม่รู้จักหลบหลีกลูกคนรวย ข้อหาขับรถเก่าเกินกว่าเหตุ อะไรก็ว่าไป ฟ้องพวกที่ควบคุมไฟจราจรให้หมด จับพวกมันให้หมด อ้อ อีกข้อหา ทำให้สีรถถลอก ถ้าสีไม่ถลอกก็ทำให้ถลอกซะ”
ข้าสั่งการแล้วหัวเราะชอบใจ สาสมใจ อะไรจะสนุกมากกว่าการรังแกคนไม่มีทางสู้ทั้งทางกฏหมายและอิทธิพล ตาชั่งแห่งความเที่ยงตรงมีที่ไหนกัน ไม่...ข้าไม่ได้มีอคติ ข้ายุติธรรมที่สุดแล้ว คอยดูเถอะไอ้พวกนี้ ข้าจะซื้อถนนทั้งประเทศมาเป็นของข้าให้หมด ใครจะใช้ถนนก็ต้องเสียค่าบริการ เงินทองจะไหลมาเทมาอีก
แก้ปัญหาลูกชายคนโตไปได้ไม่ถึงนาที หน้าจอก็ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่คนเดิมขึ้นมาอีก
“อะไรอีกฟะ” ข้าคำรามอย่างเสียหัว
“มีข่าวคุณชายรองของท่านครับ ขึ้นยานอวกาศไปเที่ยวรอบโลกไม่ทันครับ คุณชายไปถึงฐานอวกาศ ช้าไปหกชั่วโมง ยานอวกาศเลยขึ้นไปก่อน คุณชายเวลานี้อาละวาดอยู่ที่ฐานใหญ่เลยครับ ทำไงดีครับท่าน”
“ตั้งขีปนาวุธไปที่ยานอวกาศลำนั้น สอยมันให้ระเบิด ส่งกองกำลังไปทำลายฐานอวกาศให้พินาศ”
ผมคำรามลั่น ไอ้พวกเจ้าหน้าที่ควบคุมการส่งยานทำไมไม่มีหัวคิดกันบ้างเลย คนเราแค่มาช้าไปหกชั่วโมงทำเป็นรอไม่ได้ มันจะอะไรกันนักกันหนา ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว ลูกชายข้ากำลังอยู่ในวัยรุ่น ย่อมมีการออกนอกลู่นอกถนนไปบ้าง ไม่เข้าใจเด็กเอาเสียเลย มันต้องสั่งสอนกันหน่อย
ข้าปรับสัญญาณภาพไปยังยานอวกาศที่กำลังอยู่ในวงโคจร รอดูความหายนะ และไม่นาน ขีปนาวุธก็พุ่งเข้าปะทะยานอวกาศจนระเบิดเป็นจุณ ชิ้นส่วนลอยกระจัดกระจาย ข้าร้องอย่างสะใจ ภาพแห่งความหายนะของคนอื่น ช่างสวยงามยิ่งกว่าภาพวาดของจิตรกรคนใด
ยังไม่ทันอิ่มเอมกับความสะใจที่อบอวล หน้าจอก็ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่คนเดิมขึ้นอีก แต่การรายงานครั้งนี้ ทำให้ข้าสะดุ้งวาบ
“ท่านครับ เราเพิ่งตรวจสอบพบว่า บนยานลำนั้น มีเพียงครอบครัวลูกชายเล็กของท่านอยู่บนยานเท่านั้น เพราะคุณชายเล็กบังเอิญอยากพาครอบครัวไปเที่ยวอวกาศกะทันหัน เลยบังคับให้ลูกค้ารายอื่นลงจากยานจนหมด เพื่อไม่ให้มารบกวนความรวย ตำรวจทหารยังหาชิ้นส่วนของคุณชายเล็กและครอบครัวไม่เจอเลยครับ คาดว่า...”
“ไม่ต้องรายงานแล้วโว้ย!” ข้าร้องลั่น ยังไงลูกชายคนเล็กก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อรวยของข้า จะไม่ให้เสียใจเดือดดาลก็กระไรอยู่ ความสูญเสียครั้งนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ ใช่แล้ว สถานีอวกาศทั้งหลายต้องรับผิดชอบ ในฐานะที่ไม่รู้จักสร้างระบบหลบหลีกขีปนาวุธให้ยานอวกาศ ความบกพร่องที่ไม่น่าให้อภัย
“แกไปจัดการสั่งกองพันที่สิบไปถล่มฐานยานอวกาศในราบเดี๋ยวนี้”
หน้าจอดับวูบไป ข้าหอบหายใจแรง ซึ่งอาการแบบนี้เป็นไม่บ่อยนัก เพราะปกติไม่ค่อยมีอะไรมาขัดใจ แต่วันนี้มันเป็นวันบ้าอะไรกัน ไม่เป็นไร ยังเหลือลูกชายอีกสองคน
ไม่ถึงสิบนาที จอภาพก็สว่างวาบขึ้นอีก พร้อมใบหน้าของเจ้าหน้าที่คนเดิมรายงานตามเคย
“ท่านครับ ลูกชายคนรองของท่าน ที่อาละวาดอยู่ฐานยิง ถูกประชาชนรุมกระทืบ กระทืบ และกระทืบ เท้าขยี้...ขยี้.. ด้วยส้นเกือก.. ผู้คนเดินไปเหยียบย่ำบนเศษเลือดเนื้อ ถ่มน้ำลายใส่ คุณชายรอง จนตัวแบนเป็นกล้วยปิ้งเรียบร้อยแล้วครับ”
“มันบ้าอะไรกัน” ข้าร้องสุดเสียง มือกำพนักเก้าอี้แน่นกับข่าวร้ายของลูกชายคนโปรด เขาเป็นความหวังในการสืบทอดอำนาจ แต่ทำไมมาตายง่ายแบบนี้ ข้าหลงคิดผิดมาตั้งนานว่าคนรวยจะตายยาก นึกว่าอำนาจและบารมีจะทำให้เกิดออร่าคุ้มครองร่างกายเสียอีก
“เกิดจราจลครับท่าน ผู้คนลุกฮือต่อต้านบริษัทของท่านไปทั่ว อาคารที่ทำการของบริษัทท่าน เริ่มถูกเผาทำร้ายไปทั่วมุมเมืองแล้วครับ”
“สั่งกองกำลังของเราจัดการพวกก่อจราจลให้หมด” ข้าออกคำสั่งเด็ดขาด ด้วยกองกำลังติดอาวุธของบริษัทจำนวนสองแสนนาย ไม่ยากจะจัดการกับพวกก่อความวุ่นวาย พวกมันก็แค่คนธรรมดา ไม่ได้รวยอะไรกันนักกันหนา
“กองกำลังของเรา ไม่มีใครออกมาปฏิบัติหน้าที่แล้วครับ พากันกลับบ้านหมดแล้วครับท่าน”
“ทำไม” ข้าหลุดปากถามแบบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“เมียสั่งครับเมียสั่ง สั่งให้พวกสามีกลับบ้าน”
ข้าชาวูบไปทั่วร่าง นี่มันกองกำลังฝีมือดีของข้า เคยทำงานยาก ๆ ประเภทส่งไปเก็บส่วยและทวงหนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ทำไมกล้าขัดคำสั่ง นี่มันหมายถึงมนุษย์เมียมีพลานุภาพมากกว่าอย่างอื่นหรืออย่างไร คอยดูเถอะ....ไว้เรื่องนี้เสร็จ ข้าจะหาทางจัดการกับมนุษย์เมียให้หมดไปจากสังคม คำว่าเมีย ภรรยา จะต้องหายไปจากโลก
ข้าเองก็ไม่รู้หรอกว่ามนุษย์เมียเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยมีเมีย ที่มีลูกได้ก็เพราะมีผู้หญิง แต่ความเป็นเมียไม่รู้ว่าเนื้อแท้คืออะไร แต่วันนี้สิ่งที่รู้คือ พลังเมีย มันช่างมหาศาลจนคาดไม่ถึง คนเราจะยิ่งใหญ่ได้จะต้องเป็นคนเหนือเมีย จะต้องเป็นคนชนะเมียสิบทิศ
ไอ้พวกกลัวเมีย ตกอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเมียจะต้องลงโทษให้หมด! คนกลัวเมียจะถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย
“ติดต่อลูกชายคนโตให้กลับมาด่วน” ข้าออกคำสั่ง โดยหวังว่าลูกชายคนที่เหลือจะกลับมาเป็นฐานกำลังจัดการกับการถูกชาวบ้านโจมตีบริษัท ลูกชายอยู่ในวัยหนุ่ม เขาน่าจะมีไอเดียดี ๆ ส่วนข้าขี้เกียจคิด
เปลี่ยนภาพบนจอยักษ์ติดผนังเป็นรายงานข่าว แสดงให้เห็นถึงกลุ่มควันเปลวไฟลอยกรุ่นทั่วเมือง ทั่วประเทศ ประชาชนมุ่งจัดการเฉพาะอาคารสถานที่ของบริษัทข้าเท่านั้น และที่น่าโมโหคือ พนักงานบริษัทกลับพากันเข้าร่วมกับพวกก่อจราจลด้วย มันน่าแค้นนัก ที่พวกมันมีอยู่มีกินจนทุกวันนี้ก็เงินของข้าทั้งนั้น
ส่วนพวกตำรวจที่ข้าซื้อตัวมา แทนที่จะออกมาแก้ปัญหา กลับพากันวิ่งหายเข้าไปในบ่อน ในอบอาบนวดกันจนหมด ตำรวจที่เหลือซึ่งหัวแข็ง ไม่ยอมอ่อนน้อมต่อข้า ก็พากัน ไม่ทำหน้าที่ แต่พากันเต้นแบบ ปอม-ปอม เกิร์ล เชียร์พวกก่อจราจลเสียอย่างนั้น สังคมวิปริตไปหมดแล้ว ไอ้พวกโง่ แทนที่จะยอมรับเงินใต้โต๊ะ ดี ๆ กลับพากันปฏิเสธ พากันเสียเวลาเหนื่อยกับการออกไปไล่จับโจรผู้ร้าย เสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น ให้มันกินอุดมการณ์ไปเถอะพวกนี้ พวกเขาลืมไปว่า ข้าเอาเงินซื้อทนายอัยการ ส่วนหนึ่งไว้ในมือเรียบร้อย ต่อให้ก่อคดีอุกฉกรรจ์ อย่างมากก็เพียงติดคุก 1 วินาที ลดโทษไปมาเหลือติดคุกจริง 0.001 วินาทีเท่านั้น เผลอ ๆ ไม่ต้องติดคุกอีกต่างหาก
แต่ถ้าใครไม่ยอมก้มหัวให้ข้า พวกนั้นแค่หายใจแรง ก็จะโดนข้อหา ทำลายชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดมลพิษ เป็นอันตรายต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จนทำให้ระบบสุริยะขาดความสมดุล เจอข้อหาติดคุกสองแสนปี รวมไปถึงติดคุกไปอีกสามชาติภพภูมิ
หน้าจอเปลี่ยนมาเป็นเจ้าหน้าที่คนเดิมมารายงานอีกครั้ง
“ขณะนี้ พวก่อจราจลบุกมาถึงอาคารของเราแล้วครับท่าน พวกมันกำลังบุกขึ้นไปชั้นที่ร้อยครับ”
“เฮ้ย....ชั้นที่ร้อย ก็ชั้นที่ข้าอยู่นี่หว่า”
“เออ ใช่ครับท่าน ตรงไปยังห้องของท่านด้วยครับ”
“แล้วทำไมพวกแกไม่สะกัดพวกมันไว้วะ”
“สกัดไม่ไหวครับ พวกเรากลายเป็นพวกของพวกนั้นหมดแล้วครับ รวมทั้งตัวผมด้วย ทนไม่ได้แล้วโว้ย ขอให้ลงนรกหมกไหม้อย่างสวยงามนะครับ ท่านแก”
พูดจบมันก็ยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ แบบสะใจ แล้วจอภาพก็ดับวูบลง
ข้าคำรามอย่างแค้นใจ พวกนี้เลี้ยงเสียก๋วยเตี๋ยวโดยแท้ พอจวนตัวพากันทรยศกันหมด ไอ้พวกคนบาป...ข้าผิดตรงไหนหรือ พวกมันถึงทรยศ
เสียงเอะอะโครมครามจากด้านนอก ใกล้เข้ามาทุกที ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าพวกมันกำลังพากันมุ่งหน้ามาที่นี่ ไม่มีทางเสียหรอก ข้าแสยะยิ้มแบบผู้ร้าย ห้องข้าง ๆ เป็นห้องลับ มียานฉุกกเฉินลำหนึ่งจอดอยู่ มันติดตั้งระบบอัตโนมัติ จะพาข้าเดินทางไปยังฐานลับที่ปลอดภัยที่สุด เร้นลับที่สุด
ไม่มีใครตามได้ พวกหน้าโง่เข้ามาก็จะเจอเพียงความว่างเปล่าของห้อง
........
สูงสุดยอด คืน สู่ สามานย์
หากชื่อ เหตุการณ์ สถานที่ ไปคล้ายกับ ใด ๆ
เป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น
บางคนบอกว่า เงินคือพระเจ้า ข้าฟังแล้วหัวเราะให้กับวิสัยทัศน์ที่คับแคบแบบจิ้งจกในกะลาของคนพูด เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่เงินคือพ่อของพ่อของพ่อ...ของพระเจ้า ถ้าพระเจ้ามีจริง แต่ข้าไม่สนใจหรอกว่าพระองค์จะมีจริงหรือไม่ แต่ถ้าพระองค์มีจริง ข้าคิดว่าพระองค์ก็อาจจะมาในรูปร่างของชื่อเสียงเงินทอง แม้ว่าเงินทองอำนาจจะไม่สามารถซื้อได้ทุกสิ่ง แต่ก็สามารถซื้อได้มากมายหลายสิ่ง ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด ไม่ต้องรอสะสมบารมีไปถึงโลกหน้า
ดูอย่างข้าสิ ทุกวันนี้มีทั้งเงินทั้งอำนาจบารมี โดยมีเงินเป็นจุดเริ่มต้น มีเงินมากอำนาจก็ตามมา อำนาจมาบารมีก็ตามมา เป็นไปตามขั้นตอน ข้าไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย เพราะเกิดมาจากท้องแม่ก็คาบช้อนเงินช้อนทองและพันธบัตรออกมาด้วย เนื่องจากพ่อแม่ร่ำรวยมหาศาล มีคนบอกว่ามดลูกของแม่ไม่ใช่มดลูกแบบคนธรรมดา แต่เป็นมดลูกทองคำบริสุทธิ์ เห็นไหมว่าข้ารวย มาตั้งแต่ ดีเอนเอ ของพ่อและแม่ มาจับคู่กัน หมอบอกว่าโครโมโซมของพ่อและแม่เป็นธาตุทองและธาตเงิน ลูกเกิดมาถึงได้มหารวย
ข้าไม่ต้องเรียนหนังสือ เพราะการเรียนต้องไปฟังครูอบรมสั่งสอน พ่อบอกว่าตระกูลของเราจะต้องเหนือใคร ไม่ให้ใครมาอบรมสั่งสอน จึงไม่ต้องเรียนหนังสือ ยิ่งเรียนยิ่งโง่ เสียเวลา เอาเวลามานับเงิน หรือหาเรื่องชาวบ้านดีกว่า อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ไม่เป็นเป็นไร ถ้ามีอำนาจเสียอย่าง
ผลคือข้าเขียนหนังสือไม่ได้ อ่านหนังสือไม่ออก แต่ไม่มีปัญหา อยากได้อยากทำอะไรก็แค่สั่งการ มีคนมากมายยินยอมพร้อมใจสนองความต้องการทันที ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ตามขั้นตอน ชีวิตของข้าจึงโคตรสุขสบายหาใดเปรียบ มีเงินมีอำนาจ อะไรก็ดีไปหมด อยากทำอะไรก็ทำ ไม่กลัวอะไร โลกไม่มีที่ยืนสำหรับตนจนและคนอ่อนแอ
ข้ามีลูกชายสามคน ข้าจำหน้าลูกได้ แม้ว่าต้องใช้ความพยายามบ้างก็ตาม แต่จำหน้าแม่ของลูกไม่ได้ เพราะพวกผู้หญิงรูปร่างหน้าตาก็เหมือนกันไปหมด ข้ารวยมากจึงไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามในการจดจำอะไรมากมาย ความอยากต่างหากมีคุณค่ามากกว่าการจำ วัน ๆ เอาเวลาไปกับความอยากดีกว่า ความอยากยิ่งยาก ยิ่งท้าทายมากขึ้นเท่านั้น กิเลสอันหอมหวาน
เนื่องจากมีบริวารมากมาย ข้าจึงไม่ต้องดิ้นรนออกไปข้างนอกวิ่งหาอะไร แค่อยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นที่หนึ่งร้อยของอาคารระฟ้า หรูหรายิ่งกว่าวิมาน สายตาสำรวจโลกผ่านจอคอมพิวเตอร์สามมิติขนาดใหญ่ สั่งการทำงานด้วยเสียงเท่านั้น ก็สามารถมองเห็นความเป็นไปภายนอกได้ โลกมนุษย์ยุคนี้มันน่ารังเกียจเหลือเกิน ผู้คนส่วนใหญ่ยากจนลำบากยากแค้น หาเช้ากินเช้า หาค่ำกินค่ำ หลายคนหาเช้าจดเย็นก็ไม่มีอะไรกิน ข้านึกอย่างหยามเหยียด คนพวกนั้นทำไมไม่รู้จักรวยกันเสียบ้าง ไม่เห็นยากตรงไหน แค่เกิดมาเป็นลูกคนรวยเท่านั้น สมน้ำหน้าพวกนั้น ทะลึ่งเกิดมาจนเอง ทั้งที่ไม่มีคนบังคับ การรวยก็ไม่เห็นยาก แค่มีเงินมาก ๆ ก็รวยได้แล้ว
ขณะกำลังคิดอยากนั่นนี่เพลิน ๆ ว่าจะอยากอะไรดี จอภาพข้างผนังทองคำก็ปรากฏภาพใบหน้าของชายในเครื่องแบบคนหนึ่ง พอจำได้ว่าเป็นฝ่ายรักษาความรวยของข้านั่นเอง สีหน้าท่าทางเหมือนอยากรายงานอะไรบางอย่าง และก็เป็นไปตามนั้น เขารายงานมาว่าลูกชายคนโตขับรถสิบล้อเทอร์โบเล่นในเมือง แล้วฝ่าไฟแดงไปชนรถซาเล้ง เป็นเหตุให้คนขับรถซาเล้งเสียชีวิตทั้งพ่อแม่ลูก
“เรื่องเล็กน้อย ทำไมต้องรายงาน เสียเวลาความอยากข้าหมด” ข้าดุเจ้าหน้าที่ไปด้วยความฉุนเฉียว จนเขาหน้าซีดลงทันที เพราะเขายากจนนั่นเอง ทางเลือกจึงมีไม่มากนัก
“ตั้งทนายไปฟ้องพวกมันเลย ข้อหาขับรถตัดหน้า ข้อหาไม่รู้จักหลบหลีกลูกคนรวย ข้อหาขับรถเก่าเกินกว่าเหตุ อะไรก็ว่าไป ฟ้องพวกที่ควบคุมไฟจราจรให้หมด จับพวกมันให้หมด อ้อ อีกข้อหา ทำให้สีรถถลอก ถ้าสีไม่ถลอกก็ทำให้ถลอกซะ”
ข้าสั่งการแล้วหัวเราะชอบใจ สาสมใจ อะไรจะสนุกมากกว่าการรังแกคนไม่มีทางสู้ทั้งทางกฏหมายและอิทธิพล ตาชั่งแห่งความเที่ยงตรงมีที่ไหนกัน ไม่...ข้าไม่ได้มีอคติ ข้ายุติธรรมที่สุดแล้ว คอยดูเถอะไอ้พวกนี้ ข้าจะซื้อถนนทั้งประเทศมาเป็นของข้าให้หมด ใครจะใช้ถนนก็ต้องเสียค่าบริการ เงินทองจะไหลมาเทมาอีก
แก้ปัญหาลูกชายคนโตไปได้ไม่ถึงนาที หน้าจอก็ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่คนเดิมขึ้นมาอีก
“อะไรอีกฟะ” ข้าคำรามอย่างเสียหัว
“มีข่าวคุณชายรองของท่านครับ ขึ้นยานอวกาศไปเที่ยวรอบโลกไม่ทันครับ คุณชายไปถึงฐานอวกาศ ช้าไปหกชั่วโมง ยานอวกาศเลยขึ้นไปก่อน คุณชายเวลานี้อาละวาดอยู่ที่ฐานใหญ่เลยครับ ทำไงดีครับท่าน”
“ตั้งขีปนาวุธไปที่ยานอวกาศลำนั้น สอยมันให้ระเบิด ส่งกองกำลังไปทำลายฐานอวกาศให้พินาศ”
ผมคำรามลั่น ไอ้พวกเจ้าหน้าที่ควบคุมการส่งยานทำไมไม่มีหัวคิดกันบ้างเลย คนเราแค่มาช้าไปหกชั่วโมงทำเป็นรอไม่ได้ มันจะอะไรกันนักกันหนา ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว ลูกชายข้ากำลังอยู่ในวัยรุ่น ย่อมมีการออกนอกลู่นอกถนนไปบ้าง ไม่เข้าใจเด็กเอาเสียเลย มันต้องสั่งสอนกันหน่อย
ข้าปรับสัญญาณภาพไปยังยานอวกาศที่กำลังอยู่ในวงโคจร รอดูความหายนะ และไม่นาน ขีปนาวุธก็พุ่งเข้าปะทะยานอวกาศจนระเบิดเป็นจุณ ชิ้นส่วนลอยกระจัดกระจาย ข้าร้องอย่างสะใจ ภาพแห่งความหายนะของคนอื่น ช่างสวยงามยิ่งกว่าภาพวาดของจิตรกรคนใด
ยังไม่ทันอิ่มเอมกับความสะใจที่อบอวล หน้าจอก็ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่คนเดิมขึ้นอีก แต่การรายงานครั้งนี้ ทำให้ข้าสะดุ้งวาบ
“ท่านครับ เราเพิ่งตรวจสอบพบว่า บนยานลำนั้น มีเพียงครอบครัวลูกชายเล็กของท่านอยู่บนยานเท่านั้น เพราะคุณชายเล็กบังเอิญอยากพาครอบครัวไปเที่ยวอวกาศกะทันหัน เลยบังคับให้ลูกค้ารายอื่นลงจากยานจนหมด เพื่อไม่ให้มารบกวนความรวย ตำรวจทหารยังหาชิ้นส่วนของคุณชายเล็กและครอบครัวไม่เจอเลยครับ คาดว่า...”
“ไม่ต้องรายงานแล้วโว้ย!” ข้าร้องลั่น ยังไงลูกชายคนเล็กก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อรวยของข้า จะไม่ให้เสียใจเดือดดาลก็กระไรอยู่ ความสูญเสียครั้งนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ ใช่แล้ว สถานีอวกาศทั้งหลายต้องรับผิดชอบ ในฐานะที่ไม่รู้จักสร้างระบบหลบหลีกขีปนาวุธให้ยานอวกาศ ความบกพร่องที่ไม่น่าให้อภัย
“แกไปจัดการสั่งกองพันที่สิบไปถล่มฐานยานอวกาศในราบเดี๋ยวนี้”
หน้าจอดับวูบไป ข้าหอบหายใจแรง ซึ่งอาการแบบนี้เป็นไม่บ่อยนัก เพราะปกติไม่ค่อยมีอะไรมาขัดใจ แต่วันนี้มันเป็นวันบ้าอะไรกัน ไม่เป็นไร ยังเหลือลูกชายอีกสองคน
ไม่ถึงสิบนาที จอภาพก็สว่างวาบขึ้นอีก พร้อมใบหน้าของเจ้าหน้าที่คนเดิมรายงานตามเคย
“ท่านครับ ลูกชายคนรองของท่าน ที่อาละวาดอยู่ฐานยิง ถูกประชาชนรุมกระทืบ กระทืบ และกระทืบ เท้าขยี้...ขยี้.. ด้วยส้นเกือก.. ผู้คนเดินไปเหยียบย่ำบนเศษเลือดเนื้อ ถ่มน้ำลายใส่ คุณชายรอง จนตัวแบนเป็นกล้วยปิ้งเรียบร้อยแล้วครับ”
“มันบ้าอะไรกัน” ข้าร้องสุดเสียง มือกำพนักเก้าอี้แน่นกับข่าวร้ายของลูกชายคนโปรด เขาเป็นความหวังในการสืบทอดอำนาจ แต่ทำไมมาตายง่ายแบบนี้ ข้าหลงคิดผิดมาตั้งนานว่าคนรวยจะตายยาก นึกว่าอำนาจและบารมีจะทำให้เกิดออร่าคุ้มครองร่างกายเสียอีก
“เกิดจราจลครับท่าน ผู้คนลุกฮือต่อต้านบริษัทของท่านไปทั่ว อาคารที่ทำการของบริษัทท่าน เริ่มถูกเผาทำร้ายไปทั่วมุมเมืองแล้วครับ”
“สั่งกองกำลังของเราจัดการพวกก่อจราจลให้หมด” ข้าออกคำสั่งเด็ดขาด ด้วยกองกำลังติดอาวุธของบริษัทจำนวนสองแสนนาย ไม่ยากจะจัดการกับพวกก่อความวุ่นวาย พวกมันก็แค่คนธรรมดา ไม่ได้รวยอะไรกันนักกันหนา
“กองกำลังของเรา ไม่มีใครออกมาปฏิบัติหน้าที่แล้วครับ พากันกลับบ้านหมดแล้วครับท่าน”
“ทำไม” ข้าหลุดปากถามแบบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน
“เมียสั่งครับเมียสั่ง สั่งให้พวกสามีกลับบ้าน”
ข้าชาวูบไปทั่วร่าง นี่มันกองกำลังฝีมือดีของข้า เคยทำงานยาก ๆ ประเภทส่งไปเก็บส่วยและทวงหนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ทำไมกล้าขัดคำสั่ง นี่มันหมายถึงมนุษย์เมียมีพลานุภาพมากกว่าอย่างอื่นหรืออย่างไร คอยดูเถอะ....ไว้เรื่องนี้เสร็จ ข้าจะหาทางจัดการกับมนุษย์เมียให้หมดไปจากสังคม คำว่าเมีย ภรรยา จะต้องหายไปจากโลก
ข้าเองก็ไม่รู้หรอกว่ามนุษย์เมียเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยมีเมีย ที่มีลูกได้ก็เพราะมีผู้หญิง แต่ความเป็นเมียไม่รู้ว่าเนื้อแท้คืออะไร แต่วันนี้สิ่งที่รู้คือ พลังเมีย มันช่างมหาศาลจนคาดไม่ถึง คนเราจะยิ่งใหญ่ได้จะต้องเป็นคนเหนือเมีย จะต้องเป็นคนชนะเมียสิบทิศ
ไอ้พวกกลัวเมีย ตกอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเมียจะต้องลงโทษให้หมด! คนกลัวเมียจะถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย
“ติดต่อลูกชายคนโตให้กลับมาด่วน” ข้าออกคำสั่ง โดยหวังว่าลูกชายคนที่เหลือจะกลับมาเป็นฐานกำลังจัดการกับการถูกชาวบ้านโจมตีบริษัท ลูกชายอยู่ในวัยหนุ่ม เขาน่าจะมีไอเดียดี ๆ ส่วนข้าขี้เกียจคิด
เปลี่ยนภาพบนจอยักษ์ติดผนังเป็นรายงานข่าว แสดงให้เห็นถึงกลุ่มควันเปลวไฟลอยกรุ่นทั่วเมือง ทั่วประเทศ ประชาชนมุ่งจัดการเฉพาะอาคารสถานที่ของบริษัทข้าเท่านั้น และที่น่าโมโหคือ พนักงานบริษัทกลับพากันเข้าร่วมกับพวกก่อจราจลด้วย มันน่าแค้นนัก ที่พวกมันมีอยู่มีกินจนทุกวันนี้ก็เงินของข้าทั้งนั้น
ส่วนพวกตำรวจที่ข้าซื้อตัวมา แทนที่จะออกมาแก้ปัญหา กลับพากันวิ่งหายเข้าไปในบ่อน ในอบอาบนวดกันจนหมด ตำรวจที่เหลือซึ่งหัวแข็ง ไม่ยอมอ่อนน้อมต่อข้า ก็พากัน ไม่ทำหน้าที่ แต่พากันเต้นแบบ ปอม-ปอม เกิร์ล เชียร์พวกก่อจราจลเสียอย่างนั้น สังคมวิปริตไปหมดแล้ว ไอ้พวกโง่ แทนที่จะยอมรับเงินใต้โต๊ะ ดี ๆ กลับพากันปฏิเสธ พากันเสียเวลาเหนื่อยกับการออกไปไล่จับโจรผู้ร้าย เสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น ให้มันกินอุดมการณ์ไปเถอะพวกนี้ พวกเขาลืมไปว่า ข้าเอาเงินซื้อทนายอัยการ ส่วนหนึ่งไว้ในมือเรียบร้อย ต่อให้ก่อคดีอุกฉกรรจ์ อย่างมากก็เพียงติดคุก 1 วินาที ลดโทษไปมาเหลือติดคุกจริง 0.001 วินาทีเท่านั้น เผลอ ๆ ไม่ต้องติดคุกอีกต่างหาก
แต่ถ้าใครไม่ยอมก้มหัวให้ข้า พวกนั้นแค่หายใจแรง ก็จะโดนข้อหา ทำลายชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เกิดมลพิษ เป็นอันตรายต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จนทำให้ระบบสุริยะขาดความสมดุล เจอข้อหาติดคุกสองแสนปี รวมไปถึงติดคุกไปอีกสามชาติภพภูมิ
หน้าจอเปลี่ยนมาเป็นเจ้าหน้าที่คนเดิมมารายงานอีกครั้ง
“ขณะนี้ พวก่อจราจลบุกมาถึงอาคารของเราแล้วครับท่าน พวกมันกำลังบุกขึ้นไปชั้นที่ร้อยครับ”
“เฮ้ย....ชั้นที่ร้อย ก็ชั้นที่ข้าอยู่นี่หว่า”
“เออ ใช่ครับท่าน ตรงไปยังห้องของท่านด้วยครับ”
“แล้วทำไมพวกแกไม่สะกัดพวกมันไว้วะ”
“สกัดไม่ไหวครับ พวกเรากลายเป็นพวกของพวกนั้นหมดแล้วครับ รวมทั้งตัวผมด้วย ทนไม่ได้แล้วโว้ย ขอให้ลงนรกหมกไหม้อย่างสวยงามนะครับ ท่านแก”
พูดจบมันก็ยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ แบบสะใจ แล้วจอภาพก็ดับวูบลง
ข้าคำรามอย่างแค้นใจ พวกนี้เลี้ยงเสียก๋วยเตี๋ยวโดยแท้ พอจวนตัวพากันทรยศกันหมด ไอ้พวกคนบาป...ข้าผิดตรงไหนหรือ พวกมันถึงทรยศ
เสียงเอะอะโครมครามจากด้านนอก ใกล้เข้ามาทุกที ไม่ต้องบอกก็พอรู้ว่าพวกมันกำลังพากันมุ่งหน้ามาที่นี่ ไม่มีทางเสียหรอก ข้าแสยะยิ้มแบบผู้ร้าย ห้องข้าง ๆ เป็นห้องลับ มียานฉุกกเฉินลำหนึ่งจอดอยู่ มันติดตั้งระบบอัตโนมัติ จะพาข้าเดินทางไปยังฐานลับที่ปลอดภัยที่สุด เร้นลับที่สุด
ไม่มีใครตามได้ พวกหน้าโง่เข้ามาก็จะเจอเพียงความว่างเปล่าของห้อง
........