ผมอยู่กับครอบครัวมา17ปี พึ่งได้ออกจากรังไป1ปีเต็มๆ รู้สึกว่าถึงมันจะเหงาหรือยังไง ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อ เเต่ที่ทำให้ผมปวดหัวทุกๆวันคือการพูดของพ่อผมครับ เช่น ย้ำทุกอย่างทั้งๆที่ผมกำลังจะทำ 2. ไม่มีงานทำเป็นหลัก คือครอบครัวของผมนั้น ตอนเเรกพ่อของผมทำงานเป็นช่าง เเม่ทำงานบริษัทเป็นบัญชี ต่อมามีผม จึงทำให้เเม่ต้องออกจากงานเเล้วมาดูเเลผม ซึ่งพ่อนั้น ทำงานช่างไม่ไหว ประมาณว่า ไม่ใช่ทางของพ่อ จึงไม่ทำต่อ ต่อมาไม่มีงาน เเล้วปู่ของผมให้พ่อของผม ขับรถพาไปสวน เเละนี้จะถือว่าเป็นอาชีพของพ่อผมตอนนี้ พ่อของผมมีสวนอยู่1ที่ เเต่พ่อของผมชอบบ่นให้ฟังว่าเหนื่อย ท้อ ผมก็ไม่รู้จะพูดต่อยังไง เพราะ งานไม่มี เงินก็ไม่มีประจำ เเต่ทำยังไงได้เขาเป็นพ่อของผม ผมก็ต้องปลอบ เเต่ในความคิดผม ทำไม ไม่หางานเเบบประจำทำเเล้วเรื่องสวนค่อยหาเวลาเข้าไป 3. ทุกๆเรื่องสำคัญจนเกิดเรื่อง คือเรื่องมีอยู่ว่า พ่อของผมชอบยำ้ทุกคนว่า ลืมอะไรหรือเอาของไปครบไหม เเล้วล็อคบ้าน ปิดไฟ ปิดน้ำหรือยัง พอออกรถมาได้ไม่นาน พ่อผมลืมโทรศัพท์ ทำให้เวลาช้ามาก จนผมไปซ้อมเเสดงไม่ทัน เเละพ่อผมก็โทษผม 4.บ่นเเล้วได้อะไร คือต่อจากข้อ2เลยครับ บ่นเเล้วได้อะไร เพราะงานไม่มีประจำ เงินก็ไม่ได้เป็นหลัก เอาง่ายๆครับ ต้องรอเงินจากปู่กับย่า เเล้วมาเเบ่งใช้อีกที จึงทำให้ครอบครัวผมถือว่า อยู่ในขั้นปานกลางหรือเกือบต่ำ 5.เด็กกำลังโต บ่นอะไรได้อย่างนั้น คือเรื่องนี้ผมผิดจริง เพราะผมได้สมัครการเรียนพิเศษ โดยใช้คอมเป็นหลัก เเต่เเล้ว พ่อของผมได้บ่นออกมาว่าถ้าสมมุติมัน ก็คือผม ไม่ไปเรียน ฮาเลย ผมก็ไม่คิดส่าจะเกิดขึ้น ผมไม่ได้ไปเรียนเเต่ไงได้ครับ เด็กกำลังโต ก็อยากเี่ยว อยากอยู่กับเพื่อน เป็นธรรมดา ของเด็กผู้ชาย อันนี้ผมผิดจริงยอมรับ เเล้วเรื่องสุดท้าย สีหน้า สีหน้าของผมได้มาจากพ่อเต็มๆครับ คือโกรธหรือเสียใจหรือเฮฮา สีหน้าจะบ่งบอกหมดครับ เเล้วพ่อของผมสีหน้าไม่มีเเม้เเต่รอยยิ้มเหมือนพ่อคนอื่น มีเเต่ความโกรธ เสียใจเท่านั้นครับ ใครมีพ่อเเบบนี้มังครับ อยากรู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงให้พ่อปรับตัวเอง. ถ้าผมพิมพ์อะไรผิด ก็ขอโทษไว้ด้วยครับ
พ่อใครเป็นเเบบนี้มั้งครับ