
มุมมองผู้ประกอบการสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมหลังเกิดวิกฤติ COVID-19 ของผู้มีส่วนได้เสีย
1สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 มากน้อยแค่น้อยแค่ไหน และ วิกฤตครั้งนี้สามารถสร้างบทเรียนอะไรให้กับบริษัทบ้าง ?
ผมมองธุรกิจนี้เป็น 2 ขั้ว 1 ขั้วที่ประสบเหตุกับ COVID จะเป็นกลุ่มบริษัทเล็ก-ขนาดกลาง จะมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มนายทุนใหญ่ ซึ่งอาจจะทำงานการดำเนินงานนั้น อาจหยุดชงังและยกเลิกงานได้
ขั้วที่ 2 ผมมองถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน บริษัทที่ต่อสายน้ำเลี้ยง ก็มีผลกระทบน้อยกว่า ก็เหมือนแก็ง blue ocean กับ red ocean ที่มีความชัดเจนของมันอยู่แล้ว
เรียนที่ได้จากวิกฤตินี้ คงจะเป็นเงินการ MANAGE เงิน การสำรองเงินอาจจะมีการสำรองเงินที่มีระยะเวลาที่ยาวขึ้น หรือ การบริหารการจัดการบุคลากร ก็เป็นส่วนสำคัญในเรียนรู้ในวิกฤติครั้งนี้
2จากสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นหลายๆ วิชาชีพ ได้มองเห็นถึงปัญหาหรือผลกระทบที่ตามมาแล้วสาขาวิชาขีพสถาปัตยกรรมมองเห็น ข้อดี-ข้อเสีย วิกฤติครั้งนี้อย่างไร ?
ในเเง่มุมมองของผม ผมมองว่า NEW NORMAL ก็ไม่เห็นเห็นเป็นอะไรที่ใหม่ โดยธรรมชาติมนุษย์ต้องการการมีพื้นที่ส่วนตัวกันอยู่แล้ว เพียงแค่หลังเกิดวิกฤตนั้น NEW NORAL คนได้หยุดคิดและนำกลับมาพิจารณาใหม่
และการสร้างพื้นที่สาธรณะ อาจจะไม่ได้หมายความว่าให้คนมาสร้างปฏิสัมพันธ์กัน อย่างเมื่อ20ปีที่แล้ว ได้มีแนวคิดที่อยากให้คนมาเจอกัน โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก อยากให้เหมือนคนไทยที่มาใช้พื้นที่ร่วมกัน แต่อยู่ดีๆ พอเกิดวิกฤตเกิดขึ้นคนกลับต้องเว้น
ระยะห่างกัน อะไรที่ส่งผลต่อการใช้ชวิต NEW NORMAL จริงๆผมมองว่าร้านสะดวกซื้อ นี่แหละ ถ้า ร้านสะดวกซื้อยังตั้งธงก็หมายความว่าชีวิตประจำวันเราจะเปลี่ยนคือคนสมัยนี้ ถ้าจะเข้าร้านสะดวกซื้อคือทุกคนต้องพกหน้ากาก ไม่งั้นคุณเข้า 7-11 ไม่ได้ !!
3สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมในช่วงก่อนและหลัง COVID-19 สามารถเข้าไปช่วยเหลือสังคมหรือชุมชนในรูปแบบไหนได้บ้าง ?
เราช่วยได้ช่วยได้แล้วถ้าเขาขอให้เราช่วย เพียงเเต่ว่า คนมักจะไม่ขอสถาปนิกก่อน สถาปนิกแบบเป็นเหมือน อาชีพลับ ที่จะขอเป็นอันสุดท้าย แต่จริงๆ แล้วสาขาวิชาชีพนี้ในบ้านเราคนยังไม่ได้ถูกให้ค่าขนาดนั้น อย่างในโลกตะวันตกซึ่งเพื่อเกิดวิกิฤติ
สถาปนิกจะถูกมองเห็นเเละถูกเรียกตัวในลำดับต้นๆ เเละเขาคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ คนในบ้านเรายังตีความคำว่า สถาปัตยกรรม ผิดไปหน่อย
4ปัจจุบันโมเดลธุรกิจออกแบบมีความแข็งแกร่งเพียงใด ?
ถ้าถามกลับไปว่า IMPACT นี้จะเลวร้ายกว่าเดิมเเค่ไหน เพราะฉะนั้น ผมมองว่า มันมีเปอร์เซนต์ที่จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เพราะหลังจากนี้ มีคนที่มีภาระต่างๆต้องผ่อนบ้านผ่อนรถก็จะค่อยๆล้มไปเรื่อยๆ ก็จะเหมือนกับไม้เจงก้า ที่ธุรกิจฐานล่างจะคอยๆ ล้มลง
แต่มันจะเริ่มล้มลงจากคนล่างๆก่อน ผมมองว่าความแข็งแกร็งก็คือความอดทน ที่เราและทีมงานของเราจะฟ่าฟันและจะผ่านมันไปให้ได้ ด้วยกัน
5เมื่อมีสถานการณ์ COVID-19 เข้ามาสร้างผลกระทบ สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมมองเห็นผลกระทบในรูปแบบอื่นไหมในอนาคต ?
คงจะเป็นรูปแบบปัญหาในเชิงพื้นที่ที่ในปัจจุบันที่มีการจัดวางแล้วเกิดปัญหาตัวอย่างเช่น สนามบิน ที่ในปัจจุบัน อย่างพื้นที่ DUTY FREE ที่เป็นพื้นที่สำหรับหน่วงสำหรับก่อนเข้า Gate พื้นที่นี้อาจจะลดลงไป หรือ เราอาจจะต้อง Re Circulartion ใหม่ เพิ่มระดับการคัดกรอง ชาวต่างชาติเข้ามาในไทย
เศรษฐกิจก็จะได้รันได้ แต่ก็ทางกลับกันก็ยังถูกใช้งานในแบบเดิม เนี้ยผมถึงว่า ทำไมเขาไม่เรียกสถาปนิกไปให้แนวความคิดและแก้ไขปัญหาเพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ ก็ย้อนไปว่าสาขาวิชาชีพนี้ อยู่จุดไหนในสังคม
6ทัศนคติ-มุมมองทางความคิดที่เมื่อเกิดปัญหาหรือวิกฤติขึ้นมาทางบริษัทจะคิดและทำออกมาเสมอ ?
ปกติแล้วถ้าเราเปลี่ยนความคิดว่า เราเป็นคนโลกสวยก่อน พอเกิดวิกฤติ ที่เข้ามา เราก็จะหามุมมองจากวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ เช่นการที่ เราอาจมีเวลากับโปรเจ็คมากขึ้น นี่ก็เป็นแค่ส่วนนึง แต่จริงๆแล้วมันเป็นก็โอกาส มันอยู่ที่สังคมมากกว่าว่าให้ค่ากับสถาปนิกแค่ไหน
ส่วนหนึ่งของวิชา110113217การประกอบวิชาชีพ (PROFESSIONALPRACTICE) ออกแบบโปรแกรมโดยผศ.ชัยณรงค์ อริยประเสริฐ สามัญสถาปนิก มัณฑนากร สน-157
" มุมมองผู้ประกอบการสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมหลังเกิดวิกฤติ COVID-19 ของผู้มีส่วนได้เสีย "
มุมมองผู้ประกอบการสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมหลังเกิดวิกฤติ COVID-19 ของผู้มีส่วนได้เสีย
1สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 มากน้อยแค่น้อยแค่ไหน และ วิกฤตครั้งนี้สามารถสร้างบทเรียนอะไรให้กับบริษัทบ้าง ?
ผมมองธุรกิจนี้เป็น 2 ขั้ว 1 ขั้วที่ประสบเหตุกับ COVID จะเป็นกลุ่มบริษัทเล็ก-ขนาดกลาง จะมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มนายทุนใหญ่ ซึ่งอาจจะทำงานการดำเนินงานนั้น อาจหยุดชงังและยกเลิกงานได้
ขั้วที่ 2 ผมมองถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน บริษัทที่ต่อสายน้ำเลี้ยง ก็มีผลกระทบน้อยกว่า ก็เหมือนแก็ง blue ocean กับ red ocean ที่มีความชัดเจนของมันอยู่แล้ว
เรียนที่ได้จากวิกฤตินี้ คงจะเป็นเงินการ MANAGE เงิน การสำรองเงินอาจจะมีการสำรองเงินที่มีระยะเวลาที่ยาวขึ้น หรือ การบริหารการจัดการบุคลากร ก็เป็นส่วนสำคัญในเรียนรู้ในวิกฤติครั้งนี้
2จากสถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นหลายๆ วิชาชีพ ได้มองเห็นถึงปัญหาหรือผลกระทบที่ตามมาแล้วสาขาวิชาขีพสถาปัตยกรรมมองเห็น ข้อดี-ข้อเสีย วิกฤติครั้งนี้อย่างไร ?
ในเเง่มุมมองของผม ผมมองว่า NEW NORMAL ก็ไม่เห็นเห็นเป็นอะไรที่ใหม่ โดยธรรมชาติมนุษย์ต้องการการมีพื้นที่ส่วนตัวกันอยู่แล้ว เพียงแค่หลังเกิดวิกฤตนั้น NEW NORAL คนได้หยุดคิดและนำกลับมาพิจารณาใหม่
และการสร้างพื้นที่สาธรณะ อาจจะไม่ได้หมายความว่าให้คนมาสร้างปฏิสัมพันธ์กัน อย่างเมื่อ20ปีที่แล้ว ได้มีแนวคิดที่อยากให้คนมาเจอกัน โดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก อยากให้เหมือนคนไทยที่มาใช้พื้นที่ร่วมกัน แต่อยู่ดีๆ พอเกิดวิกฤตเกิดขึ้นคนกลับต้องเว้น
ระยะห่างกัน อะไรที่ส่งผลต่อการใช้ชวิต NEW NORMAL จริงๆผมมองว่าร้านสะดวกซื้อ นี่แหละ ถ้า ร้านสะดวกซื้อยังตั้งธงก็หมายความว่าชีวิตประจำวันเราจะเปลี่ยนคือคนสมัยนี้ ถ้าจะเข้าร้านสะดวกซื้อคือทุกคนต้องพกหน้ากาก ไม่งั้นคุณเข้า 7-11 ไม่ได้ !!
3สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมในช่วงก่อนและหลัง COVID-19 สามารถเข้าไปช่วยเหลือสังคมหรือชุมชนในรูปแบบไหนได้บ้าง ?
เราช่วยได้ช่วยได้แล้วถ้าเขาขอให้เราช่วย เพียงเเต่ว่า คนมักจะไม่ขอสถาปนิกก่อน สถาปนิกแบบเป็นเหมือน อาชีพลับ ที่จะขอเป็นอันสุดท้าย แต่จริงๆ แล้วสาขาวิชาชีพนี้ในบ้านเราคนยังไม่ได้ถูกให้ค่าขนาดนั้น อย่างในโลกตะวันตกซึ่งเพื่อเกิดวิกิฤติ
สถาปนิกจะถูกมองเห็นเเละถูกเรียกตัวในลำดับต้นๆ เเละเขาคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่มีเกียรติ คนในบ้านเรายังตีความคำว่า สถาปัตยกรรม ผิดไปหน่อย
4ปัจจุบันโมเดลธุรกิจออกแบบมีความแข็งแกร่งเพียงใด ?
ถ้าถามกลับไปว่า IMPACT นี้จะเลวร้ายกว่าเดิมเเค่ไหน เพราะฉะนั้น ผมมองว่า มันมีเปอร์เซนต์ที่จะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ เพราะหลังจากนี้ มีคนที่มีภาระต่างๆต้องผ่อนบ้านผ่อนรถก็จะค่อยๆล้มไปเรื่อยๆ ก็จะเหมือนกับไม้เจงก้า ที่ธุรกิจฐานล่างจะคอยๆ ล้มลง
แต่มันจะเริ่มล้มลงจากคนล่างๆก่อน ผมมองว่าความแข็งแกร็งก็คือความอดทน ที่เราและทีมงานของเราจะฟ่าฟันและจะผ่านมันไปให้ได้ ด้วยกัน
5เมื่อมีสถานการณ์ COVID-19 เข้ามาสร้างผลกระทบ สาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรมมองเห็นผลกระทบในรูปแบบอื่นไหมในอนาคต ?
คงจะเป็นรูปแบบปัญหาในเชิงพื้นที่ที่ในปัจจุบันที่มีการจัดวางแล้วเกิดปัญหาตัวอย่างเช่น สนามบิน ที่ในปัจจุบัน อย่างพื้นที่ DUTY FREE ที่เป็นพื้นที่สำหรับหน่วงสำหรับก่อนเข้า Gate พื้นที่นี้อาจจะลดลงไป หรือ เราอาจจะต้อง Re Circulartion ใหม่ เพิ่มระดับการคัดกรอง ชาวต่างชาติเข้ามาในไทย
เศรษฐกิจก็จะได้รันได้ แต่ก็ทางกลับกันก็ยังถูกใช้งานในแบบเดิม เนี้ยผมถึงว่า ทำไมเขาไม่เรียกสถาปนิกไปให้แนวความคิดและแก้ไขปัญหาเพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ ก็ย้อนไปว่าสาขาวิชาชีพนี้ อยู่จุดไหนในสังคม
6ทัศนคติ-มุมมองทางความคิดที่เมื่อเกิดปัญหาหรือวิกฤติขึ้นมาทางบริษัทจะคิดและทำออกมาเสมอ ?
ปกติแล้วถ้าเราเปลี่ยนความคิดว่า เราเป็นคนโลกสวยก่อน พอเกิดวิกฤติ ที่เข้ามา เราก็จะหามุมมองจากวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ เช่นการที่ เราอาจมีเวลากับโปรเจ็คมากขึ้น นี่ก็เป็นแค่ส่วนนึง แต่จริงๆแล้วมันเป็นก็โอกาส มันอยู่ที่สังคมมากกว่าว่าให้ค่ากับสถาปนิกแค่ไหน
ส่วนหนึ่งของวิชา110113217การประกอบวิชาชีพ (PROFESSIONALPRACTICE) ออกแบบโปรแกรมโดยผศ.ชัยณรงค์ อริยประเสริฐ สามัญสถาปนิก มัณฑนากร สน-157