ประกันรถยนต์แต่ละแผน นั้นมีรายละเอียดความคุ้มครองที่ต่างกัน แล้วเคยสงสัยกันไหมคะ ? ว่าทำไมแผนที่มีค่าเสียหายส่วนแรกถึงมีราคาเบี้ยถูก แต่นอนว่าแผนแบบนี้นั้นมีทั้งดีและเสีย
เราจึงจะมาทำความรู้จักค่าเสียหายส่วนแรกให้มากขึ้นกัน
มาพูดถึงในส่วนแรกกันก่อน
ประเภทบังคับจ่าย สำหรับทุกแบบแผนประกัน (Excess)
ค่า Excess เป็นข้อกำหนดมาตราฐานที่มีอยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ทุกประเภทและทุกฉบับ ตามกำหนดของ คปภ. ค่ะ
ฉะนั้นมีโอกาสที่ทุกคนอาจจะเสียค่า Excess ในส่วนนี้ กรณีก็คือ
1. ต้องจ่ายเมื่อไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น ไม่สามารถบอกได้ว่ารอยนี้เกิดจากอะไร
2. กรณีที่เสียหายโดยไม่ได้มีเหตุมาจากอุบัติเหตุ
3. รถถูกขีดข่วน หินกระเด็นใส่ ระบุหาคู่กรณี วันเวลาสถานที่ ไม่ได้
เหตุที่เข้าข่ายกรณีเหล่านี้ จะต้องเสียค่า Excess จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ โดยไม่นับจุดความเสียหาย ให้กับบริษัทประกันค่ะ
สรุปคือ กรณีที่เสียค่า Excess คือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ และกรณีที่ไม่ต้องเสียค่า Excess คือ สามารถระบุคู่กรณีได้ ต่อให้จะเป็นรั้ว เสาไฟ ก็ตาม
และมาถึงในส่วนที่สอง ที่อยู่แค่ในบางแผนประกันเท่านั้น
ประเภทสมัครใจจ่าย (Deductible) เฉพาะบางแผนประกัน
ค่าใช้จ่ายที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่เราได้เลือกไว้ และเราต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตรงนี้กรณี ถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิด เช่น ขับรถชนท้ายคันข้างหน้า , ขับรถครูดฟุตบาท เป็นต้น
โดยค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องเสีย จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์นั้นๆที่เราเลือกไว้ โดยมีให้เลือกตั้งแต่ตอนทำประกัน ตั้งแต่ 1,000-5,000 บาทค่ะ
อย่างไรก็ตาม ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภทสมัครใจจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ เบี้ยประกันราคาถูก ข้อเสียคือ หากเราเป็นฝ่ายผิด เราจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกที่ได้ตกลงกันไว้ค่ะ ดังนั้นก่อนทำประกัน ควรวินิจพิจารณาก่อนอีกครั้ง ว่าเราเหมาะสำหรับแผนประกันรถยนต์แบบไหน จะได้ไม่เป็นการเสียน้อยเสียมากนะคะ
รวบรวมข้อมูลโดย เรื่องเงิน เรื่องประกัน ก็เช็คได้ ที่
Priceza Money
ค่าเสียหายส่วนแรก ต้องเสียกรณีไหนบ้าง ?
มาพูดถึงในส่วนแรกกันก่อน
ประเภทบังคับจ่าย สำหรับทุกแบบแผนประกัน (Excess)
ค่า Excess เป็นข้อกำหนดมาตราฐานที่มีอยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ทุกประเภทและทุกฉบับ ตามกำหนดของ คปภ. ค่ะ ฉะนั้นมีโอกาสที่ทุกคนอาจจะเสียค่า Excess ในส่วนนี้ กรณีก็คือ
1. ต้องจ่ายเมื่อไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น ไม่สามารถบอกได้ว่ารอยนี้เกิดจากอะไร
2. กรณีที่เสียหายโดยไม่ได้มีเหตุมาจากอุบัติเหตุ
3. รถถูกขีดข่วน หินกระเด็นใส่ ระบุหาคู่กรณี วันเวลาสถานที่ ไม่ได้
เหตุที่เข้าข่ายกรณีเหล่านี้ จะต้องเสียค่า Excess จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ โดยไม่นับจุดความเสียหาย ให้กับบริษัทประกันค่ะ
สรุปคือ กรณีที่เสียค่า Excess คือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ และกรณีที่ไม่ต้องเสียค่า Excess คือ สามารถระบุคู่กรณีได้ ต่อให้จะเป็นรั้ว เสาไฟ ก็ตาม
และมาถึงในส่วนที่สอง ที่อยู่แค่ในบางแผนประกันเท่านั้น
ประเภทสมัครใจจ่าย (Deductible) เฉพาะบางแผนประกัน
ค่าใช้จ่ายที่อยู่ในกรมธรรม์ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่เราได้เลือกไว้ และเราต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตรงนี้กรณี ถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิด เช่น ขับรถชนท้ายคันข้างหน้า , ขับรถครูดฟุตบาท เป็นต้น
โดยค่าเสียหายส่วนแรกที่ต้องเสีย จะขึ้นอยู่กับกรมธรรม์นั้นๆที่เราเลือกไว้ โดยมีให้เลือกตั้งแต่ตอนทำประกัน ตั้งแต่ 1,000-5,000 บาทค่ะ
อย่างไรก็ตาม ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจ ประเภทสมัครใจจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ เบี้ยประกันราคาถูก ข้อเสียคือ หากเราเป็นฝ่ายผิด เราจะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกที่ได้ตกลงกันไว้ค่ะ ดังนั้นก่อนทำประกัน ควรวินิจพิจารณาก่อนอีกครั้ง ว่าเราเหมาะสำหรับแผนประกันรถยนต์แบบไหน จะได้ไม่เป็นการเสียน้อยเสียมากนะคะ
รวบรวมข้อมูลโดย เรื่องเงิน เรื่องประกัน ก็เช็คได้ ที่ Priceza Money