วันนี้ตรวจกระเป๋าที่สนามบิน แล้วปรากฏว่าเครื่องสแกนและพนักงานตรวจพบขวดน้ำดื่มขวดเล็กและขวดโทนเนอร์ขนาด200ml พนักงงานก็บอกว่าไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ เค้าจึงเสนอให้เราส่งให้ญาติที่มาด้วยเอากลับไหม ซึ่งเรามาคนเดียว เค้าก็เลยแนะนำให้ส่งไปรษณีย์แทน ซึ่งเราก็โอเค เราจึงเลือกที่จะส่งขวดโทนเนอร์กลับบ้านทางไปรษณีย์และดื่มน้ำแล้วนำขวดทิ้งไป พอกลับมาตรวจกระเป๋าอีกครั้ง พนักงงานอีกคนกลับเจอขวดโทนเนอร์อีกอันที่มีขนาด200mlเช่นเดิม แต่ปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียงครึ่งขวด แล้วเค้าก็ถามเราอีกว่าจะทิ้งหรือส่งไปรษณีย์ ซึ่งเราก็ถามไปว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่ครั้งแรก เพราะเมื่อสักครู่เราเพิ่งไปส่งมา ซึ่งเค้าก็บอกว่าพนักงงานหรือเครื่อง ตรวจขวดนี้ไม่พบ ตอนแรกเราก็โมโหนะ แล้วก็ทำหน้าแบบโมโหแบบที่กำลังใส่มาส์กอยู่ ไม่รู้เค้าดูออกไหม เราก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ไม่อยากทิ้งแล้วก็ไม่อยากไปส่งไปรษณีย์แล้ว แต่แล้วเค้าก็บอกว่าทำไมเราไม่เป็นคนเอาขวดโทนเนอร์นี้ออกมาให้เค้าตรวจตั้งแต่แรก ซึ่งเราอยากทราบว่ามันเป็นหน้าที่ของเราหรือเปล่าคะที่ต้องนำขวดพวกนี้ออกมาให้เค้าตรวจตั้งแต่แรก คือพวกโน๊ตบุ๊กอะไรแบบนี้พอจะรู้ว่าต้องเอาออกมา แต่พวกขวดอะไรแบบที่เป็นน้ำเราก็ต้องเอาออกมาด้วยหรือคะ เครื่องกับพนักงานตรวจรอบแรกไม่พบไม่ได้พูดถึงเราก็เออคิดว่าแค่ขวดโทนเนอร์กับขวดน้ำในรอบแรกก็น่าจะไม่มีอะไรที่ไม่ผ่านแล้วมั้ง พอมาเจออีกขวดมันก็ออกจะโมโหไม่ได้อ่ะค่ะ คือต้องไปเสียเวลาส่งไปรษณีย์ เสียตังอีกรอบ แล้วเข้ามาตรวจเป็นรอบที่3งี้หรอคะ เรื่องจบตรงที่เราโมโหแล้วเลือกที่จะทิ้งโทนเนอร์ไปค่ะ เพราะทำอะไรไม่ได้ ก็เค้าไม่ให้เอาขึ้นเครื่องอ่ะเนอะ
การตรวจกระเป๋าในสนามบิน เราต้องเป็นคนเอาพวกโทนเนอร์หรือโลชั่นที่เป็นน้ำออกมาจากกระเป๋าให้เค้าตรวจหรือไม่คะ