https://sites.google.com/site/thraphyakrmnusy/thesna-pord-phuthth-bida
หัวข้อธรรมตรงนี้ผมก็ได้ยินมาบ่อยๆแต่เดิมก็ไม่เอะใจอะไร และก็คิดผ่านๆไปว่าคงเป็นเรื่องลึกซึ้งกึ่งแนวอภินิหาร จึงไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร แต่เมื่อมาศึกษาพระธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เอาข้อที่สงสัยมาขบคิดว่าคืออะไรกันแน่ พยายามคิดให้เป็นภาษาชาวบ้านให้มากที่สุด ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวนี้
-น่าจะเป็นลักษณะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนพระธรรมไปเรื่อยๆ(ประมาณ 7 วัน)จิตของพุทธบิดาก็ค่อยๆปล่อยวางจากกิเลสทุกชนิด จนกระทั่งไม่อาลัยในกิเลสทุกชนิด ไม่ยินดีในกิเลสทั้งปวง ไม่ห่วงในร่างกายของตนเองและร่างกายของผู้อื่น ไม่ห่วงในสมบัติทุกชนิดในโลกนี้ จิตคลายกำหนัดจากกิเลส จิตปล่อยวางจากกิเลสหมดสิ้น จิตปล่อยวางจากการยึดถือรวมถึงการยึดมั่นด้วย ลักษณะของการปล่อยวางจากการยึดถือยึดมั่นนั้น ผมคิดว่าน่าจะหมายถึงภาวะของจิตที่ มีความรู้สึกสงบนิ่งจากกิเลสทั้งปวง(จิตไม่กระเพิ่มหรือจิตไม่อ่อนไหวหรือแกว่งไปตามอำนาจของกิเลส) ไม่ยึดถือในกิเลสทั้งปวง เช่น ยึดถือว่า ภรรยาของเรา ยึดถือว่าชีวิตของเรา เป็นต้น เมื่อฟังพระธรรมจนจิตปล่อยวางจากกิเลสทั้งปวงได้หมดสิ้นแล้ว จึงพร้อมที่จะปรินิพพานแบบมีสติสัมปัญญะ ที่ผมเรียบเรียงมานี้ คือ สิ่งที่ผมพยายามทำความเข้าใจตรงนี้ให้ได้ ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นในแนวๆนี้
-ส่วนท่านอื่นๆมีความคิดในตรงนี้ว่าอย่างไร ขอเชิญมาสนทนากัน เพราะที่ผมกล่าวมานั้น ผมก็เดาๆเอาส่วนหนึ่ง ก็จึงไม่รู้ว่าจะถูกผิดประการใด หรือในความคิดของท่านอื่นๆท่านคิดว่า เหตุการณ์ตรงนี้จะเป็นแนวไหน ขอเชิญมาสนทนากันแบบไทยๆครับ
ปล.เมื่อฟังพระธรรมแล้วบรรลุอรหันต์น่าจะหมายถึง ฟังพระธรรมแล้วจิตก็ค่อยๆปล่อยวางจากกิเลสได้หมดสิ้นที่เรียกว่า บรรลุอรหันต์(คาดเดา)
ขอเชิญช่วยกันขยายความ 7 วัน ปรินิพพาน คืออะไร
หัวข้อธรรมตรงนี้ผมก็ได้ยินมาบ่อยๆแต่เดิมก็ไม่เอะใจอะไร และก็คิดผ่านๆไปว่าคงเป็นเรื่องลึกซึ้งกึ่งแนวอภินิหาร จึงไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร แต่เมื่อมาศึกษาพระธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เอาข้อที่สงสัยมาขบคิดว่าคืออะไรกันแน่ พยายามคิดให้เป็นภาษาชาวบ้านให้มากที่สุด ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวนี้
-น่าจะเป็นลักษณะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนพระธรรมไปเรื่อยๆ(ประมาณ 7 วัน)จิตของพุทธบิดาก็ค่อยๆปล่อยวางจากกิเลสทุกชนิด จนกระทั่งไม่อาลัยในกิเลสทุกชนิด ไม่ยินดีในกิเลสทั้งปวง ไม่ห่วงในร่างกายของตนเองและร่างกายของผู้อื่น ไม่ห่วงในสมบัติทุกชนิดในโลกนี้ จิตคลายกำหนัดจากกิเลส จิตปล่อยวางจากกิเลสหมดสิ้น จิตปล่อยวางจากการยึดถือรวมถึงการยึดมั่นด้วย ลักษณะของการปล่อยวางจากการยึดถือยึดมั่นนั้น ผมคิดว่าน่าจะหมายถึงภาวะของจิตที่ มีความรู้สึกสงบนิ่งจากกิเลสทั้งปวง(จิตไม่กระเพิ่มหรือจิตไม่อ่อนไหวหรือแกว่งไปตามอำนาจของกิเลส) ไม่ยึดถือในกิเลสทั้งปวง เช่น ยึดถือว่า ภรรยาของเรา ยึดถือว่าชีวิตของเรา เป็นต้น เมื่อฟังพระธรรมจนจิตปล่อยวางจากกิเลสทั้งปวงได้หมดสิ้นแล้ว จึงพร้อมที่จะปรินิพพานแบบมีสติสัมปัญญะ ที่ผมเรียบเรียงมานี้ คือ สิ่งที่ผมพยายามทำความเข้าใจตรงนี้ให้ได้ ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นในแนวๆนี้
-ส่วนท่านอื่นๆมีความคิดในตรงนี้ว่าอย่างไร ขอเชิญมาสนทนากัน เพราะที่ผมกล่าวมานั้น ผมก็เดาๆเอาส่วนหนึ่ง ก็จึงไม่รู้ว่าจะถูกผิดประการใด หรือในความคิดของท่านอื่นๆท่านคิดว่า เหตุการณ์ตรงนี้จะเป็นแนวไหน ขอเชิญมาสนทนากันแบบไทยๆครับ
ปล.เมื่อฟังพระธรรมแล้วบรรลุอรหันต์น่าจะหมายถึง ฟังพระธรรมแล้วจิตก็ค่อยๆปล่อยวางจากกิเลสได้หมดสิ้นที่เรียกว่า บรรลุอรหันต์(คาดเดา)