ใช้งบแค่หลักร้อยซ่อม “ผนังร้าว” ด้วยตนเอง



พลาดแล้ว! คำนี้มักจะผุดขึ้นมาเป็นคำแรก เมื่อเกิดสถานการณ์ผิดพลาดอันไม่พึงประสงค์ อย่างเช่นตอนที่ตอกตะปูแขวนของบนผนัง แต่พอออกแรงใช้ค้อนทุบลงไป สิ่งที่ได้กลับมาคือตะปูไปเจาะผนังจน ผนังร้าว เมื่อเห็นแผลเป็นบนผนังหลายๆ คนอาจจะใจสั่น โดยเฉพาะบ้านหรือห้องเช่า หวั่นใจว่าจะแก้ไขรอยเหล่านี้ไม่ได้ เจ้าของบ้านมาเห็นอาจต้องจ่ายค่าปรับหลายพันบาท



เนื้อหานี้ HomeGuru ขอคลายความกังวลใจด้วยข่าวดีที่ว่ารอยร้าวบนผนัง เล็กๆ เหล่านี้ เราสามารถซ่อมเองได้ด้วยวัสดุประสานรอยร้าวผนังราคาหลักสิบหลักร้อยเท่านั้น แถมยังใช้งานง่าย ไม่มีทักษะช่างก็ลงมือซ่อมบ้านด้วยตัวเองได้ครับ



ผนังร้าว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และรอยร้าวแต่ละรูปแบบก็มาจากเหตุที่แตกต่างกัน หากเป็นรอยร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวของโครงสร้างหรือเกิดจากงานโครงสร้างไม่ได้มาตรฐาน แนะนำให้ติดต่อวิศวกรหรือผู้ช่วยชาญมาดูแลให้เฉพาะ แต่หากเป็นรอยร้าวเล็ก ๆ เช่น รอยแตกลายงาของผนัง รอยเจาะตะปู รอยร้าวแบบสายฟ้าที่มาจากการฉาบไม่ดี ร่องรอยลักษณะนี้ไม่มีผลร้ายแรงใด เจ้าของบ้านสามารถซ่อมแซมได้เอง ด้วย 4 วัสดุแก้ปัญหารอยร้าวบนผนังครับ



4 วัสดุที่ใช้ซ่อม ผนังร้าว ได้ด้วยตัวเอง

สำหรับร่องรอยเล็ก ๆ ที่ไม่ลึกและไม่กว้าง เราสามารถใช้วัสดุอุดโป๊วรอยร้าว ที่มีให้เลือกในท้องตลาดมากมาย HomeGuru แนะนำ 4 ผลิตภัณฑ์ที่มีขั้นตอนใช้งานไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญคือใช้งบประมาณน้อยมาก บางชนิดราคาเพียงหลักสิบเท่านั้นครับ

1. อุดรอยร้าวด้วยอะคริลิก (Acrylic sealant หรือ Acrylic filler )
อะคริลิก เป็นวัสดุอุดรอยต่อที่ทำมาจากวัสดุโพลิเมอร์กลุ่มไฮโดรคาร์บอน (คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน) ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย แต่เมื่อแข็งตัวแล้วจะไม่ละลายน้ำ จุดเด่นของอะคริลิก คือ ไม่ได้มีความแข็งมาก สามารถขัดแต่งผิวงานได้ เหมาะสำหรับรอยแตกร้าวขนาดเล็กที่มีขนาดน้อยกว่า 2 มม. ใช้ได้ทั้งแบบเป็นหลอดทรงกระบอกปลายแหลมหรือสีโป๊วผนังประเภทอะคริลิกแบบกระปุกก็ได้



วิธีใช้ เริ่มแรกใช้เกรียงขูดแต่งรอยรอบๆ ให้เรียบ จากนั้นทำความสะอาดให้ปราศจากความชื้นและฝุ่น (สำคัญมาก) จึงใช้อะคริลิกปาดหรืออุดเข้าไป เริ่มจากจุดที่มี ผนังร้าว ใหญ่ที่สุดไล่ไปจุดเล็กๆ แล้วใช้เกรียงปาดส่วนเกินออก ทิ้งผนังไว้ให้แห้งตามระยะเวลาที่แต่ละผลิตภัณฑ์กำหนด เมื่อแห้งแล้วใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบเสมอกับผนังส่วนอื่นๆ จากนั้นทาด้วยสีรองพื้นปูนเก่าแล้วทาสีใหม่ทับ



2. ปิดรอยแยกด้วยพียู (PU (Polyurethane) Sealant)
วัสดุยาแนวรอยต่อ โพลียูรีเทน ซีลแลนท์ หรือ PU (Polyurethane) Sealant คือ วัสดุโพลียูรีเทนที่นำมาใช้ในงาน อุดรอยรั่ว รอยต่อ หรือประสานชิ้นงานเพื่อป้องกันรอยรั่ว หรือ เชื่อมต่อให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น คุณสมบัติของโพลียูริเทน คือ มีความยืดหยุ่นปานกลาง สามารถขัดแต่งผิวงานและทาสีทับได้ สามารถใช้กับวัสดุทั้งผิวเรียบและผิวขรุขระ แต่สิ่งที่พิเศษคือ PU Sealant สามารถยึดติดกับผิวที่มีฝุ่นเกาะได้ดีกว่าอะคริลิก แต่ก็ควรขจัดฝุ่นให้หมดไปก่อนใช้งาน



วิธีใช้ ทำความสะอาดผิวหน้าจุดที่ต้องการซ่อมแซมให้ปราศจากความชื้นและฝุ่น จากนั้นจึงใช้วัสดุ PU ปาดหรืออุดเข้าไปให้ทั่ว และใช้เกรียงปาดส่วนเกินออกให้เรียบ ทิ้งผนังไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบเป็นระนาบกับผนังส่วนอื่นๆ จากนั้นก็ทาด้วยสีรองพื้นปูนเก่าแล้วทาสีใหม่ทับ

" สำหรับผนังที่ต้องการทาสีทับ ไม่แนะนำให้ใช้ ซิลิโคน ยาแนว (Silicone Sealant)
เพราะซิลิโคนไม่สามารถขัดแต่งทาสีทับได้ ต้องพิจารณาให้ดีก่อนเลือกซื้อ "
 
3. ลบร่องรอยด้วยซีเมนต์ซ่อมแซม
ซีเมนต์ซ่อมแซม เป็นผลิตภัณฑ์ผสมเสร็จ ซีเมนต์โพลีเมอร์ โมดิฟายที่มีส่วนผสมของอะคริลิก โพลีเมอร์แห้ง ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ซิลิก้า และอื่นๆ (ตามสูตรของแต่ละผลิตภัณฑ์) ใช้สำหรับซ่อมตกแต่งพื้นผิวคอนกรีตที่มีร่องรอยร้าวเล็กๆ ได้ดีเช่นกัน คุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากวัสดุซ่อมปิดผิวอื่นๆ คือ สามารถแต่งผิวคอนกรีตให้เรียบหรือหยาบก็ได้


 
วิธีใช้ ต้องทำพื้นผิวให้หยาบโดยการสกัดหรือขัดด้วยแปรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ จากนั้นทำความสะอาดผนังให้ปราศจากสิ่งสกปรก ขั้นตอนต่อไปคือ บ่มผิวคอนกรีตให้เปียกชุ่ม ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง และดูดซับน้ำส่วนเกินที่ค้างบนผิวงานออกให้หมดก่อนใช้งาน ผสมซีเมนต์กับน้ำตามอัตราส่วนที่กำหนดแล้วคนให้เข้ากันดี จากนั้นใช้เกรียงตักปาดซ่อมรอยร้าว แล้วแต่งผิวตามต้องการ

4. กลบรอยด้วยครีมซ่อมผนัง
ครีมซ่อมผนังมีบรรจุภัณฑ์แบบหลอดเหมือนครีมทาผิว ทำให้สะดวกและง่ายต่อการใช้ เพียงเปิดหลอดบีบก็ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องผสมเพิ่มเติม เหมาะสำหรับการซ่อมพื้นที่ฉาบผนังที่เป็นรอยร้าวขนาดเล็ก รูตะปู หรือปูนแตกในพื้นที่ไม่ใหญ่มาก สามารถขัดแต่งผิวได้เหมือน PU หรืออะคริลิก


 
วิธีใช้ ทำความสะอาดผิวผนังที่ต้องการซ่อมแซมให้สะอาด ปราศจากความชื้นและฝุ่น จากนั้นบีบครีมออกมา แล้วใช้แผ่นพลาสติกที่ให้มาเป็นชุดคู่กันปาดหรือฉาบปิด ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วฉาบใหม่อีกรอบ (ในกรณีที่รอยร้าวกว้างและลึก) จากนั้นรอพื้นผิวแห้งสนิทก็ขัดแต่งด้วยกระดาษทรายให้เรียบเป็นระนาบเดียวกัน แล้วทาสีตามชอบ

รอยร้าวเล็กๆ บนผนังแม้จะไม่ได้กระทบโครงสร้าง แต่ก็รบกวนสายตาทุกครั้งที่มองเห็น นอกจากจะไม่สวยงามแล้ว ยังอาจจะเป็นช่องทางหนึ่งให้เกิดปัญหาการรั่วซึมในอนาคตได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนที่สิ่งเล็กๆ จะสร้างปัญหาใหญ่ๆ เกินกว่าสองมือของเราจะแก้ไขได้ มามองหาวันว่างแล้วลงมือปรับปรุงผนังในบ้านให้เรียบเนียนปราศจากรอยร้าวกันนะครับ 
 

HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่