สวัสดีครับชาวพันทิปทุกท่าน หลังจากที่อ่านเรื่องราว และติดตามเรื่องของคนอื่นๆ ในพันทิปมานาน ในที่สุดก็ถึงคราวเคราะห์ของผมที่จะมาตีแผ่เรื่องราวการคบกับแฟนที่มีอาการทางจิตให้ทุกท่านได้อ่านกันบ้าง
ขออนุญาตแนะนำตัวก่อน ผมจะขอเรียกตัวเองว่า "บอย" นะครับ ในปี 2560 ผมเป็นชายโสดวัย 30 ปี หน้าที่การงานพออยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ได้รวย มีบ้านอาศัยอยู่คนเดียว มีรถเป็นของตัวเอง (มีที่บ้านคอยช่วยซัพพอร์ต) ที่มีประสบการณ์ความรักมาประมาณนึง เคยมีแฟนมาสองคนแต่ก็เลิกรากันไปตามเรื่องราวตามเหตุการณ์…
สาเหตุที่อยากมาเล่า เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันยังอยู่ในหัวผมตลอด แม้กระทั่งตอนนอนก็ทำให้ผมฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง จนไม่แน่ใจว่าตัวผมเองควรไปพบจิตแพทย์ไหม ผมเพียงแต่คิดว่าการมาเล่าเรื่องทั้งหมดและได้คำแนะนำจากทุกคนในนี้ จะทำให้อาการเจ็บปวดทางใจของผมมันทุเลาลงไปบ้าง...
ผมจะขออนุญาตเล่าเรื่องตั้งแต่รู้จักกันยันไปตอนหลังเลิกกันเลยนะครับ ยาวหน่อย แต่ผมอยากเล่าเรื่องราวให้ละเอียดมากที่สุด ขอให้ทุกท่านได้เพลิดเพลิน สนุกสนานพร้อมกับได้ข้อคิดไปกับเรื่องราวของผมนะครับ
--------------------------------------------------------------
• ตุลาคม 2560 - กุมภาพันธ์ 2561
ในช่วงปี 2560 เป็นปีที่ผมมีปัญหาเรื่องความรักมาก หลังจากโสดมาประมาณ 2 ปี ผมก็รู้สึกเหงา แต่ก็ยังหวงความโสดตัวเอง จึงทำให้ผมมีแต่ความสัมพันธ์ในรูปแบบ FWB(ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าว ดูหนัง นอนด้วยกันบ้าง แต่ไม่เปิดตัวและไม่ได้ดูแลกันจริงจัง) และสุดท้ายมันจบไม่สวยเลยซักราย จนทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยกับความสัมพันธ์แบบนี้ และฝังใจว่ามีแฟนคนถัดไป จะดูแลให้ดีที่สุดและทำเต็มที่ให้มากที่สุดก่อนที่จะมาเสียใจแบบเคสที่ผ่านมา...
และผมก็มีโอกาสได้รู้จักกับแอพ Tinder จึงลองโหลดมาเล่นดู จนได้มีโอกาสมารู้จักกับเธอคนนี้ ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นเธอว่า "อิง" และเรียกตัวผมเองว่า "บอย" นะครับ หลังจากแมตช์กันผมก็แอบไปดูโปรไฟล์เธอใน facebook โอ้โห หน้าตาดี แต่งตัวดี รักสัตว์ อยู่ มหาลัยชื่อดัง ทำให้ผมรู้สึกอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ในวันแรกที่ได้คุยกัน เธอตอบผมกลับมาราวๆ เกือบๆ เที่ยงคืน ซึ่งเธอบอกว่าเพิ่งถึงบ้าน ไปเที่ยวตลาดนัดรถไฟมา และผมก็ขอไลน์เธอไปคุยกันต่อในไลน์ เราคุยกันอย่างถูกคอยาวไปจนถึงตีสาม ถึงจะขอตัวไปนอนแยกย้ายกันไป
หลังจากที่โทรคุยกันตั้งแต่วันแรก เธอก็จะชอบโทรมาคุยกับผมในเวลาต่างๆ เช่น ตอนเธอขับรถ ตอนเธอกำลังจะนอน โดยเราคุยกันทุกวัน โดยขอสรุปเรื่องราวที่เธอเล่าถึงตัวเองให้ฟังดังนี้ครับ
1. เธอเป็นคนพูดเก่งมาก แต่เธอไม่ชอบคุยโทรศัพท์
2. เธอเป็นคนมองโลกในแง่บวก เธอเล่าให้ฟังว่าเธอมีปัญหาที่บ้านพ่อกับแม่แยกทางกันโดยพ่อไปมีคนใหม่ ผมเล่าให้เธอฟังว่าผมไม่รวยนะ เงินเดือนไม่เยอะ มีภาระต้องผ่อนบ้านด้วย เธอบอกว่าเธอไม่ได้ชอบคนรวย แต่ชอบคนที่รักครอบครัว เธอแอบมาดูรูปผมใน facebook เช่นกันและเห็นรูปผมกับครอบครัวดูอบอุ่นดี ทำให้เธอชอบที่ผมเป็นตรงนี้ และความฝันของเธอคือมีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นกัน ไม่อยากได้แฟนที่เหมือนพ่อเธอ ที่ทำงานเก่งแต่ทิ้งครอบครัว
3. เธอเป็นคนใจเย็น เคยมีปัญหาทะเลาะกับคนมาเฉี่ยวรถ เธอบอกเธอแก้ปัญหาอย่างใจเย็นมาก
4. เธอเป็นคนมีหัวทางธุรกิจ และมุมมองเรื่องการงานที่ดีมาก ทั้งที่เพิ่งอายุ 23 ปีเท่านั้น
5. เธอเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย 4 ปี โดยเธอก็ยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ แต่ก็โกรธที่แฟนเก่าไปมีคนใหม่ ทั้งๆ ที่มีเธออยู่
6. เราต่างสลับกันเล่าเรื่องราวแย่ๆ ที่เราเคยไปทำทั้งคู่ เธอเคยเล่าให้ฟังว่าตอนปี 3 ที่ได้ไป work&travel ที่ตปท. เคยนอกใจแฟนไปกับหนุ่มตาน้ำข้าวที่มาจีบด้วยเกือบมีอะไรกันครั้งนึง
หลังจากคุยไม่กี่วันผมก็ตกหลุมรักในความสดใส ร่าเริ่ง เสียงหัวเราะ และความเก่งในหน้าที่การงานของเธอเข้าอย่างจัง ถึงแม้เรื่องราวของเธอที่เล่ามาบางเรื่องจะฟังดูอันตรายแต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กอายุ 23 ที่อยากลองของ อยากรู้จักคนใหม่ๆ ผมจึงรับความเสี่ยงนี้ไว้เพราะตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว... จากคุยไม่กี่วันความสุขที่เกิดขึ้นทำให้ 1 เดือนที่ผ่านไปมันไวมาก โดยเธอมักจะชอบหลับคาโทรศัพท์โดยเปิดคอลเอาไว้ด้วยทุกคืน ทำให้ผมเริ่มรู้สึกมั่นใจว่าในตอนนี้เราเป็นที่ 1 สำหรับเธอแน่นอน…
แต่อยู่มาวันนึง เธอบอกว่ามีนัดกินข้าวกับรุ่นพี่ผู้ชาย เธอหายไปตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมกระวนกระวายใจทั้งคืน จนติดต่อเธอได้อีกทีคือ 6 โมงเช้า เธอบอกว่าเมาจนหลับไป แต่ไม่ได้มีอะไรกัน รุ่นพี่เทคแคร์เป็นสุภาพบุรุษดีมาก เค้ามาจีบน่ะแหละ แน่นอนครับ ผมปล่อยผ่านไป.. ด้วยเหตุผลเดิม ความสัมพันธ์ยังไม่ได้ลึกซึ้ง และเป็นเรื่องของเด็กวัยนี้ที่อยากรู้จักคน อยากลองปล่อยตัวเอง… และผมตกหลุมรักเธอจนมองข้ามข้อนี้ไป
แน่นอนครับ ช่วงเดือนแรกผ่านมาอย่างฉลุย ทุกอย่างสอบผ่านหมดเธอดีจนผมรู้สึกเกร็งว่าตัวเองจะดีพอหรือเปล่า จนในที่สุดเราก็นัดเจอกันครั้งแรก 31 ตุลาคม 2563 วันนั้นเธอก็บอกว่าเธอกลับบ้านดึกเช่นเคย จึงนัดเจอที่หน้าหมู่บ้านเธอ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านผมมาก ขับรถไปประมาณ 20 นาที เมื่อไปถึงก็พูดคุยกันบนรถ ขับรถไปเที่ยวเล่นกัน พาเธอไปดูบ้านเก่าเธอ พาเธอไปดูบ้านผม (แต่ไม่ได้เข้าบ้าน) เราชวนกันไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในหมู่บ้านผม แล้วเราก็จูบกันในวันนั้น...แล้วก็ไปส่งเธอที่บ้าน แยกย้ายกันนอน
ถัดมาจากวันนั้นอีก 2 วันเราก็นัดเจอกันอีก เธอบอกว่าเธออยากดื่มไวน์ อยากมานั่งเล่นนั่งทำงานที่บ้านผม ผมก็ไม่รีรอสิครับ จัดแจงทุกอย่างเพื่อให้พร้อมต้อนรับเธอ เมื่อเธอดื่มจนเริ่มเมาแล้วจึงขอขึ้นไปดูห้องนอนผม ผมเองพยายามจะให้เธอรู้สึกปลอดภัยที่สุด ไม่ล่วงเกินเธอ เพราะผมอยากให้เธอมั่นใจว่าผมอยากได้เธอเป็นแฟน ไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่สุดท้ายคืนนั้นจบลงที่มีอะไรกันโดยเธอเป็นฝ่ายพูดให้ผมลงมือทำ!!! และเมื่อเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปส่งเธอกลับบ้าน ในตอนนั้นหัวผมทุกอย่างขาวโพลน ทุกอย่างมันดูดีไปหมดทั้งการพูดคุย ความคิดความอ่านเธอ รวมไปถึงเรื่องบนเตียง เรื่องราวผ่านไปเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่มันเริ่มมีปัญหาหลังจากที่เราเริ่มเจอกันบ่อยขึ้นครับ นิสัยความเป็นตัวเองก็เริ่มออก จะใช้คำว่าเธอหางโผล่แล้วก็คงไม่เกินไป!!
มีแฟนเป็นฮิสทีเรีย!! เหมือนตกนรกทั้งเป็นตลอด 2 ปีที่คบกัน
ขออนุญาตแนะนำตัวก่อน ผมจะขอเรียกตัวเองว่า "บอย" นะครับ ในปี 2560 ผมเป็นชายโสดวัย 30 ปี หน้าที่การงานพออยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ได้รวย มีบ้านอาศัยอยู่คนเดียว มีรถเป็นของตัวเอง (มีที่บ้านคอยช่วยซัพพอร์ต) ที่มีประสบการณ์ความรักมาประมาณนึง เคยมีแฟนมาสองคนแต่ก็เลิกรากันไปตามเรื่องราวตามเหตุการณ์…
สาเหตุที่อยากมาเล่า เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันยังอยู่ในหัวผมตลอด แม้กระทั่งตอนนอนก็ทำให้ผมฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง จนไม่แน่ใจว่าตัวผมเองควรไปพบจิตแพทย์ไหม ผมเพียงแต่คิดว่าการมาเล่าเรื่องทั้งหมดและได้คำแนะนำจากทุกคนในนี้ จะทำให้อาการเจ็บปวดทางใจของผมมันทุเลาลงไปบ้าง...
ผมจะขออนุญาตเล่าเรื่องตั้งแต่รู้จักกันยันไปตอนหลังเลิกกันเลยนะครับ ยาวหน่อย แต่ผมอยากเล่าเรื่องราวให้ละเอียดมากที่สุด ขอให้ทุกท่านได้เพลิดเพลิน สนุกสนานพร้อมกับได้ข้อคิดไปกับเรื่องราวของผมนะครับ
--------------------------------------------------------------
• ตุลาคม 2560 - กุมภาพันธ์ 2561
ในช่วงปี 2560 เป็นปีที่ผมมีปัญหาเรื่องความรักมาก หลังจากโสดมาประมาณ 2 ปี ผมก็รู้สึกเหงา แต่ก็ยังหวงความโสดตัวเอง จึงทำให้ผมมีแต่ความสัมพันธ์ในรูปแบบ FWB(ไปไหนมาไหนด้วยกัน กินข้าว ดูหนัง นอนด้วยกันบ้าง แต่ไม่เปิดตัวและไม่ได้ดูแลกันจริงจัง) และสุดท้ายมันจบไม่สวยเลยซักราย จนทำให้ผมรู้สึกเหนื่อยกับความสัมพันธ์แบบนี้ และฝังใจว่ามีแฟนคนถัดไป จะดูแลให้ดีที่สุดและทำเต็มที่ให้มากที่สุดก่อนที่จะมาเสียใจแบบเคสที่ผ่านมา...
และผมก็มีโอกาสได้รู้จักกับแอพ Tinder จึงลองโหลดมาเล่นดู จนได้มีโอกาสมารู้จักกับเธอคนนี้ ขออนุญาตเรียกชื่อเล่นเธอว่า "อิง" และเรียกตัวผมเองว่า "บอย" นะครับ หลังจากแมตช์กันผมก็แอบไปดูโปรไฟล์เธอใน facebook โอ้โห หน้าตาดี แต่งตัวดี รักสัตว์ อยู่ มหาลัยชื่อดัง ทำให้ผมรู้สึกอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ในวันแรกที่ได้คุยกัน เธอตอบผมกลับมาราวๆ เกือบๆ เที่ยงคืน ซึ่งเธอบอกว่าเพิ่งถึงบ้าน ไปเที่ยวตลาดนัดรถไฟมา และผมก็ขอไลน์เธอไปคุยกันต่อในไลน์ เราคุยกันอย่างถูกคอยาวไปจนถึงตีสาม ถึงจะขอตัวไปนอนแยกย้ายกันไป
หลังจากที่โทรคุยกันตั้งแต่วันแรก เธอก็จะชอบโทรมาคุยกับผมในเวลาต่างๆ เช่น ตอนเธอขับรถ ตอนเธอกำลังจะนอน โดยเราคุยกันทุกวัน โดยขอสรุปเรื่องราวที่เธอเล่าถึงตัวเองให้ฟังดังนี้ครับ
1. เธอเป็นคนพูดเก่งมาก แต่เธอไม่ชอบคุยโทรศัพท์
2. เธอเป็นคนมองโลกในแง่บวก เธอเล่าให้ฟังว่าเธอมีปัญหาที่บ้านพ่อกับแม่แยกทางกันโดยพ่อไปมีคนใหม่ ผมเล่าให้เธอฟังว่าผมไม่รวยนะ เงินเดือนไม่เยอะ มีภาระต้องผ่อนบ้านด้วย เธอบอกว่าเธอไม่ได้ชอบคนรวย แต่ชอบคนที่รักครอบครัว เธอแอบมาดูรูปผมใน facebook เช่นกันและเห็นรูปผมกับครอบครัวดูอบอุ่นดี ทำให้เธอชอบที่ผมเป็นตรงนี้ และความฝันของเธอคือมีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นกัน ไม่อยากได้แฟนที่เหมือนพ่อเธอ ที่ทำงานเก่งแต่ทิ้งครอบครัว
3. เธอเป็นคนใจเย็น เคยมีปัญหาทะเลาะกับคนมาเฉี่ยวรถ เธอบอกเธอแก้ปัญหาอย่างใจเย็นมาก
4. เธอเป็นคนมีหัวทางธุรกิจ และมุมมองเรื่องการงานที่ดีมาก ทั้งที่เพิ่งอายุ 23 ปีเท่านั้น
5. เธอเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัย 4 ปี โดยเธอก็ยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ แต่ก็โกรธที่แฟนเก่าไปมีคนใหม่ ทั้งๆ ที่มีเธออยู่
6. เราต่างสลับกันเล่าเรื่องราวแย่ๆ ที่เราเคยไปทำทั้งคู่ เธอเคยเล่าให้ฟังว่าตอนปี 3 ที่ได้ไป work&travel ที่ตปท. เคยนอกใจแฟนไปกับหนุ่มตาน้ำข้าวที่มาจีบด้วยเกือบมีอะไรกันครั้งนึง
หลังจากคุยไม่กี่วันผมก็ตกหลุมรักในความสดใส ร่าเริ่ง เสียงหัวเราะ และความเก่งในหน้าที่การงานของเธอเข้าอย่างจัง ถึงแม้เรื่องราวของเธอที่เล่ามาบางเรื่องจะฟังดูอันตรายแต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กอายุ 23 ที่อยากลองของ อยากรู้จักคนใหม่ๆ ผมจึงรับความเสี่ยงนี้ไว้เพราะตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว... จากคุยไม่กี่วันความสุขที่เกิดขึ้นทำให้ 1 เดือนที่ผ่านไปมันไวมาก โดยเธอมักจะชอบหลับคาโทรศัพท์โดยเปิดคอลเอาไว้ด้วยทุกคืน ทำให้ผมเริ่มรู้สึกมั่นใจว่าในตอนนี้เราเป็นที่ 1 สำหรับเธอแน่นอน…
แต่อยู่มาวันนึง เธอบอกว่ามีนัดกินข้าวกับรุ่นพี่ผู้ชาย เธอหายไปตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมกระวนกระวายใจทั้งคืน จนติดต่อเธอได้อีกทีคือ 6 โมงเช้า เธอบอกว่าเมาจนหลับไป แต่ไม่ได้มีอะไรกัน รุ่นพี่เทคแคร์เป็นสุภาพบุรุษดีมาก เค้ามาจีบน่ะแหละ แน่นอนครับ ผมปล่อยผ่านไป.. ด้วยเหตุผลเดิม ความสัมพันธ์ยังไม่ได้ลึกซึ้ง และเป็นเรื่องของเด็กวัยนี้ที่อยากรู้จักคน อยากลองปล่อยตัวเอง… และผมตกหลุมรักเธอจนมองข้ามข้อนี้ไป
แน่นอนครับ ช่วงเดือนแรกผ่านมาอย่างฉลุย ทุกอย่างสอบผ่านหมดเธอดีจนผมรู้สึกเกร็งว่าตัวเองจะดีพอหรือเปล่า จนในที่สุดเราก็นัดเจอกันครั้งแรก 31 ตุลาคม 2563 วันนั้นเธอก็บอกว่าเธอกลับบ้านดึกเช่นเคย จึงนัดเจอที่หน้าหมู่บ้านเธอ ซึ่งไม่ไกลจากบ้านผมมาก ขับรถไปประมาณ 20 นาที เมื่อไปถึงก็พูดคุยกันบนรถ ขับรถไปเที่ยวเล่นกัน พาเธอไปดูบ้านเก่าเธอ พาเธอไปดูบ้านผม (แต่ไม่ได้เข้าบ้าน) เราชวนกันไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในหมู่บ้านผม แล้วเราก็จูบกันในวันนั้น...แล้วก็ไปส่งเธอที่บ้าน แยกย้ายกันนอน
ถัดมาจากวันนั้นอีก 2 วันเราก็นัดเจอกันอีก เธอบอกว่าเธออยากดื่มไวน์ อยากมานั่งเล่นนั่งทำงานที่บ้านผม ผมก็ไม่รีรอสิครับ จัดแจงทุกอย่างเพื่อให้พร้อมต้อนรับเธอ เมื่อเธอดื่มจนเริ่มเมาแล้วจึงขอขึ้นไปดูห้องนอนผม ผมเองพยายามจะให้เธอรู้สึกปลอดภัยที่สุด ไม่ล่วงเกินเธอ เพราะผมอยากให้เธอมั่นใจว่าผมอยากได้เธอเป็นแฟน ไม่ใช่แค่ความต้องการทางกาย แต่สุดท้ายคืนนั้นจบลงที่มีอะไรกันโดยเธอเป็นฝ่ายพูดให้ผมลงมือทำ!!! และเมื่อเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไปส่งเธอกลับบ้าน ในตอนนั้นหัวผมทุกอย่างขาวโพลน ทุกอย่างมันดูดีไปหมดทั้งการพูดคุย ความคิดความอ่านเธอ รวมไปถึงเรื่องบนเตียง เรื่องราวผ่านไปเหมือนจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่มันเริ่มมีปัญหาหลังจากที่เราเริ่มเจอกันบ่อยขึ้นครับ นิสัยความเป็นตัวเองก็เริ่มออก จะใช้คำว่าเธอหางโผล่แล้วก็คงไม่เกินไป!!