สวัสดีครับนี้เป็นกระทู้แรกครับ ( ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ)
เพื่อเป็นข้อมูลเล็กน้อยสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ที่มีลูกยังเด็กอยู่ และมีปัญหาเรื่องฟันครับผม ณ ศูนย์ทันตกรรมเด็ก มหาวิทยาลัยมหิดล
ขอท้าวความสักนิดนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าลูกสาวอายุ 4.5 ขวบ มีอาการฟันผุที่เห็นมีอยู่ 2 ซี่ จึงได้พาลูกสาวไปหาหมอก็เลยลองหาข้อมูลทั่วๆไป ใน google ดูแต่เน้นเป็นคลินิกที่มีหมอเด็กอยู่ หายากมากครับ (ในคำว่ายาก ความหมายคือ ต้องนัดล่วงหน้า จองกัน ก่อนถึงไปหาได้เพราะมีคุณหมออยู่บ้างเวลาเท่านั่น) ทางตัวเราเองก็โทรสอบถามไปหลายที่มาก จนสุดท้ายว่าจะพาไปวันหน้าแล้วกัน แต่แล้วก็มีโทรศัพท์กลับมาว่ามีคนไข้ยกเลิกคิวพอดี คุณพ่อสะดวกพาน้องมาไหมคะ
ก็เข้าทางเลยพอดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://m.facebook.com/homeydentalclinic/
เมื่อพบคุณหมอเป็นผู้หญิงใจดีมากๆ (ถึงขนาดลูกสาวมาหาหมอครั้งแรกยอมขึ้นเตียงนอนคนเดียวเลย )
เมื่อทำการตรวจฟันพบว่ามีผุเพิ่มอีก 3 รวมเป็น 4 ซี่
และคุณหมอและนำให้เอ๊กเรย์ฟันก่อนเพื่อดูว่าอุดได้ไหม ปรากฎว่า ไปเยอะแล้วต้องรักษารากฟัน 1 ซี่ แต่ซี่ที่เหลืออีก 3 ก็มีแนวโน้มน่าจะต้องรักษารากฟันด้วย
เลยสอบถามถึงค่ารักษา คุณหมอแจ้งว่า ซี่ละประมาณ 4,000 บาท (คุณพ่อหน้าซีดครับ ราคาขนาดนี้ไม่ไหวครับ.*_*)
แต่ที่น่ารักที่สุดคือ คุณหมอได้แนะนำให้คุณพ่อตัดสินใจก่อนที่จะทำและแนะนำถึง ศูนย์ทันตกรรมเด็ก มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าอยู่แถวถนนโยธี ใกล้อนุสาวรีย์ ลองไปสอบถามดูก่อนนะคะ ราคาไม่แพงมากเพราะน้องมีหลายซี่เลย
และพอกลับมาก็หาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าก็ไม่ไกลมาก อยู่ใกล้ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชื่อซอยโยธีซอยนี้จะอยู่ตรงข้ามกับห้างเซนจูรี่พอดีเลยครับ เดินทางสะดวกด้วย รถไฟฟ้าปากซอย แล้วเดินเข้าไปอีกนิดครับ
ทางเข้าเป็นตึกใหญ่โตครับ (ขอใช้ภาพจาก googleนะครับ พอดีไม่ได้ถ่ายมา)
พอมาถึงประมาณ07.15 น. ก็มีคนนั่งรออยู่ไม่มากและเวลาเกือบ 8.00 ก็จะมีคนมาเปิดประตูเพื่อที่จะทำการคัดกรอง (Covid19) ก่อนและปล่อยให้คนไข้ใหม่มาทำประวัติสาวนคนไข้นัดก็สามารถไปตามชั้นและเวลาที่นัดไว้ครับ (ขอเสริมเล็กน้อยนะครับจากประสบการณ์ส่วนตัวที่นี่ไม่ต้องมาแต่เช้ามืดเหมือนโรงพยาบาลรัฐบาลทั่วไปก็ได้นะครับที่ต้องมาเอาคิวแต่เช้ามืดกันเลย เพราะว่าจะมาเร็วมาช้าแต่ขอให้อย่าเกิน 8.00น. ทุกคนที่นั่งรอก็ต้องมาเข้าคิวกันหมดตอนที่เจ้าที่กำลังเปิดประตูครับ ถ้ามาเช้าไปก็ต้องรออยู่ดีครับ )
ใช้เวลาในการทำบัตรประวัติคนไข้ใหม่ไม่นานนะครับ ตั้งแต่เริ่มเขียน ถ่ายรูป ซักประวัติ แล้วแจ้งว่าให้ไปที่แผนกไหนชั้นไหนใช้เวลา 20-30 นาที (เอกสารที่ใช้ใช้สำเนาสูติบัตรอย่างเดียวครับ)
แล้วแผนกที่จะไป ชื่อคลินิกทันตกรรมเด็ก อยู่ชั้นที่ 4ครับ
แล้วก็ไปนั่งรอสักครู่ประมาณ 8.45 ก็จะมีเจ้าหน้าที่มานั่งจัดแจกลำดับคิวให้ ซึ่งเท่าที่เห็นก็จะมีทั้งคนไข้ที่มาตามนัดส่วนใหญ่ครับ และก็จะมีกระดาษติดอยู่ไม่ใหญ่มากเขียนเพื่อแจ้งว่า คนไข้ที่เป็นคนไข้มาใหม่ไม่ได้นัดจะรับคิว ช่วงเช้าเพียง 10 คน และช่วงบ่าย 10 คนครับ
สรุปว่าวันนี้ ได้คิวที่ 2 ช่วงเช้า และมีคุณหมอมาซักประวัติเพื่อเข้าไปตรวจฟันเวลา 10.15 น. ครับ
ในเคสนี้ของผมคือลูกสาวฝันผุถึงรากไปแล้วต้องถอนออกอย่างเดียวแล้วค่อยมาใส่ฟันแทนชั่วคราวเพื่อรอให้ฟันจริงขึ้นที่หลังครับ แต่ตรงนี้ทางคุณหมอนักศึกษาทันตแพทย์ แจ้งว่าขอส่งต่อไปให้คุณหมอ นักศึกษาแพทย์หลังปริญญานะครับ เพราะกลัวว่าน้องจะกลัวมากและเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่น้องจะจำฝังใจจนกลัวหมอฝันไปเลย
และใช้เวลาในการฉีดยาและถอนฟันรวมเวลาหลอกล่อต่างๆนาๆจนเสร็จเรียบร้อยใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อถอนฟันเสร็จหน้าก็จะเป็นแบบนี้ครับ
ในตรงขออธิบายเพิ่มเติมครับ ว่า ที่นี้เป็นโรงเรียนของทันตแพทย์ครับ ฉะนั้นเนี่ยในเบื้องต้นคนไข้ที่มาใหม่จะมีนักศึกษาทันตแพทย์เป็นคนถือแฟ้มประวัติ มาพูดคุยซักถามประวัติต่าง มีอาการอะไรบ้าง (จะมีนักศึกษาทันตแพทย์ทั้งเป็นกลุ่มหรือมาเพียงคนเดียว) พอสอบถามซักอาการเสร็จ ก็จะไปรายงานแจ้งอาจารย์หมอที่ปรึกษาแล้วถึงพาคนไข้เข้าไปตรวจฟันครับ และก็ค่อยพิจารณาต่อว่าสามารถทำได้ไหม หรือต้องส่งต่อไปให้ นักศึกษาให้ปริญญาโททำให้ครับ
ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ถือว่าถูกมากครับ
ในการเลือกคุณหมอที่ทำการรักษาเท่าที่ถามพี่พยาบาลหน้าห้องนะครับ ว่าสามารถเลือกรับการรักษากับ นักศึกษาทันตแพทย์หรือนักศึกษาหลังปริญญาได้ไหม
ทางพี่พยาบาลเค้าแจ้งว่า ต้องดูก่อนว่าเคสนี้ยากแค่ไหนและศึกษาทันตแพทย์จะเป็นคนตรวจแล้วก็ให้อาจารย์หมอช่วยตัดสินใจ หากยากเกินความสามารถก็จะแจ้งคนไข้ก่อนครับ ว่าจะทำการส่งรักษาต่อไปหานักศึกษาแพทย์หลังปริญญาโท
ข้อมูลที่นำมาแบ่งนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2563
ผมหวังว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กอยู่แล้วต้องการพบคุณหมอซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษา ที่ไม่แพงมากหรือลูกๆที่มีอาการฟันมีปัญหาที่ยากเป็นพิเศษ ก็สามารถมาพบปรึกษาอาจารย์หมอได้ครับ เพื่อว่าเป็นกรณีศึกษาให้กับนักเรียนทันตแพทย์ได้ครับขอบคุณนะครับผม
รีวิวเล็กๆ พาลูกสาวไปหาหมอฟันที่ คลินิกทันตกรรมเด็ก คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เดือนกรกฎาคม 2563 ครับ
เพื่อเป็นข้อมูลเล็กน้อยสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ที่มีลูกยังเด็กอยู่ และมีปัญหาเรื่องฟันครับผม ณ ศูนย์ทันตกรรมเด็ก มหาวิทยาลัยมหิดล
ขอท้าวความสักนิดนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าลูกสาวอายุ 4.5 ขวบ มีอาการฟันผุที่เห็นมีอยู่ 2 ซี่ จึงได้พาลูกสาวไปหาหมอก็เลยลองหาข้อมูลทั่วๆไป ใน google ดูแต่เน้นเป็นคลินิกที่มีหมอเด็กอยู่ หายากมากครับ (ในคำว่ายาก ความหมายคือ ต้องนัดล่วงหน้า จองกัน ก่อนถึงไปหาได้เพราะมีคุณหมออยู่บ้างเวลาเท่านั่น) ทางตัวเราเองก็โทรสอบถามไปหลายที่มาก จนสุดท้ายว่าจะพาไปวันหน้าแล้วกัน แต่แล้วก็มีโทรศัพท์กลับมาว่ามีคนไข้ยกเลิกคิวพอดี คุณพ่อสะดวกพาน้องมาไหมคะ
ก็เข้าทางเลยพอดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อพบคุณหมอเป็นผู้หญิงใจดีมากๆ (ถึงขนาดลูกสาวมาหาหมอครั้งแรกยอมขึ้นเตียงนอนคนเดียวเลย )
เมื่อทำการตรวจฟันพบว่ามีผุเพิ่มอีก 3 รวมเป็น 4 ซี่
และคุณหมอและนำให้เอ๊กเรย์ฟันก่อนเพื่อดูว่าอุดได้ไหม ปรากฎว่า ไปเยอะแล้วต้องรักษารากฟัน 1 ซี่ แต่ซี่ที่เหลืออีก 3 ก็มีแนวโน้มน่าจะต้องรักษารากฟันด้วย
เลยสอบถามถึงค่ารักษา คุณหมอแจ้งว่า ซี่ละประมาณ 4,000 บาท (คุณพ่อหน้าซีดครับ ราคาขนาดนี้ไม่ไหวครับ.*_*)
แต่ที่น่ารักที่สุดคือ คุณหมอได้แนะนำให้คุณพ่อตัดสินใจก่อนที่จะทำและแนะนำถึง ศูนย์ทันตกรรมเด็ก มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าอยู่แถวถนนโยธี ใกล้อนุสาวรีย์ ลองไปสอบถามดูก่อนนะคะ ราคาไม่แพงมากเพราะน้องมีหลายซี่เลย
และพอกลับมาก็หาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่าก็ไม่ไกลมาก อยู่ใกล้ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชื่อซอยโยธีซอยนี้จะอยู่ตรงข้ามกับห้างเซนจูรี่พอดีเลยครับ เดินทางสะดวกด้วย รถไฟฟ้าปากซอย แล้วเดินเข้าไปอีกนิดครับ
ทางเข้าเป็นตึกใหญ่โตครับ (ขอใช้ภาพจาก googleนะครับ พอดีไม่ได้ถ่ายมา)
พอมาถึงประมาณ07.15 น. ก็มีคนนั่งรออยู่ไม่มากและเวลาเกือบ 8.00 ก็จะมีคนมาเปิดประตูเพื่อที่จะทำการคัดกรอง (Covid19) ก่อนและปล่อยให้คนไข้ใหม่มาทำประวัติสาวนคนไข้นัดก็สามารถไปตามชั้นและเวลาที่นัดไว้ครับ (ขอเสริมเล็กน้อยนะครับจากประสบการณ์ส่วนตัวที่นี่ไม่ต้องมาแต่เช้ามืดเหมือนโรงพยาบาลรัฐบาลทั่วไปก็ได้นะครับที่ต้องมาเอาคิวแต่เช้ามืดกันเลย เพราะว่าจะมาเร็วมาช้าแต่ขอให้อย่าเกิน 8.00น. ทุกคนที่นั่งรอก็ต้องมาเข้าคิวกันหมดตอนที่เจ้าที่กำลังเปิดประตูครับ ถ้ามาเช้าไปก็ต้องรออยู่ดีครับ )
ใช้เวลาในการทำบัตรประวัติคนไข้ใหม่ไม่นานนะครับ ตั้งแต่เริ่มเขียน ถ่ายรูป ซักประวัติ แล้วแจ้งว่าให้ไปที่แผนกไหนชั้นไหนใช้เวลา 20-30 นาที (เอกสารที่ใช้ใช้สำเนาสูติบัตรอย่างเดียวครับ)
แล้วแผนกที่จะไป ชื่อคลินิกทันตกรรมเด็ก อยู่ชั้นที่ 4ครับ
แล้วก็ไปนั่งรอสักครู่ประมาณ 8.45 ก็จะมีเจ้าหน้าที่มานั่งจัดแจกลำดับคิวให้ ซึ่งเท่าที่เห็นก็จะมีทั้งคนไข้ที่มาตามนัดส่วนใหญ่ครับ และก็จะมีกระดาษติดอยู่ไม่ใหญ่มากเขียนเพื่อแจ้งว่า คนไข้ที่เป็นคนไข้มาใหม่ไม่ได้นัดจะรับคิว ช่วงเช้าเพียง 10 คน และช่วงบ่าย 10 คนครับ
สรุปว่าวันนี้ ได้คิวที่ 2 ช่วงเช้า และมีคุณหมอมาซักประวัติเพื่อเข้าไปตรวจฟันเวลา 10.15 น. ครับ
ในเคสนี้ของผมคือลูกสาวฝันผุถึงรากไปแล้วต้องถอนออกอย่างเดียวแล้วค่อยมาใส่ฟันแทนชั่วคราวเพื่อรอให้ฟันจริงขึ้นที่หลังครับ แต่ตรงนี้ทางคุณหมอนักศึกษาทันตแพทย์ แจ้งว่าขอส่งต่อไปให้คุณหมอ นักศึกษาแพทย์หลังปริญญานะครับ เพราะกลัวว่าน้องจะกลัวมากและเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่น้องจะจำฝังใจจนกลัวหมอฝันไปเลย
และใช้เวลาในการฉีดยาและถอนฟันรวมเวลาหลอกล่อต่างๆนาๆจนเสร็จเรียบร้อยใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงเมื่อถอนฟันเสร็จหน้าก็จะเป็นแบบนี้ครับ
ในตรงขออธิบายเพิ่มเติมครับ ว่า ที่นี้เป็นโรงเรียนของทันตแพทย์ครับ ฉะนั้นเนี่ยในเบื้องต้นคนไข้ที่มาใหม่จะมีนักศึกษาทันตแพทย์เป็นคนถือแฟ้มประวัติ มาพูดคุยซักถามประวัติต่าง มีอาการอะไรบ้าง (จะมีนักศึกษาทันตแพทย์ทั้งเป็นกลุ่มหรือมาเพียงคนเดียว) พอสอบถามซักอาการเสร็จ ก็จะไปรายงานแจ้งอาจารย์หมอที่ปรึกษาแล้วถึงพาคนไข้เข้าไปตรวจฟันครับ และก็ค่อยพิจารณาต่อว่าสามารถทำได้ไหม หรือต้องส่งต่อไปให้ นักศึกษาให้ปริญญาโททำให้ครับ
ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ถือว่าถูกมากครับ
ในการเลือกคุณหมอที่ทำการรักษาเท่าที่ถามพี่พยาบาลหน้าห้องนะครับ ว่าสามารถเลือกรับการรักษากับ นักศึกษาทันตแพทย์หรือนักศึกษาหลังปริญญาได้ไหม
ทางพี่พยาบาลเค้าแจ้งว่า ต้องดูก่อนว่าเคสนี้ยากแค่ไหนและศึกษาทันตแพทย์จะเป็นคนตรวจแล้วก็ให้อาจารย์หมอช่วยตัดสินใจ หากยากเกินความสามารถก็จะแจ้งคนไข้ก่อนครับ ว่าจะทำการส่งรักษาต่อไปหานักศึกษาแพทย์หลังปริญญาโท
ข้อมูลที่นำมาแบ่งนี้เป็นข้อมูล ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2563
ผมหวังว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กอยู่แล้วต้องการพบคุณหมอซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษา ที่ไม่แพงมากหรือลูกๆที่มีอาการฟันมีปัญหาที่ยากเป็นพิเศษ ก็สามารถมาพบปรึกษาอาจารย์หมอได้ครับ เพื่อว่าเป็นกรณีศึกษาให้กับนักเรียนทันตแพทย์ได้ครับขอบคุณนะครับผม