JJNY : แฟลชม็อบหลายจว.ทั่วไทย/ชาวไทยในตปท.ร่วมแสดงพลัง/สุทินชี้คนรู้ทันม็อบชนม็อบ/ป่วยโควิดโลกทะลุ17ล./ติดเชื้อเพิ่ม6

แฟลชม็อบคึกคัก หลายจังหวัดทั่วไทย ฮือต้าน รบ. ทวงคืนประชาธิปไตย
https://www.thairath.co.th/news/local/1899652
 

 
แฟลชม็อบวันนี้ หลายจุดทั่วไทย "เชียงใหม่" พรึ่บรอบ 2 ล้นท่าแพ "น่าน" ฮือบ้างตามแนวร่วมเยาวชนปลดแอก "นครสวรรค์" แต่งชุดขาว-ดำรวมตัวลานสตรีทอาร์ต "สุพรรณบุรีจะไม่ทน" ได้ "เพนกวิน" นำทีมปราศรัยท้าสายฝน "เมืองนนท์" ไม่น้อยหน้า ชู 3 นิ้ว ร้องเพลง "แฮมทาโร่" 
 
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานอเนกประสงค์ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มประชาชน นักเรียน นักศึกษา มาร่วมชุมนุมกันกว่า 1,000 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยุบสภาลาออกจากตำแหน่ง พร้อมชูป้ายประท้วง ซึ่งกิจกรรมวันนี้ มีการปราศัย ประกวดป้าย และประกวดการแต่งกายด้วย ท่ามกลางการดูแลรักษาความบริเวณโดยรอบ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง และมือที่สามเข้ามาก่อความไม่สงบ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่
 
โดยประเด็นปราศัยยังคงมุ่งไปที่เรื่องการศึกษา ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน นักเรียน นักศึกษา และยังได้ประกาศว่า หากนักศึกษาและนักเรียนที่ถูกอาจารย์คุกคาม ก็ขอให้มาปรึกษาได้ เพราะอาจารย์ไม่มีสิทธิคุกคามหรือแจ้งรายชื่อนักศึกษาที่เข้าร่วมการชุมนุมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งระหว่างการแก้ไขนั้นก็ขอให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 40 ไปก่อน รวมถึงการขอให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมากขึ้น โดยกิจกรรมดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมก็แยกย้ายกันกลับอย่างสงบ 
 
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจัดชุมนุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา แกนนำทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกพบ เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา แต่ทางแกนนำได้ขอเลื่อนนัด เหตุเพราะยังไม่พร้อม และได้ปรึกษาทีมทนายความแล้ว แกนนำทั้งหมดจะเข้าพบตำรวจ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ค.นี้
 
ที่ จ.น่าน บริเวณลานกิจกรรมข่วงเมืองน่าน ต.ในเวียง อ.เมือง มีกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชน จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมารวมตัวกันเพื่อชุมนุมตามแนวร่วมเยาวชนปลดแอก โดยที่ จ.น่าน นัดชุมนุมกันตามแฮชแท็ก #คิดว่าน่านจะทนหรอ #น่านกระซิบลุง แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา ลาออก และโชว์แผ่นกระดาษข้อความ พร้อมจี้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 3 ข้อ คือ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยืนยันว่าการชุมนุมดังกล่าวไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลัง
 
โดยบรรยากาศโดยรวมพบว่า เป็นการชุมนุมโดยสันติ ไม่มีความรุนแรง มีการถือป้ายเรียกร้องประชาธิปไตย และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง รวมทั้งตำหนิการทำงานของรัฐบาลเท่านั้น ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อย จากเจ้าหน้าตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตั้งจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มข้นด้วย โดยใช้เวลาชุมนุมประมาณ 1 ชั่วโมง
 
ที่ จ.นครสวรรค์ มีนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ส่วนใหญแต่งกายด้วยชุดสีดำ-ขาว จำนวนกว่า 200 คน ถือป้าย ออกมาชุมนุมกลางลานสตรีทอาร์ต เพื่อเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งทางแกนนำได้นำกระดาษขาว มาไว้ให้นิสิตนักศึกษา เพื่อเขียนแสดงความคิดเห็นด้วย 
 
จากการสอบถามแกนนำที่จัดการชุมนุม เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังจะเกิดผลหรือไม่อย่างไร แต่เราหมดความอดทน ตามสโลแกนการประชุมครั้งนี้ว่า "นครสวรรค์จะไม่ทน เราจะสู้ จนกว่าตะได้ประชาธิปไตยคืนมา" อยากให้หยุดคุกคามประชาชน ส่วนอีก 2 ข้อก็ขอให้เป็นไปตามระบบ ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง และชุดสืบสวน บก.ภ.นครสวรรค์
 
ที่ จ.สุพรรณบุรี บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด มีกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ชื่อว่า "สุพรรณจะไม่ทน" จำนวนกว่า 150 คน รวมตัวกันที่บริเวณถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หน้าศาลากลาง จ.สุพรรณบุรี โดยมีผู้ปราศรัยจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 
1.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน 
2.นายไมค์ ภานุพงศ์ ประธานเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย 
และ 3.นายฟิวส์ พีรพล ประธานภาคีนักเรียนแห่งประเทศไทย 
โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ประการต่อรัฐบาล 
1.ประกาศยุบสภาฯ 
2.หยุดคุกคามประชาชน 
และ 3.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 
 
สำหรับบรรยากาศระหว่างการชุมนุมมีเยาวชน นิสิต นักศึกษา ต่างชูป้ายเรียกร้องประชาธิปไตย ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนแยกย้ายกันกลับ ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย จากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ อส.อย่างใกล้ชิด
 
ที่ จ.นนทบุรี บริเวณลานกิจกรรมริมเขื่อนท่าน้ำนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง  นายชินวัฒน์ จันทร์กระจ่าง แกนนำจัดกิจกรรม "เด็กนนท์ พร้อมชน [เผล่ะจัง]  แฮมเตอร์นนท์ ไล่รัฐบาล ลูกทุเรียนนนท์ ต่อต้าน [เผล่ะจัง]  ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" โดยมีนักเรียน นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เฝ้าสังเกตุการณ์ เพื่อดูแลความปลอดภัยเรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มาตั้งจุดคัดกรองตรวจโควิดฯให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
 
สำหรับบรรยาการเป็นไปด้วยความคึกคัก นักเรียน นักศึกษา ได้กางร่มฟังการปราศัยจากแกนนำ โดยมีการชูป้ายเรียกร้อง 3 ข้อต่อรัฐบาล ให้ 1.ยุบสภา 2.หยุดคุกคามประชาชน และ 3.แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ภายในวันที่ 13 ส.ค.นี้
 
ภายหลังการปราศรัยเสร็จ แกนนำได้ร้องเพลง "วิ่งน่ะ วิ่งนะ แฮมทาโร่" พร้อมทั้งให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชน จัดแถววิ่งตามเข็มนาฬิกา พร้อมทั้งชู 3 นิ้ว ร้องเพลง "แฮมทาโร่"
 

 
ชาวไทยในต่างประเทศ ร่วมแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย "ขับไล่ [เผล่ะจัง] "
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4606445
 
ชาวไทยในต่างประเทศ ร่วมแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย "ขับไล่ [เผล่ะจัง] " - BBCไทย
 
คนไทยในต่างแดนที่ต่อต้านรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มจัดกิจกรรมประท้วงในหลายเมืองใหญ่ สอดรับกับกระแสการเรียกร้องของผู้ประท้วงในประเทศไทย
 
หลังการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่จัดโดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "เยาวชนปลดแอก" บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการจัดประท้วงตามมาในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยมีข้อเรียกร้องเดียวกันคือ "ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่" โดยล่าสุดได้มีการเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกันในต่างประเทศด้วย
 
ราว 14.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กลุ่มคนไทยได้รวมตัวกันที่โบสถ์เซนต์มาร์ติน บริเวณจัตุรัสทราฟัลการ์ กลางกรุงลอนดอน จัดกิจกรรมที่ชื่อว่า "อยู่อังกฤษขอพิชิต [เผล่ะจัง] "
 
นักศึกษาที่เป็นแกนนำจัดกิจกรรมนี้กล่าวกับบีบีซีไทยว่า มีคนมาร่วมกิจกรรมราว 30 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ทั้งในลอนดอน และบางส่วนมาจากเมืองทางใต้ของอังกฤษ
 
รูปแบบการชุมนุมเป็นการพูดผ่านโทรโข่งและเขียนแผ่นป้ายประท้วง "ต่อต้านความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย" และย้ำข้อเรียกร้องเดียวกับการประท้วงที่เกิดขึ้นในไทย คือ ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่
 
นักศึกษาคนดังกล่าวระบุว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและใช้เวลาราว 30 นาที โดยจะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน
  
ส่วนไม่กี่วันก่อนนี้ได้มีการจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลในเมืองอื่น ๆ รวมถึงกรุงปารีสของฝรั่งเศส และนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ
 
เมื่อ 26 ก.ค. คนไทยในกรุงปารีสและกลุ่มผู้ลี้ภัยราว 20 คน เปิดปราศรัยโจมตีรัฐบาลและสถาบันชั้นสูง พร้อมทั้งอ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายแรงงานไทยในยุโรป ซึ่งได้เอ่ยถึงการประท้วงในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา และยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้าน [เผล่ะจัง] ในประเทศไทยด้วย
 
ส่วนคนไทยในสหรัฐฯได้ชุมนุมกันที่หน้าสถานกงสุลไทยในนครนิวยอร์กเมื่อ 27 ก.ค. ตามรายงานข่าวของเว็บไซต์ประชาไท ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มคนไทยได้จัดกิจกรรม "นิวยอร์คเกอร์ ร่วมไล่ [เผล่ะจัง] เพ้อเจ้อในสภา"
 
ประชาไทรายงานว่า ผู้ร่วมชุมนุมได้ยืนไว้อาลัยให้ผู้ลี้ภัยที่เสียชีวิต 1 นาทีและมีการจัดกิจกรรมกินพิซซ่าด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันอย่างสงบ
 
ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Nachacha Kongudom ได้โพสต์ภาพการประท้วงในนครนิวยอร์กพร้อมกับเขียนข้อความว่า "พลังชาวนิวยอร์กไล่ [เผล่ะจัง]  ขอร่วมต่อสู้และส่งแรงใจไปให้คนไทยทุกคน ที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมประชาธิปไตยที่แท้จริง เราจะไม่ทนอีกต่อไป"
 
ส่วนกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ส.ค. นี้ คือ "โคเปนเฮเกนเหม็นบูด [เผล่ะจัง] " โดยผู้จัดกิจกรรมได้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมนี้ในเฟซบุ๊กและเชิญชวนให้คนไทยเข้าร่วมในช่วงระหว่างเวลา 14.00-15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
 


สุทิน ชี้ คนรู้ทันโมเดลม็อบชนม็อบ สุดท้ายจบด้วยยึดอำนาจ ลั่นคนรู้แล้วรบ.ไม่จริงใจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2285957
 
“สุทิน”ชี้ ม็อบชนม็อบ เป็นโมเดลที่เคยเกิดในอดีต สุดท้ายก็จบด้วยการยึดอำนาจ ลั่นคนรู้ทันหมดแล้วว่ารัฐบาลไม่จริงใจ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค.เวลา 09.00 น.ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังเแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า ฝ่ายค้านจะถามกระทู้เรื่องมาตรการการดูแลให้ความปลอดภัยและหลักประกันต่อผู้ชุมนุม ซึ่งหลักใหญ่จะถามรัฐบาลว่า การที่มีผู้ชุมนุมซึ่งมีท่าทีว่า จะขยายตัวขึ้น รัฐได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะวันนี้ ทราบว่าจะมีผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งออกมาในทำนองสนับสนุนรัฐบาล และต่อต้านผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งตนต้องฝากนายกฯ และฝากทุกๆคน ว่า วันนี้คนไทยทุกๆ คนต้องคิดให้มาก ลักษณะอย่างนี้เป็นโมเดลที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต เมื่อมีผู้ชุมนุมฝ่ายหนึ่งแล้ว รัฐบาลก็มักจะเอาผู้ชุมนุมอีกฝ่ายหนึ่งมา

“ถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาม็อบอีกวิธีของรัฐบาล ซึ่งนิยมใช้ในอดีต แล้วสุดท้ายก็จบลงโดยไม่ดีสักครั้ง จบลงโดยความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันจนต้องเสียเลือดเนื้อ ท้ายที่สุดก็จบด้วยการยึดอำนาจ ล่าสุดก็เหมือนกัน มีการยึดอำนาจเมื่อปี 49 หรือปี 57 ลักษณะของม็อบชนม็อบ ซึ่งคำว่า ม็อบชนม็อบก็ไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ ถ้าเป็นไปโดยธรรมชาติก็พอที่จะรับได้ แต่ถ้ามีการจัดตั้งขึ้นมา ก็ต้องระวังให้มาก เพราะประเทศไทยมีบทเรียนเรื่องนี้แบบเจ็บปวดมากๆ ถ้ายังทำแบบนี้กันอีก แล้วรัฐบาลยังไม่มีมาตรการที่จะต้องแก้ไขเรื่องนี้ เรามองเห็นอะไรอยู่ข้างหน้าที่น่ากลัวมาก” นายสุทิน กล่าว
 
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการปลุกม็อบขึ้นมาชนม็อบ นายสุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนไปดูเบื้องลึก ตรวจสอบแบบใจกว้างและให้ความเป็นธรรม ก็มีเรื่องผิดปกติอยู่ ทั้งแกนนำของผู้ชุมนุมบางฝ่าย และการก่อเกิดไม่ได้เป็นไปโดยธรรมชาติ ดังนั้นรัฐบาลต้องคิดว่า เรื่องอย่างนี้เคยเกิด และทุกคนเคยเรียนรู้ จึงทำใครรู้ทัน แล้วจะมองว่ารัฐบาลนี้ไม่จริงใจ เมื่อคนมองว่าไม่จริงใจต่อกันแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะพูดกันไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็จะขยายความขัดแย้งและจบแบบทุกคนเสียหายหมด อย่างไรก็ตามการชุมนุมแต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกัน หากคราวใดไม่เป็นธรรมชาติเราดูออก และเชื่อว่ารัฐบาลรู้แก่ใจดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่