สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อย่างแรก ต้องแยกก่อนระหว่าง เพลงเกา กับ เพลงยุ่น และ เพลงไอดอล นะครับ
เพลงยุ่นยุคใหม่ติดหู และซาวด์อินเตอร์มากๆครับ บางเพลงฟังแว้บเดียว รอบเดียวโดนเลย
ตัวอย่างเพลงยุ่นดังๆในรอบ 2-3 ปีทีผ่านมา เช่น



หลายๆเพลงในนี้ วงเกาเอาไปร้องด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะในไลฟ์หรือคอน แต่เพลงเขาไม่ดังในตลาดต่างประเทศ เพราะเขาไม่ทำตลาดไงครับ อย่างมากก็อัพเพลงขึ้น Spotify, iTunes แล้วก็จบกัน
2. เพลงเกาติดหูมากกว่าเพลงยุ่น ?? อันนี้ขอไม่เห็นด้วยครับ แล้วแต่รสนิยมมากกว่า
3. เพลงไอดอล อันนี้แหละดร็อปจริง เพราะแม้แต่ตลาดญี่ปุ่น เพลงไอดอลก็ไม่ได้ฮิตติดชาร์ท เปิดกันทั่วไปเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ที่ยอดขายมันยังเยอะอยู่ เพราะคนซื้อแผ่นเพื่อเอาบัตรไปทำกิจกรรมมากกว่า
4. เพลง BNK เป็นส่วนผสมของเพลงแนวไอดอลที่กำลังถดถอยและความยากลำบากในการแปลที่จะต้องแปลเพลงเดิมให้ได้เนื้อหาครบ พยางค์ครบ ใกล้เคียงต้นฉบับที่สุด
นี่ครับ มันลำบากตรงนี้ ให้ทางญี่ปุ่นส่งมาเฉพาะทำนองแล้วให้ครูเพลงทาง BNK แต่งเนื้อเองใหม่หมดสิ ผมรับรองว่าร้องได้เนียนเข้าปากทุกเพลง
5. อันนี้อย่าลืมนะครับว่า เพลงแนวเกาหลีมันฮิตเฉพาะที่เป็นต้นฉบับ แต่พอคนไทยจะทำเพลงแนวนั้นบ้างไม่รอดนะครับ โดยเฉพาะ gg ไทยที่มีกลิ่นอายแนวเกาหลีนี่เจ๊งวินาศแทบทุกวง
กลับกัน gg ที่ทำเพลงไทยกลิ่นอายญี่ปุ่น ในอดีตยังมีวงที่ดังบ้าง เช่น โฟร์-มด เนโกะจัมพ์
ดังนั้นจะบอกว่า คนไทยชอบฟังเพลงแนวเกาหลีก็สรุปไม่ได้อยู่ดีน่ะครับ...
เพลงยุ่นยุคใหม่ติดหู และซาวด์อินเตอร์มากๆครับ บางเพลงฟังแว้บเดียว รอบเดียวโดนเลย
ตัวอย่างเพลงยุ่นดังๆในรอบ 2-3 ปีทีผ่านมา เช่น



หลายๆเพลงในนี้ วงเกาเอาไปร้องด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะในไลฟ์หรือคอน แต่เพลงเขาไม่ดังในตลาดต่างประเทศ เพราะเขาไม่ทำตลาดไงครับ อย่างมากก็อัพเพลงขึ้น Spotify, iTunes แล้วก็จบกัน
2. เพลงเกาติดหูมากกว่าเพลงยุ่น ?? อันนี้ขอไม่เห็นด้วยครับ แล้วแต่รสนิยมมากกว่า
3. เพลงไอดอล อันนี้แหละดร็อปจริง เพราะแม้แต่ตลาดญี่ปุ่น เพลงไอดอลก็ไม่ได้ฮิตติดชาร์ท เปิดกันทั่วไปเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ที่ยอดขายมันยังเยอะอยู่ เพราะคนซื้อแผ่นเพื่อเอาบัตรไปทำกิจกรรมมากกว่า
4. เพลง BNK เป็นส่วนผสมของเพลงแนวไอดอลที่กำลังถดถอยและความยากลำบากในการแปลที่จะต้องแปลเพลงเดิมให้ได้เนื้อหาครบ พยางค์ครบ ใกล้เคียงต้นฉบับที่สุด
นี่ครับ มันลำบากตรงนี้ ให้ทางญี่ปุ่นส่งมาเฉพาะทำนองแล้วให้ครูเพลงทาง BNK แต่งเนื้อเองใหม่หมดสิ ผมรับรองว่าร้องได้เนียนเข้าปากทุกเพลง
5. อันนี้อย่าลืมนะครับว่า เพลงแนวเกาหลีมันฮิตเฉพาะที่เป็นต้นฉบับ แต่พอคนไทยจะทำเพลงแนวนั้นบ้างไม่รอดนะครับ โดยเฉพาะ gg ไทยที่มีกลิ่นอายแนวเกาหลีนี่เจ๊งวินาศแทบทุกวง
กลับกัน gg ที่ทำเพลงไทยกลิ่นอายญี่ปุ่น ในอดีตยังมีวงที่ดังบ้าง เช่น โฟร์-มด เนโกะจัมพ์
ดังนั้นจะบอกว่า คนไทยชอบฟังเพลงแนวเกาหลีก็สรุปไม่ได้อยู่ดีน่ะครับ...
ความคิดเห็นที่ 43
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า soft power ของเกาหลี ครอบงำวงการบันเทิงเราต่อเนื่องมาในช่วงสิบกว่าปีหลังมานี้ ผิดกับช่วง 20 ปีที่แล้ว ที่ญี่ปุ่นครอง ถ้าใครจำยุค ITV เอาseries ญี่ปุ่นมาฉายได้ ช่วงนั้น J ในไทยดังสุดๆไม่ต่างจากวงเกาหลีตอนนี้เช่นกัน แต่อาจจะดูห่างไกล เพราะการเข้าถึง internet ยากกว่า
เรื่องฟังง่ายยาก มันไม่เกี่ยวหรอก คุณฟังภาษาเกาหลีไม่ออก พอๆกับฟังภาษาญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่มันขึ้นกับความคุ้นเคย การซึมซับ ที่เกิดจากการฟังมาตั้งแต่เกิดจากทีวีเลยรู้สึกว่าฟังง่าย
ที่เราคิดว่าเพลงญี่ปุ่นไม่ดัง หรือไม่มีเพลงติดหูง่าย เพราะคุณไม่เคยไปหาฟัง และเขาไม่ได้มาโปรโมทในสื่อบันเทิงบ้านเรา เพลงรุ่นใหม่ๆ เป็น standard หรือเป็นต้นแบบ ของวงการมีเยอะมาก แม้เพลง AKB ที่อาจจะไม่ดังเท่ายุคก่อน แต่เพลงของ producer คนเดียวกัน ในวงอื่นๆก็ยังได้รางวัลอีกมากมาย
อีกอย่างที่เป็นปัญหาของตัววงการบันเทิงญี่ปุ่นเอง คือไม่สนใจตลาดนอกเกาะ เพราะตลาดในเกาะใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอยู่แล้ว ถ้าขายในประเทศได้ ก็ทำขายในประเทศ ดีกว่าเสียเวลาไปดังต่างประเทศ แต่รายได้น้อยกว่า ลองคิดง่ายๆอย่างวง Nogizaka46 จัดคอนฯหน้าร้อนในประเทศ เป็นโดมทัวร์ รอบนึงมีคนดูอย่างต่ำ3-4หมื่นที่นั่ง(ปกติจัดสถานที่ละสองวัน) ถ้าเมืองใหญ่นี่ขนาด 5หมื่นที่นั่ง โตเกียวโดมก็6.5หมื่นที่นั่ง ขายบัตรได้หมดตลอด เขาจะเสี่ยงมาจัดประเทศอื่น ที่คนดูน้อยกว่าไปทำไม? อย่างที่ไปจีนก็คือมั่นใจว่าฐานแฟนเยอะจนกล้าไปจัด Mercedez Arena ที่ความจุ 1.8หมื่น สองวันเต็ม
ส่วนใหญ่วงที่เริ่มเจาะตลาด inter มักจะเป็นวงที่อยู่มานานแล้ว กระแสในประเทศไม่โตมากกว่านี้ เลยอยากหา ดิ้นเงินดิ้นทอง ชื่อเสียง inter มาเพิ่ม อย่าลืมว่าการออกตปท.มันมีต้นทุน ทั้งการแปล ล่าม ฯลฯ ถ้าไม่มั่นใจว่ามีฐานแฟนในประเทศนั้นๆมากพอ
อีกอย่างคือเนื้อเพลง ชื่อเพลง ต้องยอมรับว่าฝั่งเกาหลี ตั้งใจเจาะตลาดinter เลยดูจะเอื้อมากกว่า ในขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นชื่อเพลงส่วนใหญ่ยังเป็นญี่ปุ่นล้วนๆ แค่จำชื่อเพลงชื่อวงยังจำได้ยากเลย ยังไม่นับการตลาดแบบไม่สนใจโลก ลง youtube แต่ลงแค่ชั่วคราว ปิดกั้นการเข้าถึงจากประเทศอื่นหมด แต่อันนี้อาจจะโทษนโยบายลิขสิทธิ์ เพราะเท่าที่ทราบ อย่างโซนี่ คือเขาแบ่งลิขสิทธิ์ตามภูมิภาค จะไม่แย่งตลาดกันเอง ฉะนั้น ถ้าโซนี่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่โปรโมท คุณก็แทบจะหมดสิทธิ์เข้าถึงบางเพลง บางวง แต่ด้วยการไม่สนใจโลก ทำให้เวบของตัวศิลปินเอง ก็แทบไม่มีภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่คนจากตปท. อยากจะติดตาม สนับสนุนก็ทำได้ยาก (ยังดีที่ยุคนี้มี google translate)
ส่วนเรื่อง BNK ก็ต้องบอกว่าขึ้นกับการแปลเพลงล้วนๆ เพราะตัวทำนองมันล้ำสมัยในตัวของมัน ผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้ฟังทำนองคุกกี้เสี่ยงทายแต่แรก ต้องอึ้งทั้งๆที่มันเป็นเพลงเก่าอายุหลายปี (ต้นฉบับออก 2013 มาไทยปลายปี 2017) คุณยังว่ามันไม่ล้าสมัยเลย เพลง heavy rotation ที่ว่าเก่า ก็เก่ากว่า คุกกี้แค่ปีสองปี เราก็ไม่รู้หรอกว่า ทำนองเพลงที่ดังในญี่ปุ่นมากๆ อาจจะไม่ถูกหูคนไทยก็ได้ แต่อย่างน้อยมันก็มีการันตีในตัวเอง ว่าเคยถูกหูคนในญี่ปุ่นหลายล้านคนมาก่อนแล้ว ไม่ใช่เพลงแต่งใหม่หมาดๆ ที่ไม่รู้ว่าจะดังหรือไม่ดัง แน่นอน แต่งเองก็เป็นโอกาสใหม่ๆ แต่ถ้ามันดังง่ายขนาดนั้น วงอื่นๆที่ทำมาก่อน ก็ไม่ดังไปก่อนไปหมดแล้วหรือ? บางทีเรามองอะไรง่ายเกินไปจนโทษคำว่า"เพลงแปล"เป็นตัวขัดขวางความดังไปหรือเปล่า?
เรื่องฟังง่ายยาก มันไม่เกี่ยวหรอก คุณฟังภาษาเกาหลีไม่ออก พอๆกับฟังภาษาญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่มันขึ้นกับความคุ้นเคย การซึมซับ ที่เกิดจากการฟังมาตั้งแต่เกิดจากทีวีเลยรู้สึกว่าฟังง่าย
ที่เราคิดว่าเพลงญี่ปุ่นไม่ดัง หรือไม่มีเพลงติดหูง่าย เพราะคุณไม่เคยไปหาฟัง และเขาไม่ได้มาโปรโมทในสื่อบันเทิงบ้านเรา เพลงรุ่นใหม่ๆ เป็น standard หรือเป็นต้นแบบ ของวงการมีเยอะมาก แม้เพลง AKB ที่อาจจะไม่ดังเท่ายุคก่อน แต่เพลงของ producer คนเดียวกัน ในวงอื่นๆก็ยังได้รางวัลอีกมากมาย
อีกอย่างที่เป็นปัญหาของตัววงการบันเทิงญี่ปุ่นเอง คือไม่สนใจตลาดนอกเกาะ เพราะตลาดในเกาะใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอยู่แล้ว ถ้าขายในประเทศได้ ก็ทำขายในประเทศ ดีกว่าเสียเวลาไปดังต่างประเทศ แต่รายได้น้อยกว่า ลองคิดง่ายๆอย่างวง Nogizaka46 จัดคอนฯหน้าร้อนในประเทศ เป็นโดมทัวร์ รอบนึงมีคนดูอย่างต่ำ3-4หมื่นที่นั่ง(ปกติจัดสถานที่ละสองวัน) ถ้าเมืองใหญ่นี่ขนาด 5หมื่นที่นั่ง โตเกียวโดมก็6.5หมื่นที่นั่ง ขายบัตรได้หมดตลอด เขาจะเสี่ยงมาจัดประเทศอื่น ที่คนดูน้อยกว่าไปทำไม? อย่างที่ไปจีนก็คือมั่นใจว่าฐานแฟนเยอะจนกล้าไปจัด Mercedez Arena ที่ความจุ 1.8หมื่น สองวันเต็ม
ส่วนใหญ่วงที่เริ่มเจาะตลาด inter มักจะเป็นวงที่อยู่มานานแล้ว กระแสในประเทศไม่โตมากกว่านี้ เลยอยากหา ดิ้นเงินดิ้นทอง ชื่อเสียง inter มาเพิ่ม อย่าลืมว่าการออกตปท.มันมีต้นทุน ทั้งการแปล ล่าม ฯลฯ ถ้าไม่มั่นใจว่ามีฐานแฟนในประเทศนั้นๆมากพอ
อีกอย่างคือเนื้อเพลง ชื่อเพลง ต้องยอมรับว่าฝั่งเกาหลี ตั้งใจเจาะตลาดinter เลยดูจะเอื้อมากกว่า ในขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นชื่อเพลงส่วนใหญ่ยังเป็นญี่ปุ่นล้วนๆ แค่จำชื่อเพลงชื่อวงยังจำได้ยากเลย ยังไม่นับการตลาดแบบไม่สนใจโลก ลง youtube แต่ลงแค่ชั่วคราว ปิดกั้นการเข้าถึงจากประเทศอื่นหมด แต่อันนี้อาจจะโทษนโยบายลิขสิทธิ์ เพราะเท่าที่ทราบ อย่างโซนี่ คือเขาแบ่งลิขสิทธิ์ตามภูมิภาค จะไม่แย่งตลาดกันเอง ฉะนั้น ถ้าโซนี่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่โปรโมท คุณก็แทบจะหมดสิทธิ์เข้าถึงบางเพลง บางวง แต่ด้วยการไม่สนใจโลก ทำให้เวบของตัวศิลปินเอง ก็แทบไม่มีภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่คนจากตปท. อยากจะติดตาม สนับสนุนก็ทำได้ยาก (ยังดีที่ยุคนี้มี google translate)
ส่วนเรื่อง BNK ก็ต้องบอกว่าขึ้นกับการแปลเพลงล้วนๆ เพราะตัวทำนองมันล้ำสมัยในตัวของมัน ผมเชื่อว่าหลายคนที่ได้ฟังทำนองคุกกี้เสี่ยงทายแต่แรก ต้องอึ้งทั้งๆที่มันเป็นเพลงเก่าอายุหลายปี (ต้นฉบับออก 2013 มาไทยปลายปี 2017) คุณยังว่ามันไม่ล้าสมัยเลย เพลง heavy rotation ที่ว่าเก่า ก็เก่ากว่า คุกกี้แค่ปีสองปี เราก็ไม่รู้หรอกว่า ทำนองเพลงที่ดังในญี่ปุ่นมากๆ อาจจะไม่ถูกหูคนไทยก็ได้ แต่อย่างน้อยมันก็มีการันตีในตัวเอง ว่าเคยถูกหูคนในญี่ปุ่นหลายล้านคนมาก่อนแล้ว ไม่ใช่เพลงแต่งใหม่หมาดๆ ที่ไม่รู้ว่าจะดังหรือไม่ดัง แน่นอน แต่งเองก็เป็นโอกาสใหม่ๆ แต่ถ้ามันดังง่ายขนาดนั้น วงอื่นๆที่ทำมาก่อน ก็ไม่ดังไปก่อนไปหมดแล้วหรือ? บางทีเรามองอะไรง่ายเกินไปจนโทษคำว่า"เพลงแปล"เป็นตัวขัดขวางความดังไปหรือเปล่า?
ความคิดเห็นที่ 4
อย่างที่หลายๆคนบอกแหระค่ะ
เด็กสมัยนี้เกิดมากก็เจอ Black pink แล้ว
สื่อโซเชียลมีเดีย ก็ลงแต่ผลงานเพลงของประเทศเกาหลี
ไม่แปลกที่คนจะให้ความสนใจเยอะ
(อีกอย่างคืองานเขามีคุณภาพด้วยนะ )
และต้องยอมรับว่าอีกอย่างหนึ่ง คือวงการเพลงเกาหลีมีการโปรโมทที่ดี
แทบจะเป็นประเทศแรกๆในเอเชียเลยมั้ง ที่ลงผลงานหลักๆลงช่องยูทูป
ก่อนจะตามมาด้วยจีนและญี่ปุ่น ซึ่งก็ช้าไปแล้ว
กลับมาที่ปัญหาหลักๆของ BNK48
คือไม่รู้จุดเด่นของตัวเอง เปลี่ยนไปเรื่อย
ซึ่งมีข้อดีคือได้ทดลองทำอะไรที่หลากหลาย มีโอกาสสร้างฐานลูกค้าได้หลายกลุ่ม
แต่ความเป็นจริงคือลูกค้ายังไม่ทันอิน ก็เปลี่ยนมู๊ดอารมณ์ไปซะแล้ว
ยกตัวอย่าง แฟนไทบ้าน แฟนสายลูกทุ่งเริ่มชอบโดดดิด่ง
อยากมาตามวงต่อ เพราะอยากเห็นแง่มุมนี้จากตัววง
แต่พอเริ่มมาตามจริงๆกลับเจอเพลง j-pop อย่าง HR
และก็กำลังจะก้าวไป T-pop กับยูนิตไลร่าแล้ว
เขาก็จากไป เพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ยิ่งเจอปัญหารายวันของแฟนคลับรุ่นเดอะ กับงานสุดคุณภาพของตัววงเข้าไปอีก
บอกเลยว่าพวกที่ตามได้นานจนถึงวันนี้ คือพวกที่กรองมาแล้วว่าจิตแข็งพอสมควร
เพราะฉะนั้น คนนอกเข้ามาดูค่ะ
แต่ดูผ่านๆแล้วก็จบไป ให้รู้ว่า " อ้อ วงไอดอลแห่งสยามประเทศวงนี้ ออกเพลงใหม่แล้วนะ "
ส่วนการจะให้คนเหล่านั้นกลายเป็นแฟนคลับสายประจำ
มันต้องใช้เสน่ห์และความน่าสนใจจากตัวน้องๆ ซึ่งตรงนี้แหระที่เราว่าวงขาดไป ในการพยายามนำเสนอ
บริหารภายในให้ดี รู้จุดแข็ง ขยี้ให้ถูกจุด
เราว่าถ้าบาลานซ์ทั้งหมดนี้ไว้ได้ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรายได้วงเลยค่ะ
เพราะโมเดลธุรกิจมันดีอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องของความแมส อย่าไปคาดหวังอะไรเยอะเลยค่ะ
มีขึ้น ก็ต้องมีลง ไม่มีกฎไหนตายตัวว่าทำแล้วจะดัง
ไม่เชื่อลองไปทำวงสักวง แล้วทำตามวง bp ทุกอย่างดูสิ
เชื่อว่าโอกาสวงที่คุณสร้างจะดัง ก็ยังเป็น 50/50 อยู่ดี
ไม่แน่นะ ในอนาคตอาจจะมีแนวเพลงใหม่ ที่ดังแซงแนว K-pop ขึ้นไปก็ได้
แล้วเวลานั้น แฟน K-pop ก็จะรู้สึกเหมือนแฟน j-pop ตอนนี้แหระ
แต่ถ้าวงมันยังทำกำไรได้ แล้วแนวทางวงยังไปในเส้นทางเดียวกันอยู่
ก็ยังจะมีวงแนวนั้นๆ อยู่ให้เราได้เสพผลงงานกันต่อไปเรื่อยๆค่ะ
เด็กสมัยนี้เกิดมากก็เจอ Black pink แล้ว
สื่อโซเชียลมีเดีย ก็ลงแต่ผลงานเพลงของประเทศเกาหลี
ไม่แปลกที่คนจะให้ความสนใจเยอะ
(อีกอย่างคืองานเขามีคุณภาพด้วยนะ )
และต้องยอมรับว่าอีกอย่างหนึ่ง คือวงการเพลงเกาหลีมีการโปรโมทที่ดี
แทบจะเป็นประเทศแรกๆในเอเชียเลยมั้ง ที่ลงผลงานหลักๆลงช่องยูทูป
ก่อนจะตามมาด้วยจีนและญี่ปุ่น ซึ่งก็ช้าไปแล้ว
กลับมาที่ปัญหาหลักๆของ BNK48
คือไม่รู้จุดเด่นของตัวเอง เปลี่ยนไปเรื่อย
ซึ่งมีข้อดีคือได้ทดลองทำอะไรที่หลากหลาย มีโอกาสสร้างฐานลูกค้าได้หลายกลุ่ม
แต่ความเป็นจริงคือลูกค้ายังไม่ทันอิน ก็เปลี่ยนมู๊ดอารมณ์ไปซะแล้ว
ยกตัวอย่าง แฟนไทบ้าน แฟนสายลูกทุ่งเริ่มชอบโดดดิด่ง
อยากมาตามวงต่อ เพราะอยากเห็นแง่มุมนี้จากตัววง
แต่พอเริ่มมาตามจริงๆกลับเจอเพลง j-pop อย่าง HR
และก็กำลังจะก้าวไป T-pop กับยูนิตไลร่าแล้ว
เขาก็จากไป เพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
ยิ่งเจอปัญหารายวันของแฟนคลับรุ่นเดอะ กับงานสุดคุณภาพของตัววงเข้าไปอีก
บอกเลยว่าพวกที่ตามได้นานจนถึงวันนี้ คือพวกที่กรองมาแล้วว่าจิตแข็งพอสมควร
เพราะฉะนั้น คนนอกเข้ามาดูค่ะ
แต่ดูผ่านๆแล้วก็จบไป ให้รู้ว่า " อ้อ วงไอดอลแห่งสยามประเทศวงนี้ ออกเพลงใหม่แล้วนะ "
ส่วนการจะให้คนเหล่านั้นกลายเป็นแฟนคลับสายประจำ
มันต้องใช้เสน่ห์และความน่าสนใจจากตัวน้องๆ ซึ่งตรงนี้แหระที่เราว่าวงขาดไป ในการพยายามนำเสนอ
บริหารภายในให้ดี รู้จุดแข็ง ขยี้ให้ถูกจุด
เราว่าถ้าบาลานซ์ทั้งหมดนี้ไว้ได้ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องรายได้วงเลยค่ะ
เพราะโมเดลธุรกิจมันดีอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องของความแมส อย่าไปคาดหวังอะไรเยอะเลยค่ะ
มีขึ้น ก็ต้องมีลง ไม่มีกฎไหนตายตัวว่าทำแล้วจะดัง
ไม่เชื่อลองไปทำวงสักวง แล้วทำตามวง bp ทุกอย่างดูสิ
เชื่อว่าโอกาสวงที่คุณสร้างจะดัง ก็ยังเป็น 50/50 อยู่ดี
ไม่แน่นะ ในอนาคตอาจจะมีแนวเพลงใหม่ ที่ดังแซงแนว K-pop ขึ้นไปก็ได้
แล้วเวลานั้น แฟน K-pop ก็จะรู้สึกเหมือนแฟน j-pop ตอนนี้แหระ
แต่ถ้าวงมันยังทำกำไรได้ แล้วแนวทางวงยังไปในเส้นทางเดียวกันอยู่
ก็ยังจะมีวงแนวนั้นๆ อยู่ให้เราได้เสพผลงงานกันต่อไปเรื่อยๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ไม่ใช่ว่าวง bnk ไม่ดัง แต่หลังๆออกเพลงมาแล้วคนทั่วไปเข้าไม่ฟังมากกว่า