คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
โพสนี้เขียนอธิบายละเอียดดี เกี่ยวกับกระทิงแดงและ Red Bull
เห็นช่วงนี้พูดถึงสองแบรนด์นี้กันเยอะ
ข่าวก็ออกมาเยอะจนงงไปหมดว่าตกลงใครยังไง
เมื่อเช้าเลยไปนั่งหาข้อมูลจากวิกิมาจนเห็นภาพ
Red Bull กับ กระทิงแดง
เขามีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันคือ "โกเหลียว" คุณเฉลียว อยู่วิทยา
.
จากลูกเกษตรกรเลี้ยงเป็ดในจังหวัดพิจิตร คุณเฉลียวโตขึ้นมาทำงานเป็นเซลล์แมนขายยา หิ้ว "ออริโอมัยซิน" ไปขายร้านขายยาทั่วประเทศตั้งแต่ยังหนุ่ม ซึ่งเมื่อเข้านอกออกในวงการยาเป็นเวลาหลายปีก็เห็นโอกาสในการติดต่อนำยาจากต่างประเทศเข้ามาขายเองอีกหลายตัว เลยตัดสินใจออกมาลุย
.
เริ่มออกมาทำธุรกิจซื้อมาขายไปเองอีกเป็นสิบปีก็พัฒนามาเป็นบริษัท ทีซีฟาร์มาซูติคอล (ทีซีพี) ผู้ผลิตแป้งเด็ก, ยาเด็กและสินค้าหลายตัวที่ได้รับสิทธิการผลิตและจำหน่ายในเมืองไทยจากเจ้าของแบรนด์ในต่างประเทศ
.
--กำเนิดกระทิงแดง--
ต่อมาแกก็เห็นอีกช่องทางนึงคือเครื่องดื่มชูกำลังของต่างชาติที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในไทย แกเลยเริ่มทำ "กระทิงแดง" แล้วบุกด้วยการตลาดแบบทันสมัย เข้าถึงทุกร้านเพราะคุณเฉลียวแกขายมาจนช่ำชอง กระทิงแดงเริ่มเป็นขวัญใจคนใช้แรงงานมากกว่าแบรนด์จากญี่ปุ่น (เปิดฝาแจกทองนี่น่าจะเป็นกระทิงแดงนี่แหละที่ทำก่อนเพื่อน) ทำให้ค่อย ๆ ประสบความสำเร็จมากขึ้นในเวลาต่อมา
.
คู่แข่งสำคัญในขณะนั้นของคุณเฉลียวก็น่าจะเป็นโอสถสภา (เต็กเฮงหยู) ซึ่งทำธุรกิจคล้ายกันมาตลอด เราคงไม่ลืม "ลิโพ" ที่เป็นคู่แข่งกัน ... ถึงขั้นนี้ทีซีฟาร์มาซูติคอลของคุณเฉลียวก็รวยไปแล้วระดับนึง รวยขนาดที่ผมเคยได้ยินในสนามกอล์ฟเมื่อตอนยังเด็กว่าธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งต้องพึ่งพาเงินฝากของคุณเฉลียวแบบไม่ยอมให้ถอนไปไหนกันเลยทีเดียว
.
--กำเนิด Red Bull--
แต่ที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้คุณเฉลียวประสบความสำเร็จไปในระดับโลกก็คือการที่ได้เจอกับ Dietrich Mateschitz นักการตลาดชาวออสเตรียซึ่งต้องบินมาคุยกับคุณเฉลียวเนื่องจากทีซีได้สิทธิการผลิตแป้งเด็กภายใต้แบรนด์นึงของ P&G ในเมืองไทย เขาเลยต้องมาพบปะผู้ผลิตเป็นครั้งคราวตามหน้าที่ ... พอมาถึงเมืองไทย เดียทริตช์มีอาการเจ็ตแล็ก คุณเฉลียวเลยแนะนำให้ลองดื่มกระทิงแดง ... หลังจากนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นตำนานระดับโลก เดียทริตช์เอ่ยปากขอคุณเฉลียวให้เอามาทำขายทั่วโลกโดยที่เขาจะลาออกจากบริษัทใหญ่ที่เยอรมันมาลุยให้เองในสองปีต่อมา
.
แต่มีเงื่อนไขที่เดียทริตช์ขอบริหารเองทั้งหมด
และจะไม่ยุ่งกับตลาดเดิมที่มีในเมืองไทย
โดยตั้งชื่อว่า Red Bull และแยกกันไปทำคนละธุรกิจ
.
--แม่น้ำแยกเป็นสองสาย--
กระทิงแดงกับ Red Bull ก็เลยต่างคนต่างเดินมาตลอด
กระทิงแดงขายในไทยต่อไป (รวยอยู่พอสมควรแล้ว)
Red Bull ไปเกิดเมืองนอก ขายทั่วโลก (เลยโคตรรวยเข้าไปอีก)
การถือทั้งสองขาก็ทำให้ประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างมาก
แต่คุณเฉลียวแกมีสองบ้าน
ก่อนแกจะเสียชีวิตเลยให้ลูก ๆ แบ่งสมบัติกันไป
.
บ้านเล็กได้กระทิงแดงทำเครื่องดื่มขายในไทยตามเดิม
สมาชิกครอบครัวของบ้านเล็กถือหุ้นเองทั้งหมด
(บ้านนี้เขาเลยออกมาปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวกับเขา)
ส่วนบ้านใหญ่ได้ Red Bull เป็นบริษัทอินเตอร์ขายทั่วโลก
ครอบครัวบ้านใหญ่ถือหุ้นอยู่ 51% แต่ไม่ได้บริหาร
อีก 49% เป็นของ Dietrich
สองธุรกิจนี้เลยถึงจุดแยก
เพราะขาดตัวเชื่อมสำคัญคือคุณเฉลียว อยู่วิทยา
คุณเฉลิม อยู่วิทยา ลูกชายบ้านใหญ่ได้ Red Bull ไป
คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ลูกชายบ้านเล็กได้กระทิงแดงและ TCP ไปบริหารต่อ ... โดยคาดว่าน่าจะมีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อรักษาธุรกิจของคุณพ่อเอาไว้
.
เคยมีประวัติว่าสองแบรนด์เคยไปประจันหน้ากันเองที่จีน
กระทิงแดงเวอร์ชั่นภาษาจีน ปะทะกับ Red Bull ที่ขยายมาจีน
ไม่รู้ว่ากรณีนั้นจบยังไงฮะ
.
เอาเกร็ดมาให้อ่านกันเป็นความรู้ทางธุรกิจ ... หลานชายผู้ก่อตั้งกระทิงแดงแต่ไม่ได้มีส่วนใด ๆ กับการบริหารกระทิงแดง แต่เป็นผู้สืบทอดหุ้นใหญ่ใน Redbull ... งงมั้ยล่า? ถ้างงกลับขึ้นไปอ่านใหม่จากข้างบนอีกสองรอบ
https://www.facebook.com/shakrit/posts/10223337897333159
เห็นช่วงนี้พูดถึงสองแบรนด์นี้กันเยอะ
ข่าวก็ออกมาเยอะจนงงไปหมดว่าตกลงใครยังไง
เมื่อเช้าเลยไปนั่งหาข้อมูลจากวิกิมาจนเห็นภาพ
Red Bull กับ กระทิงแดง
เขามีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันคือ "โกเหลียว" คุณเฉลียว อยู่วิทยา
.
จากลูกเกษตรกรเลี้ยงเป็ดในจังหวัดพิจิตร คุณเฉลียวโตขึ้นมาทำงานเป็นเซลล์แมนขายยา หิ้ว "ออริโอมัยซิน" ไปขายร้านขายยาทั่วประเทศตั้งแต่ยังหนุ่ม ซึ่งเมื่อเข้านอกออกในวงการยาเป็นเวลาหลายปีก็เห็นโอกาสในการติดต่อนำยาจากต่างประเทศเข้ามาขายเองอีกหลายตัว เลยตัดสินใจออกมาลุย
.
เริ่มออกมาทำธุรกิจซื้อมาขายไปเองอีกเป็นสิบปีก็พัฒนามาเป็นบริษัท ทีซีฟาร์มาซูติคอล (ทีซีพี) ผู้ผลิตแป้งเด็ก, ยาเด็กและสินค้าหลายตัวที่ได้รับสิทธิการผลิตและจำหน่ายในเมืองไทยจากเจ้าของแบรนด์ในต่างประเทศ
.
--กำเนิดกระทิงแดง--
ต่อมาแกก็เห็นอีกช่องทางนึงคือเครื่องดื่มชูกำลังของต่างชาติที่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในไทย แกเลยเริ่มทำ "กระทิงแดง" แล้วบุกด้วยการตลาดแบบทันสมัย เข้าถึงทุกร้านเพราะคุณเฉลียวแกขายมาจนช่ำชอง กระทิงแดงเริ่มเป็นขวัญใจคนใช้แรงงานมากกว่าแบรนด์จากญี่ปุ่น (เปิดฝาแจกทองนี่น่าจะเป็นกระทิงแดงนี่แหละที่ทำก่อนเพื่อน) ทำให้ค่อย ๆ ประสบความสำเร็จมากขึ้นในเวลาต่อมา
.
คู่แข่งสำคัญในขณะนั้นของคุณเฉลียวก็น่าจะเป็นโอสถสภา (เต็กเฮงหยู) ซึ่งทำธุรกิจคล้ายกันมาตลอด เราคงไม่ลืม "ลิโพ" ที่เป็นคู่แข่งกัน ... ถึงขั้นนี้ทีซีฟาร์มาซูติคอลของคุณเฉลียวก็รวยไปแล้วระดับนึง รวยขนาดที่ผมเคยได้ยินในสนามกอล์ฟเมื่อตอนยังเด็กว่าธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งต้องพึ่งพาเงินฝากของคุณเฉลียวแบบไม่ยอมให้ถอนไปไหนกันเลยทีเดียว
.
--กำเนิด Red Bull--
แต่ที่เป็นจุดเปลี่ยนทำให้คุณเฉลียวประสบความสำเร็จไปในระดับโลกก็คือการที่ได้เจอกับ Dietrich Mateschitz นักการตลาดชาวออสเตรียซึ่งต้องบินมาคุยกับคุณเฉลียวเนื่องจากทีซีได้สิทธิการผลิตแป้งเด็กภายใต้แบรนด์นึงของ P&G ในเมืองไทย เขาเลยต้องมาพบปะผู้ผลิตเป็นครั้งคราวตามหน้าที่ ... พอมาถึงเมืองไทย เดียทริตช์มีอาการเจ็ตแล็ก คุณเฉลียวเลยแนะนำให้ลองดื่มกระทิงแดง ... หลังจากนั้นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นตำนานระดับโลก เดียทริตช์เอ่ยปากขอคุณเฉลียวให้เอามาทำขายทั่วโลกโดยที่เขาจะลาออกจากบริษัทใหญ่ที่เยอรมันมาลุยให้เองในสองปีต่อมา
.
แต่มีเงื่อนไขที่เดียทริตช์ขอบริหารเองทั้งหมด
และจะไม่ยุ่งกับตลาดเดิมที่มีในเมืองไทย
โดยตั้งชื่อว่า Red Bull และแยกกันไปทำคนละธุรกิจ
.
--แม่น้ำแยกเป็นสองสาย--
กระทิงแดงกับ Red Bull ก็เลยต่างคนต่างเดินมาตลอด
กระทิงแดงขายในไทยต่อไป (รวยอยู่พอสมควรแล้ว)
Red Bull ไปเกิดเมืองนอก ขายทั่วโลก (เลยโคตรรวยเข้าไปอีก)
การถือทั้งสองขาก็ทำให้ประสบความสำเร็จทางการเงินอย่างมาก
แต่คุณเฉลียวแกมีสองบ้าน
ก่อนแกจะเสียชีวิตเลยให้ลูก ๆ แบ่งสมบัติกันไป
.
บ้านเล็กได้กระทิงแดงทำเครื่องดื่มขายในไทยตามเดิม
สมาชิกครอบครัวของบ้านเล็กถือหุ้นเองทั้งหมด
(บ้านนี้เขาเลยออกมาปฎิเสธว่าไม่เกี่ยวกับเขา)
ส่วนบ้านใหญ่ได้ Red Bull เป็นบริษัทอินเตอร์ขายทั่วโลก
ครอบครัวบ้านใหญ่ถือหุ้นอยู่ 51% แต่ไม่ได้บริหาร
อีก 49% เป็นของ Dietrich
สองธุรกิจนี้เลยถึงจุดแยก
เพราะขาดตัวเชื่อมสำคัญคือคุณเฉลียว อยู่วิทยา
คุณเฉลิม อยู่วิทยา ลูกชายบ้านใหญ่ได้ Red Bull ไป
คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ลูกชายบ้านเล็กได้กระทิงแดงและ TCP ไปบริหารต่อ ... โดยคาดว่าน่าจะมีข้อตกลงระหว่างกันเพื่อรักษาธุรกิจของคุณพ่อเอาไว้
.
เคยมีประวัติว่าสองแบรนด์เคยไปประจันหน้ากันเองที่จีน
กระทิงแดงเวอร์ชั่นภาษาจีน ปะทะกับ Red Bull ที่ขยายมาจีน
ไม่รู้ว่ากรณีนั้นจบยังไงฮะ
.
เอาเกร็ดมาให้อ่านกันเป็นความรู้ทางธุรกิจ ... หลานชายผู้ก่อตั้งกระทิงแดงแต่ไม่ได้มีส่วนใด ๆ กับการบริหารกระทิงแดง แต่เป็นผู้สืบทอดหุ้นใหญ่ใน Redbull ... งงมั้ยล่า? ถ้างงกลับขึ้นไปอ่านใหม่จากข้างบนอีกสองรอบ
https://www.facebook.com/shakrit/posts/10223337897333159
แสดงความคิดเห็น
ที่ว่ารณรงค์บอยคอตสินค้ากระทิงแดง แล้วแบบนี้สโมสรฟุตบอลต้องบอยคอตไม่ดูด้วยไหม