แฟนฝรั่งเก็บเรื่องแต่งงานกับเราเป็นความลับ ควรหย่าดีไหม

จริงๆ ก็ไม่ใช่ความลับ 100% เพราะแม่เขาเองก็รู้...แต่รู้ว่าแต่งงานหนึ่งวันหลังจากที่ไปจดทะเบียนฯ ในขณะที่พ่อของเขาไม่รู้เลย

เรารู้สึกไม่สบายใจมากๆ ที่เขาไม่ยอมบอกใครว่าจะแต่งงานก่อนจดทะเบียนเลย เราไม่ได้ตกลงกันสักหน่อยว่าจะแอบจด ไม่มีคำอธิบายใดๆ เลย ถ้าอธิบายตั้งแต่แรกว่าจะแอบจดจะสบายใจกว่านี้

ปมของแฟน:
แฟนพ่อแม่หย่ากันตั้งแต่อายุ 12 อยู่มาวันหนึ่งพ่อก็เดินมาบอกว่า "พ่อมีครอบครัวใหม่แล้ว" แล้วย้ายออกจากบ้านออกไปหนึ่งเดือนหลังจากนั้น อีกหนึ่งปีหลังจากนั้นเขาก็ถูกปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ เพราะแม่ย้ายกลับไปอยู่บ้านตายาย ด้วยความที่เป็นฝรั่งที่จะไม่พูดเรื่องส่วนตัวกับลูก แฟนเลยไม่ได้มีโอกาสเข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงเลิกกัน (ถ้าเขาไม่ได้โกหก)

เขาเคยพูดมาคำนึงว่า "ทำไมต้องชวนพ่อมางานแต่งงานด้วย พ่อแต่งงานใหม่ยังไม่เห็นชวนเขาไปงานแต่งเลย" เราเลยตอบกลับไปว่า "มีพ่อที่ไหนกันชวนลูกตัวเองไปงานแต่งงานกับเมียใหม่" เขาเลยนิ่งไปพักนึง สัมผัสได้ว่าเขาโกรธพ่อมากจนไม่อยากให้เราเจอ เขาก็ยอมรับตามตรงว่าเห็นพ่อเป็นคนอื่นเลยไม่บอก แต่เรากลับมองว่าสิ่งนี้คือการไม่ให้เกียรติกัน เขาไม่ให้เกียรติเรา และไม่ให้เกียรติพ่อของตัวเอง อาจจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ต่าง แต่จุดยืนตรงนี้เราชัด

ส่วนเพื่อนเขาเองก็รู้แค่ทีละคนสองคน รวมกันไม่ถึงห้าคน จะบอกเพื่อนก็ต่อเมื่อมีอารมณ์จะบอก ส่งรูปในแชทส่วนตัวแค่บางคน ไม่ลงเฟซ เฟซส่วนตัวก็มีแต่รูปเพื่อน รูปเราเคยลงครั้งเดียวตอนจีบใหม่ๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่คบกันได้สามปีแล้ว ที่เหลือคือไม่เคยมีเราเลยแม้แต่น้อย

เวลาไปงานเลี้ยงคอลหาเราก็จะไม่โชว์รูปเพื่อนๆ และบรรยากาศในงานให้ดู และไม่เปิดกล้องให้เราได้ทักทายคนอื่นๆ เช่นกัน ทั้งๆ ที่เราพร้อมที่จะปรับตัวเข้าหาสังคมของเขา อยากรู้จัก อยากเปิดโลกกว้าง รู้สึกอิจฉาเวลาที่เห็นผู้ชายคนอื่นลงรูปแฟนตัวเอง แนะนำแฟนตัวเองให้โลกเห็น เคยอยากได้แฟนอารมณ์แบบโรแมนติก มีแหวนมาขอแต่งงาน แต่มันก็ไม่เคยเกิดขึ้น (กลับกลายเป็นว่ายายแฟนถอดแหวนของนางให้แทนเป็นของขวัญปีใหม่ เราดีใจนะที่เขาให้เรา แต่แหวนจากยายก็ไม่เหมือนแหวนจากแฟน)

พอถามว่าทำไมไม่บอกก็บอกว่าไว้ค่อยบอกตอนจัดงานแต่งงาน แต่ตอนแรกก็ทำเป็นยึกยัก ไม่อยากจัดเพราะแพง เปลือง แต่ตอนหลังก็จัดเพราะอยากเจอเพื่อน (ไม่มีคำว่า "เรา" ในนั้นเลย) 
อยากถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก็ไม่ยอมถ่าย ถามอะไรก็นิ่งบ้าง ทำไม่ได้ยินบ้าง แต่พอเห็นเพื่อนตัวเองมีรูปสวยๆ ก็เพิ่งจะมาชวนถ่าย

น้อยใจว่าเรื่องสำคัญในชีวิตขนาดนี้ทำไมไม่ตามใจเราบ้าง เราไม่ต้องการอะไรใหญ่โตเลย งานแขกมากสุดห้าสิบคนก็พอ น้อยกว่านี้ยิ่งดี พ่อแม่เราก็เปิดกว้างมาก ยินยอมและเต็มใจให้เราจดทะเบียนกับเขาโดยไม่จัดงานแต่งงาน แหวนหมั้น สินสอด ไม่ต้องมีพิธีรีตองใดๆ ทั้งนั้น แต่เราอยากมีงานแต่งงานเพราะเป็นสีสันในชีวิต ได้แต่งตัว ได้เจอเพื่อน ถ้าไม่มีเงินก็ควรบอกกันดีๆ ไม่ใช่เงียบใส่ ไว้เราค่อยจัดเมื่อพร้อมก็ได้ โตแล้วทำไมถึงไม่พูดให้รู้เรื่อง เขาแก่กว่าเราด้วยซ้ำตั้งหกปี

เรามีความฝันว่าอยากไปอยู่สวิสแต่ก็ยอมตามเขาไปอยู่สวีเดนเพียงเพราะเขาชอบ มีทะเบียนสมรสเลยได้ย้ายตามกันไป ถึงแม้ว่าเราพร้อมทั้งกายและใจที่จะไปจากประเทศไทย แต่ถ้าต้องไปแบบเมียเก็บ เมียที่ผัวไม่นำเสนอออกสื่อ และไปกับผัวที่ทำตัวลึกลับมีลับลมคมใน หลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ก็ไม่เอา 

แต่เรื่องนอกเหนือจากนี้คือดีมาก บริการดี ดูแลดี ปรนนิบัติ ช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง ทำงานหนัก หาเงินเก่ง ทำเอกสารย้ายประเทศก็ออกค่าใช้จ่ายให้หมด เราเสียแค่ค่าตั๋ว บอกรักตลอด น่ารักไม่มีที่ติ เรื่องเดียวที่รับไม่ได้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้คือการที่เขาชอบทำตัวลึกลับ ซ่อนเงื่อนซ่อนปม เงินเดือนเท่าไหร่ก็ไม่บอก อึมครึม และไม่พาออกสื่อบ้างทั้งๆ ที่ก็จดทะเบียนกันแล้ว จะไปหา family therapist ก็ไม่ยอม บอกว่าไม่ชอบให้คนมายุ่งกับสิ่งที่อยู่ในหัวตัวเอง

(ส่วนหนึ่งอาจเพราะรักกันตอนที่เป็นซึมเศร้าหนักมากๆ เราเคยหวีดบ่อยเพราะเรามีความเครียดสูงมากในชีวิตด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัวในไทย ได้เขามาช่วยด้วยเลยดีขึ้นมากแล้ว บุคลิกและนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า แต่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาคิดว่าเราไม่มั่นคง) 

สรุป: ตกลงมันเป็นปัญหาที่อะไรกันแน่ สื่อสารไม่ดี เขาเป็นคนขี้อายและมีปมเรื่องครอบครัว วัฒนธรรมไม่ตรงกัน เขาไม่มีเงินแต่รักษาหน้าไม่ยอมบอกเรา (คนยุโรปตะวันออก) หรือเราเจ้ากี้เจ้าการเกินไป

ในกรณีนี้ควรหย่าไหมคะ เพราะคุยเหนื่อยแล้ว คุยทีไรเขาก็ของขึ้น คุยไม่รู้เรื่อง ตัวเองถูกตลอด เราต้องการแค่

1. บอกพ่อว่าแต่งงานแล้ว
2. พาเราไปเจอเพื่อนบ้าง (สามเดือนที่ไปอยู่เมืองนอกรอ work permit เราอยู่คนเดียวตลอดจนแทบจะคุยกับกระจก ได้ออกจากบ้านไปเจอเพื่อนเขาแค่ครั้งเดียว)
3. โพสต์เรื่องราวของเราบ้างบนเฟซ
4. จัดงานแต่งงานเล็กๆ ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง และมีแหวน (เคยพูดไปแล้ว เขาบอกว่าอยากได้ก็ไปซื้อเอง ถึงจะเป็นคนที่โตมาในครอบครัวที่เปิดกว้าง แต่ก็รู้สึกว่าคำนี้รับได้ยาก)

ใครเชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมช่วยมาตอบทีค่ะ ขอบคุณค่ะ

***เข้าใจละ ขอบคุณพี่ๆ มากค่ะที่ช่วยอธิบาย : )))

**ทำไมการที่เราไม่สบายใจสงสัยในพฤติกรรมลึกลับของเขาถึงกลายเป็นการไม่สำนึกในความโชคดีของตัวเองไปได้ ทั้งๆ ที่มันคนละเรื่องกัน

*เราเป็นคนเข้าสังคมเก่งโดยเฉพาะสังคมเมืองนอก มีเพื่อนฝรั่งเยอะกระจัดกระจายทั่วโลก เลยรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่ได้เจอคนรอบตัวเขา ทั้งๆ ที่เราเข้ากับเพื่อนของเราเองคนอื่นๆ ที่นั่นได้ดี
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 25
โอเคค่ะ เคลียร์จบแล้ว ได้ความรู้และความเข้าใจจนอะไรๆ กระจ่างขึ้นมาก

รักนางมาก อยากอยู่กับนางไปนานๆ แต่อะไรที่น่าสงสัยก็น่าสงสัย เลยต้องเข้ามาปรึกษาเพื่อความกระจ่าง

ขอบคุณพี่ๆ ชาวพันทิปทุกคนค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ชีวิตแต่งงาน. เป็นของพวกคุณ 2คน

จะทุกข์ จะสุขก็อยู่ที่พวกคุณ2คน.  คนอื่นไม่ได้มาสุขมาทุกข์ด้วย


ดิฉันว่าคุณ นี่. เยอะเกิน.  ไม่ใช่ดารามีชื่อเสียงทำไมถึงอยากโชว์ขนาดนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่