จะรบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ชนกับมไซค์คะ ฝ่ายหนูเป็นมอเตอร์ไซค์ ขับขี่มาโดยน้องชายอายุ 17 ปีคะ ลักษณะถนนเป็นเลนสวน น้องชายขับขี่อยู่ด้านซ้ายของถนน เมื่อจะถึงบ้าน โดยซอยหมู่บ้านอยู่ด้านขวา ลักษณะเป็นสะพานปูนข้ามคลองคะ ในขณะที่กำลังเลี้ยวเข้าบ้านมีรถยนต์พุ่งชนมาจากทางด้านหลงอย่างแรง ทำให้น้องหมดสติในที่เกิดเหตุ จากจุดที่เกิดเหตุรถมอเตอร์ไซค์และน้องกระเด็นไปประมาณ 100 เมตร โดยกระเด็นไปอยู่ฝั่งตรงข้าม
หลังจากที่ชน ทางร้อยเวรได้มาที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้มีการพ่นสเปย์ในที่เกิดเหตุเท่าที่ควร และไม่ได้มีการตรวจวัดแอลกอฮล์ของทางคู่กรณี น้องชายได้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัดอยู่ประมาณ 1 เดือน อยู่ในไอซียุประมาณ 2 อาทิตย์ แพทย์ได้แจ้งว่า ศรีษะได้รับความกระทบกระเทือน มีเลือดอกเป็นบางจุด แต่ไม่ถึงกับต้องผ่า ม้ามและไต ได้รับการกระแทก ส่งผลให้ม้ามฉีกขาดในรัดับที่ 1 โคนขาขวาหัก ส่งผลให้ต้องผ่าตัดใส่เหล็กไม่สามารถแจ้งได้ว่าจะนำเหล็กออกได้เหมือนไหร่ ด้านซ้ายทั้งขาและแขนมีอาการอ่อนแรง ต้องทำกายภาพ และได้ทำการส่งตัวมาพักฟื้นที่โรงพยสบสลอำเภอต่ออีกประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้านคะ เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แขน ขาซ้ายยังอ่อนแรง ต้องกายภาพตลอด และร่างกายยังเคลื่อไหวช้าคะ
ล่าสุดทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้โนย้ายไปประจำที่อื่นต่างอำเภอ และมีร้อยเวรคนใหม่เข้ามาดูแลแทน ทางร้อยเวรคนเก่าได้แจ้งข้อหา ว่าประมาทร่วม ในที่เกิดเหตุมีเพียงเสาไฟให้แสงสว่างอยู่ด้านขวา และไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ หรือกล้องวงจรปิดใดๆคะ ทางเรามีความประสงค์ที่จะไกล่เกลียคะ แต่ทางคู่กณีไม่ยอม และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ทางน้องชายได้เลยจากจุดที่จะเลี้ยวไปแล้ว แล้ว วกกลับมา ซึ่งจากการสอบถามน้องชายและให้ปากคำกับทางตำรวจ น้องชายจำได้เพียงแค่ว่า เปิดไฟใหสัญญาณและกำลังจะเลี้ยว หลังจากนั้นไม่สามารถจำอะไรได้คะ
เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดทางน้องชายไปที่ศาลเยาวชนและแจ้งข้อกล่าวหาประมาทร่วมแต่ทางหนูให้การปฏิเสธ รับแต่เพียง ไม่มีใบขับขี่และไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และทางตำรวจได้ส่งเรื่องไปสถานพินิจ และทางสถานพินิจได้มีการพูดคุยกับน้องและพ่อประมาณว่า ถ้าเรารับว่าเป็นฝ่ายผิดก็ไม่ต้องไปขึ้นศาล แต่ทางหนูยังไม่ยอมรับในส่วนตรงนี้คะ เมื่อวานได้เห็นตำรวจทำแผนผังโดยสังเขปแต่ทางตำรวจแจ้งว่าสันนิฐาน และทางหนูยังไม่ยอมเซ็นต์รับคะ
ปรึกษาคดีความ
หลังจากที่ชน ทางร้อยเวรได้มาที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้มีการพ่นสเปย์ในที่เกิดเหตุเท่าที่ควร และไม่ได้มีการตรวจวัดแอลกอฮล์ของทางคู่กรณี น้องชายได้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัดอยู่ประมาณ 1 เดือน อยู่ในไอซียุประมาณ 2 อาทิตย์ แพทย์ได้แจ้งว่า ศรีษะได้รับความกระทบกระเทือน มีเลือดอกเป็นบางจุด แต่ไม่ถึงกับต้องผ่า ม้ามและไต ได้รับการกระแทก ส่งผลให้ม้ามฉีกขาดในรัดับที่ 1 โคนขาขวาหัก ส่งผลให้ต้องผ่าตัดใส่เหล็กไม่สามารถแจ้งได้ว่าจะนำเหล็กออกได้เหมือนไหร่ ด้านซ้ายทั้งขาและแขนมีอาการอ่อนแรง ต้องทำกายภาพ และได้ทำการส่งตัวมาพักฟื้นที่โรงพยสบสลอำเภอต่ออีกประมาณ 1 อาทิตย์ จึงได้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้านคะ เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แขน ขาซ้ายยังอ่อนแรง ต้องกายภาพตลอด และร่างกายยังเคลื่อไหวช้าคะ
ล่าสุดทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้โนย้ายไปประจำที่อื่นต่างอำเภอ และมีร้อยเวรคนใหม่เข้ามาดูแลแทน ทางร้อยเวรคนเก่าได้แจ้งข้อหา ว่าประมาทร่วม ในที่เกิดเหตุมีเพียงเสาไฟให้แสงสว่างอยู่ด้านขวา และไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ หรือกล้องวงจรปิดใดๆคะ ทางเรามีความประสงค์ที่จะไกล่เกลียคะ แต่ทางคู่กณีไม่ยอม และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ทางน้องชายได้เลยจากจุดที่จะเลี้ยวไปแล้ว แล้ว วกกลับมา ซึ่งจากการสอบถามน้องชายและให้ปากคำกับทางตำรวจ น้องชายจำได้เพียงแค่ว่า เปิดไฟใหสัญญาณและกำลังจะเลี้ยว หลังจากนั้นไม่สามารถจำอะไรได้คะ
เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดทางน้องชายไปที่ศาลเยาวชนและแจ้งข้อกล่าวหาประมาทร่วมแต่ทางหนูให้การปฏิเสธ รับแต่เพียง ไม่มีใบขับขี่และไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และทางตำรวจได้ส่งเรื่องไปสถานพินิจ และทางสถานพินิจได้มีการพูดคุยกับน้องและพ่อประมาณว่า ถ้าเรารับว่าเป็นฝ่ายผิดก็ไม่ต้องไปขึ้นศาล แต่ทางหนูยังไม่ยอมรับในส่วนตรงนี้คะ เมื่อวานได้เห็นตำรวจทำแผนผังโดยสังเขปแต่ทางตำรวจแจ้งว่าสันนิฐาน และทางหนูยังไม่ยอมเซ็นต์รับคะ