[CR] จากอ่าวไทยสู่อันดามันในหน้าฝนหลังปลดล็อค

กระทู้รีวิว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เที่ยวทะเล เที่ยวไทย Slow Life

สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน ห่างหายกันไปนานจากการรีวิวการท่องเที่ยว เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ใครหลายๆคนต้องยกเลิกการเดินทางหรือหยุดการทำงานเป็น WFH ยังไงต้องปลอดภัยไว้ก่อน รอให้ทุกอย่างคลี่คลาย โรคร้ายมีวัคซีนป้องกันในเร็ววัน เราจะได้กลับมาเที่ยวอย่างสบายใจกันนะคะ

ช่วงนี้ต้องกัดฟันสู้ๆกันไปก่อน ทั้งผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ใช้บริการ เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา ยังไงเราคนไทยต้องร่วมแรงช่วยกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้นะคะ

เพี้ยนปูเสื่อ

วันนี้ขอกลับมากับกระทู้รีวิวเที่ยวสั้นๆ แนวการพักผ่อนหย่อนใจหลังที่รัฐบาลประกาศปลดล็อคให้ประชาชนสามารถท่องเที่ยวต่างจังหวัดได้อย่าง New Normal เราเลยวางแผนกับครอบครัวเพื่อไปเที่ยวสักที่หลังปลดล็อค เพราะทุกคนรู้สึกว่าอยู่บ้านมานานเกือบ 4 เดือนตามที่รัฐบาลประกาศ ประกอบกับอยากกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือผู้ประกอบการในจังหวัดท่องเที่ยวที่ดูเงียบเหงามากๆหลังจากเจอโควิดเล่นงานมาแบบไม่ทันตั้งตัว ด้วยความที่บ้านเราอยู่ทางภาคใต้ เราเลยอยากไปเที่ยวทะเลค่ะทริปนี้ แต่ติดที่ยังอยู่ในช่วงหน้าฝน เดือน กรกฏาคม 2563 เลยแพลนว่าไปฝั่งอ่าวไทยก่อนคงไม่เจอฝน ทริปนี้เลยตั้งต้นที่เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเรายังไม่เคยไปมาก่อนค่ะ เริ่มแรกเราก็จองตั๋วเรือ Ferry เพื่อข้ามจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปเกาะสมุย โดยจองผ่าน 7-11 ของบริษัท Sea trans ferry เพราะเรือลำใหญ่เอารถไปได้และออกทุกชม.นะคะ แนะนำให้จองก่อนเพราะว่าไปถึงจะได้ไม่เสียเวลารอคิวค่ะ โดยต้องไปท่าเรือดอนสักก่อนครึ่งชม.ก่อนเรือออกนะคะ เจ้าหน้าที่จะจัดแถวการลงเรือให้เป็นระเบียบค่ะ ส่วนเรือ ferry เราประทับใจมากมีทั้งห้องแอร์ และแบบ open air ด้านบนชั้นดานฟ้าเรือสวยมากถ่ายรูปสวย ช่วงที่เราเลือกไปเป็นวันปกติ คนเลยไม่เยอะค่ะ ^^

คืนแรกเราเข้าพัก รร. (ไม่ขอเอ่ยชื่อ รร. นะคะ) พนักงานบริการดีทุกคน เราปลื้มมากๆเลย แต่ก็มีเหตุไม่คาดฝันคือห้องที่เรานอนเจอแอร์ไหม้ควันลอยออกมาจากแอร์ กลิ่นเหม็นมากติดต่อกันสองคืน พนักงานเปลี่ยนห้องให้วุ่นวายกว่าจะได้นอน ฮ่าๆๆๆๆ คือเราเข้าใจไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้นะคะ แต่ทางรร.ให้ vocher massageหรือให้เลือกดื่ม soft drink ที่บาร์เป็นการขอโทษ แต่เราแจ้งว่าเราไม่ได้ใช้แน่นอนค่ะ เพราะเราออกไปข้างนอกกว่าจะกลับเข้ารร.คงสองทุ่ม ขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน แต่สุดท้ายมาเจอพนักงานต้อนรับคนสุดท้ายวัน check out เราแจ้งว่ายังไม่ได้รับการชดเชยจากทาง รร. เลยในคืนที่แอร์ไหม้ที่ขอเปลี่ยน (เพราะพนักงานที่รับเรื่องบอกว่าจะเปลี่ยนให้ขอแจ้งหน.ก่อน) แต่พนักงานคนดังกล่าวกลับพูดไม่ดีกับเราเลยค่ะและเรื่องที่เกิดขึ้นทางเรายังไม่เห็น manager มาขอโทษเราเลย แงๆๆๆๆ แอร์ไหม้ควันลอยทั่วห้องนะคะ ไม่ใช่เรื่องตลกเลย เราเกือบจะชอบรร.นี้นะคะ พนักงานทุกคนโอเคดีหมดเลยโดยเฉพาะพี่คนแรกที่มาต้อนรับเรา พนักงานพ่อบ้าน พี่ๆยกกระเป๋า และพนักงานในห้อง dining room แต่ดันมาเสียคะแนนกับพนักงานต้อนรับที่ส่งเรากลับค่ะ พูดไม่ดีเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ (สะอึ้กเลย) ต้องขออภัยในการบ่น รร. ครั้งนี้นะคะ 555+ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ เพราะเป็น รร. ระดับสี่ ห้า ดาว ที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ร้านอาหารคืนแรกเราไปกันที่ "ครัวชาวบ้าน" อาหารอร่อย แนะนำๆเลยค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูปเลย เพราะมั่วแต่กินอยู่ค่ะ 55555+

Day2 เรา ตื่นขึ้นมาว่ายน้ำใน รร. สดชื่นมาก ดูชาวบ้านออกหาหมึกสาย ฟินมากๆค่ะ ถือเป็นการพักผ่อนที่แท้ทรู (รร.ที่เราพักมีคนเข้าพักแค่ ห้า ห้องค่ะ เลยไม่ค่อยวุ่นวาย) ว่ายน้ำสบายใจมารับประทานข้าวเช้าเกือบ 10 โมงเช้า อาหารเช้าช่วงนี้เป็น A La carte นะคะ เนื่องจากลดวามเสี่ยงในการสัมผัสกัน และแขกเข้าพักน้อย อาหารให้ 5 ดาวไปเลยเพราะพนักงานบริการดี อาหารอร่อย พนักงานให้ขนมต้มสามเหลี่ยม ขนมสอดไส้ มาเพิ่มให้กลับมาทานที่ห้อง ^^

โปรแกรมวันที่ 2 นี้คือออกไปตระเวนรอบเกาะ ไปตามจุดชมวิวต่างๆ และที่ต้องไม่พลาดคือหินตาหินยาย ^^ และในส่วนที่อยากรีวิวิคงเป็นความประทับใจของร้าน the jungle นะคะ แนะนำให้โทรจองก่อนเพราะจะได้จองที่นั่งวิวสวยๆ มุมดีๆ เราจองรอบ 17.00 น. แต่ทางขึ้นค่อนข้างชันเราเลยใช้บริการของรถของทางร้านอาหาร มีค่าบริการไป-กลับ คนละ 100 บาท ใครไม่ชำนาญทางแนะนำใช้บริการรถของทางร้านนะคะ เพราะทางลงเขาไม่มีไฟส่องทางและทางค่อนข้างคดเขี้ยว บรรยากาศของร้านให้ สิบไปเลย เราสั่งเมี่ยงคำ ไก่สะเต๊ะมารับประทานและดูพระอาทิตย์ตก ชิวๆมากๆๆๆๆ อยู่ยาวๆ ไปจนเกือบสองทุ่ม ^^

Day3 เราตื่นสายอีกตามเคย มาว่ายน้ำที่สระ ทานข้าวเช้า และมุ่งหน้าไปฝั่งอันดามัน คืนนี้เราจะพักที่ รร .ใกล้สนามบินภูเก็ต เพราะวันรุ่งขึ้นเราจะไปเก็บภาพสวยๆที่เสม็ดนางชีกันค่ะ ^^ ถนนเส้นตัดผ่านจากอ่าวไทยมาอันดามันสวยมากๆ เขียวชะอุ่มด้วยต้นไม้ข้างทางในหน้าฝน มีต้นปาล์มข้างทางตลอดสาย ถือได้ว่าถ่ายรูปได้ตลอดสายเลยค่ะ (ทริปนี้ไม่ค่อยได้ถ่ายข้างทาง เพราะเราเป็นคนขับรถค่ะ ฮ่าๆๆๆ) ถึงภูเก็ตเกือบหกโมงเย็น เราพักที Marina express aviator ถือว่าดีเลยค่ะคุ้มราคา ห้องสะอาดใกล้สนามบิน เผื่อใครอยากแวะมาพักก่อนจะบินต่อนะคะ ^^

Day4 ช่วงสายเราแวะถ่ายรูปสะพานสารสิน ณ ภูเก็ต และมุ่งหน้าไปพังงา มุ่งหน้าตาม google map ที่เราบอกไปเสม็ดนางชี ต้องจอดรถด้านล่างนะคะ ต้องใช้รถ four wheels ขึ้นเนื่องจากเป็นถนนลูกรัง ชัน และคดเคี้ยว มีค่าบริการ ขึ้นลง คนละ 90 บาท ใช้เวลาขึ้นไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงจุดชมวิวเสม็ดนางชี บอกได้คำเดียวว่าสวยมาก หายร้อนเลยค่ะ โชคดีที่เรามาถึง 10.00 น คนยังไม่มีค่ะ และโชคดีวันที่ไปฝนไม่ตก ^^ เราใช้เวลาประมาณเกือบ ชม. ในการถ่ายรูป ทางเสม็ดนางชีมีที่พักแบบนอนเต็นท์ด้วยนะคะ เผื่อใครอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ลองสอบถามบริการได้เลยนะคะ ขอกล่าวว่า เสม็ดนางชีครั้งหนึ่งคุณต้องมา เพราะแบบ unseen Thailand จริงๆค่ะ ปลื้มปริ่ม

หลังจากชมวิวเสม็ดนางชี เรามุ่งหน้ามาพักที่ Aonang Krabi อ่าวนางกระบี่ เรามาที่นี้ปีละ 1 ครั้ง แต่มาหลังปลดล็อคโควิดก็น่าใจหายเพราะว่าร้านค้าปิดไปเยอะเลยค่ะ เงียบมาก รร.บางแห่งยังไม่เปิดให้ทำการ ร้านอาหารมีคนนั่งน้อยมาก ยังไงขอให้เรื่องราวนี้หายไปเร็ววันนะคะ กระบี่จะได้กลับมาคึกคักเหมือนเดิม และร้านอาหารที่เลือกทานตอนเย็นเป็นร้านวังทรายซีฟู้ด อาหารอร่อย เร็ว เหมือนเดิม จานที่ไม่ควรพลาดคือ หอยชักตีน ปลาทรายทอดขมิ้น ^^