พี่สาวไปฝึกงาน เข้าสัปดาห์แรกก็ได้งานมา7ชิ้น สรุปสัปดาห์แรกนี้พี่เราก็ทำงานไปนั่งน้ำตาไหลไป ตอนแรกก็คิดว่าพึ่งเริ่มงานคงจะยังไม่ชิน 7ชิ้นก็คงไม่ต้องเสร็จในสัปดาร์นี้
สรุปเหมือนเขาจะเอาเสร็จอาทิตย์นี้เพราะตามงานตลอด ไม่พอสั่งงานเพิ่มเลื่อยๆ
บางทีพี่เราพอได้นอนก็สดุ้งตื่นมาเพราะเสียงไลน์เด้ง บอกนึกว่าพี่ที่ทำงานไลน์มาตามงาน พี่เราร้องไห้ ทำงานจนดึก ทุกวัน ทุกวันจริงๆ
จนตอนนี้เกือบ1เดือน ทุกอย่างนอกจากจะไม่ดีขึ้น พี่ที่ทำงานยังสั่งงานเพิ่ม งานที่พี่เราไม่เคยทำให้ไปทำนู้นนี้ ไปติดต่อทีมนั้นนี้
(ติดต่อทีมอื่นอันนี้พอพี่เราติดต่อไปสรุปโดนอ่านไม่ตอบ พี่เราก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง เพราะเป็นแค่เด็กฝึกงานรึป่าว เขาเลยอ่านไม่ตอบ)
เราบอกให้พี่เราบอกพี่เลี้ยงว่างานเยอะทำไม่ไหว พี่เราบอกว่าไปบอกพี่เลี้ยงแล้ว พี่เลี้ยงก็ให้งานเลื่อยๆเหมือนเดิม ยังมีเปรียบเทียบกับคนอื่น บอกว่าพี่เราตามไม่ทัน และ ‘ให้คิดว่ามาทำงานจริงๆ’
คือประโยคนี้เราคิดว่าเพื่อที่นักศึกษาฝึกงานจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่กลายเป็นว่ามาทำงานจริงๆเกิ๊น ไม่มีสอนงาน พอไปถามก็อธิบายไม่มาก เราเลยบอกพี่ว่าทำไมไม่บอกไปว่าไม่รู้เรื่อง พี่เราบอกว่าไม่กล้าแต่ก็เลือกถามซ้ำ สรุปโดนพี่ที่ทำงานอารมย์เสียใส่ เพราะถามซ้ำ
สำหรับเรา เราคิดว่าฝึกงานก็คือฝึกงาน มันคือการทำงานนั้นแหละ แต่มันแตกต่างจากการทำงานจริงแน่นอน ไม่งั้นจะเรียกแยกว่าฝึกงานหรอ
นี้มันไม่หนักเกินไปสำหรับเด็กฝึกงานหรอ ไม่มีถามว่างานหนักไปมั้ย ทำไหวมั้ย มีแต่จะเอางานเพิ่มมั้ย(ดีนะพี่เรากล้าตอบว่าไม่เอา)
เราเลยบอกพี่อีกว่าไปบอกจารเลย พี่เราก็บอกว่า “จารไม่ให้ย้ายหรอก จะไปบอกว่าพี่เลี้ยงให้งานหนักหรอ เขาก็จะคิดว่าเราไม่อดทน สุดท้ายจารก็จะบอกให้เราอดทน”
จะไปบอกว่าพี่เลี้ยงใช้งานเกินเวลาก็ไม่ได้เพราะทำงานที่ห้อง แต่ถ้าไม่ทำล่วงเวลาก็โดนตามงาน แค่นี้ก็โดนตามงาน เปรียบเทียบบอกว่าตามไม่ทันแล้ว (แถมมีคนออกจากงาน+เด็กฝึกงานคนเก่าฝึกเสร็จแล้วพึ่งออกไปอีกด้วย ไม่รู้เลยเป็นเหตุที่ทำให้งานล้นมือขนาดนี้มั้ย)
ทีนี้พี่คนโต(พี่อีกคน)ของเราเลยเลือกโทรไปหาอาจารย์ประมานว่างานหนักน้องสาวไม่น่าไหวแล้ว น้องไม่กล้าโทรมาบอก
จารก็ขอชื่อ สรุปจารโทรไปหาพี่เราที่ฝึกงาน พี่เราบอกว่าก็เล่าให้จารฟังหมดแหละ แล้วจารพูดประมานว่า ไม่ดีหรอได้ประสบการณ์เยอะ อดทน เผื่อฝึกเสร็จบริษัทรับเข้าทำงานเลย
ก็คือจารไม่อยากให้ออก
แต่พี่เราดูไม่ไหวแล้วจริงๆ บอกให้ทำเรื่องออกก็ไม่ทำ บอกว่าจารไม่ยอมหรอก สุดท้ายก็ต้องทน
พี่เราเปลี่ยนไปมาก ไม่ร่าเริง ไปทำงานกลายเป็นคนเงียบ ได้พูดเยอะก็แค่ตอนที่โทรมาระบายให้ฟัง วางสายไปก็ต้องไปทำงานอีก
พี่เราเลือกที่จะอดทนทั้งๆที่สภาพมันคือไม่ไหวอยู่แล้ว พี่เขาก็คงมีหลายๆเหตุผลที่เลือกจะทน ทั้งชื่อมหาลัย ทั้งอาจาร ทั้งเรื่องเรียนจบ
เด็กฝึกงานทำไรได้บ้าง อดทนจนจะแตกอยู่แล้ว
มีครั้งนึงที่แม่เราบอกว่าทำงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆได้ตายพอดี พี่เราบอกว่า อือตายไปเลย มันแบบ.......
แก้ไรได้บ้างอะ จารก็ให้อดทน พี่เลี้ยงก็ให้งานเยอะไม่สนใจ ใช้ให้ไปทำนู้นนี้ ที่พี่เราไม่เคยอะ ละพี่ที่ทำงานเป็นคนอธิบายไม่ละเอียดพอถามซ้ำก็รมย์เสีย
สรุปประเด็น
งานเยอะมาก ใช้เหมือนเป็นพนักงานที่ทำงานเป็นแล้วไม่ใช่เด็กฝึกงาน ไม่ได้นอน เครียด ถามเรื่องงานก็ไม่ค่อยได้
ลองแก้ปัญหาโดยการ
บอกพี่ที่ทำงาน = ไม่เป็นผล ให้งานเยอะเหมือนเดิม+มากขึ้น
บอกอาจารย์ = ไม่เป็นผล จารย์บอกให้อดทน
เราจะช่วยพี่หาทางออกยังไงดี
นักศึกษาฝึกงานจะทำยังไงได้บ้าง
สรุปเหมือนเขาจะเอาเสร็จอาทิตย์นี้เพราะตามงานตลอด ไม่พอสั่งงานเพิ่มเลื่อยๆ
บางทีพี่เราพอได้นอนก็สดุ้งตื่นมาเพราะเสียงไลน์เด้ง บอกนึกว่าพี่ที่ทำงานไลน์มาตามงาน พี่เราร้องไห้ ทำงานจนดึก ทุกวัน ทุกวันจริงๆ
จนตอนนี้เกือบ1เดือน ทุกอย่างนอกจากจะไม่ดีขึ้น พี่ที่ทำงานยังสั่งงานเพิ่ม งานที่พี่เราไม่เคยทำให้ไปทำนู้นนี้ ไปติดต่อทีมนั้นนี้
(ติดต่อทีมอื่นอันนี้พอพี่เราติดต่อไปสรุปโดนอ่านไม่ตอบ พี่เราก็ไม่รู้จะต้องทำยังไง เพราะเป็นแค่เด็กฝึกงานรึป่าว เขาเลยอ่านไม่ตอบ)
เราบอกให้พี่เราบอกพี่เลี้ยงว่างานเยอะทำไม่ไหว พี่เราบอกว่าไปบอกพี่เลี้ยงแล้ว พี่เลี้ยงก็ให้งานเลื่อยๆเหมือนเดิม ยังมีเปรียบเทียบกับคนอื่น บอกว่าพี่เราตามไม่ทัน และ ‘ให้คิดว่ามาทำงานจริงๆ’
คือประโยคนี้เราคิดว่าเพื่อที่นักศึกษาฝึกงานจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่กลายเป็นว่ามาทำงานจริงๆเกิ๊น ไม่มีสอนงาน พอไปถามก็อธิบายไม่มาก เราเลยบอกพี่ว่าทำไมไม่บอกไปว่าไม่รู้เรื่อง พี่เราบอกว่าไม่กล้าแต่ก็เลือกถามซ้ำ สรุปโดนพี่ที่ทำงานอารมย์เสียใส่ เพราะถามซ้ำ
สำหรับเรา เราคิดว่าฝึกงานก็คือฝึกงาน มันคือการทำงานนั้นแหละ แต่มันแตกต่างจากการทำงานจริงแน่นอน ไม่งั้นจะเรียกแยกว่าฝึกงานหรอ
นี้มันไม่หนักเกินไปสำหรับเด็กฝึกงานหรอ ไม่มีถามว่างานหนักไปมั้ย ทำไหวมั้ย มีแต่จะเอางานเพิ่มมั้ย(ดีนะพี่เรากล้าตอบว่าไม่เอา)
เราเลยบอกพี่อีกว่าไปบอกจารเลย พี่เราก็บอกว่า “จารไม่ให้ย้ายหรอก จะไปบอกว่าพี่เลี้ยงให้งานหนักหรอ เขาก็จะคิดว่าเราไม่อดทน สุดท้ายจารก็จะบอกให้เราอดทน”
จะไปบอกว่าพี่เลี้ยงใช้งานเกินเวลาก็ไม่ได้เพราะทำงานที่ห้อง แต่ถ้าไม่ทำล่วงเวลาก็โดนตามงาน แค่นี้ก็โดนตามงาน เปรียบเทียบบอกว่าตามไม่ทันแล้ว (แถมมีคนออกจากงาน+เด็กฝึกงานคนเก่าฝึกเสร็จแล้วพึ่งออกไปอีกด้วย ไม่รู้เลยเป็นเหตุที่ทำให้งานล้นมือขนาดนี้มั้ย)
ทีนี้พี่คนโต(พี่อีกคน)ของเราเลยเลือกโทรไปหาอาจารย์ประมานว่างานหนักน้องสาวไม่น่าไหวแล้ว น้องไม่กล้าโทรมาบอก
จารก็ขอชื่อ สรุปจารโทรไปหาพี่เราที่ฝึกงาน พี่เราบอกว่าก็เล่าให้จารฟังหมดแหละ แล้วจารพูดประมานว่า ไม่ดีหรอได้ประสบการณ์เยอะ อดทน เผื่อฝึกเสร็จบริษัทรับเข้าทำงานเลย
ก็คือจารไม่อยากให้ออก
แต่พี่เราดูไม่ไหวแล้วจริงๆ บอกให้ทำเรื่องออกก็ไม่ทำ บอกว่าจารไม่ยอมหรอก สุดท้ายก็ต้องทน
พี่เราเปลี่ยนไปมาก ไม่ร่าเริง ไปทำงานกลายเป็นคนเงียบ ได้พูดเยอะก็แค่ตอนที่โทรมาระบายให้ฟัง วางสายไปก็ต้องไปทำงานอีก
พี่เราเลือกที่จะอดทนทั้งๆที่สภาพมันคือไม่ไหวอยู่แล้ว พี่เขาก็คงมีหลายๆเหตุผลที่เลือกจะทน ทั้งชื่อมหาลัย ทั้งอาจาร ทั้งเรื่องเรียนจบ
เด็กฝึกงานทำไรได้บ้าง อดทนจนจะแตกอยู่แล้ว
มีครั้งนึงที่แม่เราบอกว่าทำงานแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆได้ตายพอดี พี่เราบอกว่า อือตายไปเลย มันแบบ.......
แก้ไรได้บ้างอะ จารก็ให้อดทน พี่เลี้ยงก็ให้งานเยอะไม่สนใจ ใช้ให้ไปทำนู้นนี้ ที่พี่เราไม่เคยอะ ละพี่ที่ทำงานเป็นคนอธิบายไม่ละเอียดพอถามซ้ำก็รมย์เสีย
สรุปประเด็น
งานเยอะมาก ใช้เหมือนเป็นพนักงานที่ทำงานเป็นแล้วไม่ใช่เด็กฝึกงาน ไม่ได้นอน เครียด ถามเรื่องงานก็ไม่ค่อยได้
ลองแก้ปัญหาโดยการ
บอกพี่ที่ทำงาน = ไม่เป็นผล ให้งานเยอะเหมือนเดิม+มากขึ้น
บอกอาจารย์ = ไม่เป็นผล จารย์บอกให้อดทน
เราจะช่วยพี่หาทางออกยังไงดี