บทความวันจันทร์ (20 ก.ค. 63) : ไปดูน้ำทะเลเปลี่ยนสีที่ชะอำ

บทความวันจันทร์ : ไปดูน้ำทะเลเปลี่ยนสีที่ชะอำ
โดย วรา  วราภรณ์ 

            ฝนฟ้าลาไปแล้ว อากาศเย็นสบายของฤดูหนาวแบบไทยๆ ก็มาแทนที่ กลางเดือนตุลา 2556 ผู้เขียนมีโอกาสไปเดินเล่นที่หาดชะอำ จึงอยากชวนท่านผู้อ่านไปเที่ยวเพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่รอยต่อกับภาคตะวันตกของเราซึ่งเดินทางแสนสะดวก หากไม่รีบกลับก็มีที่พักให้เลือกมากมายหลายบรรยากาศและราคา   

            มีคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่า ชื่อหาด “ชะอำ” นั้น เป็นการเพี้ยนเสียงมาจากคำว่า “ชะอาน” หมายถึงการล้างทำความสะอาดอานม้าของคณะไพร่พลเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ยกทัพมาทางใต้และนำทัพมาพักที่นี่ หาดชะอำเริ่มมีชื่อเสียงแต่ครั้งเมืองไทยเริ่มใช้รถไฟในปี พ.ศ. 2459 โดยการนำของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีแนวชายหาดสำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นระยะทางยาวประมาณ 7 กม. ซึ่งถูกคั่นไว้ด้วยถนนและทิวสนเพื่อรักษาความเป็นธรรมชาติของชายหาด ปัจจุบันอยู่ใน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี โดยห่างจากตัวจังหวัด 41 กม.

            เช้าตรู่วันนั้น ผู้เขียนไปเดินดูภาพชีวิตริมหาดร่วมกับผู้คนอีกหลายสิบ ทั้งที่แสงยังขมุกขมัวจนเห็นน้ำทะเลเป็นสีขาวเหมือนแม่น้ำ แต่เด็กและผู้ใหญ่หลายคนก็ตื่นเต้นกับการจ้องมองและไล่จับปูลมนับร้อยที่วิ่งขวักไขว่อยู่บนชายหาด ยามนั้นคลื่นลมเบาบางจนไม่ได้ยินเสียงน้ำทะเลทักทายฝั่ง ขณะที่ร่มกันแดดคันใหญ่และเก้าอี้ผ้าใบหลากสีนับร้อยยังรอคอยผู้มาเยือน ใครบางคนก็ลงมือทำความสะอาดลานทรายใต้ร่มสนที่ยืนต้นเป็นทิวแถวคู่หาดนี้มาหลายสิบปี ขอเรียกบรรยากาศยามนั้นว่าเป็นอารมณ์ของทะเลยามหลับที่แม้ดูเหงาๆ แต่ก็พาให้สัมผัสได้ถึงความสงบสงัด

            กลิ่นหอมของเครื่องดื่มคุ้นเคยโชยมาจากรถเข็นซึ่งมาจอดบริการลูกค้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางพร้อมกับปาท่องโก๋ตัวโต เช่นเดียวกับคนขายโจ๊ก ส่วนคนย่างหมูปิ้งอยู่อีกด้านหนึ่งทางเดียวกับที่จะไปจุดกลับรถบริเวณหาดชะอำด้านเหนือซึ่งออกแบบไว้เป็นสวนสุขภาพ ผู้เขียนได้พบ “ตลาดสดสัญจร” เป็นรถกระบะคันนิดเดียวแต่จัดเต็มด้วยอาหารหวานคาว ผักและผลไม้ ซื้อหากันได้ในราคาตลาดสด สมชื่อเขาจริงๆ (ขนมเทียนอร่อยมาก)  
            
            เดินเที่ยวชายหาดไม่นานยังได้ของฝากกลับบ้านด้วย เพราะว่ามีพ่อค้าแม่ค้ามาเปิดท้ายรถขายของกันแต่เช้า อย่างเช่น ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย ปลาเค็ม หรือสิ่งประดิษฐ์จากเปลือกหอยกับเสื้อยืดสีสดพิมพ์ชื่อหาด น่าสนใจที่อาหารทะเลแห้งไม่แพงมาก ควักกระเป๋าประมาณหนึ่งร้อยบาทก็ได้กับข้าวอร่อยไปทำกินที่บ้านสองสามมื้อทีเดียว    
            
             ก่อนลาจากในยามบ่ายยังได้ทันเห็นน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีครามสดสวยในแสงแดด อยากชวนว่าไปเที่ยวกันเถอะค่ะ เพราะชะอำในวันนี้ได้รับการดูแลอย่างดีจากเทศบาลเมืองชะอำซึ่งให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เห็นได้จากป้ายประชาสัมพันธ์หลายจุด (อ้อ...แต่ก็ไม่สะดุดตาเท่าป้ายภาษาอังกฤษบอกขายรถจักรยานหน้าตาแปลกๆ ท้ายรถปิกอัพคันหนึ่งที่จอดไว้ใต้ต้นสน ประมาณว่า “อยากขายเอาตังค์ไปซื้อผ้าอ้อมกับนมให้ลูกผมคร้าบ”) 

การเดินทาง
รถไฟ --มีทุกวัน จากกรุงเทพฯ-ชะอำ ขบวนรถไฟธรรมดาออกจาก กทม.09.20 น. ถึงชะอำ 13.10 น. (ชั้นสาม 40 บาท ชั้นสอง 93 บาท ชั้นหนึ่ง 182 บาท)
รถตู้ปรับอากาศ --สายนครปฐม-ราชบุรี-ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี (ผู้เขียนนั่งจากตัวเมืองราชบุรีไปชะอำ 120 บาท ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง)  

หมายเหตุผู้เขียน : สรุปว่าไม่ได้หายไปไหนค่ะเพราะภารกิจถูกยกเลิกเนื่องจากเกรงเสี่ยงโควิด ข้าพเจ้าจึงขอนำงานเก่ามาวาง เป็นบทความสั้นๆ 
                           ที่เขียนให้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งชื่อ "สื่อตะวันตก" และขออภัยด้วยค่ะสำหรับภาพประกอบบางส่วนที่ถูกย่อขนาดลง
            

ยามเช้าที่เสมือนทะเลหลับ


ทิวาพาทะเลตื่น


ชวนกันดูปูลม


เหงา...แต่ก็สงบ


หิวอะไรแวะมาที่นี่ค่ะ (ผู้เขียนได้ฝรั่งอร่อยไปจากตลาดเร่คันนี้)

ชอบใจที่แขวนสินค้าจัง

(ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่