ตามหัวข้อเลยค่ะ ขอเล่าก่อนนะคะว่าเราอายุ30ปี เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่
เป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานที่ชลบุรีตั้งแต่จบ ม.6 จนตอนนี้ก็12ปีแล้ว ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว เรามีลูก2คน(พ่อกับแม่เราเลี้ยง เราส่งเงินเดือนละ10,000 ค่าเทอม ค่ารถ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเราออกเองหมด) ไม่ได้ซื้อบ้านเพราะคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแน่นอน ไม่มีหนี้ มีแต่รายจ่ายปกติ 2-3ปีมานี้ เราจะพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว คิดถึงพ่อแม่ ลูก แล้วตอนนี้เราก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พ่อกับแม่เราอายุ58ปีแล้วค่ะ พ่อเป็นโรคปวดขาและกระดูกต้องกินยาตลอด และพึ่งเลิกกินเหล้าได้ 5-6เดือน แม่เป็นโรคเบาหวาน แล้วลูกเราคนโตเข้าป.1คนเล็กเข้าศูนย์เด็กเล็ก พ่อกับแม่เราเลี้ยงหลานดีมาก แต่ท่านทะเลาะกันบ่อยมาก พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เเม่เลือกที่จะเงียบตลอด เวลาทะเลาะกันพ่อก็จะทำร้ายข้าวของ ลูกเราก็จะเห็นประจำทั้ง2คน แต่ไม่มีการสอนหลานว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ดี เราจะเอาลูกมาเลี้ยงเองท่านก็ไม่ยอม ลูกเราดื้อมาก ติดโทรศัพท์ เล่นเทแชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน ในอ่างอาบน้ำจนหมดเอาไข่ไก่มาทุบเล่นทีละเป็นแแผง เอาน้ำยาล้างจานใส่น้ำต้มชงนมน้อง เวลามีการบ้านมาก็จะไม่มีใครสอน ถ้าพ่อไม่เมาถึงจะได้สอน เราก็จะบอกครูที่โรงเรียนไว้ ตอนนี้คนเล็ก3ขวบ เริ่มจะซนเหมือนพี่แล้ว คือเรารู้แหล่ะว่าท่านเลี้ยงหลานท่านก็เหนื่อยมาก ไหนจะเลี้ยงวัวหาหญ้าให้วัวกินอีก แม่เลี้ยงวัว13 ตัว เราบอกให้ขายก็ไม่ขาย ล่าสุดขายไป2ตัวเพราะบอกหาหญ้าไม่ไหว เรารู้ว่าร่างกายของท่านไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว
แล้ววันนี้เราคุยกับแม่ว่าโรงงานสถานการณ์มันไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วนะ ถ้าโรงงานสามีมีโครงการสมัครใจออกก็จะให้เข้าโครงการแล้วเอาเงินก้อนกลับบ้าน เราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว แม่ก็พูดประมาณว่า ''จะกลับมาทำไม กลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่เหมือนอยู่นู้น ยังไม่แก่เลยจะรีบกลับมาทำไม รอให้เค้าจ้างออกค่อยมา'' พ่อแม่เลี้ยงหลานให้ได้ เราเลยบอกท่านไปว่าหนูมีอะไรที่จะทำเยอะเลย เปิดร้านขายของ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ทำเกษตรบ้าง กับข้าวหนูก็ทำเป็น ขนมหนูก็ทำเป็น หนูและสามีไม่พาทุกคนอดแน่ๆ พ่อกับแม่แก่แล้วเราอยากเเบ่งเบาภาระบ้าง อยากสอนลูกด้วยตัวเอง ถ้าไม่กลับตอนนี้จะกลับตอนไหน แม่ก็บอกเราว่า รวยก่อนค่อยกลับ เราก็บอกไปว่า ทำงานโรงงานเงินเดือนหมื่นกว่าบาทน้อยมากที่จะรวย ถ้าคำว่ารวยคือมีเงินหลายล้านบาท ถ้างั้นชาตินี้หนูคงไม่ได้กลับไปอยู่บ้านแน่ๆ
แม่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้กลับ ทุกอย่างที่เราเสนอไปว่าจะทำอะไรที่บ้าน ท่านก็จะพูดดักมาหมดว่าคนนั้น คนนี้ทำ ยังไม่รอดเลย พอเราจะอธิบายให้ฟังท่านก็เปลี่ยนเรื่องพูด จนวันนี้เราบอกว่า สิ้นปีหน้า หนูจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ หนูตั้งเป้าหมายในการหาเงินไว้ แล้วหนูได้ครบตามนั้นแล้ว ก็ทะเลาะกันเลยค่ะ เราเลยอธิบายให้ท่านฟังว่า '' แม่บ้านเราไม่มีหนี้ หนูมีเงินเก็บ(เราเก็บเงินโดยใช้บัญชีแม่เรา แม่รู้หมดว่าเรามีเงินเท่าไหร่ เพราะเราอยากให้เเม่สบายใจ ให้แม่ภูมิใจในตัวเรา) ถ้าสามีสมัครใจลาออกก็ได้เงินก้อนอีกเกือบล้านบาท หนูอยากกลับไปเลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่บ้าง ถ้าหนูกลับไปตอนที่พ่อหรือแม่ ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วในชีวิตหนู ถ้าถึงตอนนั้นหนูไม่อยากกลับแล้วหนูห่วงพ่อแม่ หนูอยากพาแม่ไปหาหมอเอง หนูอยากรู้ว่าคุณหมอแนะนำอะไรแม่ หนูอยากทำอาหารที่ดีที่มีประโยชน์ให้แม่กิน หนูอยากไปหาหญ้าให้วัวแทนพ่อกับแม่ หนูอยู่ที่นี่เวลาหนูกินอะไรดีๆหนูนึกถึงที่บ้านตลอดว่าถ้าอยู่ด้วยกันคงดี หนูดูแลสามีดีมาก แต่กับพ่อแม่ นอกจากส่งเงินใช้แล้ว หนูแทบไม่ได้ดูแลเลย เพราะกลับบ้านแต่ละครั้งเวลาก็ช่างน้อยเหลือเกินลางานมากก็ไม่ได้
อายุหนูยังน้อย
ตามหัวข้อเลยค่ะ ขอเล่าก่อนนะคะว่าเราอายุ30ปี เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่
เป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานที่ชลบุรีตั้งแต่จบ ม.6 จนตอนนี้ก็12ปีแล้ว ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว เรามีลูก2คน(พ่อกับแม่เราเลี้ยง เราส่งเงินเดือนละ10,000 ค่าเทอม ค่ารถ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเราออกเองหมด) ไม่ได้ซื้อบ้านเพราะคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแน่นอน ไม่มีหนี้ มีแต่รายจ่ายปกติ 2-3ปีมานี้ เราจะพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว คิดถึงพ่อแม่ ลูก แล้วตอนนี้เราก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พ่อกับแม่เราอายุ58ปีแล้วค่ะ พ่อเป็นโรคปวดขาและกระดูกต้องกินยาตลอด และพึ่งเลิกกินเหล้าได้ 5-6เดือน แม่เป็นโรคเบาหวาน แล้วลูกเราคนโตเข้าป.1คนเล็กเข้าศูนย์เด็กเล็ก พ่อกับแม่เราเลี้ยงหลานดีมาก แต่ท่านทะเลาะกันบ่อยมาก พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เเม่เลือกที่จะเงียบตลอด เวลาทะเลาะกันพ่อก็จะทำร้ายข้าวของ ลูกเราก็จะเห็นประจำทั้ง2คน แต่ไม่มีการสอนหลานว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ดี เราจะเอาลูกมาเลี้ยงเองท่านก็ไม่ยอม ลูกเราดื้อมาก ติดโทรศัพท์ เล่นเทแชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน ในอ่างอาบน้ำจนหมดเอาไข่ไก่มาทุบเล่นทีละเป็นแแผง เอาน้ำยาล้างจานใส่น้ำต้มชงนมน้อง เวลามีการบ้านมาก็จะไม่มีใครสอน ถ้าพ่อไม่เมาถึงจะได้สอน เราก็จะบอกครูที่โรงเรียนไว้ ตอนนี้คนเล็ก3ขวบ เริ่มจะซนเหมือนพี่แล้ว คือเรารู้แหล่ะว่าท่านเลี้ยงหลานท่านก็เหนื่อยมาก ไหนจะเลี้ยงวัวหาหญ้าให้วัวกินอีก แม่เลี้ยงวัว13 ตัว เราบอกให้ขายก็ไม่ขาย ล่าสุดขายไป2ตัวเพราะบอกหาหญ้าไม่ไหว เรารู้ว่าร่างกายของท่านไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว
แล้ววันนี้เราคุยกับแม่ว่าโรงงานสถานการณ์มันไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วนะ ถ้าโรงงานสามีมีโครงการสมัครใจออกก็จะให้เข้าโครงการแล้วเอาเงินก้อนกลับบ้าน เราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว แม่ก็พูดประมาณว่า ''จะกลับมาทำไม กลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่เหมือนอยู่นู้น ยังไม่แก่เลยจะรีบกลับมาทำไม รอให้เค้าจ้างออกค่อยมา'' พ่อแม่เลี้ยงหลานให้ได้ เราเลยบอกท่านไปว่าหนูมีอะไรที่จะทำเยอะเลย เปิดร้านขายของ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ทำเกษตรบ้าง กับข้าวหนูก็ทำเป็น ขนมหนูก็ทำเป็น หนูและสามีไม่พาทุกคนอดแน่ๆ พ่อกับแม่แก่แล้วเราอยากเเบ่งเบาภาระบ้าง อยากสอนลูกด้วยตัวเอง ถ้าไม่กลับตอนนี้จะกลับตอนไหน แม่ก็บอกเราว่า รวยก่อนค่อยกลับ เราก็บอกไปว่า ทำงานโรงงานเงินเดือนหมื่นกว่าบาทน้อยมากที่จะรวย ถ้าคำว่ารวยคือมีเงินหลายล้านบาท ถ้างั้นชาตินี้หนูคงไม่ได้กลับไปอยู่บ้านแน่ๆ
แม่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้กลับ ทุกอย่างที่เราเสนอไปว่าจะทำอะไรที่บ้าน ท่านก็จะพูดดักมาหมดว่าคนนั้น คนนี้ทำ ยังไม่รอดเลย พอเราจะอธิบายให้ฟังท่านก็เปลี่ยนเรื่องพูด จนวันนี้เราบอกว่า สิ้นปีหน้า หนูจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ หนูตั้งเป้าหมายในการหาเงินไว้ แล้วหนูได้ครบตามนั้นแล้ว ก็ทะเลาะกันเลยค่ะ เราเลยอธิบายให้ท่านฟังว่า '' แม่บ้านเราไม่มีหนี้ หนูมีเงินเก็บ(เราเก็บเงินโดยใช้บัญชีแม่เรา แม่รู้หมดว่าเรามีเงินเท่าไหร่ เพราะเราอยากให้เเม่สบายใจ ให้แม่ภูมิใจในตัวเรา) ถ้าสามีสมัครใจลาออกก็ได้เงินก้อนอีกเกือบล้านบาท หนูอยากกลับไปเลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่บ้าง ถ้าหนูกลับไปตอนที่พ่อหรือแม่ ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วในชีวิตหนู ถ้าถึงตอนนั้นหนูไม่อยากกลับแล้วหนูห่วงพ่อแม่ หนูอยากพาแม่ไปหาหมอเอง หนูอยากรู้ว่าคุณหมอแนะนำอะไรแม่ หนูอยากทำอาหารที่ดีที่มีประโยชน์ให้แม่กิน หนูอยากไปหาหญ้าให้วัวแทนพ่อกับแม่ หนูอยู่ที่นี่เวลาหนูกินอะไรดีๆหนูนึกถึงที่บ้านตลอดว่าถ้าอยู่ด้วยกันคงดี หนูดูแลสามีดีมาก แต่กับพ่อแม่ นอกจากส่งเงินใช้แล้ว หนูแทบไม่ได้ดูแลเลย เพราะกลับบ้านแต่ละครั้งเวลาก็ช่างน้อยเหลือเกินลางานมากก็ไม่ได้
อายุหนูยังน้อย แต่อายุพ่อกับแม่เดินห่างหนูไปทุกวัน หนูกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ดูแล เหมือนที่หนูไม่ได้ดูแลยายที่เลี้ยงหนูมา ทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวเสียชีวิต หนูร้องให้ทุกครั้ง กลัวว่ามันจะเกิดกับครอบครัวเรา หนูพอใจกับสิ่งที่หนูมีแล้ว หนูอยากกลับบ้าน ที่ชลบุรีไม่ใช่บ้านหนู หนูอยู่จนตายไม่ได้
-แล้วแม่ก็บอกเราว่า ''มีงานทำ ดีกว่าไม่มีนะ แม่อยากให้ทำงานไปก่อน ขายของแม่เคยขายมาแล้วแม่รู้ว่าไม่น่ารอด''อายุแค่นี้จะรีบกลับมาทำไม เราเลยถามแม่ไปว่า ถ้าเกิด พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หนูเกิด อุบัติเหตุ รถชนตาย หรือเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ หนูถึงจะได้กลับบ้านหรอ แล้วแม่ก็ตัดสายโทรศัพท์เราทิ้งไป
เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ แล้วหลังจากนั้น น้ำตาเราก็ไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้
แล้วได้แต่คิดว่าหนูพอกับที่นี่แล้วเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะบอกให้เรากลับบ้านเพื่อไปสร้างอาชีพที่บ้านบ้าง
(เราไม่ได้ประชดนะคะ เราแค่อยากให้ท่านเห็นภาพ ว่าเราควรดูแลกันตอนที่มีชีวิตอยู่ เราพออยู่พอกินแล้ว ไม่ใช่กลับไปนอนกิน แต่เรากลับไปหาเหมือนเดิมแต่ใช้วิธีต่างจากเดิม)
มันคือความหวังดี ความกลัว ความห่วง ทำไมท่านกลัวแต่ว่าเราจะเหนื่อยทำไมท่านไม่ยอมรับว่าท่านเหนื่อยกว่าเราเยอะ
มีบ้านไหนเจอแบบเราบ้างไหมคะ การอยู่ห่างไกลลูก ห่างไกลพ่อแม่ ครอบครัว มันไม่มีความสุขเลยค่ะ
แต่อายุพ่อกับแม่เดินห่างหนูไปทุกวัน หนูกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ดูแล เหมือนที่หนูไม่ได้ดูแลยายที่เลี้ยงหนูมา ทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวเสียชีวิต หนูร้องให้ทุกครั้ง กลัวว่ามันจะเกิดกับครอบครัวเรา หนูพอใจกับสิ่งที่หนูมีแล้ว หนูอยากกลับบ้าน ที่ชลบุรีไม่ใช่บ้านหนู หนูอยู่จนตายไม่ได้
-แล้วแม่ก็บอกเราว่า ''มีงานทำ ดีกว่าไม่มีนะ แม่อยากให้ทำงานไปก่อน ขายของแม่เคยขายมาแล้วแม่รู้ว่าไม่น่ารอด''อายุแค่นี้จะรีบกลับมาทำไม เราเลยถามแม่ไปว่า ถ้าเกิด พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หนูเกิด อุบัติเหตุ รถชนตาย หรือเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ หนูถึงจะได้กลับบ้านหรอ แล้วแม่ก็ตัดสายโทรศัพท์เราทิ้งไป
เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ แล้วหลังจากนั้น น้ำตาเราก็ไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้
แล้วได้แต่คิดว่าหนูพอกับที่นี่แล้วเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะบอกให้เรากลับบ้านเพื่อไปสร้างอาชีพที่บ้านบ้าง
(เราไม่ได้ประชดนะคะ เราแค่อยากให้ท่านเห็นภาพ ว่าเราควรดูแลกันตอนที่มีชีวิตอยู่ เราพออยู่พอกินแล้ว ไม่ใช่กลับไปนอนกิน แต่เรากลับไปหาเหมือนเดิมแต่ใช้วิธีต่างจากเดิม)
มันคือความหวังดี ความกลัว ความห่วง ทำไมท่านกลัวแต่ว่าเราจะเหนื่อยทำไมท่านไม่ยอมรับว่าท่านเหนื่อยกว่าเราเยอะ
มีบ้านไหนเจอแบบเราบ้างไหมคะ การอยู่ห่างไกลลูก ห่างไกลพ่อแม่ ครอบครัว มันไม่มีความสุขเลยค่ะ
อายุยังน้อยกลับไปสร้างอาชีพที่บ้านเกิดไม่ได้หรอคะ
เป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานที่ชลบุรีตั้งแต่จบ ม.6 จนตอนนี้ก็12ปีแล้ว ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว เรามีลูก2คน(พ่อกับแม่เราเลี้ยง เราส่งเงินเดือนละ10,000 ค่าเทอม ค่ารถ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเราออกเองหมด) ไม่ได้ซื้อบ้านเพราะคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแน่นอน ไม่มีหนี้ มีแต่รายจ่ายปกติ 2-3ปีมานี้ เราจะพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว คิดถึงพ่อแม่ ลูก แล้วตอนนี้เราก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พ่อกับแม่เราอายุ58ปีแล้วค่ะ พ่อเป็นโรคปวดขาและกระดูกต้องกินยาตลอด และพึ่งเลิกกินเหล้าได้ 5-6เดือน แม่เป็นโรคเบาหวาน แล้วลูกเราคนโตเข้าป.1คนเล็กเข้าศูนย์เด็กเล็ก พ่อกับแม่เราเลี้ยงหลานดีมาก แต่ท่านทะเลาะกันบ่อยมาก พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เเม่เลือกที่จะเงียบตลอด เวลาทะเลาะกันพ่อก็จะทำร้ายข้าวของ ลูกเราก็จะเห็นประจำทั้ง2คน แต่ไม่มีการสอนหลานว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ดี เราจะเอาลูกมาเลี้ยงเองท่านก็ไม่ยอม ลูกเราดื้อมาก ติดโทรศัพท์ เล่นเทแชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน ในอ่างอาบน้ำจนหมดเอาไข่ไก่มาทุบเล่นทีละเป็นแแผง เอาน้ำยาล้างจานใส่น้ำต้มชงนมน้อง เวลามีการบ้านมาก็จะไม่มีใครสอน ถ้าพ่อไม่เมาถึงจะได้สอน เราก็จะบอกครูที่โรงเรียนไว้ ตอนนี้คนเล็ก3ขวบ เริ่มจะซนเหมือนพี่แล้ว คือเรารู้แหล่ะว่าท่านเลี้ยงหลานท่านก็เหนื่อยมาก ไหนจะเลี้ยงวัวหาหญ้าให้วัวกินอีก แม่เลี้ยงวัว13 ตัว เราบอกให้ขายก็ไม่ขาย ล่าสุดขายไป2ตัวเพราะบอกหาหญ้าไม่ไหว เรารู้ว่าร่างกายของท่านไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว
แล้ววันนี้เราคุยกับแม่ว่าโรงงานสถานการณ์มันไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วนะ ถ้าโรงงานสามีมีโครงการสมัครใจออกก็จะให้เข้าโครงการแล้วเอาเงินก้อนกลับบ้าน เราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว แม่ก็พูดประมาณว่า ''จะกลับมาทำไม กลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่เหมือนอยู่นู้น ยังไม่แก่เลยจะรีบกลับมาทำไม รอให้เค้าจ้างออกค่อยมา'' พ่อแม่เลี้ยงหลานให้ได้ เราเลยบอกท่านไปว่าหนูมีอะไรที่จะทำเยอะเลย เปิดร้านขายของ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ทำเกษตรบ้าง กับข้าวหนูก็ทำเป็น ขนมหนูก็ทำเป็น หนูและสามีไม่พาทุกคนอดแน่ๆ พ่อกับแม่แก่แล้วเราอยากเเบ่งเบาภาระบ้าง อยากสอนลูกด้วยตัวเอง ถ้าไม่กลับตอนนี้จะกลับตอนไหน แม่ก็บอกเราว่า รวยก่อนค่อยกลับ เราก็บอกไปว่า ทำงานโรงงานเงินเดือนหมื่นกว่าบาทน้อยมากที่จะรวย ถ้าคำว่ารวยคือมีเงินหลายล้านบาท ถ้างั้นชาตินี้หนูคงไม่ได้กลับไปอยู่บ้านแน่ๆ
แม่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้กลับ ทุกอย่างที่เราเสนอไปว่าจะทำอะไรที่บ้าน ท่านก็จะพูดดักมาหมดว่าคนนั้น คนนี้ทำ ยังไม่รอดเลย พอเราจะอธิบายให้ฟังท่านก็เปลี่ยนเรื่องพูด จนวันนี้เราบอกว่า สิ้นปีหน้า หนูจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ หนูตั้งเป้าหมายในการหาเงินไว้ แล้วหนูได้ครบตามนั้นแล้ว ก็ทะเลาะกันเลยค่ะ เราเลยอธิบายให้ท่านฟังว่า '' แม่บ้านเราไม่มีหนี้ หนูมีเงินเก็บ(เราเก็บเงินโดยใช้บัญชีแม่เรา แม่รู้หมดว่าเรามีเงินเท่าไหร่ เพราะเราอยากให้เเม่สบายใจ ให้แม่ภูมิใจในตัวเรา) ถ้าสามีสมัครใจลาออกก็ได้เงินก้อนอีกเกือบล้านบาท หนูอยากกลับไปเลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่บ้าง ถ้าหนูกลับไปตอนที่พ่อหรือแม่ ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วในชีวิตหนู ถ้าถึงตอนนั้นหนูไม่อยากกลับแล้วหนูห่วงพ่อแม่ หนูอยากพาแม่ไปหาหมอเอง หนูอยากรู้ว่าคุณหมอแนะนำอะไรแม่ หนูอยากทำอาหารที่ดีที่มีประโยชน์ให้แม่กิน หนูอยากไปหาหญ้าให้วัวแทนพ่อกับแม่ หนูอยู่ที่นี่เวลาหนูกินอะไรดีๆหนูนึกถึงที่บ้านตลอดว่าถ้าอยู่ด้วยกันคงดี หนูดูแลสามีดีมาก แต่กับพ่อแม่ นอกจากส่งเงินใช้แล้ว หนูแทบไม่ได้ดูแลเลย เพราะกลับบ้านแต่ละครั้งเวลาก็ช่างน้อยเหลือเกินลางานมากก็ไม่ได้
อายุหนูยังน้อย
ตามหัวข้อเลยค่ะ ขอเล่าก่อนนะคะว่าเราอายุ30ปี เป็นลูกคนเดียวของพ่อแม่
เป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานที่ชลบุรีตั้งแต่จบ ม.6 จนตอนนี้ก็12ปีแล้ว ผ่อนรถยนต์หมดแล้ว เรามีลูก2คน(พ่อกับแม่เราเลี้ยง เราส่งเงินเดือนละ10,000 ค่าเทอม ค่ารถ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเราออกเองหมด) ไม่ได้ซื้อบ้านเพราะคิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดแน่นอน ไม่มีหนี้ มีแต่รายจ่ายปกติ 2-3ปีมานี้ เราจะพูดกับแม่บ่อยมาก ว่าเราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว คิดถึงพ่อแม่ ลูก แล้วตอนนี้เราก็พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง พ่อกับแม่เราอายุ58ปีแล้วค่ะ พ่อเป็นโรคปวดขาและกระดูกต้องกินยาตลอด และพึ่งเลิกกินเหล้าได้ 5-6เดือน แม่เป็นโรคเบาหวาน แล้วลูกเราคนโตเข้าป.1คนเล็กเข้าศูนย์เด็กเล็ก พ่อกับแม่เราเลี้ยงหลานดีมาก แต่ท่านทะเลาะกันบ่อยมาก พ่อเป็นคนอารมณ์ร้อน เเม่เลือกที่จะเงียบตลอด เวลาทะเลาะกันพ่อก็จะทำร้ายข้าวของ ลูกเราก็จะเห็นประจำทั้ง2คน แต่ไม่มีการสอนหลานว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ดี เราจะเอาลูกมาเลี้ยงเองท่านก็ไม่ยอม ลูกเราดื้อมาก ติดโทรศัพท์ เล่นเทแชมพู ครีมนวด ยาสีฟัน ในอ่างอาบน้ำจนหมดเอาไข่ไก่มาทุบเล่นทีละเป็นแแผง เอาน้ำยาล้างจานใส่น้ำต้มชงนมน้อง เวลามีการบ้านมาก็จะไม่มีใครสอน ถ้าพ่อไม่เมาถึงจะได้สอน เราก็จะบอกครูที่โรงเรียนไว้ ตอนนี้คนเล็ก3ขวบ เริ่มจะซนเหมือนพี่แล้ว คือเรารู้แหล่ะว่าท่านเลี้ยงหลานท่านก็เหนื่อยมาก ไหนจะเลี้ยงวัวหาหญ้าให้วัวกินอีก แม่เลี้ยงวัว13 ตัว เราบอกให้ขายก็ไม่ขาย ล่าสุดขายไป2ตัวเพราะบอกหาหญ้าไม่ไหว เรารู้ว่าร่างกายของท่านไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว
แล้ววันนี้เราคุยกับแม่ว่าโรงงานสถานการณ์มันไม่ค่อยจะสู้ดีแล้วนะ ถ้าโรงงานสามีมีโครงการสมัครใจออกก็จะให้เข้าโครงการแล้วเอาเงินก้อนกลับบ้าน เราอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว แม่ก็พูดประมาณว่า ''จะกลับมาทำไม กลับมาก็ไม่มีอะไรทำ ไม่เหมือนอยู่นู้น ยังไม่แก่เลยจะรีบกลับมาทำไม รอให้เค้าจ้างออกค่อยมา'' พ่อแม่เลี้ยงหลานให้ได้ เราเลยบอกท่านไปว่าหนูมีอะไรที่จะทำเยอะเลย เปิดร้านขายของ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ทำเกษตรบ้าง กับข้าวหนูก็ทำเป็น ขนมหนูก็ทำเป็น หนูและสามีไม่พาทุกคนอดแน่ๆ พ่อกับแม่แก่แล้วเราอยากเเบ่งเบาภาระบ้าง อยากสอนลูกด้วยตัวเอง ถ้าไม่กลับตอนนี้จะกลับตอนไหน แม่ก็บอกเราว่า รวยก่อนค่อยกลับ เราก็บอกไปว่า ทำงานโรงงานเงินเดือนหมื่นกว่าบาทน้อยมากที่จะรวย ถ้าคำว่ารวยคือมีเงินหลายล้านบาท ถ้างั้นชาตินี้หนูคงไม่ได้กลับไปอยู่บ้านแน่ๆ
แม่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้กลับ ทุกอย่างที่เราเสนอไปว่าจะทำอะไรที่บ้าน ท่านก็จะพูดดักมาหมดว่าคนนั้น คนนี้ทำ ยังไม่รอดเลย พอเราจะอธิบายให้ฟังท่านก็เปลี่ยนเรื่องพูด จนวันนี้เราบอกว่า สิ้นปีหน้า หนูจะกลับไปอยู่บ้านแล้วนะ หนูตั้งเป้าหมายในการหาเงินไว้ แล้วหนูได้ครบตามนั้นแล้ว ก็ทะเลาะกันเลยค่ะ เราเลยอธิบายให้ท่านฟังว่า '' แม่บ้านเราไม่มีหนี้ หนูมีเงินเก็บ(เราเก็บเงินโดยใช้บัญชีแม่เรา แม่รู้หมดว่าเรามีเงินเท่าไหร่ เพราะเราอยากให้เเม่สบายใจ ให้แม่ภูมิใจในตัวเรา) ถ้าสามีสมัครใจลาออกก็ได้เงินก้อนอีกเกือบล้านบาท หนูอยากกลับไปเลี้ยงลูก ดูแลพ่อแม่บ้าง ถ้าหนูกลับไปตอนที่พ่อหรือแม่ ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วในชีวิตหนู ถ้าถึงตอนนั้นหนูไม่อยากกลับแล้วหนูห่วงพ่อแม่ หนูอยากพาแม่ไปหาหมอเอง หนูอยากรู้ว่าคุณหมอแนะนำอะไรแม่ หนูอยากทำอาหารที่ดีที่มีประโยชน์ให้แม่กิน หนูอยากไปหาหญ้าให้วัวแทนพ่อกับแม่ หนูอยู่ที่นี่เวลาหนูกินอะไรดีๆหนูนึกถึงที่บ้านตลอดว่าถ้าอยู่ด้วยกันคงดี หนูดูแลสามีดีมาก แต่กับพ่อแม่ นอกจากส่งเงินใช้แล้ว หนูแทบไม่ได้ดูแลเลย เพราะกลับบ้านแต่ละครั้งเวลาก็ช่างน้อยเหลือเกินลางานมากก็ไม่ได้
อายุหนูยังน้อย แต่อายุพ่อกับแม่เดินห่างหนูไปทุกวัน หนูกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ดูแล เหมือนที่หนูไม่ได้ดูแลยายที่เลี้ยงหนูมา ทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวเสียชีวิต หนูร้องให้ทุกครั้ง กลัวว่ามันจะเกิดกับครอบครัวเรา หนูพอใจกับสิ่งที่หนูมีแล้ว หนูอยากกลับบ้าน ที่ชลบุรีไม่ใช่บ้านหนู หนูอยู่จนตายไม่ได้
-แล้วแม่ก็บอกเราว่า ''มีงานทำ ดีกว่าไม่มีนะ แม่อยากให้ทำงานไปก่อน ขายของแม่เคยขายมาแล้วแม่รู้ว่าไม่น่ารอด''อายุแค่นี้จะรีบกลับมาทำไม เราเลยถามแม่ไปว่า ถ้าเกิด พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หนูเกิด อุบัติเหตุ รถชนตาย หรือเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ หนูถึงจะได้กลับบ้านหรอ แล้วแม่ก็ตัดสายโทรศัพท์เราทิ้งไป
เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ แล้วหลังจากนั้น น้ำตาเราก็ไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้
แล้วได้แต่คิดว่าหนูพอกับที่นี่แล้วเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะบอกให้เรากลับบ้านเพื่อไปสร้างอาชีพที่บ้านบ้าง
(เราไม่ได้ประชดนะคะ เราแค่อยากให้ท่านเห็นภาพ ว่าเราควรดูแลกันตอนที่มีชีวิตอยู่ เราพออยู่พอกินแล้ว ไม่ใช่กลับไปนอนกิน แต่เรากลับไปหาเหมือนเดิมแต่ใช้วิธีต่างจากเดิม)
มันคือความหวังดี ความกลัว ความห่วง ทำไมท่านกลัวแต่ว่าเราจะเหนื่อยทำไมท่านไม่ยอมรับว่าท่านเหนื่อยกว่าเราเยอะ
มีบ้านไหนเจอแบบเราบ้างไหมคะ การอยู่ห่างไกลลูก ห่างไกลพ่อแม่ ครอบครัว มันไม่มีความสุขเลยค่ะ
แต่อายุพ่อกับแม่เดินห่างหนูไปทุกวัน หนูกลัว กลัวว่าจะไม่ได้ดูแล เหมือนที่หนูไม่ได้ดูแลยายที่เลี้ยงหนูมา ทุกครั้งที่มีคนใกล้ตัวเสียชีวิต หนูร้องให้ทุกครั้ง กลัวว่ามันจะเกิดกับครอบครัวเรา หนูพอใจกับสิ่งที่หนูมีแล้ว หนูอยากกลับบ้าน ที่ชลบุรีไม่ใช่บ้านหนู หนูอยู่จนตายไม่ได้
-แล้วแม่ก็บอกเราว่า ''มีงานทำ ดีกว่าไม่มีนะ แม่อยากให้ทำงานไปก่อน ขายของแม่เคยขายมาแล้วแม่รู้ว่าไม่น่ารอด''อายุแค่นี้จะรีบกลับมาทำไม เราเลยถามแม่ไปว่า ถ้าเกิด พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หนูเกิด อุบัติเหตุ รถชนตาย หรือเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ หนูถึงจะได้กลับบ้านหรอ แล้วแม่ก็ตัดสายโทรศัพท์เราทิ้งไป
เป็นแบบนี้บ่อยมากค่ะ แล้วหลังจากนั้น น้ำตาเราก็ไหลออกมาแบบหยุดไม่ได้
แล้วได้แต่คิดว่าหนูพอกับที่นี่แล้วเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะบอกให้เรากลับบ้านเพื่อไปสร้างอาชีพที่บ้านบ้าง
(เราไม่ได้ประชดนะคะ เราแค่อยากให้ท่านเห็นภาพ ว่าเราควรดูแลกันตอนที่มีชีวิตอยู่ เราพออยู่พอกินแล้ว ไม่ใช่กลับไปนอนกิน แต่เรากลับไปหาเหมือนเดิมแต่ใช้วิธีต่างจากเดิม)
มันคือความหวังดี ความกลัว ความห่วง ทำไมท่านกลัวแต่ว่าเราจะเหนื่อยทำไมท่านไม่ยอมรับว่าท่านเหนื่อยกว่าเราเยอะ
มีบ้านไหนเจอแบบเราบ้างไหมคะ การอยู่ห่างไกลลูก ห่างไกลพ่อแม่ ครอบครัว มันไม่มีความสุขเลยค่ะ