อาชีพเซลล์ เงินดี แต่ซื้อบ้านยากจริงๆ

สวัสดีค่ะ มาตั้งกระทู้อีกครั้ง เพราะเนื่องจาก อยากเล่า และอยากแชร์ประสบการณ์ 

ทำไม น้ออออ อาชีพ เซลล์ เป็นอาชีพ ที่รายได้ดี แต่ จะมีบ้านสักทีมันยากเย็น หลายท่านอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่เราอยากจะมาแชร์ และแบ่งปันข้อมูล ให้กับเพื่อนสมาชิก เพราะตอนนี้ ได้ ยื่นซื้อบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ไป 1 หลัง ในราคา 3.6 ล้านบาท และรอลุ้นผลอยู่ว่ามันจะออกมาแบบไหน มาเริ่มกันเลยยยยย..........

เริ่มจาก ในทุกวันนี้ เราคู่สามีภรรยา ได้เช่าคอนโด 2 ห้องนอน ค่าเช่ารวมค่าใช้จ่ายเบ็ดเสร็จ ประมาณ 11500 บาท 
สามี ทำอาชีพ เซลล์  เงินเดือน 12000 บาท+ ค่าทริป 12000 บาท + ค่าเสื่อม 4000 + ค่าน้ำมันกิโลละ 2 บาท + ค่าคอมมิชชั่น 3% (2 บริษัท บริษัทหนึ่งไม่เลี่ยงภาษี มีหัก ณ ที่จ่ายทุกเดือน โชคดีไป แต่อีกบริษัท ไม่เคยมีหัก ณ ที่จ่าย เพิ่งจะเริ่มมีตอน เดือน 4 ที่ผ่านมา) 
โดยรวม สามี ได้รับเงินประมาณ 65000++ 
ภรรยา (เราเอง) อาชีพ พนักงานเอกชน รายได้ 41000 บาท แต่ติดแบล็คลิส เรื่องบ้าน (ในอดีตอันขมขื่น โปรดกรุณา อย่าซ้ำเติมข่อยยยย) 

เราสองคนไม่มีปัญหาเรื่องรายรับ ที่เราจะสามารถเช่าอยู่ได้ในราคานั้น พร้อมกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในชีวิต แต่เมื่อวันนึง เราได้ยินคนพูดแต่คำว่า "เสียดายค่าเช่า" มากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ เราสองคนเลยมองหน้ากัน ว่า เออ หรือเราควรจะซื้อบ้าน เป็นของตัวเองนะ??? 
ขอเรียนชี้แจงว่า ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็ก มี คู่สามีภรรยา และมีลูกสาว 1 คน และหลานสาว 1 คน 

ตอนแรก เราสองคน ดูเป็นคอนโด 2 ห้องนอน และบ้านมือสอง ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เนื่องจาก เรา เข้าใจและ ระลึก เสมอว่า อาชีพเซลล์ ค่าคอม ทางธนาคารคิดให้ไม่เต็ม100% และบวกด้วย รายรับหลายตัว ของสามี ไม่ได้ถูกเสียภาษี (บริษัทเลี่ยง) และ ที่สำคัญสุดๆๆๆๆๆ คือ เป็นการฝากเงินด้วย การ pay in เข้าบัญชี ไม่ใช่การโอนจากบริษัทฯ ไม่มีโค้ดเงินเดือน ก็ว่ายาก แต่ถ้าโอนออกจากบัญชีบริษัทก็ ยังพอช่วยในการตรวจสอบ แต่นี่เล่น ฝากเป็นเงินสด ยิ่งยากเข้าไปอีกจร้าาาาาา เลยไม่อยาก ดูทรัพย์ ราคาที่สูงส่งไปมากกว่านี้ ราคานี้ยังไม่รู้จะกู้ผ่านหรือเปล่าเลย 

วันหนึ่ง เราขับผ่านคอนโด ริมถนนเสรีไทย แห่งหนึ่ง ขึ้นป้าย ว่า 2 ห้องนอน ราคาเพียง 1.75 ล้านเท่านั้น เฮ้ยยยย มันมีด้วยเหรอ??? ริมถนน เสรีไทย ต้นๆ ใกล้แยกนิด้านิดเดียว รีบเลี้ยวเข้าไปเลยจร้า ก็ไปดู ก็ชอบนะ คอนโดยังขายไม่หมด หลายห้อง ทั้งๆ ที่สร้างเสร็จมาหลายปีแล้ว มีฟิตเนท ตั้ง 4 ตึก มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ 3 สระ ที่จอดรถ 60% ของจำนวนห้องทั้งหมด เฮ้ย มันดี ราคาโดน แต่เข้าใจล่ะ ทำไม ทำโปร เพราะ ระเบียงห้อง ติดกับ หม้อแปลงอาคารเลยจร้าาาาาา แต่ห้องข้างๆ ห้องตัวอย่าง ขนาด 38 ตาราง เป็นแบบ one bedroom plus คือสามารถกั้นห้องเป็นห้องนอนเล็ก ได้อีกห้อง สามีสนใจห้องนี้มากกว่า ราคา 2.05 ล้าน ก็เก็บเป็นตัวเลือกที่ 1 
วันต่อมา ได้ไปดูบ้านมือสอง ราคา 1.89 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮ้าส์ที่เก่ามากแล้ว นานมาก แต่เขา รีโนเวทบ้าน ค่อนข้างดี แต่ต้องยอมรับกับความเก่าของหมู่บ้าน พร้อมการจอดรถที่แบบว่า เฮ้ออออ พอนึกกันออกเนอะ แต่ จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้ค่ะ ตามมาๆๆๆๆๆๆ........................... 

เอเจ้นท์ที่ขายบ้านหลังนี้บอกว่า เขารู้จักกับพนักงานธนาคารของสีหนึ่ง เขาก็ขอรายละเอียดข้อมูลของสามีเรา ไป แล้วกลับมาบอกเราว่า 
"สบายมากเลยค่ะคุณลูกค้า บ้านหลังนี้ สามารถกู้ได้เต็ม100% ราคาประเมินสามารถได้ถึง 2.3 ล้านค่ะ เท่ากับคุณลูกค้าจะมีเงินตกแต่งบ้านอีกด้วยจร้า" เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มหัศจรรย์ มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 

เอาล่ะซิ มองหน้ากันสองคน กับสามี ถึงขั้นตอน การ คิดข้อดีข้อเสีย และการตัดสินใจกันแล้วหล่ะ ทีนี้ 
เราชอบ คอนโด เพราะ ชีวิตอยู่แต่ แฟลต คอนโด ห้องสี่เหลี่ยม มาแต่เด็ก มันชิน และรู้สึกปลอดภัย แต่ข้อเสียคือ ต้องเสียค่าส่วนกลาง ค่าที่จอดรถ  2 คัน 
ต่อเดือนที่เราจะต้องเสียโดยที่เราไม่ได้ตัดเป็นค่าบ้านเนี่ย รวมแล้ว 2500 -3000 บาท เราเลยมองหน้ากันว่า งั้น ไปบ้านล่ะกัน 

เราก็แอบเอ๊ะ อยู่นิดนึงว่า บ้านมือสอง กู้ได้ถึง 2.3 ล้าน ทำไม เราไม่เลือกบ้านมือ 1 กันหล่ะ???? เท่านั้นแหละ ก็ เสิชหาโครงการบ้านมือ 1 ในราคาประมาณ 2.3-2.5 ล้านกันเลย ปรากฎว่า ทำไม มันไปไกลจังฟร่ะ !!!!!!!!!!  ซึ่งราคาใกล้ๆ ระแวก การเดินทาง สะดวก ราคาตอนนี้จะอยู่ที่ 2.8-3 ล้าน 

บอกเลยนะ เวลานี้ ถ้าอยากได้บ้านราคาไม่เกิน 2 ล้าน โน่นน ค่ะ คุณต้อง ออกไป โน่นนนน เลยคำว่า ลาดกระบัง ไม่ทาง บางเสาธง หรือไม่ก็ ไปทาง บางปู เลียบวารี หนอกจอก กันแล้วนะคะ ตายหล่ะ อนาคตลูกหลานจะเดินทางกันยังไง ลำพังเราสองคนมีรถ คนละคันมันก็ไม่เดือดร้อน แต่ลองนึกถึงลูกเป็นสาว หลานต้องไปทำงาน ตายๆๆๆๆๆ ไม่ดีแน่ๆๆ ย้อนความคิดกลับมาที่บ้านมือสอง อีกครั้ง 

เราเลยเข้าไปในเพจ เพจหนึ่ง ที่ประกาศเกี่ยวกับการขายบ้านมือสอง ทั่วๆ ไป แต่ไปโพส จั่วหัวเลยว่า "อาชีพเซลล เคสยาก รบกวนเจ้าหน้าที่แบงค์ติดต่อเข้ามาหน่อยคร้า ต้องการปรึกษา"  ก็มีเจ้าหน้าที่หลายท่านติดต่อมา และ ก็ต้องพ่ายแพ้กันไป เพราะ นโยบายแบงค์ ในเรื่องค่าคอม และรายได้ที่ เลี่ยงภาษีมันไม่เข้าเกณฑ์ แต่............................................................................. คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่เราได้พบกัน ก็เกิดอีกครั้ง มีเจ้าหน้าที่ของธนาคาร สีหนึ่ง ติดต่อมา และเราได้คุยกัน คุยแจ้งรายละเอียดตามที่เราบอกล่าวข้างต้นหมดทุกสิ่ง คุณเค้าสู้ จร้าาาาาาาา เขาบอกว่า มี นโยบาย ที่ธนาคารเขา มองค่าคอมมิชชั่นให้ 100% เต็ม หลังจาก เฉลี่ย 6 เดือน ออกมาแล้ว ดวงตาเป็นประกาย สดใสสสสสสส ที่สำคัญ รายได้ ที่ เราได้รับ ก็มองให้ เต็มทั้งหมด ถึงจะเลี่ยงภาษีก็ตาม เท่านั้นแหละ คุณ เขา ก็ โทรศัพท์ คุยกันเลย นั่งไล่บี้ statment ที่ละรายการเลยจร้า เราต้องการทราบ ว่า รายได้ที่เค้าคิดให้ จะได้ทรัพย์ ราคาประมาณเท่าไหร่ แต่เขาก็ สอบถาม ราคาทรัพย์ ในใจเราไป เรา ก็บอกตัวเลขคร่าวๆ ไป ว่า 2.8-3 ล้าน  เราคุยกันช่วง เย็น ประมาณ 4 โมง และ 2 ทุ่ม เธอติดต่อกลับมา พร้อมบอกคำตอบว่า "ได้ค่ะ ราคา 2.8-3 ล้าน"  ห๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เฮ้ยยยยยยยย ไม่คิดไม่ฝันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

เอาล่ะซิ ณ วันที่คุย เราอยู่แม่สอดกัน ในเช้าวันรุ่งขึ้น รีบเลยจร้า เก็บข้าวของ กลับเข้ามา โครงการแถวๆ ที่เราสนใจกันเลยจร้า ตอนแรก โซน คู้บอน เรียบวงแหวนกาญจนา และ เส้นรามอินทรา 117 ที่มันใกล้ๆ กับ รถไฟฟ้าสายสีจมปู   แต่แวะได้แค่ โครงการเดียว ตรง เรียบกาญจนา คู้บอน ยี่ห้อที่ เป็น ทรงอังกฤษกันเลยจร้า คิดว่าคุณๆ คงจะทราบกัน คุยไปคุยมา มีแปลงโปรโมชั่น คือ ราคาขายจริง ที่ 2.8 แต่ ราคาหน้าสัญญา คือ 3.28 แต่ไม่มีของแถมใดๆ เลย ลูกค้า จ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนเองทั้งหมด เรากับสามีสนใจ เพราะ ส่วนลดได้รับคืน ประมาณ 4 แสน หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว 
ก็ลองเอาตัวเลขไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารท่านเดิมดู ขยับวงเงินขึ้นไปอีก มันยังมีโอกาสได้หรือไม่? แต่มีบอกเปรยๆ ไปว่า จริงๆ อยากได้หลังใหญ่ ที่ราคา 3.77 ล้าน มากกว่า 

คำตอบคือ "ได้ค่ะ มีโอกาสทั้ง 2 ราคา "   เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ได้ค่ะ อีกแล้วววววววว เอาหล่ะซิ ถ้า 3.77 มันได้ เนี่ย เราก็คิดกับสามีว่า งั้น หาอีกสักครั้งโครงการล่ะกัน เอาที่เราสะดวกกันที่สุด คือสามี มีสังคมที่ห้วยขวาง เขาต้องการ สถานที่บ้านที่เขาใช้มอไซด์ไปห้วยขวางได้สบายๆ หาไปหามา จนมาเจอโครงการหนึ่ง ที่เราไม่เคยรู้เลยว่ามันมีตรงนี้ด้วยเหรอ? ไม่เคยเห็นป้ายโฆษณา ริมข้างทาง ไม่เคย เห็นมาก่อนเลยจริงๆ เราเสิชจากชื่อบริษัทอสังหาฯ เลยตกลงลองเข้าไปดูที่โครงการ 

หลังจากเยี่ยมชมโครงการแล้ว มันมีความชอบส่วนตัว เนื่องจาก เป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่ 136 หลัง ห้ามทำร้านอาหาร ห้ามขายของชำ ห้ามเปิดเป็นบริษัท สำหรับ อยู่อาศัยเท่านั้น 2 ที่จอดรถ และ ยังบังคับการทำโรงจอดรถให้หน้าตาเป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อให้การคงอยู่ในสภาพเดิมจากการรับมอบ ให้เหมือนเดิม ถนนโครงการ กว้าง 12 เมตร ถนนซอย กว้าง 9 เมตร ห้าม เอาผ้าออกมาตากนอกรั้วบ้าน ห้ามจอดรถหน้าบ้าน เพราะคงไม่มีบ้านไหน มีรถมากกว่า 2 คัน เค้าคิดมาแล้ว แต่สำหรับญาติที่มาหา เค้าจะจัดสรรคที่จอดรถบริเวณ คลับเฮ้าส์ ไว้รองรับ เรากับสามีชอบการบังคับแบนี้ แต่หลายท่านอาจจะไม่ชอบ แต่เราคิดว่ามัน เป็นระเบียบดีค่ะ สอบถาม พูดคุย ปรากฎว่า ราคา ขายจริง อยู่ที่ 3.29 ล้าน แต่ จะทำบวกเพิ่ม 10เปอร์ เพื่อทำหน้าสัญญา แปลว่า เราจะต้องกู้ที่ 3.619 ล้านบาท มันก็ยังไม่ถึง 3.77 เสียหน่อย แต่ ราคาโปรนี้ มีข้อจำกัดว่า ต้องโอนภายใน 14 วันเท่านั้น โอ้ววว แม่เจ้า มันจะอะไรขนาดนั้นเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  น้องเซลล์บอกว่า เดี๋ยวนี้เริ่มปรับเป็นแบบนี้เกือบหมดแล้ว แต่รับรองว่าทันค่ะ 

แต่เราก็ทำการจองไป และนัดวันเอาเอกสารมาให้ แต่ขอเว้น ธนาคารสีที่เราดิวเอาไว้ 1 แห่ง เพราะเราเกรงใจ เค้า ไม่รู้จักกัน แต่ว่า เค้า ยินดี ตอบคำถาม ยินดี คิดคำนวณให้ ตลอด สอบถาม ติดตาม เอกสาร มูลค่า ตัวเลข เงินสามีเรา จนเขา ตอบให้เรารู้สึกมั่นใจว่า ไม่น่าผิดพลาด และเขาบอกกับเราว่า รายละเอียดต่างแบงค์ ก็ต่างกัน แต่อยู่ที่คนทำเรื่องด้วย ว่า ยินดี รับประกัน รายได้ลูกค้าหรือไม่ ซึ่งเขาบอกว่า เค้าทำเรื่องให้สุดฝีมือ 

และแล้วทุกอย่างก็ เดินเข้าสู่กระบวนการ ยื่นกู้ แต่เรื่องยังไม่จบ เท่านั้น เดี๋ยวมาต่อ นะจ๊ะ ตัวอักษร ไม่พอจะพิมพ์แล้วจร้าาาา..........................

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่