สองทีมนี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกัน...
1. เป็นทีมที่เน้นเกมบุก แต่มีที่ต่างกันอยู่หน่อยก็คือ คล็อปป์เล่นตั้งรับรอสวนก็ได้ด้วย แต่เป๊ปเล่นเกมรับไม่เป็น เล่นแต่บุกอย่างเดียว
2. เจอคู่แข่งแก้ทางลักษะคล้ายๆกัน คือจะถอยลงไปต้งรับ เน้นเหนียวไว้แล้วรอโอกาสสวนงามๆ
เรื่องนี้ก็มีข้อแตกต่างระหว่างหงส์กับเรืออยู่นะ
- กรณีของหงส์ ถ้าเจอเกมอุดของคู่แข่งหนักๆ ส่วนมากก็ยังชนะได้แบบเฉือนๆ อาจจะมีแพ้หรือเสมอบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อย (เพิ่งจะมาบ่อยก็ช่วงท้ายฤดูกาลนี่แหละ)
- กรณีซิตี้ เจอคู่แข่งอุดเหนียวหนึบ ผลมักจะเอาแน่ไม่ได้ คือถึงกับแพ้ก็บ่อย เสมอก็มี แต่ถ้าชนะขึ้นมาสกอร์จะไหล เรือแทบจะไม่เคยชนะแบบหวุดหวิดแบบหงส์ แต่จะชนะ 5-0 / 8-0 เรียกว่าสกอร์ขาดตลอด
3. ทีนี้ความต่างที่เห็นชัดคือฤดูกาลนี้เรือมีปัญหาผู้เล่นตัวหลักเจ็บเยอะ แถมเจ็บยาว ส่วนลิเวอร์พูลเจอปัญหานี้น้อยกว่า (มีบ้าง)
ปล. ยังไงแชมป์ลีกสูงสุดก็จะยังเป็นของคู่นี้แหะ เพราะผมยังมองไม่เห็นทีมไหนพอจะสอดแทรกคู่นี้ได้
ลิเวอร์พูล กำลังเจอปัญหาเดียวกับซิตี้หรือเปล่าครับ คือเจอคู่แข่งเล่นอุด จนหลายครั้งทำอะไรเขาไม่ได้เลย
1. เป็นทีมที่เน้นเกมบุก แต่มีที่ต่างกันอยู่หน่อยก็คือ คล็อปป์เล่นตั้งรับรอสวนก็ได้ด้วย แต่เป๊ปเล่นเกมรับไม่เป็น เล่นแต่บุกอย่างเดียว
2. เจอคู่แข่งแก้ทางลักษะคล้ายๆกัน คือจะถอยลงไปต้งรับ เน้นเหนียวไว้แล้วรอโอกาสสวนงามๆ
เรื่องนี้ก็มีข้อแตกต่างระหว่างหงส์กับเรืออยู่นะ
- กรณีของหงส์ ถ้าเจอเกมอุดของคู่แข่งหนักๆ ส่วนมากก็ยังชนะได้แบบเฉือนๆ อาจจะมีแพ้หรือเสมอบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อย (เพิ่งจะมาบ่อยก็ช่วงท้ายฤดูกาลนี่แหละ)
- กรณีซิตี้ เจอคู่แข่งอุดเหนียวหนึบ ผลมักจะเอาแน่ไม่ได้ คือถึงกับแพ้ก็บ่อย เสมอก็มี แต่ถ้าชนะขึ้นมาสกอร์จะไหล เรือแทบจะไม่เคยชนะแบบหวุดหวิดแบบหงส์ แต่จะชนะ 5-0 / 8-0 เรียกว่าสกอร์ขาดตลอด
3. ทีนี้ความต่างที่เห็นชัดคือฤดูกาลนี้เรือมีปัญหาผู้เล่นตัวหลักเจ็บเยอะ แถมเจ็บยาว ส่วนลิเวอร์พูลเจอปัญหานี้น้อยกว่า (มีบ้าง)
ปล. ยังไงแชมป์ลีกสูงสุดก็จะยังเป็นของคู่นี้แหะ เพราะผมยังมองไม่เห็นทีมไหนพอจะสอดแทรกคู่นี้ได้