ท่องประวัติศาสตร์ในจังหวัด "นารา" เมืองหลวงเก่าแห่งญี่ปุ่น 4 (Part 1)

สวัสดีค่ะทุกคน

ต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว วันนี้เราก็จะนำข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดนาราของประเทศญี่ปุ่นมาฝากกันค่ะ!

ซึ่งตอนที่ 4 นี้ เราจะพาไปรู้จักเกี่ยวกับ “เส้นทางโบราณยามาโนเบะ คาชิฮาระ ซากุระอิ” ค่า

ถนนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ซึ่งปรากฏในหนังสือ Kojiki (古事記) และ Nihonshogi (日本書紀)

“ถนนยามาโนเบะ” ถนนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งเชื่อมต่อระหว่างศาลเจ้าอิโซโนะคามิและศาลเจ้าโอมิวะ เป็นพื้นที่ที่สวยงามและเงียบสงบ มีทั้งหินที่จารึกเพลงมันโยและวัดพุทธศาสนาของญี่ปุ่นมากมายค่ะ

 

ถ้าอย่างนั้น เราไปดูกันเลยค่ะว่าจะเป็นพื้นที่แบบไหน!

เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่บูชาเทพเจ้าโซได ซึ่งเป็นของตระกูลเก่าแก่อย่างตระกูลโมโนโนเบะ 

ว่ากันว่าในยุคสมัยก่อนนั้นเคยมีคลังแสงของราชสำนักอยู่ และสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกส่งทอดมา เช่น ดาบเจ็ดเขี้ยวซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติ และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนั้นแล้ว พื้นที่ภายในก็ยังมีไก่หลายตัวที่ถูกเลี้ยงอย่างอิสระอาศัยอยู่ เสียงขันของไก่เหล่านี้นั้นถือกันว่าเป็นยันต์หรือเป็นการไล่สิ่งชั่วร้าย ถ้าหากว่าได้ยินเสียงไก่ขันก็อาจจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ได้ค่ะ

วัดโบราณที่ถูกเล่าว่าคูไค (หรือที่รู้จักกันในนาม โคโบ ไดชิ) เป็นผู้สร้างขึ้นในยุคสมัยเฮอัน พระพุทธรูปหลักอย่างอามิดะซันซนโซ (阿弥陀三尊像) เป็นพระพุทธรูปซึ่งสร้างจากหยกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น “พระธรรมเทศนาแบบรูปภาพ”(เอโตกิเซปโป 絵解き説法) ที่นักบวชจะมาอธิบายรูปภาพของนรกที่ถูกสื่อด้วยฝีมือของคะโน ซันระคุนั้นเป็นที่นิยม และยังสามารถดื่มชาเขียวมัทฉะได้ที่ห้องครัวอารามอีกด้วยค่ะ 

ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1890 ในพื้นที่แห่งตำนานที่จักรพรรดิจิมมุ จักรพรรดิองค์แรกของญี่ปุ่นได้ครองบัลลังก์ วิหารหลักที่ย้ายมาจากภายในพระราชวังหลวงเกียวโต ได้กลายเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ

บ้านทาวน์เฮาส์ในแบบดั้งเดิมตั้งแต่สมัยยุคเอโดะมาถึงยุคโชวะตอนต้นราว 5,000 หลังก็ยังคงอยู่มาจนถึงตอนนี้ รวมถึงทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีก 9 อย่างด้วยเช่นกัน ย่านนี้จึงอบอวลไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค มีความสวยงามและเหมาะกับการถ่ายภาพ ช่วงหลังๆ มานี้ คาเฟ่เก๋ๆ สำหรับหย่อนใจที่ปรับปรุงมาจากทาวน์เฮาส์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์และศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวฮานะอิระคะ (Imai Machinami Exchange Center Hanairaka) ที่แนะนำประวัติศาสตร์ของอิไมโชอย่างง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้

ภูเขามิวะได้รับการเคารพนับถือมาตั้งแต่สมัยโบราณในฐานะ "ภูเขาแห่งพระเจ้า" กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่บอกเล่ารูปแบบของศาสนาในยุคเก่าให้แก่คนรุ่นปัจจุบัน

โดยปกติแล้วที่หอบูชาชั้นในนั้นเป็นสถานที่ต้องห้ามที่แม้แต่นักบวชก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ซุ้มประตูโทริอิแบบสามประตู (三ツ鳥居) ที่กลายเป็นสิ่งกีดขวางนั้น ด้วยความที่มีรูปแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะ จึงถูกมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในฐานะของสิ่งทดแทนของศาลเจ้าหลัก

เทพเจ้าแห่งเทศกาลอย่างเทพเจ้าโอโมโนนุชินั้นก็เป็นเทพเจ้าแห่งสาเกด้วย จึงได้รวบรวมความเชื่อจากผู้ผลิตสาเกจากทั้งประเทศและ "เทศกาลสาเก" จะถูกจัดขึ้นทุกๆ ปีในวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งจะได้รับสุกิดามะ (การนำใบของต้นสนญี่ปุ่นมาทำเป็นทรงกลม) เอาไว้สำหรับแขวนที่หน้าโรงกลั่นสาเก

วัดเก่าแก่ที่เป็นหนึ่งในสามวัดจูมงญี่ปุ่น พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ทรงสิงห์ พระพุทธรูปองค์หลักที่สูงกว่า 7 เมตร เป็นสมบัติแห่งชาติที่สร้างโดยพระสงฆ์ในช่วงสมัยคามาคุระ พื้นที่ภายในนั้นถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันสดสวยของดอกไม้ทั้ง 4 ฤดูกาล เช่น ซากุระและดอกคอสมอส เป็นต้น

เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปไทคะซึ่งบูชาจักรพรรดิเท็นจิและฟูจิวาระ โนะ คามาตาริ เป็นศาลเจ้าในแบบชินโตที่สร้างขึ้นอย่างโดดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางภูเขาโทโนะมิเนะนั้นเป็นแบบอย่างให้แก่มรดกโลกในจังหวัดโทชิกิอย่างศาลเจ้านิกโกโทโชกุ จึงได้ชื่อเล่นว่า “นิกโกแห่งคันไซ” เป็นหอคอยเจดีย์ไม้สูง 13 ชั้นที่มีความสูง 13 เมตรเพียงแห่งเดียวที่มีอยู่ในปัจจุบัน

และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนไปภูเขาทั้งลูกจะกลายเป็นสีแดงล่ะค่ะ! ที่ด้านในยังมีศาลเจ้าด้านความรักที่ให้โชคเกี่ยวกับเรื่องคู่ครองด้วยนะคะ

เป็นจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งสามารถมองเห็นภูเขานิโจ (Mt. Nijo) ภูเขายามาโตะซังซัน (Yamato Sanzan) รวมถึงภูเขามิวะ (Mount Miwa) ได้

นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีชื่อเสียงสำหรับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฮิกังซากุระ (彼岸桜) ดอกโซเมอิโยชิโนะ (ソメイヨシノ) และดอกชิดาเระซากุระ (枝垂桜) จะบานเต็มที่และสวยงามมากค่ะ

เป็นอันดับที่ ８ใน 33 สถานที่ศักดิ์ของเจ้าแม่กวนอิมในประเทศฝั่งตะวันตก องค์เจ้าแม่กวนอิมปาง 11 พักตร์ประทับยืนเป็นพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งมีขนาดกว่า 10 เมตร วิหารหลักเองก็เป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่เป็นที่ภาคภูมิใจในเรื่องของขนาดใหญ่อันดันต้นๆ มีฐานไม้ยึดติดไว้กับเนินเขาแบบเดียวกับวัดคิโยมิสึหรือวัดน้ำใส

บริเวณภายในนั้นถูกแต่งแต้มไปด้วยสีของดอกไม้ตามฤดูกาล จึงถูกเรียกว่า “วัดดอกไม้” ภายในมีดอกโบตั๋นราว 150 ชนิดกว่า 7,000 ดอกซึ่งมีชื่อเสียงเช่นกัน

และที่มงเซนมาจิ (Monzen Machi) ก็มีทั้งร้านอาหารและเรียวกัง (โรงแรมที่พักสไตล์ญี่ปุ่น) ที่เปิดให้บริการมาช้านานเรียงรายอยู่เต็มเลยล่ะค่ะ

ขอพักสักประเดี๋ยวนะคะ

ตอนต่อไป เราจะมาแนะนำเมนูเด็ดห้ามพลาดในย่านเส้นทางโบราณยามาโนเบะ คาชาะ และอิคารุกะ  รวมถึงบัตรรถไฟแสนสะดวก 

ใครพร้อมแล้ววาร์ปไปกันเลย ☺