ทำไมราชการจำนวนหนึ่ง มีนิสัยฟุ้งเฟ้อ โดยไม่รู้ตัว อยากสร้างอนาคต แต่อึดอัดตรงปัญหานี้มาก

#######ก่อนเข้าสู่เนื้อหา ขอเน้นย้ำกับผู้อ่านทุกท่านว่า ผมมิได้มีเจตนาเพื่อ ประจาน หรือระบายดูถูก อาชีพใดๆ รวมถึง แฟนหรือพ่อแม่ตัวเอง แต่ ผมและครอบครัวเจอปัญหา การเงินนี้จริง ยอมรับความเป็นจริง และ  " อยากได้คำแนะนำรวมถึงวิธีการที่จะทำให้ จัดการเรื่องเงินได้ดีขึ้นเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญของกระทู้นี้ #######

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผมคบกับแฟนมาเกือบ 2 ปีแล้ว
และมีแพลน ที่ จะแต่งงานกัน หมายถึงว่า ทาง พ่อแม่ ทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะ ฝ่ายหญิง เริ่มทวงถาม รวมถึง มีแนวคิดจะ ช่วยกันแต่งงานแบบเรียบง่าย
ไม่เน้นต้องลงทุน หรือ สินสอดอะไรมาก
แต่ มีปัญหาหนึ่งในใจที่ผมคิดยังไงก็ไม่ตก เกี่ยวกับประเด็นนี้ เคยพูดกับแฟนไปบ้าง แต่ ยังหาข้อสรุปไม่ได้ 

1 แฟนผมรับราชการเงินเดือน 24,000 ก็จริงแต่ รับจริงเหลือ แค่ 12,900 ไปกู้ ซื้อบ้าน ธนาคารต่างๆ ก็ ไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะ ภาระหนี้สินเยอะ
ถือครองบัตรเครดิต แทบทุกธนาคาร ที่มี เอาจริงๆเกิน 5 ธนาคาร คนโทรมาให่สมัครก็สมัคร มีไว้ไม่ได้ใช้ ก็ดีกว่าไม่มี เหนื่อยใจ 
2. ถึงแม้แฟนผมจะจ่ายเต็ม ตลอด แต่ พฤติกรรม การทานอาหารนอกบ้าน ของครอบครัวเอย การใช้จ่าย มื้อละ พันสองพัน  คือ ค่าอาหาร นอกบ้าน ตกเดือนนึงนับหมื่น ส่วนตัวผม เต็มที่หมูกระทะ  สองอาทิตย์ ครั้งละ 500   
ส่วนแฟนผมแถมทำประกัน พ่วงบัตรเครดิตไว้ สามตัว ตกเดือนละ  5000 ค่าผ่อนมือถือ + ไอแพด 5000 เหลือ สองเดือน ค่าอาหารนอกบ้าน  7000 +- เดือนนึงเสียค่าบัตร จ่ายรวมๆ เฉลี่ย 14,000 -20,000 ทุกเดือน 
3. ผมทำงาน ออฟฟิศ ฐานเงิน 15000 ไม่มีภาระ อะไร ปกติจะรับ 18000 - 23000  แต่ช่วงโควิท แทบไม่มีลุกค้า ไม่มีค่าคอม รับจริงยิ้มกประกันสังคมเหลือ 14250 ผ่อนมือถือ 2700 เหลือเดือนสุดท้าย หมด งวดเดือน สค. นี้ 
4. การกินอยู่ ผมทานข้าว วันละ 120 บาททำบัญชีตลอด  เช้า หมูปิ้ง + นม 40 เที่ยง ไข่เจียว 30 เย็น  ข้าวข้างทาง อาหารจามสั่ง ไม่เกิน  40 ไม่กินอะไรจุกจิก รวมแฟนด้วย จะไม่เกิน 250 บาท ในค่าอาหาร ต่อวันในการ ดำรงชีพ  ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผมจะ เป็นคนจัดการจ่าย รวมๆเดือนนึง ใช้ค่าอาหารไม่เกิน  8000 บาท รวมค่าน้ำมัน รถที่ผมขับไปที่ทำงานเติมอาทิตย์ละ 300
5. แฟนเป็นคนขยัน ชอบทำรายได้เสริม  ชอบค้าขาย ทำมาแทบทุกอย่าง แต่ประเด็นคือ ทำอะไรได้ สามสี่เดือน ก็เลิอก  แถม ช่วงโควิท งานสอนพิเศษ ก็หายไป ทั้งที่เป็นรายได้หลัก มากกว่าฐานเงินเดือน ผมจะคอย support ในอาชีพเสริม เช่น ช่วยโพส ช่วยแชร์ ถ้าทำกับข้าวก็จะ ช่วยจ่ายตลาด ล้างจาน เตรียมวัตถุดิบ ตลอด ถึง รอดมาได้ ปีกว่านี้ 
สรุป เดือนนึง ณ สถานการณ์ ปัจจุบัน ช่วงโควิท มีรายได้รวมกัน นอกจาก งานเสริม 26,000 บาท แต่ ลำพังค่าบัตร จ่ายเต็มต่อเดือน ก็ ปาไปครึ่งนึงแล้ว
แต่ละเดือน ผมต้องช่วยเฉลี่ย 7000 - 9000 แทบไม่เหลือกินเหลือเก็บ ส่วนของผม 
ทั้งที่อยู่กินด้วยกัน ผม ประหยัด ผมไม่กินฟุ้งเฟ้อ ภาระผมก็ไม่เคยทำให้เกิน 40% ของรายได้ตัวเอง หาได้ 15000 ก็ ผ่อนของแค่ 2700 และจะหมดแล้วใน สองเดือนหน้า
ครอบครัวผมก็เป็นราชการ มีอุปนิสัยแบบเดียกวัน กู้มาก่อนใช้หนี้ ทีหลัง แล้ว พอจะเกษียณ ก็งอแง บ่น ตัดพ้อ 
แฟนผมก็เช่นกัน พฤติกรรมการกิน ทั่วไปประหยัด แต่พอ ได้จังหวะ มีหน่อยก็เที่ยว ไม่ค่อยเก็บ ไม่ค่อย บริหารเงิน ดีๆ 
 
มาบ่นผมกินเบียร์ ดื่มนั่นนี่ ผมคำนวณแล้วผมใช้จ่าย  ส่วนนี้ไม่เกิน 10% ของรายได้ตัวเองไม่ได้ รบกวนตัวเอง รวมผ่อนของก็ ยัง อยู่ที่ 30% ในส่วนค่าใช้จ่าย สิ้นเปลือง

----
ผมรู้สึกว่าผมรายได้ ฐานน้อยกว่าก็จริง แต่ รับจริงผมก็ ไม่ได้ด้อยกว่า แถม ถ้ามีอาชีพเสริม  มา ผมแทบจะยกให้แฟนทั้งหมด หักไว้แค่ ค่ากิน ประจำวัน ตอนทำงาน แต่ในใจลึกๆ ผมเหนื่อยครับ ผมรู้สึกว่า การมีรายได้มั่นคง แต่ ไม่มีวินัยทางการเงินไม่ดี มันเป็นอะไรที่ ยังไงผมก็มองว่า "ไม่มั่นคง"
แฟน แม่ ครอบครัว แฟน ชอบบ่นๆ ว่าไม่มีตัง ไม่มีเงิน
แต่พฤติกรรมการใช้เงินที่ผมแจงรายระเอียด ข้างต้น มันน่าจะเป็นคำตอบ

พอพูดมากๆ ก็ หาว่าด่า ว่าดูถูก ก็กินด้วย กันใช้ด้วยกัน  ไม่ค่อยถามผมสักคำว่าผมอยากกินไป อยากใช้อะไรไหม
ผม กินตามฐานะ ตามรายได้ตัวเอง ถึงไม่มีเยอะ แต่ สามารถมีเงินเก็บได้ แต่นี่ ไม่ได้เพราะอะไร ก็อย่างที่แจ้งไป ข้างต้น
ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องอาชีพ ผมสนใจเรื่องวินัยงานเงิน
ทุกวันนี้ทำได้แค่ ประหยัดส่วนตัว ใช้จ่ายตามจำเป็น และ ลงทุน เรียนขับรถบ้าง หรือ เรียนต่อบ้าง เพื่อหาทางเพิ่มช่องทางในอนาคต
ตอนนี้เรียน อีก 2 ปีจะจบ ยังไงรายได้ก็เพิ่มต่อรองเงินได้มากขึ้น อันนี้คือ อนาคตส่วนตัวที่ผมมองเห็น
 
แต่การสร้างครอบครัวเรื่องวินัยการเงินมันสำคัญ  ผมไม่รู้จะพูดจะบอกแฟนยังไง ถ้าไม่แก้ไข พิสูจน์ตรงนี้ผมก็คงเครียด และไม่อยากแบกความเครียดไว้
ผมเหนื่อยที่ทำงานหาเงินมาได้ เหลือเก็บสัก 1000-2000 ต่อคน ยังไม่ได้เลย มีซื้อผ่อนทองเก็บไว้บ้าง บาทสองบาท ก็จริง แต่ มันก็ยังไม่ใช่เงินสด
ใจนึงก็ชอบที่เป็นคนขยัน แต่อีกใจ ก็อึดอัด 
เรื่องบัตรเครดิตแฟนถือหลายใบเกินความจำเป็น + ภาระส่วนตัว สหกรณ์เอยต่างนานๆ ที่เยอะเกิน จน แทบจะทำ ธุรกรรมอะไร ไม่ผ่าน แล้ว ณ ปัจจุบัน 
รู้สึกว่าจะหาทางออกอย่างไรดี " ถ้าครอบครัวต้องช่วยกันสร้าง มันก็ต้องรับฟังและ ตระหนักถึงวินัยการเงินด้วย "
คิดว่า ผมอยากจะนำไหม ผมพร้อมจะนำ แต่ หากอีกคน ไม่ยอมตระหนักเรื่องนี้ ทำไปกีปีๆ ก้ จะปริ่มน้ำตลอด 
เหนื่อยอะครับ ผมได้แต่ทำตัวผมให้ดี สร้างนิสัยให้ประหยัด กินอยู่ตามอรรตภาพ สร้างหนี้ เฉพาะ ส่วนที่จะเอามาใช้งาน 
อยากระบาย และ อยากให้ร่วมหาทางออก อยากให้ไปรอด แต่ไม่อยาก อึดอัด หาเงินมา 14000 ใช้จริง 7000 ผ่อนของ 2700 แทนที่จะเหลือ สัก 4000 
ไม่เคยเหลือเลย ท้อแท้

**** 1 อ่านจนจบรบกวนอย่าเพิ่งหลงประเด็น ผมไม่ได้ ดูถูก ราชการ คำว่าจำนวนหนึ่ง คือ รอบตัวผม ครอบครัวผมแฟน แค่นั้นครับ ผมอาจจะใช้คำจำกัดความ ที่กว้างเกินไป แล้วมาแก้ไข หัวข้อ topic ภายหลังไม่ได้

***** 2 เรื่อง ค่าบัตรที่จ่ายได้ทุกเดือน ขอขยายความ 
จะชำระได้ ก็ต่อเมื่อต้องช่วยกันทำ (ลำพังรายรับของใครคนใด คนหนึ่งไม่ coverage เพียงพอ)  อาชีพเสริมมาเติม ทั้งส่วนตัวและช่วยกันทำ ในทุกเดือนๆ ยอด รายได้จากอาชีพเสริม ที่ช่วยกันทำ ไม่แน่นอน 7,500 - 20,000 แล้วแต่เดือนครับ 
บางเดือนได้มาก ก็พอ บางเดือน ได้น้อย ก็มีต้องกด เงินสด มาเติมเพื่อจ่ายเต็มบ้าง เนี้ยแหละครับ ที่บางเดือนมันพอกไปเป็นยอดเดือนถัดไป
ที่ผมอธิบายไม่เคลียทั้งหมด 
*******  3 คำว่าเหนื่อย คือ เหนื่อยเรื่อง ต้องวิ่งคิดวิ่งทำอาชีพเสริม มาเติมตรงนี้ ยอดใช้จ่ายบัตร ไม่ได้ลดลง แต่ ยอดรายได้อาชีพเสริม ยังไม่แน่นอน และลดลงตั้งแต่ช่วงโควิท มานี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 28
จะไม่มาพูดเรื่องอาชีพรึเงินเดือนนะครับ แต่จะมาแนะแนวทางบริหารเงินละกันอันนี้วิธีที่บ้านผมใช้นะ หยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นนึงแบ่งไปเลยรายรับ รายจ่าย ทรัพย์สิน หนี้สิน ง่ายๆทำมาสักเดือนนึงนี่ละ แล้วเอา fact เอาตัวเลขมาคุยกัน ผมกับแฟนแยกกันทำของใครของมันแล้วมาคุยกันตลอด

เงินออมควรมากกว่า 10% ของรายได้ ควรมีสำรอง 6 เดือนขึ้นไป
เงินออมควรแบ่งมาลงทุนด้วยตามแต่จะถนัด
หนี้ไม่ควรเกิน 50%
สุดท้ายแล้วควรมีกระแสเงินสดเป็นบวก

มีตัวเลขให้ชัดๆกันไปเลยจะได้ไม่ต้องมาเถียงกัน ไม่เกี่ยวว่าใครทำอาชีพอะไรแต่เราทุกคนต้องไม่ประมาทครับ ใครจะรู้บทมันจะปุบปับรับโชคเจออุบัติเหตุขึ้นมากันไว้ดีกว่าแก้นาจา
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ผมเป็นคนแบบ จขกท. นะ
แล้วผมไปดู คห. ท่านที่มองว่ามันเป็นเรื่องปกตินี่ ใช้อะไรคิด ?
รายจ่ายไม่สัมพันธ์กับรายได้ อยากกินหรู อยู่แพง ก็ไปเป็นหนี้ กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วหรอ
ตรรกระวิบัติมากนะครับ
ความคิดเห็นที่ 80
1. แฟนคุณใช้จ่ายตามฐานะอยู่แล้วครับ "หามาก ใช้มาก" และพยายายามหาเพิ่ม แบบยังไงไงก็มีกินมีใช้
2. รายได้ของคุณน้อยเกินไป "หาน้อย ใช้น้อย"

แต่ถ้าให้ผมทำนายผลลัพธ์ที่น่าจะเป็นไปได้คือ แฟนคุณสบายในปัจจุบันและในอนาคตมากกว่า แถมหลังเกษียณกินบำนาญต่อสบายๆ
แฟนคุณไม่น่าห่วงเลยครับ แต่คุณเองต่างหากที่ต้องพิจารณาดูดีๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่