Backpack ดอยขุนตาล - เมืองลำพูน

เนื่องจากช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ประกอบกับนโยบายผ่อนปรนของรัฐบาลที่สามารถให้เที่ยวอุทยานแห่งชาติได้แล้ว
ดังนั้น เราจึงไม่รอช้าที่จะจัดการเดินทางทั้งเดินป่า และ backpack ในทริปเดียวกันนี้  
ดอยขุนตาล จึงเป็นสถานที่แรกที่เรานึกถึง ด้วยความที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟขุนตาล แต่ไหนๆ ก็ไปลำพูนแล้ว เมืองลำพูนก็เป็นสิ่งที่เราสนใจเหมือนกัน
เพราะก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสอ่านประวัติศาสตร์เมืองหริภุญชัยแล้วประท้บใจพระนางจามเทวี เป็นอย่างมาก จนเกิดความเลื่อมใส
จากธิดาเจ้าเมืองละโว้ ถูกอัญเชิญไปเป็นเจ้าเมืองหริภุญชัยด้วยขบวนช้างม้าวัวควายชาวบ้านคหบดี พราหม์ รวม 3,000 คน จะต้องเป็นขบวนที่ใหญ่มากๆ
ด้วยความประทับใจในตัวเมืองลำพูนนี้ จึงได้วางแผนทริปไว้ว่า เราจะเดินทางหลังจากเลิกงานที่สถานีหลักสี่ -> ไปลงขุนตาล
และจากขุนตาล -> ลำพูน ในวันรุ่งขึ้น โดยขากลับจะตีรถจากลำพูน -> สถานีกรุงเทพ เพื่อต่อรถเข้าบ้าน
เริ่มเดินทางวันแรก  หลังจากเลิกงานก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าและมารอขบวนรถไฟ

ขบวนที่เราเลือกใช้บริการนั้นคือ ขบวนหมายเลข9 อุตราวิถี ชั้น 2 นอนสบายนิดนึง มีที่ชารต์แบตด้วย
พอนายตรวจมาตรวจตัวเรา เขามองหน้าแล้วพูดเสียงอันดังว่า ว้าววววว คนเดียวของขบวนนี้ลงขุนตาล
เราก็แบบ หา จริงหรือคะ ไม่มีเพื่อนลงเลยหรอ 5555 เขาบอกว่า คนเดียวเลยจ้า ....
เราก็หาได้แคร์ไม่ 5555
และเนื่องจากเวลาที่เราเลือกใช้บริการใกล้ค่ำแล้ว พนักงานจึงเปลี่ยนเป็นเตียงนอนให้เลย


ณ เวลา 06.00 น. รถไฟมาถึงสถานีขุนตาลแล้วจ้า

บรรยากาศโดยรอบ มีสมาชิกมารอรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก


บรรยากาศโดยรอบสถานี ยังเป็นแบบดั้งเดิมอยู่

ณ สถานีที่แห่งนี้ มีสุสานอันเป็นที่ระลึกวิศวกรชาวเยอรมัน คือ มิสเตอร์อีมิลล์ ไอเซ่นโฮเฟ่อ ผู้นำการเจาะอุโมงค์ขุนตาลแห่งนี้ พร้อมคู่สมรสท่าน


บริเวณเดียวกันนี้ ยังมีศาลเจ้าพ่อขุนตาล ซึ่งเวลารถไฟผ่านเข้าออกจะกดแตรเพื่อให้ความเคารพท่านทุกครั้ง แต่เราไม่กล้าถ่ายรูปท่าน
จากนั้น มาถ่ายบรรยากาศหน้าอุโมงค์สักหน่อย


จากนั้น เราจึงเริ่มเดินจากสถานีรถไฟเพื่อไปอุทยานแห่งชาติ
บรรยากาศทางเดินจากสถานีรถไฟไปที่ทำการอุทยาน ก็จะเขียวขจีร่มรื่นประมาณนึง
 

เดินมาเรื่อยๆ ก็ครบ 1.2 กิโลเมตรแล้ว เย้ๆๆๆ แต่ช้าแต่ ยังไม่ถึงนะเธออออ

ต้องเดินไปอีกเรื่อยๆ และเรื่อยๆ จนถึงแล้ว ดีใจ ดีใจ
ถึงแล้วจ้าอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

จากนั้น แวะลงทะเบียนที่จุดนี้ก่อนเลือกลานกางเต้นท์


ที่ทำการอุทยานจะอยู่ด้านหน้าถนน 2 จังหวัดพอดี 

จากนั้น เราได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ย.2 ตอนนี้ น้ำไม่ไหล แนะนำให้กางลานชมดาวดีกว่า ซึ่งเราก็โอเค ดีเหมือนกัน 
เริ่มลงมือกางเต้นท์ได้


จากนั้น เราก็ทำการจัดการมื้อเช้า + กางวันเสียเลย ด้วยเมนูง่ายๆ


หลังจากนั้น เราก็เข้านอน 55555  ไว้สักสองโมงเย็นจะแว๊บบขึ้นไปชมวิวที่ลานกางเต้นท์ ย.2 สักหน่อย วันรุ่งขึ้นจะได้ไม่ต้องแวะไป 

ระหว่างทางลงจาก ย.2 ไปลานชมดาว ฝนเริ่มใกล้ตก เราก็กังวลว่าเอ๊ จะเปียกไหมนะ 5555 แต่ถ้าเปียกก็เดินตากฝนเอาก็ได้ ไม่ซีเรียส
แต่เหมือนฟ้าเป็นใจ ให้เราได้พบร่มวางอยู่กลางป่า 1 อัน เราเลยรู้ว่า เอ๊ะะ ใครนะมาลืมร่มไว้แถวนี้ จะหยิบดีไหม
สุดท้ายเราหยิบค่ะ พอถึงอุทยาน เราได้มอบให้ทางอุทยานเก็บไว้


วันรุ่งขึ้น เราเตรียมตัวออกจากลานชมดาว เวลา 03.30 น. เพื่อเตรียมขึน ย.4  คนเดียว (เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีกลุ่มทยอยขึ้นไปแล้ว)

ระหว่างทางอันมืดมิดนี้ มีผู้นำทางให้พออุ่นใจ

พอถึงเนินวัดใจตรงนี้ ก็ใกล้แล้ว อีกนิดเดียว ฮึบๆๆ

ในที่สุด ก็ถึงยอดแล้วจ้า ยอดดอยขุนตาล ย.4

หลังจากถ่ายรูปกินลม ชมวิว อิ่มเอมกับความมานะพยายามของเราในการเดินจากลานชมดาว ขึ้นมา ย.4 แล้ว
เราก็เดินลง อย่างเร็วรี่ ...... เพื่อไปชงกาแฟ 55555

หลังจากที่อ้อยอิ่งได้สักระยะ เราก็ต้องรีบเก็บของ เพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังสถานีรถไฟขุนตาล เพื่อเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้
ขอบคุณพวกเธอมากนะ ที่เป็นเพื่อนเรานำขึ้นสู่ยอดขุนตาล และยังมาส่งอีก


จากนั้น เราได้ขึ้นขบวนรถท้องถิ่น เพื่อไปยังสถานีลำพูน

จากนั้น การเดินทางบทใหม่ ก็จะเริ่มต้นขึ้น ....

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่