สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
มันเป็นเรื่องของ Position ไง และ การเพิ่มมูลค่าให้ตัวนักแสดง ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีเรื่องของโฆษณาที่จะเอามาลงขายช่วงเวลานั้นๆ
ขนาด สายการบิน ยังมีระดับตั๋ว อีโค/บิสสิเนต/เฟิร์สคลาส แถมยังมีระดับของ Position ที่เป็น Low-cost / Premium Low-cost/ Budget และ อื่นๆ ทำไมเขาต้องมีหล่ะ ????? ทำไมไม่ขายตั๋วทุกที่นั่งราคาเท่ากัน ไม่ต้องแบ่งชั้น แบ่งราคา แบ่งระดับ คำตอบก็คือ เขาก็ต้องมีการแบ่งสำหรับคนพร้อมที่จะจ่ายในการบริการที่ดีกว่า กลุ่มเป้าหมายต่างๆ และเป็นการเพิ่มส่วนรายได้ กำไร
แม้แต่ นักแสดง ฮอลลีวูด ก็ยังมีเกรดหนังของเขา มีระดับ A-List/ B-List นักแสดงมีผลต่อการ เรียกค่าตัวต่อหนังเรื่องนึง
กลับมาเรื่องละคร เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของทางช่องวัน กับ ช่อง 3
ใช่ ปัจจุบันละครก่อนข่าว หลายเรื่องเยอะมาก ทำเรตติ้งได้ดีกว่าละครหลังข่าว และมีเรื่องราวนี้ประจำ ละครบางเรื่องช่องไม่หวังอะไรมาก แต่กลับทำกระแสและเรตติ้ง ถูกใจคนดู จนเรตติ้งสูง อันนี้มันเป็นเรื่องที่ช่องคาดเดาไม่ได้
แต่ สิ่งหนึ่งที่เคยอ่านบทวิเคราะห์มา มันมีเรื่อง กลุ่มคนดู และ โฆษณา ที่จะเข้ามาขอซื้อ
-ละครบางเรื่อง เหมาะสำหรับครอบครัว ขำขำ ฮาฮา โฆษณาที่เข้าก็จะอีก Target นึง กลุ่มนี้เข้าบ้านเร็ว เลิกงาน เลิกเรียนเร็ว
-ละครบางเรื่อง ต้องการโฟกัสคนดู วัยทำงาน ก็ ต้องมองไปที่กลุ่มทำงานที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เกือบๆ 2 ทุ่ม ก็ ทานข้าวไป ดูละครไป ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสินค้าที่โฆษณาในช่วงนั้นๆในบางสินค้า เน้นคนวัยทำงานและอายุมากกว่า 25 ปี แล้วยังมีเรื่องอื่นๆ
ขนาด สายการบิน ยังมีระดับตั๋ว อีโค/บิสสิเนต/เฟิร์สคลาส แถมยังมีระดับของ Position ที่เป็น Low-cost / Premium Low-cost/ Budget และ อื่นๆ ทำไมเขาต้องมีหล่ะ ????? ทำไมไม่ขายตั๋วทุกที่นั่งราคาเท่ากัน ไม่ต้องแบ่งชั้น แบ่งราคา แบ่งระดับ คำตอบก็คือ เขาก็ต้องมีการแบ่งสำหรับคนพร้อมที่จะจ่ายในการบริการที่ดีกว่า กลุ่มเป้าหมายต่างๆ และเป็นการเพิ่มส่วนรายได้ กำไร
แม้แต่ นักแสดง ฮอลลีวูด ก็ยังมีเกรดหนังของเขา มีระดับ A-List/ B-List นักแสดงมีผลต่อการ เรียกค่าตัวต่อหนังเรื่องนึง
กลับมาเรื่องละคร เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของทางช่องวัน กับ ช่อง 3
ใช่ ปัจจุบันละครก่อนข่าว หลายเรื่องเยอะมาก ทำเรตติ้งได้ดีกว่าละครหลังข่าว และมีเรื่องราวนี้ประจำ ละครบางเรื่องช่องไม่หวังอะไรมาก แต่กลับทำกระแสและเรตติ้ง ถูกใจคนดู จนเรตติ้งสูง อันนี้มันเป็นเรื่องที่ช่องคาดเดาไม่ได้
แต่ สิ่งหนึ่งที่เคยอ่านบทวิเคราะห์มา มันมีเรื่อง กลุ่มคนดู และ โฆษณา ที่จะเข้ามาขอซื้อ
-ละครบางเรื่อง เหมาะสำหรับครอบครัว ขำขำ ฮาฮา โฆษณาที่เข้าก็จะอีก Target นึง กลุ่มนี้เข้าบ้านเร็ว เลิกงาน เลิกเรียนเร็ว
-ละครบางเรื่อง ต้องการโฟกัสคนดู วัยทำงาน ก็ ต้องมองไปที่กลุ่มทำงานที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เกือบๆ 2 ทุ่ม ก็ ทานข้าวไป ดูละครไป ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสินค้าที่โฆษณาในช่วงนั้นๆในบางสินค้า เน้นคนวัยทำงานและอายุมากกว่า 25 ปี แล้วยังมีเรื่องอื่นๆ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมปัจจุบันถึงยังต้องแบ่งดารา ว่าดาราคนนี้ต้องเล่นกลางคืนหลังข่าว ดาราคนนี้ต้องเล่นเย็นก่อนขาว ครับ
สังเกตว่าหลังๆละครเย็นช่อง one เรตติ้งดีกว่าละครเย็นหลังข่าวทั้ง 2 ช่วง หลายๆเรื่อง
ละครเย็นช่อง 3 ก่อนหน้านี้ถึงจะเป็นโหลดองที่งัดออกมาฉาย หรือละครรีรัน ที่เรตติ้งดีกว่าละครหลังข่าวหลายๆเรื่อง
ไม่ใช่ว่าละครหลังข่าวไม่ดี แต่ค่านิยมที่ว่านักแสดงตัวท๊อปต้องเล่นหลังข่าวมันควรหมดไปแล้วหรือเปล่าครับ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะใช่ครับทุกที่ไม่มีมือถือไม่มีโซเชียล ละครหลังข่าวเป็นละครที่ทุกคนกลับจากเลิกงานมาพร้อมเปิดทีวีดูก่อนที่จะนอนเพื่อคลายเครียด
ถ้าปัจจุบันมันไม่น่าใช่แล้วไงครับ ตอนนี้มันเป็นยุคที่ละครจ่ายช่วงเวลาไหนก็ได้สุดท้ายก็มีย้อนหลังให้ดู แต่ถ้าจะมองด้านเรตติ้งผมว่าละครเย็นมันเยอะกว่าละครหลังข่าวอีกนะ แล้วทำไมดาราตัวท็อปถึงไม่ลองมาลงละครเย็นบ้าง ถ้าเขาจะเก็บชื่อเสียงจากละครเย็นที่มีคนดูเยอะที่ได้แน่นอน เลยว่าจะลงละครไหนถ้ามันจะติดเป็นกระแสต่อให้เรตติ้งไม่ดีคนดูย้อนหลังก็เยอะแม้ว่าจะฉายในช่วงเวลาไหนก็ตาม
อันนี้คือผมมองในมุมผมนะ ผมเลยอยากมาฟังความคิดเห็นในมุมเพื่อนๆว่าเพราะอะไรปัจจุบันถึงยังต้องมีการแบ่งเกรดนักแสดงว่านักแสดงมีชื่อจะต้องเล่นหลังข่าว ลงก่อนข่าวแปลว่าถูกลดเกรด ขอฟังความเห็นเพื่อนๆหน่อยครับ (ที่ผมพูดอย่างนี้อันนี้คือผมดูจากการชอบบลัฟกัน ในเว็บไซต์พันทิปนี่แหละครับ)