โสกะ ลำนำ เทพยุทธ์ ยาย ลุง

ไม่ทราบเวลาผ่านไปเท่าไร แต่ยังมีจิตวิญญานหนึ่งปรากฏการตื่นรู้ขึ้น

     ไม่ทราบวันคืนผ่านไปเท่าไร แต่ในที่สุด การบ่มเพาะของนางก็บรรลุผล นางได้ละทิ้งสังขารเดิม ถอดคราบร่างเก่าออก ทะยานสู่โลกเทวะได้สำเร็จ
         
     นางเหยียดร่างออก จากการอุดอู้มาเนิ่นนาน สำรวจร่างใหม่ อันเป็นร่างเทวะ ที่แทบจะแตกต่างจากร่างเดิมของนางอย่างสิ้นเชิง สัมผัสความเบาสบายและความบริสุทธิ์ของพลังปราณในบรรยากาศ นางหายใจดูดซับสิ่งที่อยู่ในอากาศเข้าสู่กระแสโคจรในร่าง ก่อนจะดีดกายขึ้น โบยบินอย่างยินดี

     โลกเทวะ ที่นางเคยได้แต่เฝ้าแหงนมองตลอดมา  บัดนี้ นางได้เป็นส่วนหนึ่งของมันแล้ว

     นางมองไปยังท้องฟ้าสดใสเบื้องบน  ใช่แล้ว นางเข้าสู่โลกใหม่ ด้วยโลกใหม่ ชีวิตใหม่ ท้องฟ้าสดใส นับเป็นนิมิตหมายที่ดี 
     
     ดังนั้น นับแต่นี้ "ฟ้ากระจ่าง" จะเป็นชื่อใหม่ของนาง

     นางโบยบินไปทั่ว ได้พบกับผู้ฝึกเทวะผู้อื่นที่เพิ่งตื่นรู้อยู่บ้าง แต่เพียงไม่นาน แม้ร่างใหม่ของนางจะเป็นร่างเทวะ แต่ก็ยังเป็นร่างเนื้อที่ยังคงมีความต้องการอาหาร แต่อาหารของนางในร่างเทวะย่อมแตกต่างจากอาหารที่นางเคยรับประทานในโลกเบื้องล่างแล้ว ด้วยความหิว แต่นางไม่ทราบต้องทำ
เช่นไร เมื่อเหลียวไปเห็นผู้ฝึกเทวะสตรีผู้หนึ่งที่ดูมีอายุกว่านาง สมควรมีความรู้และประสบการณ์ในโลกเทวะนี้อย่างดี ฟ้ากระจ่างจึงได้บินเข้าไปหา 
หมายจะไถ่ถาม แต่สตรีนางนั้นคล้ายกับไม่ทราบว่าฟ้ากระจ่างบินตามมา นางยังคงบินไปตามทางของนาง  ทำให้ฟ้ากระจ่างต้องเร่งเร้าพลัง เพื่อไล่ตาม
นางอย่างไม่ลดละ แต่ทว่า เพียงหยุดหอบหายใจครู่เดียว สตรีนางนั้นก็คลาดสายตาไปเสียแล้ว  

     ฟ้ากระจ่างเหลียวซ้ายแลขวา ทำอะไรไม่ถูก พลันได้ยินเสียงจากด้านบน

     "เจ้าเพิ่งมาใหม่หรือ"  

     นางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นผู้ฝึกเทวะบุรุษผู้หนึ่ง ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร

     "มาทางนี้สิ  หิวหรือเปล่า"

     ฟ้ากระจ่างตามไปอย่างว่าง่าย  ผู้ฝึกเทวะบุรุษผู้นั้นได้นำพานางมายัง หมู่มวลดอกไม้นับสิบดอก แต่ละดอกล้วนมีขนาดใหญ่กว่าตัวนางนับสิบเท่า กลิ่น
หอมหวานของเกสรดอกไม้ ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ  ซึ่งนั่นก็เป็นที่ชุมนุมของเหล่าผู้ฝึกเทวะทั้งหลาย เช่นเดียวกัน  ฟ้ากระจ่างตามบุรุษผู้นั้นลงไปยัง
ดอกไม้ใหญ่ดอกหนึ่ง ซึ่งมีผู้ฝึกเทวะผู้หนึ่งอยู่ก่อนแล้ว  เมื่อนางเพ่งดูก็พบว่าเป็นสตรีผู้นั้นที่นางไล่ตามมาแต่แรกนั่นเอง

     "ท่านน้า ข้าเห็นนางพยายามไล่ตามท่าน ท่านทอดทิ้งธิดาตนเองหรือ "  บุรุษผู้นั้นถามสตรีผู้นั้น

     สตรีผู้นั้นถลึงตา "เจ้ากล่าวเหลวไหล"  บุรุษผู้นั้นหัวร่ออย่างไม่ใส่ใจ  ฟ้ากระจ่างรีบกล่าวว่า

     "ข้าเพียงไม่ทราบหนทาง เมื่อได้พบเห็นนางจึงได้ตามมาเท่านั้น" แล้วนางก็นึกขึ้นได้ รีบแนะนำตัว  "ข้าพเจ้าเรียกว่า ฟ้ากระจ่าง รบกวนพวกท่าน
ทั้งสองแล้ว"

     "เมฆคร่ำครวญ" บุรุษผู้นั้นกล่าวตอบนาง  ฟ้ากระจ่างหันไปยังสตรีผู้นั้น แต่หลายอึดใจนางก็ยังไม่ตอบคำ ฟ้ากระจ่างจึงกล่าว  "ท่านพี่..." 
  
     สตรีผู้นั้นกล่าวว่า

     "ท่านพี่อันใด ข้าเรียกว่า เงาใบไม้  อายุข้ามากกว่าเจ้าหลายรุ่นนัก เจ้าสมควรเรียกข้าว่า ท่านยาย"

     ฟ้ากระจ่างเหลือกตากลมโต มองดู เงาใบไม้  ผู้ฝึกเทวะล้วนมีสภาพร่างไร้ความชรา เห็นนางส่วนสัดงดงามแข็งแรงเหนือกว่าร่างอ้อนแอ้นอรชร
ของตัวนางเองยิ่งนัก ฟ้ากระจ่างกลับนึกไม่ถึงว่า เงาใบไม้ จะมีอาวุโสถึงเพียงนี้

     เมฆคร่ำครวญ หัวร่อ กล่าวว่า "หากท่านเรียกตัวเองเป็นท่านยาย เช่นนั้น ข้าคงต้องเป็นท่านลุงแล้วล่ะ"

     ฟ้ากระจ่างก็หัวเราะ เรียกพวกเขา "ท่านยาย  ท่านลุง"

     ฟ้ากระจ่างเริ่มชีวิตใหม่ในโลกใหม่อย่างมีความสุข ในแต่ละวันอยู่ร่วมกับเงาใบไม้และเมฆคร่ำครวญ เพียงแค่เที่ยวเล่น และกลับมาดื่มเกสรดอกไม้ใหญ่เท่านั้น  แต่วันเวลาแห่งความสุขไม่เคยยาวนาน ผู้ฝึกเทวะบุรุษกลุ่มหนึ่งได้หมายตาเงาใบไม้กับฟ้ากระจ่างไว้ และเริ่มมีความเคลื่อนไหวมายังพวกนาง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่